“นริศรา” ตั้งทนายฟ้องหมิ่นประมาท “ธีรพัฒน์” ออกมาให้ข่าวทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถามทำแบบนี้เหมาะสมมั้ย เป็นครูกล่าวหาผู้บริหาร คณะกรรมการ ผอ.วิทยาลัย ท้าให้ส่งข้อมูล ป.ป.ช.พิสูจน์ “จริง-เท็จ” เผย สอศ.ออกหนังสือเร่งรัดวิทยาลัยส่งข้อมูลเพิ่ม
สืบเนื่องจาก นายธีรพัฒน์ คำคูบอน ประธานที่ปรึกษาสหภาพครูแห่งชาติ อุปนายกสมาคมครูอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย จะรวบรวมหลักฐานเชิงลึกเพื่อนำไปยื่นสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เอกสารนั้นได้มีการกำหนด TOR จัดซื้อจัดจ้าง เป็นเอกสารที่เขากับที่ตนมี ซึ่งนายนิวัตร นาคะเวช รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ตรวจสอบ หลักฐานนี้มีอยู่แล้ว ไม่ใช่เอกสารลับ ตนได้รายงานถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแล้ว ผลสอบออกมาเป็นอย่างไร แต่ต้องลงลึกในรายละเอียดอีกว่าเกิดจากอะไร จะไปกล่าวหาเขาก็ไม่ได้ เพราะได้มีการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว ดังนั้น ตนจึงตั้งคณะกรรมการชุดที่ 2 ขึ้น โดยเชิญผู้บริหารกระทรวง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ผู้ทรงคุณวุฒิที่รู้วิชาชีพต่างๆ เข้ามาเพื่อเป็นกลาง เพราะวิชาชีพของอาชีวะเป็นวิชาชีพเฉพาะด้านอาชีพ เพราะเป็นครุภัณฑ์เฉพาะจริงๆ
“ถ้าเขาเป็นข้าราชการ เป็นครู สิ่งที่เขาทำนั้นเหมาะสมหรือไม่ มากล่าวหาผู้บริหารกันเอง กับคณะกรรมการเก่า นับ 100 คนที่ทำงานครั้งนี้ เหมือนกับเขากล่าวหาคณะกรรมการ TOR หรือจัดซื้อจัดจ้าง เขากำลังกล่าวหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั่วประเทศกว่า 400 วิทยาลัย เพราะการจัดซื้อทั้งหมดส่งให้วิทยาลัยดำเนินการ ไม่ได้จัดซื้อส่วนกลาง ดังนั้น นายธีรพัฒน์มีข้อมูลอะไรอย่าไปทำ ให้มาบอก คณะกรรมการ 2 ชุดพร้อม อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ขณะนี้ตนขอความร่วมมือไปยังสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ออกหนังสือถึงวิทยาลัยทุกแห่งเพื่อเร่งรัดขอข้อมูลโดยด่วน และกำหนดให้ส่งข้อมูลภายในกี่วัน ไม่เช่นนั้นการสอบสวนก็จะช้า”
น.ส.นริศรา กล่าวว่า หากเขายื่นหลักฐานต่างๆ ให้ ป.ป.ช. ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นข้อมูลจริง หรือ เท็จ ต้องไปพิสูจน์ใน ป.ป.ช. ส่วนตนไม่รู้ว่าเขาทำเพื่ออะไร สงสัยอยู่เหมือนกัน และที่ออกมาพูดทุกวันเขามีวัตถุประสงค์อะไร เขาทำเพื่อใครรึเปล่า เพราะตนได้ข่าวมาว่า มีขบวนการต้องการล้มล้างการจัดซื้อจัดจ้างใหม่หมดเลย แล้วตั้งครุภัณฑ์ใหม่ ทำเป็นขบวนการ มีการจัดทำทีมงานเบื้องหลัง มีการเรียกโต๊ะ ผู้รับเหมามาต่อรอง มีคนให้ข้อมูลเหล่านี้ตลอดเวลา แต่ตนไม่เคยออกมาพูด เนื่องจากหลักฐานมีแบบที่เขามี แต่ไม่ได้ลงชื่อชัดเจน ระบุแค่ว่า “ข้าราชการผู้หวังดีต่อกระทรวงศึกษาธิการ” อีกอย่างหนังสือไม่ได้ระบุว่ามาจากที่ไหน จึงไม่รู้ว่าจะลงไปตรวจสอบแห่งไหน ซึ่งเป็นหลักฐานลอยๆ แต่โยงไปถึงผู้บริหารระดับสูง ตนไม่กล้าให้จดหมายเหล่านี้แก่สื่อ หากสื่อต้องการตนยินดีให้
น.ส.นริศรา กล่าวด้วยว่า การออกมาให้ข่าวของเขา มีการระบุชื่อตน มีประเด็นที่จะล้ม หรือตรวจสอบ มีการทุจริต ไม่โปร่งใส ตนบอกกลับไปว่าถ้ามีหลักฐานก็เอามา การกระทำแบบนี้ทำให้ตนเสียหายอยู่ตลอดเวลา พูดทุกวัน ตนเสียหายทุกวัน ถามว่าตนจะโต้ตอบหรือไม่ กลายเป็นว่าเราไปโต้ตอบข้าราชการชั้นผู้น้อย เราก็ทำไม่ได้ ดังนั้น หากชี้ประเด็นว่าเป็นตนก็ให้เขามาหาได้เลย และที่เงียบไม่ใช่ว่าตนผิด แต่ไม่อยากโต้ตอบกับข้าราชการชั้นผู้น้อย เขาเป็นข้าราชการครู ถ้าเขาปกป้องผลประโยชน์ของอาชีวะ ควรนำหลักฐานมาให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
“ขณะนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ระงับการจัดสรรเงิน SP2 อาชีวะ แล้วให้ตรวจสอบขบวนการก่อน ย้ำว่าไม่มียื้อ ให้ตรวจสอบโดยเร็วที่สุด ต้องบอกว่าเงินก้อนนี้ทำเพื่ออาชีวะ ซึ่งไม่ได้เงินก้อนนี้มาก่อน 5 พันกว่าล้าน ส่วนอาคารได้ไปแล้ว 7 พันกว่าล้าน ลองนึกดูว่า ตึกสร้างเสร็จ ครุภัณฑ์ไม่มี” น.ส.นริศรา กล่าว และว่าไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ให้ข้อมูลมาสอบ กลับมาโจมตีรัฐมนตรี ข้อมูลไม่ต้องให้รัฐมนตรี ไปให้คณะกรรมการ ถ้าไม่ไว้ใจ รมต.
น.ส.นริศรา กล่าวว่า ตนไม่ได้ท้าฟ้องอะไร เพียงแต่ตลอดเวลาที่เขาออกมาพูด พุ่งประเด็นมาที่ รมช.ศธ.มีปัญหาครุภัณฑ์ ไม่โปร่งใส และมีแต่คนโทรมาหาตน ถามว่าเกิดอะไรขึ้น แม้กระทั่งใน ครม.เองก็เป็นห่วง ตนไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย เขามาเป็นรัฐมนตรีก็ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย พอมาถึงประเด็นนี้ทำให้ตนถูกกล่าวหาแล้วเสื่อมเสีย ตนต้องฟ้องหมิ่นประมาท ซึ่งขณะนี้ได้เซ็นมอบอำนาจให้ทนายไปฟ้องแล้ว
“ข่าวที่เขาให้พุ่งมาที่ดิฉัน และดิฉันไม่เคยเห็นหน้า นายธีรพัฒน์เลย อยากให้ท่านเดินมาหาแล้วเอาข้อมูลมาให้คณะกรรมการโดยตรง และสงสัยว่าเขาทำไมไม่มาหาดิฉันด้วยตนเอง” น.ส.นริศรา ระบุ และว่าวันนี้ (28 ม.ค.) ได้มีผู้รับเหมาวิ่งมาหา นัดเวลา 10.00 น. ตนอยากให้ไปเจอรัฐมนตรี และอยากจะให้ข้อมูลให้ไปให้ต่อนิติกรว่าชนะการประมูลถูกต้อง หรือถูกกลั่นแกล้ง เขาได้ข้อมูลแล้วเขาลงไปสอบเอง ไม่ต้องมาเจอตน
ผู้สื่อข่าวถามว่าคณะกรรมการสอบเสร็จแล้ว ผลการสอบ sp 2 จะต้องเข้า ครม.หรือไม่ น.ส.นริศรา อธิบายว่า นายกรัฐมนตรี บอกว่า การจัดซื้อจัดจ้างถูกต้องถามขบวนการ ให้ร่วมมือกับสำนักงานงบประมาณ จัดสรรเงินมา ถ้ากระบวนการใดดูแล้วไม่โปร่งใส่ ส่อทุจริต ให้นำผลสอบไป ป.ป.ช. และ สตง. ถ้าการทำครุภัณฑ์ใดที่ยังไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง และตรวจสอบแล้วว่าถูกต้องให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง โดยขยายระยะเวลาขอมติ ครม. ถ้าข้อมูลใดทำครุภัณฑ์ยังไม่เรียบร้อย ให้ดำเนินการให้เรียบร้อย
สืบเนื่องจาก นายธีรพัฒน์ คำคูบอน ประธานที่ปรึกษาสหภาพครูแห่งชาติ อุปนายกสมาคมครูอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย จะรวบรวมหลักฐานเชิงลึกเพื่อนำไปยื่นสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เอกสารนั้นได้มีการกำหนด TOR จัดซื้อจัดจ้าง เป็นเอกสารที่เขากับที่ตนมี ซึ่งนายนิวัตร นาคะเวช รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ตรวจสอบ หลักฐานนี้มีอยู่แล้ว ไม่ใช่เอกสารลับ ตนได้รายงานถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแล้ว ผลสอบออกมาเป็นอย่างไร แต่ต้องลงลึกในรายละเอียดอีกว่าเกิดจากอะไร จะไปกล่าวหาเขาก็ไม่ได้ เพราะได้มีการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว ดังนั้น ตนจึงตั้งคณะกรรมการชุดที่ 2 ขึ้น โดยเชิญผู้บริหารกระทรวง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ผู้ทรงคุณวุฒิที่รู้วิชาชีพต่างๆ เข้ามาเพื่อเป็นกลาง เพราะวิชาชีพของอาชีวะเป็นวิชาชีพเฉพาะด้านอาชีพ เพราะเป็นครุภัณฑ์เฉพาะจริงๆ
“ถ้าเขาเป็นข้าราชการ เป็นครู สิ่งที่เขาทำนั้นเหมาะสมหรือไม่ มากล่าวหาผู้บริหารกันเอง กับคณะกรรมการเก่า นับ 100 คนที่ทำงานครั้งนี้ เหมือนกับเขากล่าวหาคณะกรรมการ TOR หรือจัดซื้อจัดจ้าง เขากำลังกล่าวหาวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั่วประเทศกว่า 400 วิทยาลัย เพราะการจัดซื้อทั้งหมดส่งให้วิทยาลัยดำเนินการ ไม่ได้จัดซื้อส่วนกลาง ดังนั้น นายธีรพัฒน์มีข้อมูลอะไรอย่าไปทำ ให้มาบอก คณะกรรมการ 2 ชุดพร้อม อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ขณะนี้ตนขอความร่วมมือไปยังสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ออกหนังสือถึงวิทยาลัยทุกแห่งเพื่อเร่งรัดขอข้อมูลโดยด่วน และกำหนดให้ส่งข้อมูลภายในกี่วัน ไม่เช่นนั้นการสอบสวนก็จะช้า”
น.ส.นริศรา กล่าวว่า หากเขายื่นหลักฐานต่างๆ ให้ ป.ป.ช. ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นข้อมูลจริง หรือ เท็จ ต้องไปพิสูจน์ใน ป.ป.ช. ส่วนตนไม่รู้ว่าเขาทำเพื่ออะไร สงสัยอยู่เหมือนกัน และที่ออกมาพูดทุกวันเขามีวัตถุประสงค์อะไร เขาทำเพื่อใครรึเปล่า เพราะตนได้ข่าวมาว่า มีขบวนการต้องการล้มล้างการจัดซื้อจัดจ้างใหม่หมดเลย แล้วตั้งครุภัณฑ์ใหม่ ทำเป็นขบวนการ มีการจัดทำทีมงานเบื้องหลัง มีการเรียกโต๊ะ ผู้รับเหมามาต่อรอง มีคนให้ข้อมูลเหล่านี้ตลอดเวลา แต่ตนไม่เคยออกมาพูด เนื่องจากหลักฐานมีแบบที่เขามี แต่ไม่ได้ลงชื่อชัดเจน ระบุแค่ว่า “ข้าราชการผู้หวังดีต่อกระทรวงศึกษาธิการ” อีกอย่างหนังสือไม่ได้ระบุว่ามาจากที่ไหน จึงไม่รู้ว่าจะลงไปตรวจสอบแห่งไหน ซึ่งเป็นหลักฐานลอยๆ แต่โยงไปถึงผู้บริหารระดับสูง ตนไม่กล้าให้จดหมายเหล่านี้แก่สื่อ หากสื่อต้องการตนยินดีให้
น.ส.นริศรา กล่าวด้วยว่า การออกมาให้ข่าวของเขา มีการระบุชื่อตน มีประเด็นที่จะล้ม หรือตรวจสอบ มีการทุจริต ไม่โปร่งใส ตนบอกกลับไปว่าถ้ามีหลักฐานก็เอามา การกระทำแบบนี้ทำให้ตนเสียหายอยู่ตลอดเวลา พูดทุกวัน ตนเสียหายทุกวัน ถามว่าตนจะโต้ตอบหรือไม่ กลายเป็นว่าเราไปโต้ตอบข้าราชการชั้นผู้น้อย เราก็ทำไม่ได้ ดังนั้น หากชี้ประเด็นว่าเป็นตนก็ให้เขามาหาได้เลย และที่เงียบไม่ใช่ว่าตนผิด แต่ไม่อยากโต้ตอบกับข้าราชการชั้นผู้น้อย เขาเป็นข้าราชการครู ถ้าเขาปกป้องผลประโยชน์ของอาชีวะ ควรนำหลักฐานมาให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
“ขณะนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ระงับการจัดสรรเงิน SP2 อาชีวะ แล้วให้ตรวจสอบขบวนการก่อน ย้ำว่าไม่มียื้อ ให้ตรวจสอบโดยเร็วที่สุด ต้องบอกว่าเงินก้อนนี้ทำเพื่ออาชีวะ ซึ่งไม่ได้เงินก้อนนี้มาก่อน 5 พันกว่าล้าน ส่วนอาคารได้ไปแล้ว 7 พันกว่าล้าน ลองนึกดูว่า ตึกสร้างเสร็จ ครุภัณฑ์ไม่มี” น.ส.นริศรา กล่าว และว่าไม่ให้ความร่วมมือ ไม่ให้ข้อมูลมาสอบ กลับมาโจมตีรัฐมนตรี ข้อมูลไม่ต้องให้รัฐมนตรี ไปให้คณะกรรมการ ถ้าไม่ไว้ใจ รมต.
น.ส.นริศรา กล่าวว่า ตนไม่ได้ท้าฟ้องอะไร เพียงแต่ตลอดเวลาที่เขาออกมาพูด พุ่งประเด็นมาที่ รมช.ศธ.มีปัญหาครุภัณฑ์ ไม่โปร่งใส และมีแต่คนโทรมาหาตน ถามว่าเกิดอะไรขึ้น แม้กระทั่งใน ครม.เองก็เป็นห่วง ตนไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย เขามาเป็นรัฐมนตรีก็ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย พอมาถึงประเด็นนี้ทำให้ตนถูกกล่าวหาแล้วเสื่อมเสีย ตนต้องฟ้องหมิ่นประมาท ซึ่งขณะนี้ได้เซ็นมอบอำนาจให้ทนายไปฟ้องแล้ว
“ข่าวที่เขาให้พุ่งมาที่ดิฉัน และดิฉันไม่เคยเห็นหน้า นายธีรพัฒน์เลย อยากให้ท่านเดินมาหาแล้วเอาข้อมูลมาให้คณะกรรมการโดยตรง และสงสัยว่าเขาทำไมไม่มาหาดิฉันด้วยตนเอง” น.ส.นริศรา ระบุ และว่าวันนี้ (28 ม.ค.) ได้มีผู้รับเหมาวิ่งมาหา นัดเวลา 10.00 น. ตนอยากให้ไปเจอรัฐมนตรี และอยากจะให้ข้อมูลให้ไปให้ต่อนิติกรว่าชนะการประมูลถูกต้อง หรือถูกกลั่นแกล้ง เขาได้ข้อมูลแล้วเขาลงไปสอบเอง ไม่ต้องมาเจอตน
ผู้สื่อข่าวถามว่าคณะกรรมการสอบเสร็จแล้ว ผลการสอบ sp 2 จะต้องเข้า ครม.หรือไม่ น.ส.นริศรา อธิบายว่า นายกรัฐมนตรี บอกว่า การจัดซื้อจัดจ้างถูกต้องถามขบวนการ ให้ร่วมมือกับสำนักงานงบประมาณ จัดสรรเงินมา ถ้ากระบวนการใดดูแล้วไม่โปร่งใส่ ส่อทุจริต ให้นำผลสอบไป ป.ป.ช. และ สตง. ถ้าการทำครุภัณฑ์ใดที่ยังไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง และตรวจสอบแล้วว่าถูกต้องให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง โดยขยายระยะเวลาขอมติ ครม. ถ้าข้อมูลใดทำครุภัณฑ์ยังไม่เรียบร้อย ให้ดำเนินการให้เรียบร้อย