ASTVผู้จัดการรายวัน-“นริศรา”ย่องจับเข่าคุยนายกฯ ก่อนประชุม ครม. ผลไฟเขียวขยายเวลาจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์อาชีวะ จนกว่าผลสอบข้อเท็จจริงจะได้ข้อสรุป รับหากปัญหามาก ส่งเรื่องถึง ป.ป.ช. อาจถึงขั้นส่งเงินคืนสำนักงบฯ ท้า“ธีรพัฒน์”ฟ้อง ระบุผลสอบชัดหนังสือลาราชการเป็นเท็จ ปัดตอบโต้หนังสือร้องเรียนชี้เนื้อหาไร้สาระ ขู่ฟ้องหมิ่นประมาท “ชินวรณ์”เตรียมพบสมาคมครูอาชีวะรับข้อมูลกับมือ 30 ม.ค.นี้ ด้าน สธ. หมอร้อง กมธ.สอบ “อภิสิทธิ์”- “จุรินทร์” ค้านคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยข้าราชการสธ.
วานนี้ (26 ม.ค.) น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมช.ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างตามแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง หรือ SP2 ในส่วนของพระราชกำหนดประจำปี 2553 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) เสนอ รวมวงเงินทั้งสิ้นประมาณ 5,400 ล้านบาท แบ่งเป็น ครุภัณฑ์ วงเงินประมาณ 5,330 ล้านบาท และสิ่งก่อสร้าง วงเงินประมาณ 70 ล้านบาท ออกไปก่อนจนกว่าจะได้ข้อยุติจากคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ ทั้ง 2 คณะ เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างมีความโปร่งใสถูกต้องตามระเบียบที่เกี่ยวข้องและเกิดประโยชน์สูงสุด
รมช.ศธ.กล่าวอีกว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ตรวจสอบเรื่องนี้ เพื่อให้ได้ผลที่ชัดเจนก่อน ซึ่งเมื่อได้ผลสอบแล้วให้นำมาหารือกับนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมครม.พิจารณาอีกครั้ง ว่าควรจัดสรรงบฯ ให้กับโครงการใด โดยตนจะเร่งให้สอบสวนให้เร็วที่สุด และหากผลสอบมีประเด็นที่ทำให้ต้องส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ก็คงต้องส่งเงินคืนสำนักงบประมาณ
รายงานข่าวจากที่ประชุม ครม.แจ้งว่า น.ส.นริศราได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เพื่อขอหารือก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงเรื่องดังกล่าว ประมาณ 10 นาที
ขู่ฟ้องกลับเต้นนส.ร้องเรียนไร้สาระ
เมื่อถามถึง กรณีที่ นายธีรพัฒน์ คำคูบอน ประธานที่ปรึกษาสหภาพครูแห่งชาติ อุปนายกสมาคมครูอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย เตรียมจะฟ้องร้องกรณีที่ออกมาให้ข่าวในเรื่องการปลอมหนังสือลาราชการ น.ส.นริศรา กล่าวว่า ได้หารือกับ เลขาฯ กอศ. ที่จะขอผลสอบจากอาชีวะ ซึ่งยืนยันว่า สอศ.ได้มีคำสั่ง สอศ.ที่ 879/2552 ลงวันที่ 5 มิ.ย.2552 ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงนายธีรพัฒน์ ผลสรุปพบว่า มีมูลความผิดจริง และขาดราชการ 82 วัน ได้ใช้เอกสารปลอมเพื่อขออนุญาตเดินทางไปราชการ ซึ่งถือว่าเป็นความผิดทางวินัย แต่เลขาฯ กอศ.บอกว่ายังไม่เห็นผลสอบดังกล่าว ทั้งนี้ ต้องรอผลสอบอย่างเป็นทางการจาก สอศ. และจะนำไปรายงานต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากจะฟ้องก็ยินดี เพราะตนมีผลสอบอยู่ในมือชัดเจนว่าทำผิดจริง
น.ส.นริศรา กล่าวต่อว่า จากกรณีที่นายธีรพัฒน์นำหนังสือร้องเรียนฉบับหนึ่งออกมาเผยแพร่ ซึ่งลงชื่อ นายเจี่ยง วงศ์สวัสดิ์สุริยะ ผอ.สำนักวิจัยและพัฒนาการศึกษา รักษาราชการแทน ผอ.สำนักนโยบายและแผนการอาชีวศึกษา โดยลักษณะของหนังสือดังกล่าวเหมือนการตัดต่อ เมื่อสอบถามไปที่นายเจี่ยง ก็ทราบว่าเจ้าตัวไม่รู้เรื่องหนังสือฉบับดังกล่าว และได้มีการแจ้งความไว้แล้ว
“ผู้ที่มีชื่ออยู่ในหนังสือนั้นๆ ยินดีให้ข้อมูล และแจ้งความหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนทางกฎหมายที่ต้องมาดูกัน ส่วนของเนื้อหาไม่จำเป็นต้องชี้แจงเพราะไม่มีมูลความจริงเลย ต้องให้เวลาตำรวจในการพิสูจน์หลักฐานต่อไป ดังนั้น คำพูดต่างๆ ก็คงต้องไปสู้กันในชั้นศาล ฐานหมิ่นประมาท แต่ถ้าดิฉันทำผิดก็พร้อมให้ฟ้องได้เลย” รมช.ศธ.กล่าว
“ชินวรณ์”เตรียมพบสมาคมครูฯ
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ของอาชีวะนั้น ในวันที่ 30 ม.ค.นี้ ตนจะไปพบกับสมาพันธ์สมาคมครูอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย ที่คุรุสภา เพื่อคุยกันอย่างเปิดใจ ว่าขอให้เดินหน้าทำงานกันต่อไป ส่วนกรณีที่มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ถึงกระบวนการทุจริตของ สอศ.ที่มีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายนั้น เรื่องนี้ยังไม่มี
ขณะที่ ความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พญ.อรพรรณ์ เมธาดิลกกุล แพทย์ประจำโรงพยาบาลราชวิถี ในฐานะผู้ประสานงานคณะแพทย์และบุคคลเพื่อความถูกต้องกรณีกล่าวหากระทรวงสาธารณสุขทุจริตงบไทยเข้มแข็ง(พทข.) ได้ยื่นหนังสือด่วนที่สุด ถึง นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ขอให้ดำเนินการตรวจสอบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข กรณีทำผิดกฎหมายยินยอมให้คณะกรรมการแถลงข่าวใส่ความทำลายภาพลักษณ์ของ สธ.และข้าราชการในภาพรวม และข้าราชการที่ได้รับการระบุชื่อได้รับความเสียหายรวมถึงคำสั่งสอบวินัยข้าราชการโดยผิดกฎหมายคือไม่มีข้อเท็จจริงที่เป็นมูลความผิด เนื่องจากยังไม่มีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในงบประมาณที่ยังไม่ผ่านสภา
วานนี้ (26 ม.ค.) น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมช.ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างตามแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง หรือ SP2 ในส่วนของพระราชกำหนดประจำปี 2553 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) เสนอ รวมวงเงินทั้งสิ้นประมาณ 5,400 ล้านบาท แบ่งเป็น ครุภัณฑ์ วงเงินประมาณ 5,330 ล้านบาท และสิ่งก่อสร้าง วงเงินประมาณ 70 ล้านบาท ออกไปก่อนจนกว่าจะได้ข้อยุติจากคณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ ทั้ง 2 คณะ เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างมีความโปร่งใสถูกต้องตามระเบียบที่เกี่ยวข้องและเกิดประโยชน์สูงสุด
รมช.ศธ.กล่าวอีกว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ตรวจสอบเรื่องนี้ เพื่อให้ได้ผลที่ชัดเจนก่อน ซึ่งเมื่อได้ผลสอบแล้วให้นำมาหารือกับนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมครม.พิจารณาอีกครั้ง ว่าควรจัดสรรงบฯ ให้กับโครงการใด โดยตนจะเร่งให้สอบสวนให้เร็วที่สุด และหากผลสอบมีประเด็นที่ทำให้ต้องส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ก็คงต้องส่งเงินคืนสำนักงบประมาณ
รายงานข่าวจากที่ประชุม ครม.แจ้งว่า น.ส.นริศราได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เพื่อขอหารือก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงเรื่องดังกล่าว ประมาณ 10 นาที
ขู่ฟ้องกลับเต้นนส.ร้องเรียนไร้สาระ
เมื่อถามถึง กรณีที่ นายธีรพัฒน์ คำคูบอน ประธานที่ปรึกษาสหภาพครูแห่งชาติ อุปนายกสมาคมครูอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย เตรียมจะฟ้องร้องกรณีที่ออกมาให้ข่าวในเรื่องการปลอมหนังสือลาราชการ น.ส.นริศรา กล่าวว่า ได้หารือกับ เลขาฯ กอศ. ที่จะขอผลสอบจากอาชีวะ ซึ่งยืนยันว่า สอศ.ได้มีคำสั่ง สอศ.ที่ 879/2552 ลงวันที่ 5 มิ.ย.2552 ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงนายธีรพัฒน์ ผลสรุปพบว่า มีมูลความผิดจริง และขาดราชการ 82 วัน ได้ใช้เอกสารปลอมเพื่อขออนุญาตเดินทางไปราชการ ซึ่งถือว่าเป็นความผิดทางวินัย แต่เลขาฯ กอศ.บอกว่ายังไม่เห็นผลสอบดังกล่าว ทั้งนี้ ต้องรอผลสอบอย่างเป็นทางการจาก สอศ. และจะนำไปรายงานต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากจะฟ้องก็ยินดี เพราะตนมีผลสอบอยู่ในมือชัดเจนว่าทำผิดจริง
น.ส.นริศรา กล่าวต่อว่า จากกรณีที่นายธีรพัฒน์นำหนังสือร้องเรียนฉบับหนึ่งออกมาเผยแพร่ ซึ่งลงชื่อ นายเจี่ยง วงศ์สวัสดิ์สุริยะ ผอ.สำนักวิจัยและพัฒนาการศึกษา รักษาราชการแทน ผอ.สำนักนโยบายและแผนการอาชีวศึกษา โดยลักษณะของหนังสือดังกล่าวเหมือนการตัดต่อ เมื่อสอบถามไปที่นายเจี่ยง ก็ทราบว่าเจ้าตัวไม่รู้เรื่องหนังสือฉบับดังกล่าว และได้มีการแจ้งความไว้แล้ว
“ผู้ที่มีชื่ออยู่ในหนังสือนั้นๆ ยินดีให้ข้อมูล และแจ้งความหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนทางกฎหมายที่ต้องมาดูกัน ส่วนของเนื้อหาไม่จำเป็นต้องชี้แจงเพราะไม่มีมูลความจริงเลย ต้องให้เวลาตำรวจในการพิสูจน์หลักฐานต่อไป ดังนั้น คำพูดต่างๆ ก็คงต้องไปสู้กันในชั้นศาล ฐานหมิ่นประมาท แต่ถ้าดิฉันทำผิดก็พร้อมให้ฟ้องได้เลย” รมช.ศธ.กล่าว
“ชินวรณ์”เตรียมพบสมาคมครูฯ
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ของอาชีวะนั้น ในวันที่ 30 ม.ค.นี้ ตนจะไปพบกับสมาพันธ์สมาคมครูอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย ที่คุรุสภา เพื่อคุยกันอย่างเปิดใจ ว่าขอให้เดินหน้าทำงานกันต่อไป ส่วนกรณีที่มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ถึงกระบวนการทุจริตของ สอศ.ที่มีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายนั้น เรื่องนี้ยังไม่มี
ขณะที่ ความคืบหน้าโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พญ.อรพรรณ์ เมธาดิลกกุล แพทย์ประจำโรงพยาบาลราชวิถี ในฐานะผู้ประสานงานคณะแพทย์และบุคคลเพื่อความถูกต้องกรณีกล่าวหากระทรวงสาธารณสุขทุจริตงบไทยเข้มแข็ง(พทข.) ได้ยื่นหนังสือด่วนที่สุด ถึง นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ขอให้ดำเนินการตรวจสอบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข กรณีทำผิดกฎหมายยินยอมให้คณะกรรมการแถลงข่าวใส่ความทำลายภาพลักษณ์ของ สธ.และข้าราชการในภาพรวม และข้าราชการที่ได้รับการระบุชื่อได้รับความเสียหายรวมถึงคำสั่งสอบวินัยข้าราชการโดยผิดกฎหมายคือไม่มีข้อเท็จจริงที่เป็นมูลความผิด เนื่องจากยังไม่มีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในงบประมาณที่ยังไม่ผ่านสภา