“หม่อมเอ็กซ์” ลั่นเป็นลูกผู้ชายพอ ยันเปล่าข่มขืนเมียน้อง เชื่อเข้าใจผิดน่าจะปรับความเข้าใจกันได้ หยอดยังรักน้องเหมือนเดิม แต่ปัดไม่ตอบแอบถ่ายคลิปเตรียมแบล็คเมล์หรือไม่ ด้าน “หม่อมเหยิน” เข้าข้างลูกชายเต็มเหนี่ยว เผยกำลังรวบรวมหลักฐานสู้ ไม่เชื่อลูกมอมเหล้ามอมยาและข่มขืนอีกฝ่าย คาดทั้งคู่น่าจะมีอะไรกันในใจ บอกเรื่องนี้ผิดด้วยกันทั้งคู่ สงสัยทำไมฝ่ายหญิงไปแจ้งความช้า ไม่แคร์ถูกมองลูกทำลายชื่อเสียง มั่นสอนดีอย่าทำร้ายเพศแม่ตัวเอง
ภายหลังจากที่นายอัศนัย เทศทะวงศ์ หรือ “หม่อมเอ็กซ์” ลูกชายดาวตลกชื่อดัง “หม่อมเหยิน” ไปก่อคดีอื้อฉาวล่อลวงหญิงไปข่มขืนและผู้เสียหาย “น้องอ.” (นามสมมุติ) พร้อมสามี นายภักดิ์ภูมิ ชัยเดช หรือ “ป้อง” ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีใน 3 ข้อหาคือข่มขืนกระทำชำเรา, กักขังหน่วงเหนี่ยว และหมิ่นประมาท อีกทั้งยังเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านสื่อแบบละเอียดยิบ ยันมีหลักฐานแน่นสามารถมัดตัวเอาผิดลูกตลกดังได้แน่นั้น
ความคืบหน้าล่าสุดทาง ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ได้พยายามต่อสายตรงเพื่อพูดคุยกับ “หม่อมเอ็กซ์” ทันทีที่รับสายเจ้าตัวอ้างว่ากำลังติดถ่ายละคร จึงไม่ขอพูดรายละเอียดอะไรมาก แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้ข่มขืนผู้เสียหายแน่นอน
“ผมเห็นข่าวที่เขาไปแจ้งความแล้ว แต่ไม่มีเวลาว่างครับ ผมทำงาน ผมรู้ตั้งนานแล้วว่าเขาให้ข่าวผมไปข่มขืนเมียเขา คือผมเป็นลูกผู้ชายพอนะพี่ ผมไม่ได้ไปข่มขืนเขา ผมคิดว่าน้องเขาคงเข้าใจอะไรผมผิด ส่วนเรื่องให้การปากคำต่างๆ หรือเรื่องหลักฐาน ผมให้ทนายเป็นคนดูแลแล้ว ผมไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวเลยเพราะไม่มีเวลาว่าง ผมทำงานถ่ายละครอยู่ คงต้องว่างจากงานก่อนถึงจะไปหาตำรวจได้”
“เรื่องที่ว่าน้องเขาสมยอมอะไรยังไง ตรงนี้ผมไม่ขอพูดอะไรออกไป เดี๋ยวน้องเขาจะเสียหาย เอาเป็นว่าผมไม่ได้ข่มขืนน้องเขาครับ ผมลูกผู้ชายพอพี่ ส่วนเรื่องถ่ายคลิปโห....อย่ามาพูดอย่างนี้เลย มันเสียหายไปหมดทั้งตัวน้องและตัวผมด้วย ผมไม่รู้ว่าทางน้องเขารวบรวมหลักฐานอะไรบ้าง แต่ผมไม่ได้ข่มขืน”
“ผมไม่รู้ต่อไปมันจะเป็นยังไงต่อไป แต่ผมพูดคำเดียวว่า ยังรักน้องสองคนเหมือนเดิม ยังไงเขาก็คือน้องผม เราเห็นกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ผมไม่มีโกรธมีเคืองน้องเขา ผมรักน้องเขาเหมือนเดิม ถึงเขาจะตัดขาดผมก็ไม่เป็นไร ผมก็ยังรักและเอ็นดูอยู่เหมือนเดิม”
“ถามว่าจะมีการโทรไปเคลียร์อะไรกับน้องเขามั้ย คงไม่โทรหรอก หรอก ตรงนี้มันเป็นเรื่องของทางทนาย และการที่ผมจะคุยกับน้องเขาเอง ก็นิ่งๆ ไปก่อน แต่ถ้าเจอหน้ากันตรงๆ ถ้าเกิดน้องคุยผมก็คุย แต่ผมก็ยังรักเหมือนเดิม ผมไม่ได้โกรธอาฆาตเคียดแค้นน้องเขาเลยนะ คิดว่าน้องเขาคงจะเข้าใจอะไรผิด เอาไว้เดี๋ยวคงปรับความเข้าใจกันได้ มันเป็นการเข้าใจอะไรผิดบางอย่างแค่นั้น”
ด้านตลกชื่อดัง “หม่อมเหยิน” หรือนายประสิทธิ์ เทศทะวงศ์ พ่อของ “หม่อมเอ็กซ์” ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกชายได้เล่ารายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง บอกอีกฝ่ายกุข่าวเกินจริง เพราะลูกตนไม่กินเหล้า จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมอมเหล้าฝ่ายหญิง แถมยังยันไม่ได้ไปข่มขืน แต่เป็นการได้เสียกันโดยสมยอมของทั้งสองฝ่าย
“ผมสอบถามลูกแล้ว คือมันเป็นเรื่องทางโลกระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายที่เขาโทรมาหากัน เอ็กซ์โทรมาบอกผมว่าอย่าเสียใจไปเลย มันไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวบอก ทางนั้นกุเรื่องราวให้มากมายจนเกินไป ที่จริงแล้วเขาก็รู้ตัวเอง ผู้หญิงก็มีสามีแล้ว ก็ไม่น่าที่จะต้องโทรออกมา ให้เอ็กซ์พาไปกินเหล้าเมายาเลย เพราะเอ็กซ์ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่อยู่แล้ว เขาบอกไม่ได้ไปมอมเหล้ามอมยา มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้ขาดสติ เขาไม่ได้เมา เขากินเหล้าเป็นซะเมื่อไหร่ ผู้หญิงเป็นคนกินเองอ้วกเองต่อหน้าเพื่อนฝูงเยอะแยะ”
“เขาเล่าว่าผู้หญิงดื่มเองเมาเอง ขนาดเขาเดินคุยกับเพื่อน ผู้หญิงยังเดินถือแก้วเหล้าตามมา เขาบอกว่ากินเหล้าเพียวๆ ทีแรกก็มีโซดา น้ำแข็ง น้ำอะไรก็ไม่รู้ ที่ผู้หญิงบอกว่าเอ็กซ์เป็นคนถือเหล้ามาเอง อันนี้ผมก็ไม่ทราบ แต่เอ็กซ์ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่อยู่แล้ว เล่นกล้ามอย่างเดียว ลูกผมทุกคนไม่มีเลยเรื่องแบบนี้”
“เขายอมรับว่าได้เสียกัน แต่ไม่ถึงกับฉุดกระชากลากลงไป ผู้หญิงยังให้เอ็กซ์ลงไปถอยรถเขาจอดให้ดีเลย คือให้ไปเลื่อนรถก่อนที่จะไปด้วยกัน ระหว่างนั้นมันอาจจะเป็นการสมยอม หรือว่ามีการพิศวาสกันหรืออย่างไรก็ไม่รู้นะ เราก็ไม่เข้าใจ แต่เอ็กซ์เล่าให้ผมฟัง เขาบอกไม่ได้ข่มขืน เขาเป็นลูกผู้ชาย มันเป็นการสมยอมทั้งสองฝ่าย ซึ่งอันนี้ก็ต้องอยู่ที่เอ็กซ์กับผู้หญิง เขาสองคนเท่านั้นที่รู้”
เผยเหตุลูกชายเก็บตัวเงียบ ยังไม่ออกมาแก้ข่าว เพราะกำลังรวบรวมหลักฐานสู้
“เรื่องนี้เขาเล่าเยอะแยะ เอ็กซ์บอกว่ารอให้มันเป็นข่าวไปก่อน แล้วเขาจะออกมาให้ข่าวทีหลัง ตอนนี้เขากำลังหาข้อมูลอยู่ ทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ที่เขาจะหามาคุยข้อตกลง เอ็กซ์คงไม่เปิดตัวหรือแถลงข่าวใดๆ ทั้งสิ้น เขาคงปล่อยไปเรื่อยๆก่อน เขากำลังหาหลักฐานที่มี ทั้งพรรคพวกเพื่อนฝูงที่เห็น คือเพื่อนๆเอ็กซ์ก็รู้หมดว่า ผู้หญิงเป็นคนโทรมาหา และเขาก็ยืนยันว่าวันนั้นไปกันหลายคน เพื่อนเขาเยอะแยะ พอเพื่อนเขารู้ข่าวก็โทรมาให้กำลังใจ บอกจะร่วมด้วยช่วยกัน เอ็กซ์มีพยานเยอะแยะ เขาก็เลยปล่อยรอให้ทางโน้นพูดจบก่อน แม้จะเป็นข่าวที่ทำให้เราเสียหายก็ตาม”
“ เรายังไม่อยากแก้ข่าว จะเสียชื่อครึ่งหนึ่งได้ครึ่งหนึ่ง หรือจะเสียคนละครึ่งอะไร ก็ไม่เป็นไร ผมทำใจไว้แล้ว แม่เขาก็ทำใจ เมียผมพูดว่าไม่รู้จะทำยังไง ก็ตามที่เอ็กซ์พูดละกัน เอ็กซ์ยังบอกผมอีกว่า ยังมีเรื่องน่าอับอายอีกเยอะแยะของทางฝ่ายผู้หญิง แต่เราไม่อยากพูดดีกว่า เพราะเป็นเรื่องที่ไม่น่าพูด เป็นเรื่องสกปรกอย่าพูดเลยดีกว่า เดี๋ยวจะเป็นการซ้ำเติม เดี๋ยวจะหาว่าเราเป็นใครแล้วออกมาพูด มันอยู่ที่ตัวเอ็กซ์เขารู้”
ไม่หวั่นคู่กรณีมีหลักฐานครบแน่นหนา บอกใครชิงให้ข่าวก่อนได้เปรียบ เชื่อลูกชายกับฝ่ายหญิงต้องมีเรื่องอะไรกันในใจ ที่สงสัยทำไมถึงปล่อยให้เรื่องผ่านไป 2 วันถึงค่อยทำให้เป็นข่าว
“มันก็ต้องเป็นตามรูปการณ์ ในสิ่งที่ถูกก็ว่าไปตามถูก สิ่งที่ผิดก็ว่าไปตามผิด อะไรมันเกินไปมันก็มี อะไรที่ผิดมันก็ต้องมี ถามว่าเราผิดมั้ย...ก็ผิด แต่ก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ จะให้ผิดคนเดียวมันเป็นไปไม่ได้ ทำไมไม่ยับยั้งสติด้วยกันทั้งคู่ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ละคนตัวเปล่าเล่าเปลือยหรือเปล่า มีปัญหากันในบ้าน แล้วยังออกมามีปัญหาข้างนอกแบบนี้ มันจะถูกหรือผิดก็น่าจะคิดดูกันให้ดี มาระบายกับคนข้างนอกเสร็จ แล้วมาทำให้เป็นข่าวเป็นคราวขึ้นมา มันก็ไม่ใช่ ความเสียหายมันเกิดขึ้นทั้งคู่ แต่ทุกอย่างอะไรก็ไม่ยอมรับหรอก มันอาจจะเป็นไปตามข่าวที่ใครออกก่อนก็ได้ก่อน”
“แต่ผมว่าทั้งสองฝ่ายน่าจะมีอะไรกันในใจ เราก็ไม่ได้รู้ด้วย ผมก็มาคิดว่า ตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ ทำไมเขาไม่แจ้งความ ปล่อยให้ผ่านไป 2 วัน แล้วค่อยทำให้เป็นข่าวขึ้นมา มันเป็นอะไรที่เราไม่เข้าใจ พอมันมีข่าวขึ้นมาแล้วก็เสียหาย เอ็กซ์กลับเป็นฝ่ายโทรมาให้กำลังใจผม ผมก็เลยบอกเขาไปว่า ลองคิดดูสิจะแก้ปัญหากันยังไง พูดยังไง ที่พูดเนี่ยไม่ได้หมายความว่าให้แก้ตัว เพราะพ่อเองเป็นคนที่พูดตรงไปตรงมา อย่างลูกผมก็ให้เขาบอกผมตรงๆ เพราะพ่อจะได้ตอบคำถามนักข่าวถูก”
ไม่ซีเรียสหากสังคมจะว่าเข้าข้างลูกชาย เปรยยังไงลูกตนก็ผิด เพราะเป็นผู้ชาย บอกคู่กรณีควรหันหน้าคุยกันเอง ดีกว่าไปแจ้งความให้เป็นข่าว
“ใครจะมองว่าผมเข้าข้างลูกชาย ก็ไม่ได้คิดอะไร ผมตระหนักตลอดเวลาว่า สังคมมองเราตลอดเวลา ซึ่งลูกเราก็เป็นฝ่ายผิดอยู่แล้ว มันต้องผิดเต็มประตูอยู่แล้วลูกผู้ชาย แต่ว่าสิ่งที่ถูกมันก็ยังมีอยู่ ไอ้สิ่งที่ว่าผิด มันผิดเพราะอะไร ผิดที่ไม่ได้ยับยั้ง ผิดเพราะอารมณ์ชั่ววูบไปมีอะไรกับเขา เราไม่รู้ว่าภายในใจระหว่างชายกับหญิง เราพูดไปเดี๋ยวจะหาว่าเข้าข้างลูก เราก็ไม่รู้ได้"
"เราพูดได้อย่างเดียวว่า เรารักทั้งสองคน ไม่น่าจะทุรนทุรายออกมาให้ข่าว แล้วมาสร้างปัญหาให้เกิดขึ้น น่าจะพุดคุยกันตกลงกัน เขามีอะไรกันไป มันก็ผิดศีลธรรมอยู่แล้ว ในการที่ผู้หญิงมีครอบครัว มีลูกแล้ว ความเสียหายมันเกิดแน่นอน หรือผู้ชายไปยุ่งกับเมียเขาทำไม หรือฝ่ายหญิงมีลูกมีผัวแล้ว มันต้องมีสติ ควรแก้ด้วยปัญญา ถ้าเรามีปัญญาแก้ปัญหา ปัญหาก็ไม่เกิด”
ยอมรับได้โทรไปขอโทษสามีของผู้เสียหาย แม้จะยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ เพราะยังไงเรื่องนี้ผู้หญิงก็เป็นฝ่ายเสื่อมเสีย
“ตอนนี้ผมเองยังไม่ได้จับเข่าคุยกับลูกเลย เพราะผมอยู่วัด กะว่าจะกลับไปคุยว่าอะไรมันเป็นอะไร แต่ก่อนอื่นผมต้องโทรไปหาป้อง (สามีผู้เสียหาย) ก่อน เขาก็เรียกเราพ่อเพราะนับถือกัน ผมก็บอกเขาไปว่ามันอะไรยังไงกัน พ่อยังไม่ว่างคุยนะ เดี๋ยวกลับไปจะไปคุย จะผิดถูกอย่างไรเดี๋ยวว่ากัน เดี๋ยวพ่อจะจัดการ"
"พ่อก็ไม่ชอบเหมือนกันเรื่องผิดลูกผิดเมีย เพราะมันผิดศีลธรรม มันไม่ถูกต้อง แต่ก่อนอื่นพ่อต้องขอโทษก่อน พ่อยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แต่มันเป็นเรื่องที่เขาเสียหายและเสื่อมเสีย เพราะเป็นฝ่ายผู้หญิง เราก็เลยต้องยอมรับก่อน ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆพ่อก็เสียใจด้วย เอ็งเป็นคนดีสำหรับพ่อ เดี๋ยวพ่อจะทำบุญทำทานไปให้ ผมคุยกับป้องทางโทรศัพท์แบบนี้”
“ส่วนเอ็กซ์ได้โทรไปขอโทษป้องหรือเปล่า ผมก็ไม่ทราบ เพราะผมอยู่ต่างจังหวัด ถามว่าจะสามารถไกล่เกลี่ยกันได้มั้ย ตรงนี้ผมก็ยังไม่ได้พูดกับป้องเลยว่า จะยอมความอะไรกันยังไง บอกแค่ว่ามีอะไรเดี๋ยวคุยกัน จริงๆป้องเป็นเด็กที่ดี เขาเป็นเด็กพูดจาน่ารักมาก แต่กับภรรยาเขาผมไม่สนิทเท่าไหร่ ผมก็ไม่รู้ว่าเขามีตื้นลึกหนาบางยังไงกับเอ็กซ์ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”
ไม่แคร์ถูกมองลูกชายทำลายชื่อเสียง ที่อุตส่าห์สร้างมาพังย่อยยับ มั่นตนเองสอนลูกดีถูกทางตลอด โดยเฉพาะเรื่องทำร้ายผู้หญิง ก็เหมือนทำร้ายแม่ตัวเอง
“เรื่องเสียชื่อเสียงผมไม่ได้คิด มันเป็นเรื่องที่เราต้องเอาความจริง คำว่ายุติธรรมมันมีอยู่ แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน เรายังค้นหาไม่ได้เลยว่าอยู่ตรงไหน ตัวเราเองก็ไม่ได้เป็นผู้ที่นิยมส่งเสริมให้ลูกเราเป็นอย่างนั้น เอ็กซ์เป็นคนสนุกสนานเฮฮาปาร์ตี้ มีกลุ่มน้องๆ เราก็เห็นพฤติกรรมอะไรเขาหลายๆอย่าง"
"แล้วผมเองก็พยายามสอนลูกให้ถูกทางเรื่องเพศแม่ คนที่ทำร้ายเพศหญิงเท่ากับทำร้ายแม่ของตัวเอง เราสั่งสอนเล่าสอนตลอดเวลา อย่างบางทีที่มีข่าวมีคราวมาก่อนหน้านี้ เพราะเราไม่ได้อยู่ใกล้ชิดเขา ผมเองตั้งแต่เป็นศิลปินมาก็ไม่เคยมีข่าวตรงนี้ ก็เลยพยามยามบอกกับลูกตลอดเวลาว่า ทำอะไรก็ให้เห็นแก่พ่อ ไม่ว่าจะทำดีหรือไม่ดี มันเป็นข่าวลบเสียชื่อไป ก็พยายามสอนลูกให้ถูกทางตลอด”