xs
xsm
sm
md
lg

“หม่อมเอ็กซ์” ขนพยานมาช่วยยัน เปล่าข่มขืนเมียน้อง บอกละอายใจถูกสังคมประณามเป็นคนเลว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หม่อมเอ็กซ์” ยกเพื่อนมาเป็นพยาน ช่วยยันเปล่าล่อลวงหญิงไปข่มขืน มอมยา และกักขังหน่วงเหนี่ยว บอกเป็นลูกผู้ชายพอ และพ่อแม่สอนมาดี ถ้าทำก็จะกล้ายอมรับ ปัดเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องน่าอับอาย หวั่นทำฝ่ายหญิงเสียหาย และมีผลต่อรูปคดี แต่ได้หอบหลักฐานทั้งหมดส่งให้ตำรวจตรวจสอบแล้ว เผยเหตุออกมาชี้แจง เพราะละอายใจที่ถูกสังคมประณามเป็นคนเลว รับข่าวส่งผลทำให้แฟนหนีไปทำใจที่บุรีรัมย์

เกี่ยวกับกรณีที่นาย “อัศนัย เทศทะวงศ์” หรือ “หม่อมเอ็กซ์” ลูกชายของดาวตลกชื่อดัง “หม่อมเหยิน” ถูกผู้เสียหายน้องอ. (นามสมมุติ) พร้อมสามีนาย “ภักดิ์ภูมิ ชัยเดช” หรือ “ป้อง” เข้าแจ้งความดำเนินคดีใน 3 ข้อหาคือ ข่มขืนกระทำชำเรา, กักขังหน่วงเหนี่ยว และหมิ่นประมาท ซึ่งหลังจากที่ดาราหนุ่มได้ส่งทนาย ไปรับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าวที่สน.บางเขนแล้ว ล่าสุดวานนี้ (10 ต.ค.) หม่อมเอ็กซ์ได้นัดสื่อมวลชนมาฟังการเปิดใจ และชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีกลุ่มเพื่อนที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์มาช่วยเป็นพยานด้วยว่า ตนไม่ได้ข่มขืนผู้เสียหาย บอกเป็นลูกผู้ชายพอ กล้าทำก็ต้องกล้ายอมรับ

"ผมเป็นลูกผู้ชายพอ กล้าทำก็กล้ายอมรับ เรื่องการข่มขืนกระทำชำเรา กักขังหน่วงเหนี่ยวผมไม่ทำครับ กับเรื่องนี้พอผมทราบข่าวก็ตกใจเหมือนกัน มันมีผลกระทบกับทางบ้านด้วย แต่ที่ผมยังไม่อยากออกมา เพราะผมกลัวน้องเขาจะเสียหาย น้องเขาเป็นผู้หญิง ผมกลัวตรงนี้ แต่วันนี้ที่ตัดสินใจออกมาพูด เพราะผมรู้สึกว่ามันเริ่มเยอะเกินไป แล้วกระแสมันก็เริ่มหนาหูกับคนทั่วประเทศ เขาก็อาจจะเข้าใจผมผิดได้ว่า ผมเป็นคนเลวอย่างที่เขาคิด ถ้าผมไม่ชี้แจงอะไรเลย ผมก็จะกลายเป็นคนเลว กลายเป็นผู้ต้องสงสัยอย่างที่เขาคิด"

“โดยส่วนตัวแล้วผมก็รู้จักกับเขา ผมเปิดทีมรถแข่ง น้องๆก็อยู่ในทีมนั้น ถามว่าผมไปข่มขืนเขาจริงมั้ย ผมไม่รู้ อันนี้ผมไม่ได้พูดนะ ผมตื่นเต้นนะ สมมติถ้าในสิ่งที่พี่ไม่ได้ทำ แล้วผมมาถามพี่บ้าง พี่จะคิดยังไง ผมเองก็เครียด เครียดที่เราไม่ได้ทำ จริงๆแล้วเรื่องเหตุการณ์ต่างๆผมให้ทนายผมตัดสินแล้ว และทนายก็ได้ชี้แจงให้กับสน.เรียบร้อยแล้ว ผมเลยไม่อยากเล่าเยอะ เดี๋ยวทางผู้หญิงจะเสียหายมาก”

“แต่ไอ้เรื่องที่บอกว่ามากันสองคนไม่จริงเลย ส่วนเรื่องที่เขาบอกว่าผมพาขึ้นห้อง ผมไม่ขอพูดดีกว่า แต่ยืนยันได้ว่าผมไม่ได้ไปข่มขืนหรือมอมยาเขาแน่นอน วันนั้นผมไปนั่งปรึกษาพี่เขา เพราะผมมีความตั้งใจที่จะทำงาน จริงๆเขาก็มีปัญหาของเขาอยู่แล้ว แล้วผมก็นั่งอยู่แถวนั้น เขาก็เข้ามาขอคำแนะนำ แต่คำแนะนำนั้นผมไม่ขอพูดถึง ผมมีหลักฐานเพียงพอ มีพยานส่วนบุคคล มีพยานแวดล้อม มีกล้องวงจรปิดที่จะมาชี้แจงได้ว่า ผมไม่ได้ทำอะไรเลย"

“ถามว่าผมกับน้องมีความสัมพันธ์กันรึเปล่าโห...ชี้ชัดแบบนี้ผมก็พังเลย น้องเขาเองน่าจะรู้ทั้งหมด ผมไม่พูดดีกว่า ไอ้ตรงนี้ผมไม่ขอพูดอะไรเลย ผมพูดออกไปมันเสีย มันเสียหมดพี่ มันเป็นเรื่องน่าอับอาย มันเป็นเรื่องน่าอับอายจริงๆครับ แต่อะไรตรงนี้ผมเองก็ชัดเจนว่า ไม่ได้เป็นคนไปมอม ผมรู้ตัวผมดีว่า ผมไม่กินเหล้า ผมไม่สูบบุหรี่ ผมไม่เคยมียาเสพติดในครอบครอง พ่อแม่ผมสอนมาดี (หัวเราะ)”

ยันไม่ได้มอมยา เพราะตัวเองไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ไม่ขอเล่าหลังเลิกร้านไปไหนกันต่อ หวั่นเสียรูปคดี ส่วนหลักฐานที่ฝ่ายหญิงกล่าวอ้าง โบ้ยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

“ผมยืนยันจริงๆว่า ผมไม่ได้มอมยาน้องเขา ผมไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ถ้าเรื่องการทะเลาะวิวาท การแข่งรถบนท้องถนน ผมยอมรับ อันนั้นผมยังอยู่ในวัยเด็ก ผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้ทำแบบนั้นแล้ว ผมโตแล้วที่จะรู้ว่าควรทำอะไรให้กับครอบครัว ผมต้องดูแลพ่อแม่ แต่วันนั้นหลังจากเลิกร้านแล้วไปไหนต่อ ตรงนี้ผมไม่ขอพูดเหมือนกัน มันเสียรูปคดีถ้าผมพูดอะไรไป คือมันไม่ใช่ เดี๋ยวมันชัดเจนยังไง น้องเขาเป็นผู้หญิงเดี๋ยวเสียหาย ลองเป็นผู้ชายผมพูดหมดเลย เออ...มันไม่ดีครับ”

“ผมอยากให้เขามาฟังความจริง ให้มันรู้ว่าความจริงมันเป็นยังไง เพราะจริงๆแล้วผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เขาต้องการอะไรถึงได้ทำอย่างนี้ มันแรงครับ คือจริงๆหลังจากเหตุการณ์นั้น ผมเองก็ยังคุยกับเขา ตอนแรกน้องเขาก็เข้าใจนะ ตัวน้องเขาเองก็ยังบอกว่า มันไม่ได้มีการข่มขืนอะไร มันไม่มีเลยจริงๆ แต่อยู่ๆก็มีเรื่องอะไรขึ้นมา ผมเองก็งงไปหมด ช่วงหลังๆมาก็รู้สึกว่า โห...มันแรงเกินไปแล้ว เลยไม่เอาแล้ว ไม่คุยแล้ว”

“ กับเรื่องนี้ตอนแรกผมก็กลัว แต่ทางผู้ใหญ่ก็เข้าใจ เขาก็แค่ให้เราไปหาหลักฐาน พิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของเราแค่นั้นเอง ซึ่งผมเองก็มีหลักฐาน มีทั้งกล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อม เพราะผมไม่ได้ไปคนเดียว ผมไม่ได้อยู่คนเดียวในเหตุการณ์ ผมไม่ได้อยู่กัน 2 ต่อ 2 วันนั้นไปกันหลายคน เพื่อนผมเองก็อยู่ ทุกคนที่มาวันนี้ก็เห็นเหตุการณ์กันหมด จริงๆแล้วมีเยอะกว่านี้ แต่เราเอาแค่นี้พอแล้ว ”

“ที่เขาไปตรวจมา แล้วบอกว่ามีรอยช้ำจากการฉุดกระชาก ถ้าน้องเขาพูดอย่างนี้ ผมว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดีกว่า เพราะผมเอาหลักฐานทุกอย่างให้ตำรวจหมดแล้ว ผมไม่ได้ทำจริงๆ ถามว่าจะมีการฟ้องร้องกันไหม อันนี้มันอยู่ที่ทนาย จริงๆผมว่ามันเป็นการเข้าใจผิดระหว่างผมกับน้อง ที่น้องเขาพูดอะไรตรงนี้ออกไป ผมเองก็ไม่ถือโทษโกรธ ก็ยังคงรักน้องเหมือนน้องอยู่ ก็คิดว่าเขาคงขาดสติเพราะเขาเป็นเด็ก จะทำอะไรตรงนี้ผมก็เข้าใจ แต่ว่าความจริงมันเป็นยังไง น่าจะมาถามกันก่อน เราต้องให้เกียรติเขาก่อน อย่างนึงคือเขาเป็นผู้หญิง เราต้องไม่ทำร้ายผู้หญิง”

หลังเกิดเรื่องได้พยายามติดต่อไปยังฝ่ายหญิง เพื่ออธิบายให้เข้าใจเผยข่าวที่เกิดขึ้นรุนแรงจนทำให้ตนรู้สึกละอายใจ ที่ถูกสังคมมองเป็นตัวอย่างไม่ดี

“หลังเกิดเรื่องผมเองก็พยายามโทรไปบอกเขาว่า มันเป็นการเข้าใจผิดกัน คุณมาคุยกันในสิ่งต่างๆให้เข้าใจก่อน ก่อนที่จะทำอะไรลงไป เพราะมันมีผลกระทบ มีผลเสีย มันเป็นเรื่องน่าอับอาย แต่เรายังพูดเคลียร์อะไรไม่ได้จริงๆ ถ้าพูดปุ๊บจะเสียหาย น้องเขาเป็นผู้หญิงเขาเสียเลย เราไม่พูด กับแฟนเขาผมเองก็พยายามจะพูด ก็เคลียร์ให้ใจเย็นๆก่อน ถ้าเกิดจะชี้แจงมันมีผลต่อรูปคดี แต่ถ้าให้พูดส่วนตัวผมพูดให้เขาฟังได้ว่ามันคืออะไร”

"สรุปแล้วตกลงมีความสัมพันธ์กับน้องเขารึเปล่า โห...ตรงๆเลยนะ อย่าเลย...ให้ทางทนายเป็นคนจัดการดีกว่า เพราะเราชี้แจงให้กับทางตำรวจไปแล้ว พี่อย่าไปพูดถึงเรื่องนี้เลย บางสิ่งผมพูดไม่ได้ตอนนี้ มันเป็นคดีความของผมอยู่ มันจะเสีย ตัวผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไง ผมไม่เคยขึ้นโรงขึ้นศาลอย่างนี้ ผมก็ไม่เคยรู้เหมือนกันว่า ในคำกฎหมายมันเป็นยังไง ผมจะพูดอะไรได้บ้างไม่ได้บ้าง จริงๆผมอยากจะพูดแต่มันพูดไม่ได้"

"เรื่องนี้เป็นเรื่องรุนแรง สำหรับใครที่ไม่ได้โดนกับตัวเองก็จะไม่รู้ว่า มันรุนแรงยังไง ตัวผมรู้สึกละอายใจที่ทุกคนมองว่า เราเป็นนักแสดง เป็นตัวอย่างกับสังคม ทำไมถึงมาทำตัวอย่างนี้ ทำไมถึงมีข่าวคราวตรงนี้ขึ้นมา ผมอยากจะบอกแฟนๆทุกคน และครอบครัวของผม ทางผู้ใหญ่หลายๆฝ่าย ทางครอบครัวพ่อแม่แฟนของผมด้วย ผมขอยืนยันตรงนี้ครับว่า ผมไม่ได้ข่มขืนฉุดกระชากลากถู มีการมอมเหล้ามอมยาน้องเขา ไม่ได้กักขังหน่วงเหนี่ยว ผมไม่ได้เป็นอย่างที่เขากล่าวหา"

"เรื่องขอโทษ ผมพยายามให้น้องเขาใจเย็นมากกว่า ให้เขารู้ข้อเท็จจริงก่อน ความจริงมันเป็นสิ่งไม่ตายอยู่แล้ว ถ้าเราทำเราก็ยอมรับ แต่ถ้าเราไม่ได้ทำก็บอกว่าไม่ได้ทำ ที่ผมพูดอย่างนั้นออกไป ผมอยากให้น้องเขาใจเย็น ตัวผมเองถ้าเรื่องราวแบบนี้เกิดกับตัวผม ผมก็ตกใจเหมือนกัน"

รับ “หม่อมเหยิน” เครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่ค่อยเชื่อในคำพูดตน บอกสงสารแฟนตัวจริงที่เสียใจ ถึงขนาดต้องหนีไปอยู่บ้านแม่ที่บุรีรัมย์

"คุณพ่อตอนแรกก็รู้สึกไม่ดี เครียดกันหมด เขาถามว่ามันเป็นความจริงรึเปล่า เขาก็เรียกผมมาคุย ผมก็ยืนยันกับพ่อว่า ผมไม่ได้ไปทำอย่างนั้นนะ ผมมีหลักฐาน แต่พ่อเขาก็ไม่ค่อยเชื่อ เพราะข่าวมันออกมาแรงเหลือเกิน หลายวันติดกัน กับเรื่องนี้แฟนผมก็รู้สึกตกใจ เสียใจ สลดใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น เขาต้องไปพักผ่อนสมองที่บุรีรัมย์กับแม่เขา ผมรักแฟนผมคนนี้มากนะ ก็พยายามชี้แจงให้แฟนผมฟังว่ามันไม่ใช่”

“ผมสงสารเขามาก ที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ถึงแฟนผมจะเข้าใจผม แต่ผมก็ยังเป็นห่วงคนในครอบครัวของเขาว่า จะมาเข้าใจผมรึเปล่า แต่เขาก็ยังไม่ได้ถามไถ่เรื่องราวตรงนี้ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดกับเขายังไง ได้แต่ชี้แจงให้แฟนผมฟังก่อนเป็นคนแรก มีอะไรผมก็จะบอกแฟนผม ถ้ามีข่าวหรือมีอะไรมาก่อนล่วงหน้า ผมก็จะพูดให้แฟนฟังว่ามันเป็นอย่างนี้นะคุณ มันไม่ใช่นะครับก็พยายามบอกเขา"

ด้านเพื่อนสนิท “เอก” ที่เป็นคนดูแลร้านที่ถูกระบุว่า เป็นสถานที่ที่ “เอ็กซ์” ใช้นัดเจอ “น้องอ.” ช่วยยันเหตุการณ์วันนั้นว่า ดาราหนุ่มไม่ได้อยู่กับฝ่ายหญิงสองต่อสอง และไม่มีการมอมเหล้าผู้เสียหาย เผยผลกระทบจากข่าวที่ออกมา ทำให้ทางร้านได้รับความเสียหายอย่างมาก

"เขาไม่ได้ออกไปไหน หรืออยู่กันสองคนนะ เท่าที่เห็นในร้านก็นั่งกันอยู่หลายคน เพราะร้านนี้ผมมาช่วยเขาดูแล ซึ่งทางเอ็กซ์เองก็มีมาเปรยๆว่าอยากจะสร้างครอบครัว ช่วยเหลือพ่อแม่เขา ผมมองว่าเขาเองก็เป็นคนดีที่คิดแบบนี้ เราก็โอเคมาช่วยกัน เพราะมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ข่าวที่ออกมาคืองง ตัวผมเองก็ไม่ได้ดื่มอยู่แล้ว ทุกๆคนวันนั้นไม่มีใครดื่ม แต่น้องเขาบอกว่ามีเหล้าเหลืออยู่ครึ่งขวด แล้วเอ็กซ์เป็นคนเอาเหล้าขวดนั้นมา มันไม่ใช่เลย จริงๆเหล้านั้นมันเป็นเหล้าเอนเตอร์เทน เป็นเหล้าของทางร้านที่ใช้เอนเตอร์เทนลูกค้า”

“ผมเองอยู่ร้านมาตั้งนานไม่เคยมีปัญหา แล้วถามว่าพอมีข่าวแบบนี้ ต่อไปเวลาที่ลูกค้าผู้หญิงมาร้านผม เขาจะคิดยังไง ถ้าร้านของผมมีการทำอย่างนี้จริง ทุกครั้งที่แขกผ่านมาเที่ยวที่ร้าน หลังจากไปเที่ยวมาจากทองหล่อ หรือสลิมแล้ว ทุกคนก็จะแฮปปี้ไม่มีปัญหา แต่พอน้องคนนี้มาแค่ครั้งเดียว ทุกอย่างร้านผมกลายเป็นอะไรไปเลยก็ไม่รู้ เสียหายไปหมด"

หมายเหตุ : สมัครรับแพคเกจ sms ข่าวกีฬา/Super บันเทิง ในราคาเพียงเดือนละ 29 บาท แถมฟรี 15 วัน! คลิกดูรายละเอียดได้ที่นี่






กำลังโหลดความคิดเห็น