“นาธาน” ฉายเดี่ยวหนี “แม่บุญธรรม” กับ “ทนายปุ๊” ดอดพบแม่บ้านเจรจาเคลียร์หนี้ต่อหน้าศาล ครั้งนี้มาแปลกรับสิ้นไส้ยืมเงินแม่บ้านจริง และยินดีชดใช้หนี้ทั้งหมด เผยแม่บุญธรรมกำลังเอาโฉนดที่ดินไปจำนอง เตรียมเงินใช้หนี้วันที่ 22 กุมภาพันธ์ แต่ผ่านไปวันเดียวกลับพลิกลิ้นเหมือนเก่าโทรมายกเลิกข้อตกลงทั้งหมด ด้านแม่บ้านแค้นจัดบอก ถ้าไม่เอามาคืนทั้งหมดเตรียมติดคุก
ทำท่าจะมีข่าวดีหลังนัดเจรจาไกล่เกลี่ยอย่างเป็นทางการกันไปแล้วหลายรอบ แถมยังมีกระแสข่าวว่า เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์นั้น “นาธาน โอร์มาน” ได้ดอดมาไกล่เกลี่ยนอกรอบกับ “แม่บ้านเต็ม” สมาน สุขเสริม ต่อหน้าศาลโดยไม่มีแม่บุญธรรม “ครูแหม่ม” พิศมัย ศรีกระบุตร กับ “ทนายปุ๊” พิราวรรณ ชลพิทักษ์พงษ์ ติดตามมาด้วย และผลการเจรจายอมก็เป็นที่หน้าพอใจ ฝ่ายนาธานยอมใช้หนี้ให้ทั้งต้นทั้งดอก ซึ่งเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 6.7 แสนบาท และนัดชำระในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้
ASTV บันเทิงผู้จัดการออนไลน์ ได้สอบถามถึงเรื่องดังกล่าวกับทางแม่บ้านซึ่งก็ได้รับการยืนยันว่า ในตอนแรกนาธานยอมรับที่จะใช้หนี้ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์จริง แต่ผ่านมาแค่วันเดียวนาธานก็ลืมลมปากตัวเอง โทรมายกเลิกข้อตกลงทั้งหมด
“เมื่อวันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์นาธานแอบมาหาเขาบอกว่า ไม่ได้บอกแม่บุญธรรมกับทนายเพราะอยากมาตกลงกับเราเป็นการส่วนตัว โดยจะเอาเงิน 1 แสนบาทที่เขาใช้เป็นหลักทรัพย์ประกันให้ และจะเอารถมาให้จำนอง ซึ่งเขาเซ็นต์ใบมอบอำนาจให้แล้ว และบอกให้เราเอาไปเข้าไฟแนนท์ได้เลยจะได้เงินประมาณ 300,000 บาท จากนั้นก็ให้เราไปถอนฟ้อง นาธานบอกว่ามันขึ้นอยู่กับพี่เต็มทั้งหมด เราก็ปฎิเสธไปที่ผ่านมาเคยตายเพราะเขามาครั้งหนึ่งแล้วไม่เอาอีกแล้ว”
“พอเข้าไปในห้องไกล่เกลี่ยมีเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ย ทนายฝั่งเรา และท่านอัยการมาร่วมฟัง และถามว่าตกลงกันไว้อย่างไรบ้าง ก็เลยเล่าเรื่องที่นาธานจะเอาเงินประกันและรถมาให้ หลังจากนี้ก็จะให้เราถอนฟ้อง ทางศาลก็บอกว่าทำแบบนั้นไม่ได้ นาธานก็เลยพูดต่อหน้าศาลว่า ตอนนี้เขาไม่มีงานมีการทำ เราก็ยังบอกว่าเอาอย่างนี้นะจำนวนเงินที่ต้องไถ่ที่ดินที่สหกรณ์ 1.4 แสนบาทและก็อยู่ที่บริษัทไทรศิริ 2 แสนบาท อยู่ที่บริษัทเอกอำนาจ 1.4 แสนบาท และที่ญาติอีก 5 หมื่นบาท กับ 3 หมื่นบาท ฉะนั้นเราต้องการให้นาธานไถ่ที่ดินพวกนี้เขาก็บอกว่า เราเคยคุยกันไว้ไม่ถึงจำนวนนี้ ก็เลยบอกไปว่าถ้าไม่ยอมจ่ายจำนวนนี้เราจะไม่ยอมคุยกับนาธานอีกเด็ดขาด”
“วันนั้นคุยกันนานมากกว่าจะตกลงกันได้ ศาลถามนาธานว่าตกลงจะยอมใช้หนี้เขาไหมตามที่เราเสนอนาธานตอบว่าตกลง ศาลก็ยังถามต่อว่าคุณได้เอาเงินพี่เขาไปจริงใช่ไหม นาธานก็ตอบว่าครับได้เอาไปจริง ศาลก็ถามอีกว่าแล้วคุณจะเอาเงินจากไหนมาใช้หนี้ เขาก็อึกอักและบอกว่าจะรวบรวมเงินจากญาติพี่น้องจากแม่บุญธรรม เพราะเขาเอาโฉนดที่ดินที่เคยใช้ยื่นเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวนั้น เอาไปเข้าธนาคารออมสินไว้แล้วจะเอาเงินมาคืนให้ เราเห็นเขาบอกกับทางเจ้าหน้าที่ศาลอย่างนั้น ศาลก็บอกว่าตกลงตามนี้ ทางนาธานก็บอกว่าตกลงและสั่งเราว่า อย่าพึ่งให้ข่าวปิดไว้ก่อนจนกว่าเขาจะเอาเงินมาใช้หมด”
“แต่พอตอนเย็นวันที่ 6 กุมภาพันธ์นาธานก็โทรมาถามว่า พี่เต็มอ่านหนังสือพิมพ์ไหม เราก็ไม่รู้คิดว่าคงไม่มีข่าวลงแล้ว เพราะไม่ได้ไปให้สัมภาษณ์ที่ไหน มีนักข่าววิ่งตามมาขอสัมภาษณ์ เราก็บอกเขาไปตรงๆ ว่าตอนนี้ยังให้ข่าวอะไรไม่ได้ ขอไว้ก่อนเอาไว้วันที่ 22 กุมภาพันธ์แล้วกัน”
“แต่บังเอิญทนายฝั่งเราไปสัมภาษณ์กับสื่อยังไงไม่ทราบ นาธานก็เลยโกรธและโทรมาบอกว่า ที่พูดไปวันนั้นเป็นโมฆะทั้งหมด เราก็ไม่สบายใจรีบไปปรึกษากับอัยการ ก็ไม่รู้ว่าศาลจะว่าอย่างไรมันพูดกลับไปกลับมาแบบนี้ ทางอัยการเขาก็แนะนำว่าไม่ต้องห่วงนะพี่เต็ม เพราะนาธานเขาได้พูดกับศาลยอมรับหมดแล้วว่าเป็นหนี้และจะยอมใช้หนี้ แล้วอยู่ดีๆ จะมาบอกว่าโมฆะไม่จ่ายรับปากกับศาลไปแล้วจะมาเปลี่ยนใจอีกไม่ได้”
“ทั้งๆ ที่วันที่มาเคลียร์กันเป็นการส่วนตัวนาธานก็ยอมรับต่อหน้าศาลว่าเป็นหนี้ ศาลแจกแจงเรื่องเงินและที่ดินที่นาธานต้องมาจ่ายค่าถ่ถอนทั้งหมดคุณจะใช้ได้ไหม นาธานก็บอกตกลง ศาลก็ยังบอกว่าสมมุติว่าคุณยังไถ่ไม่หมดในจำนวนนี้ดอกนี่คุณจะรับใช้แทนพี่เต็มไหม เขาก็ตอบว่ายินดีรับใช้ ศาลก็ยังมีการจดบันทึกข้อความเอาไว้ แต่ก็ยังไม่มีการเซ็นสัญญาอะไรกัน ศาลก็นัดว่าวันที่ 22 กุมภาพันธ์ มาดูกันว่านาธานจะหาเงินมาได้ในจำนวนเท่าไหร่”
“แต่มาวันนี้เราก็ไม่รู้ว่าตกลงแล้ววันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ นาธานจะยินดีเอาเงินมาใช้หนี้เหมือนอย่างที่เคยคุยกันไว้ต่อหน้าศาลหรือเปล่า ส่วนข่าวที่ออกไปว่าทุกอย่างเคลียร์กันจบแล้ววันที่ 22 กุมภาพัน์นัดเซ็นสัญญานั้นยังไม่ใช่ ยังไม่รู้ว่าทางนาธานจะเอายังไงกันแน่ วันหนึ่งก็ตกลงว่าจะใช้หนี้พอมาอีกวันก็โทรมาบอกโมฆะ มีแต่ทางเขาเองที่บอกสื่อว่าเคลียร์จบแล้ว แถมยังบอกเราว่า ถ้านักข่าวถามพี่เต็มก็บอกว่าทุกอย่างเคลียร์กันจบแล้ว แต่ที่ผ่านมาตัวเรายังไม่เคยให้สัมภาษณ์ที่ไหนเลยว่า เรื่องทุกอย่างเคลียร์จบแล้ว เพราะจะรอดูว่าเขามาไม้ไหนอีก”
“และถ้าจะมาทำสัญญาใช้หนี้ปีละหมื่นสองหมื่นก็คงไม่เอาแน่นอน เราจะกัดฟันหาเงินมาสู้ดอกไปไม่ให้ที่หลุดแล้วก็จะเอามันเข้าคุกไปเลย เขาเคยมาพูดแบบนี้กับเราแล้วด้วยว่า จะใช้ให้สัก 2 แสนก่อน แล้วที่เหลือจะทำสัญญาผ่อนกันไป ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ไม่เอายังบอกเขาไปว่า ที่ผ่านมานาธานเดือดร้อนพี่ก็ช่วยเหลือแล้วเวลานี้ที่พี่เดือดร้อนทำไมไม่ช่วยพี่บ้าง วันนั้นที่เข้าไปคุยกันสองคนก็พูดถึงเรื่องนี้จะมานั่งโกหกอะไรอีก ที่ผ่านมาเราเสียเวลามานานมากพอแล้ว เราอยากที่จะให้เขาใช้หนี้มาเลยครั้งเดียว แล้วก็จะรีบเอาเงินไปไถ่ที่ดินออกมาให้เร็วที่สุดแต่ถ้าไม่ได้ก็เอาติดคุกไปเลย”
แม่บ้าน “สมาน สุขเสริม” ยืนยันถึงแม้ว่า “นาธาน โอร์มาน” จะหอบเงินมาใช้หนี้หมดแล้ว แต่ความสัมพันธ์นั้นคงไม่กลับไปดีเหมือนเดิมขอตัดขาดทางใครทางมัน เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้รู้สึกเข็ดและไม่กล้าที่จะไว้ใจใครอีก
“ถึงเขาจะมาใช้หนี้ให้หมดแล้ว ความรู้สึกก็คงรู้สึกเฉยๆ ไม่มีเยื่อใยกับเขาอีกแล้ว ถึงแม้ว่าจะมาร้องไห้ต่อหน้าเราขนาดไหนก็ไม่ยอมใจอ่อนให้อีก เพราะที่ผ่านมาเขาทำให้เราลำบากมากๆ จะมาชวนไปทำรีสร์อทหรืออะไรก็ไม่เอาอีกแล้ว ขนาดวันที่ 5 กุมภาพันธ์เราได้ยินเขายอมรับว่าเป็นหนี้ แล้วจะใช้หนี้ให้ทั้งหมดก็ยังดีใจผ่านไปแค่วันเดียวก็โทรมายกเลิกเราแล้ว”
“บทเรียนในครั้งนี้มันทำให้เรามีประสบการณ์รู้สึกเข็ดและไม่คิดที่จะไว้ใจใครอีกแล้ว ถึงจะสนิทกันแค่ไหนก็ไม่เอาอีกแล้ว ถึงจะเป็นญาติพี่น้องหรือใครก็ตาม ถ้ามีการที่จะต้องมากู้หนี้ยืมเงินกันก็ต้องมีลงชื่อเป็นลายลักษณ์อักษรร่วมกันทั้งคู่ ที่ผ่านมาต้องเป็นแบบนี้ เพราะเราเชื่อใจเขามากไป ซื่อเกินไปไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะโกงเราจะทำกับเราได้ขนาดนี้ แต่ก็ไม่ถึงกับเกลียดเขาหรอกถ้าใช้หนี้มาหมดแล้วก็จะอโหสิกรรมให้ และก็ทางใครทางมันต่างคนต่างไปทำมาหากินของตัวเองไปไม่ขอเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว”