บ.โฆษณารับโปรโมตหนัง “2022 สึนามิฯ” โร่แจ้งความถูก“ทรนง ศรีเชื้อ”ผู้กำกับชื่อดัง เบี้ยวค่าโปรโมตหนัง เผยพยายามติดต่อคู่กรณีแล้ว แต่อีกฝ่ายหายเข้ากลีบเมฆ ยันจะเดินหน้าฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายคืน ส่วนเรื่องไกล่เกลี่ยโบ้ยให้ทนายจัดการ
หลังเคยออกมาแฉว่า ถูกผู้กำกับรุ่นใหญ่อย่าง "ทรนง ศรีเชื้อ" เบี้ยวค่าจ้างโปรโมตหนังฟอร์มยักษ์ "2022 สึนามิ วันโลกสังหาร" ที่ลงทุนไปกว่า 160 ล้าน กลับเจ๊งไม่เป็นท่าทำรายได้คืนมาไม่ถึง 7 ล้านบาท ล่าสุดวานนี้ (2 ก.พ.) นางสาว เนตรนภา สุนทรียภาส เจ้าของบริษัทซิกซ์ทีน บูลล์ จำกัด ได้เดินทางเข้าแจ้งความที่สน.วังทองหลาง ให้ดำเนินคดีกับผู้กำกับชื่อดัง โดยมีร้อยตำรวจโทดุสิต ลาวัลย์ พนักงานสอบสวนสบ.1 รับแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ผู้เสียหายได้เปิดเผยว่า “ทรนง ศรีเชื้อ” ได้ติดค้างค่าโปรโมตหนังกว่า 8 แสนบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้พยายามติดต่อผู้กำกับชื่อดังหลายครั้ง แต่กลับถูกเพิกเฉย ไม่ได้รับการติดต่อใดๆกลับมา
“เดิมทีแรกได้รับการติดต่อ และแนะนำจากน้องๆในวงการว่า มีลูกค้าเป็นคุณทรนง ตอนแรกได้ยินชื่อก็ลังเลว่าจะรับทำดีหรือไม่ดี แต่น้องเขาบอกว่าแบ็คอัพดีนะนายทุนเขาเงินถึง เขาคัมแบ็คกลับมาทำหนังฟอร์มยักษ์ลงทุน 160 ล้าน เราก็เลยตัดสินใจช่วยกัน คือเราก็เคยได้ยินเรื่องเขามาบ้างนิดหน่อย แต่ไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่เคยเห็นมีใครออกมาบอกว่าโดนชิ่ง หรือเป็นเพราะสมัยก่อนนี้เขาไม่เอาเรื่องเอาราวหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่จ่ายเงินก็ไม่เป็นไร ซึ่งสำหรับภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวมีอีกหลายเจ้าที่ทำสื่อประชาสัมพันธ์ มีฮัลโหล บางกอกที่วันนี้ไม่สะดวกมา และนิตยสารเอนเตอร์เทน กับคลื่นวิทยุ106 ครอบครัวข่าว คือในส่วนที่เป็นประชาสัมพันธ์โดนหมด”
“ถามว่ามีการติดต่อเขาไหม จริงๆเราก็พยายามให้เด็กโทรหาทุกวัน หลังๆทุกอาทิตย์ติดต่อไม่ได้ เบอร์ออฟฟิศเขาก็ติดต่อไม่ได้ อยากจะพูดอะไรก็ฝากผ่านแฟกซ์ไป เขียนเป็นโน้ตเป็นอะไรไป ของเราไม่ได้อยู่ในส่วนของการทำสัญญา เป็นการเสนอราคา และวางบิลใบส่งของ แจ้งหนี้ตามยอดเท่านั้น คือเขาได้ชำระช่วงแรกๆตอนหนังยังไม่เข้าเหมือนว่ายังพอมีทุนอยู่ เราก็รู้สึกใจชื่นว่ายังได้ตังค์บ้าง”
“อย่างส.ธนา มีเดีย ก็มีเรียกค่าเก็บแรกๆก็ยังได้ แต่พอหนังเข้าโปรแกรมปุ๊บ การชำระเงินทุกอย่างหยุดนิ่งหมด คือรายได้หนังไม่ดีก็เลยชะลอทุกอย่าง ตอนนั้นเขายังมีการพูดคุยเค้ากับเราอยู่ มีการแบ่งรับแบ่งสู้ต่อรองนั่นนี่ ผัดผ่อนกันไปเดือนก็แล้ว 2เดือนก็แล้ว 3เดือนก็แล้ว จน ณ วันนี้หลายคนก็ถามว่าทำไมถึงเพิ่งออกมาแจ้งความ อย่างที่บอกเราให้โอกาส เพราะไม่มีใครอยากฟ้องร้องลูกค้าหรอก ก็อยากให้มองหน้ากันได้”
แจงจะฟ้องผู้กำกับดังในคดีแพ่ง เรียกร้องค่าเสียหายเท่ากับยอดบิลที่ต้องชำระเท่านั้น ไม่ตอบจะยอมความหรือไม่ หากอีกฝ่ายโทรมาขอไกล่เกลี่ย โบ้ยให้ทนายจัดการ
“ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็รับแจ้งความไว้ ลงเป็นบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก็เป็นคดีแพ่ง ต้องแต่งตั้งทนายฟ้องร้องกันในชั้นศาลกันต่อไป ถามว่าเราจะเรียกร้องเท่าไหร่ ต้องบอกว่าเราอยากจะขอแค่ค่าเสียหายของเราตามยอดบิลเท่านั้น เราไม่โดนเรื่องเช็ค แต่อีกบริษทหนึ่งอย่าง ส.ธนา มีเดีย ได้เช็คไป แต่แจ้งความไว้ที่สน.หัวหมากเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่วันนี้เรามาแจ้งความ เพราะอยากให้เขารู้ว่ามีเรื่องแบบนี้แล้วนะ เขาทำอะไรอยู่หรือเปล่า ยังอยู่เมืองไทยไหม หรืออยู่ต่างประเทศ ถ้าอยู่ต่างประเทศรู้แล้วก็ต้องรีบกลับมาเคลียร์ ในขณะเดียวกันเราก็ต้องให้ทนายยื่นฟ้องด้วย เพราะเดี๋ยวจะหมดอายุความ”
“ถ้าเขาโทรมาไกล่เกลี่ยจะยอมความหรือเปล่า สุดท้ายคงต้องให้ทางทนายจัดการ ซึ่งเราก็ได้แต่งตั้ง และให้ทนายทำเรื่องส่งไปหาเขาแล้ว และก็มีคนรับเรื่องแล้ว แต่เขายังไม่ติดต่อกลับ คิดว่าตอนนี้เขาน่าจะรู้แล้วนะ เขารู้ตลอดแต่นิ่งเงียบไม่รู้ทำไม หรือคิดว่าอาจจะเป็นคดีแพ่ง ปีนึงไปแล้วถ้ายังไม่ดำเนินคดีอะไร ดึงๆกันไปอย่างนี้เดี๋ยวถึงเวลาก็หมดอายุความเอง กฎหมายก็ไม่มีผล”
“ซึ่งถ้าเขาคิดแบบนั้นเราก็เสียใจเพราะเขาเป็นผู้ใหญ่ เราก็เคารพนับถือ เราทำงานก็ทำให้จริงๆไม่ได้ทำเล่นๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเราก็รู้อยู่ในวงการบันเทิง โดยเฉพาะหนังถึงเราทำดี แต่สุดท้ายคนดูเป็นคนตัดสินว่าหนังจะสนุกหรือไม่ เราก็บังคับเขาไม่ได้ว่า จะต้องให้ไปดูหนังของเขานะ”
เผยรู้อีกฝ่ายเครียดถึงขนาดเคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย เลยยืดเวลาให้จนเกือบครบปี ซึ่งค่าเสียหายที่คู่กรณีต้องจ่ายประมาณล้านกว่าบาท แถมยังค้างค่าจ้างอดีตพนักงานด้วยหลายราย
“ตอนที่เขาเครียดเข้าโรงพยาบาลเราก็ทราบ ตอนนั้นยังเป็นสตาฟที่ทำงานให้เขาอยู่ ก็ทราบว่าเขาเครียดแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะอย่างนั้นด้วยมั้งเราก็เลยหวั่น แต่ทำอะไรไม่ได้ เรารู้ว่าเขาเครียดเลยดึงมาจนจะครบปีแล้ว”
“คือหนังเขาไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไหร่ รู้สึกรายได้ขายได้แค่ 5- 7 ล้านเอง แล้วก็ต้องมาแบ่งรายได้ให้กับโรงภาพยนตร์อีก เราเองก็รู้ แต่ธุรกิจมันก็คือธุรกิจ ซื้อของก็ต้องจ่ายเงิน กินข้าวก็ต้องจ่ายตังค์ รู้สึกว่ามาตอนหลังเขาจะผลิตเป็นวีซีดีออกจำหน่าย แต่เอาไปขายลิขสิทธิ์ให้กับเอ็มวีดี แต่ที่บริษัทนั่นไม่น่าจะมีปัญหา เพราะทางคุณทรนงได้ขายลิขสิทธิ์หนังไปแล้ว ส่วนจะขายได้มากน้อยแค่ไหน เขาก็เก็บกินเรียบหมดขายขาดเลย แต่ในส่วนของเราจะมีค่าเสียหายรวมๆกันในวันนี้ก็ประมาณล้านกว่า และยังมีรายอื่นๆอีก พนักงานจ้างของเขา พวกฟรีแลนซ์ก็ไม่ได้รับค่าจ้างเหมือนกัน”
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |