“แจ็ค” ลูก “แม่บ้านสมาน” ยันเสียงแข็งฟ้อง “ทนายปุ๊” ไม่ใช่เว็บไซต์ หลังมีหนังสือพิมพ์บันเทิงฉบับหนึ่งลงข่าวผิด เผยสุดทนอีกฝ่ายไปให้สัมภาษณ์ว่าตนติดยา-ติดคุก-เล่นการพนัน ทำให้เสียเครดิตในการทำงาน พร้อมบอกดีใจที่อัยการสั่งฟ้อง “นาธาน” แล้ว รอดูวันที่ 25 ม.ค.นี้อีกฝ่ายจะยอมไกล่เกลี่ยเป็นครั้งสุดท้ายด้วยหรือไม่ ถ้าไม่สารภาพจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
กลายเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันไปยกใหญ่แล้ว หลังจากเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา “แม่บ้านเต็ม สมาน สุขเสริม” กับลูกชาย “แจ็ค อาทิตย์ กุลฝ้าย” ได้เดินทางไปกองปราบเพื่อเข้าแจ้งความกับ “พันตำรวจโทสอาด การลพ” พงส. (สบ2.)ปรก.กก.1 บกป. ให้เอาผิดดำเนินคดีกับ “ทนายปุ๊ พิรวรรณ ชลพิทักษ์พงษ์” ซึ่งเป็นทนายความของ “นาธาน โอร์มาน” ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โดยอีกฝ่ายไปให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์เมเนเจอร์ว่า ตนติดยา และเล่นการพนัน แถมยังเคยติดคุกนาน 6 เดือน ซึ่งทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง พร้อมกันนี้ “แจ็ค” ยังได้นำบทสัมภาษณ์ของ “ทนายปุ๊” ที่ลงในเว็บไซต์เมเนเจอร์ดังกล่าวมาโชว์ให้ดูเป็นหลักฐานด้วย
แต่ปรากฏกลับมีหนังสือพิมพ์บันเทิงรายวันฉบับหนึ่ง ไปลงข่าวผิดว่า “แจ็ค” ร้องกองปราบเพื่อฟ้องเว็บไซต์ที่ลงข่าวดังกล่าว ทำให้ลูกชายของ “แม่บ้านสมาน” ต้องออกมาแก้ข่าวโดยด่วน และยืนยันอีกรอบผ่านทาง ASTV บันเทิงผู้จัดการออนไลน์ว่า ตนไม่ได้ฟ้องเว็บไซต์ที่ลงข่าว แต่ฟ้อง “ทนายปุ๊” ที่กล่าวหาตนผ่านสื่อ
“ผมไม่ได้ฟ้องเว็บไซต์นะครับ ฟ้องทนายปุ๊ครับ คงมีการเข้าใจผิด เพราะเขาเอาผมไปโฆษณาผ่านเว็บไซต์ ที่ตัดสินใจฟ้องเพราะเขาบอกว่าผมเป็นคนเสพยา เล่นการพนัน แถมยังติดคุกมาอีก 6 เดือน คนพวกนี้เชื่อมั้ยว่าจะล้างผลาญพ่อแม่ ซึ่งผมไม่เคยขอตังค์แม่เลย ซ้ำยังส่งตังค์ให้แม่กับน้องใช้อีก การพนันผมก็ไม่เคยเล่น ล็อตเตอร์รี่ผมยังไม่เคยซื้อเลย”
“เรื่องเสพยาผมเคยออกมาสารภาพตั้งแต่ตอนแรกว่า เคยเสพจริงตอนเป็นวัยรุ่น เสพเพราะอะไร เพราะผมทำงาน 2 ที่ คือตอนแรกทำงานบ่ายสามโมงถึงสี่ทุ่ม แล้วก็ไปเข้างานอีกร้านหนึ่งมันเป็นผับ สี่ทุ่มครึ่งถึงตีสอง และทีนี้ผมเหนื่อย ก็มีเพื่อนร่วมงานมาชักชวนผมว่า เออลองดูมั้ยตัวนี้ ตอนแรกเขาก็ให้เราลองฟรี พอครั้งที่สองเราก็ซื้อเขามาเสพเอง และหลังจากครั้งที่สองอีก 5 วัน ทางผับก็ได้มีการเรียกพนักงานเข้าไปตรวจฉี่ ผมก็เข้าไปเพราะคิดว่าไม่ได้ผิดอะไรมากมาย มันก็เลยมีสารเสพติดในฉี่ เขาก็ส่งผมไปฟื้นฟู ก็ไปฟื้นฟูอยู่ 45 วัน หลังจากออกมาปุ๊บ ผมก็ไม่ได้ยุ่งกับยาเสพติดอีกเลย มาเกือบ 8-9 ปีแล้ว”
“เขาไม่มีหลักฐานอะไรเลย แล้วมากล่าวหาผมอย่างนี้ เขาบอกว่าประวัติมันเช็คได้ ก็ไปเช็คดูครับว่าผมติดคุกจริงมั้ย และตอนนี้ทางตำรวจก็รับแจ้งความไว้เรียบร้อยแล้ว คาดว่าอีกสักประมาณ 6-7 วัน ทางเจ้าหน้าที่กองปราบจะส่งตัวนี้มาให้ทางพื้นที่ที่รับผิดชอบ แล้วทางพื้นที่ที่รับผิดชอบ ก็จะเรียกตัวผมเข้าไปสอบถามว่าจะส่งฟ้องจริงมั้ย ผมก็จะบอกว่าจะส่งฟ้องจริง”
เปรยการกล่าวหาของ “ทนายปุ๊” ทำให้ตนเสียเครดิตในสายงานอาชีพกุ๊ก จึงต้องฟ้องร้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
“ผมยืนยันฟ้องทางทนายปุ๊ครับ เพราะหนึ่งคือทำให้ทางที่ทำงานผมเสียหาย สองแล้วผมจะไปสมัครงานที่ไหนได้ มาทำลายชื่อเสียงผม ดิสเครดิตผม เพราะในวงการกุ๊กผมกับพ่อก็พอมีชื่อเสียงอยู่พอประมาณ คือเชื่อมั้ยเดินไปที่ไหนในสายงานของผมกับพ่อ แค่กรอกใบสมัครปุ๊บ ไม่ต้องสอบสัมภาษณ์ ไม่ต้องเช็คหลักฐาน คือทำได้เลยครับ เขาเชื่อในฝีมือในสายงานที่เราส่งไป แล้วก็ในชื่อเสียงของพ่อผม แต่นี่คือมันทำลายหมด พอออกมาภาพนี้ปุ๊บ เขาก็จะมองผมว่าสายงานนี้เสพยาหรือเปล่า แล้วถ้าไปสมัครงานเขาก็ต้องมีการตรวจฉี่อะไรยุ่งยากไง ผมเลยต้องออกมาตรงนี้”
“ตอนนี้ทางทนายปุ๊ยังไม่มีการติดต่อกลับมานะครับ คือใจจริงผมอยากดำเนินคดี ไม่อยากฟ้องเอาตังค์ แต่ทางทนายผมบอกว่าขอคิดอีกทีนึงก่อนว่า เราจะทำอะไรยังไง ตอนนี้ก็รอเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในพื้นที่เรียกตัวไปว่า ผมจะฟ้องทนายปุ๊จริงมั้ย ก็ต้องรอเรียกอีกครั้งนึง”
รับดีใจทันทีที่ทราบข่าวอัยการสั่งฟ้อง “นาธาน” แล้ว และวันที่ 25 มกราคมนี้ ศาลจะเรียกทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ยกันครั้งสุดท้าย ก่อนดำเนินการฟ้องร้อง
“ตอนนี้ก็รับทราบแล้วว่า อัยการสั่งฟ้องนาธานแล้ว ในฐานะที่แม่กับผมเป็นเจ้าทุกข์ ก็ดีใจมากครับ เพราะผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูกครับ ตอนนี้ผมไม่กลัวแล้ว และก็ดีใจที่ทางเจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดส่งฟ้อง ต่อไปก็ต้องปล่อยเป็นหน้าที่ของความยุติธรรม”
“ตอนนี้ผมยังไม่ทราบรายละเอียดเลยว่า เขาจะเรียกตัวยังไงอีก เพราะผมเพิ่งรู้ข่าว พอดีทางพนักงานสอบสวนโทรมาบอกว่า อัยการส่งฟ้องแล้วนะ ผมก็บอกว่าโอเคครับ ขอบคุณมากครับที่ช่วยในเรื่องสำนวน แล้วก็ช่วยร่างคดี แต่รู้สึกเขาจะมีหมายเรียกตัวนาธานอีกทีวันที่ 25 นี้ ซึ่งก็จะมีผมกับฝั่งแม่ไปด้วย”
“ตำรวจบอกว่าจะลองดูอีกทีมั้ย ครั้งสุดท้ายเจอนาธาน เผื่อเขาจะประนีประนอมไกล่เกลี่ยเรา ให้ลองไกล่เกลี่ยกันดูอีกที ซึ่งนาธานจะเดินทางมา และผมกับแม่ก็จะไปพบกับเขา เพื่อจะดูว่านาธานจะไกล่เกลี่ยกันมั้ยก่อนที่จะส่งฟ้อง หรือจะยอมสารภาพอะไรทำนองนี้ก็ไม่รู้นะครับ ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เขาไป แต่ถ้าเขาไม่ยอมก็คงต้องฟ้องร้องถึงที่สุดต่อไปแน่นอน”
แจงได้รับเงินบริจาคมาเพิ่ม และได้นำไปโปะดอกแล้ว แต่ยังลำบากอยู่ พร้อมเผยอาการ “ยายปิ่น” ยังไม่ดีขึ้น กลัวคิดมากเรื่องคดี เลยต้องส่งไปอยู่กับหลานอีกคนแทน
“ตอนนี้เรื่องหนี้สินก็ได้รับเงินบริจาคมาประมาณ 3 หมื่นบาท พอได้มาใช้หนี้ดอกแล้วก็โปะไว้บ้าง ตอนนี้เราก็ไปขอความเห็นใจจากนายทุนที่ปล่อยเงินกู้ให้เรา เขาก็โอเคเห็นใจ แต่ก็บอกว่าไม่ใช่เขาจะไม่คิดดอก เขาก็เก็บเหมือนเดิมแต่เขายังไม่เก็บตอนนี้ เขาก็สะสมไปเรื่อยๆ ไปถึงตอนที่เรามี เขาก็ให้เวลา 4-5 เดือน ก็ให้โอกาสเราครับ แล้วตอนนี้มันก็แย่มาก คือผมไม่เป็นอันทำมาหากินได้เลย 3-4 เดือนที่ผ่านมา ทำงานก็ต้องลา พอลาเราก็ต้องเห็นใจเจ้าของร้าน เพราะเรา 4-5 วันลา เดี๋ยว 10 วันลามันก็ไม่มีคนทำกับข้าวให้เขา คือตอนนี้มันต้องทำมาหากินแล้ว มารอสู้กับเขาอย่างเดียว ชีวิตมันก็แย่”
“แม่ก็บอกว่าลองสู้ ลองให้ผ่านตรงนี้ไปก่อนสักพักนึง ผมก็เลยมีไอเดียว่า เราทำข้าวแกงขายกันดีกว่า ผมก็จะทำกับข้าวให้แม่วันนึง 4-5 อย่าง แล้วก็ให้แม่ไปเดินขายตามหมู่บ้าน ก็พอได้มาประทังชีวิตครอบครัวบ้าง ส่วนคุณยายก็สบายใจขึ้นพอมีเงินมาโปะดอก แต่ตอนนี้ต้องส่งคุณยายไปอยู่กับหลานอีกคนนึงก่อน เผื่อคดีฟ้องตัวนี้มันส่งฟ้องได้เป็นคดีอาญา แล้วถ้าเกิดมีการสู้คดี คือไม่อยากให้ยายปิ่นรับรู้ในตอนนี้ ถ้าเกิดว่าแพ้หรืออะไรมากมายกลัวแกรับไม่ได้ เพราะตอนนี้แกก็เบาหวานขึ้นมาก แล้วก็ไม่สบายด้วย ตอนนี้ก็เลยต้องส่งยายปิ่นไปอยู่กับหลานอีกคนนึงก่อน อย่างเวลาผมปรึกษาอะไรกับแม่ ยายปิ่นแกได้ยินนิดๆ หน่อยๆ แกก็จะเก็บไปคิดมาก”
เผยตั้งแต่มีเรื่องฟ้องร้อง จนบัดนี้ “นาธาน” ก็ยังไม่เคยติดต่อมาเพื่อขอเจรจายอมความใดๆ
“ตั้งแต่มีเรื่องฟ้องกันมา นาธานยังไม่มีการติดต่อมาเลยครับ มีครั้งนึงติดต่อมาทางแม่ตอนที่เขาโดนจับ แต่ทางผมก็มีเทปบันทึกเสียงเขาไว้อยู่ ผมคิดว่าเขาก็ยอมรับแล้วนะตอนนั้น ที่ผมได้ฟังเทปนะครับ เขาบอกว่าพี่เต็มช่วยบอกผู้กำกับให้ปล่อยตัวธานหน่อยสิ ใบที่มีเท่าไหร่ธานจะไถ่ออกให้หมดเลย เราก็ได้บันทึกเทปทางโทรศัพท์อยู่ครับตอนนั้น แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ต้องรอทางทนายแล้วก็รอสู้กันในชั้นศาลแล้วกัน ถ้าเผื่อเขาไม่ยอมรับหรือว่าอะไร”
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |