xs
xsm
sm
md
lg

"ตุ๊กตา" ฉะ "เจมส์" คาศาล กะเอาติดคุก แต่คู่กรณีได้ผู้มีอิทธิพลช่วยประกันตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตุ๊กตากับติ๊ก ผู้เสียหายชี้หลักฐาน เจมส์ โกงใครบ้าง
“ตุ๊กตา” หวังเอา “เจมส์” ติดคุก รวมตัวผู้เสียหายเพิ่มอีก 3 รายคัดค้านการประกันตัว พร้อมทำประชดถอนสายบัวใส่คู่กรณี หลังแหกตาประชาชนเป็นเจ้าชีวิตจากลาว ก่อนฉะคาศาล แถมหวิดมีเรื่องกับทนายฝั่งตรงข้าม ด้าน "เจมส์" โชคดีถูกขังไม่นาน ได้ญาติอ้างเป็นคนสนิท "เสธ.หนั่น" ช่วยนำหลักทรัพย์ 2 แสนยื่นประกันตัว 

หลังจากที่ดาราสาว “ตุ๊กตา อุบลวรรณ บุญรอด” และ “ดา ชฎาพร รัตนากร” ได้เดินทางมาประจันหน้า และหวิดปะทะคารมกับคู่อริสาวหล่อ “เจมส์” หรือ “น.ส.ภัลมาภูฏิณฑ์ อัครวงศ์ตระกูล" วานนี้ (7 ก.ย.) ที่ศาลอาญา รัชดา ในคดีที่สาวหล่อ “เจมส์” เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “ตุ๊กตา” ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

ล่าสุดเช้าวันนี้ (8 ก.ย.) “ตุ๊กตา อุบลวรรณ บุญรอด” และ “ดา ชฎาพร รัตนากร” พร้อมทนายความ “นายมนต์ชัย จงไกรรัตนกุล” ได้เดินทางมายังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อคัดค้านการประกันตัวของคู่กรณี ในคดีที่ตกเป็นผู้ต้องหาในการปลอมและใช้บัตรเครดิต และมีการลักทรัพย์รับของโจร โดยได้เข้าแจ้งความไว้ที่สน.โชคชัย เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งในวันนี้ดาราสาวมีความตั้งใจจะเอาคู่กรณีเข้าคุกให้ได้ จึงหอบเอกสารนำมาเป็นหลักฐานชุดใหญ่ พร้อมทั้งนำผู้เสียหายที่เคยถูก “เจมส์” ฉ้อโกงเช่นเดียวกันมาเป็นพยานเพิ่มอีก 3 ราย

ขณะที่ทั้งหมดกำลังยืนรออีกฝ่ายอยู่หน้าสำนักงานอัยการฯ ที่อ้างว่ากำลังรอผู้ค้ำประกันเลยทำให้มาช้า พอ “เจมส์” เดินทางมาถึงพร้อมทนายความส่วนตัว “นายประวิชย์ สุวรรณ” ดาราสาว “ตุ๊กตา” ก็พูดจาเหน็บแนมคู่กรณีตลอดในทำนองว่า อย่าหวังว่าจะรอด เพราะไม่มีทางปล่อยให้ประกันตัว ในขณะที่ “เจมส์” มีสีหน้าเคร่งเครียดและนิ่งเฉยไม่ตอบโต้ เมื่อขึ้นไปยังสำนักงานเพื่อรอพนักงานอัยการ ทางผู้เสียหายรายอื่นก็เริ่มพูดจาว่ากล่าว “เจมส์” เนื่องจากแค้นที่โดนหลอก

ส่วน “ตุ๊กตา” ก็ทนไม่ไหวได้ลุกขึ้นไปหาคู่กรณีแล้วพูดเหน็บต่อว่า “เป็นเจ้าแห่งชีวิตของลาวเหรอ ชนะคดีที่ฮ่องกงเหรอ มีเชื้อราชวงศ์อย่างนี้ ต้องคำนับซะหน่อยแล้ว” พร้อมทำท่าถอนสายบัว และพูดต่อว่า ถ้าต่อยได้ต่อยไปแล้ว จากนั้นก็นั่งลงข้างๆ “เจมส์” ถามสื่อว่าอยากได้รูปคู่ใช่มั้ย เมื่อถามจบก็หันหน้าเข้าหาคู่กรณีทันที ทั้งคู่จึงเกิดการปะทะคารมกัน

ตุ๊กตา : “อยากพูดใช่มั้ย ทำไมไม่กล้าพูดกล้าตอบ เก่งจริงก็พูดสิ”
เจมส์ : “ไม่ใช่ไม่กล้าตอบ แต่ยังไม่ตอบเวลานี้ จะตอบเพื่ออะไร นักข่าวกับสื่อมวลชนทุกท่านให้ความเป็นธรรมบ้างสิ ให้เป็นกลางกันหน่อย”
ตุ๊กตา : “แล้วนี่ไม่เป็นธรรมตรงไหน เขามานั่งรอคุณตั้งแต่กี่โมง”
เจมส์ : “ขอให้นักข่าวมีความเป็นกลาง คุณจะทำข่าวอันนี้ให้คุณอุบลวรรณ คุณอุบลวรรณจะซักถามอะไร พวกคุณก็ทำให้ตาม พวกคุณนึกกันบ้างหรือเปล่าว่า ความจริงยังไม่ถูกพูดออกมาเลย เพราะมันยังไม่ได้รับการอนุญาตให้พูด พวกคุณนึกบ้างกันหรือเปล่า ถ้าเจมส์พูดได้คงพูดออกไปแล้ว ขอความเป็นธรรมหน่อยนะคะ ขอความเป็นกลางให้กับประชาชนด้วย ในเบื้องต้นวันนี้เจมส์มารับทราบข้อกล่าวหา เมื่อวานเราก็ไปฟ้องศาลใช่มั้ยตุ๊กตา”
ตุ๊กตา : “ฉันไม่ใช่คนในครอบครัวเธอ อย่าเรียกว่าฉันว่าเรา...ไม่ได้ วันนี้คุณเห็นมั้ยมีคนมาจากเชียงใหม่”
เจมส์ : “ได้ยินได้เห็นแล้ว”
ตุ๊กตา : “แล้วทำไมถึงไม่ตอบคำถามเขาว่า คุณเอาอันนี้ไปหลอกชาวบ้าน บอกว่าแบงค์กรุงเทพติดเงินคุณ คำพิพากษาตัดสินตั้งแต่ปีไหน”

“เจมส์” ร้องขอความยุติธรรมกับสื่อมวลชน ที่มักเสนอข่าวทางฝั่งดาราสาวด้านเดียว

เจมส์ : “เจมส์อยากถามว่าทำไมสื่อมวลชนทุกคนไม่รอล่ะคะ ทำไมถึงไม่รอให้จัดการอะไรเสร็จเป็นเรื่องๆ ไปก่อน เจมส์ขอถามแค่นี้ว่าทำไมไม่รอ ทำไมพวกคุณต้องเอาเดี๋ยวนี้อย่างนั้นอย่างนี้ ต้องตอบคำถามคุณตุ๊กตาอย่างนี้ เจมส์ไม่เข้าใจพวกท่านทุกคน อยากให้สัมภาษณ์ทีละคนทีละเรื่องสิคะ ตอนนี้ทุกคนสรุปว่าเจมส์ผิด เจมส์อย่างนั้นอย่างนี้”
ตุ๊กตา : “ขอถามหน่อยไม่มีใครไปบีบคอ หรือบังคับให้คุณตอบเลย ก็เป็นอย่างนี้นี่ไง เลยไม่มีนักข่าวที่ไหนไปสัมภาษณ์คุณ ก็เพราะว่าคุณชอบด่านักข่าวแบบนี้”
ทนายเจมส์ : “ไม่ได้ด่านะครับ”
ตุ๊กตา : “ไม่ได้ด่า แล้วอย่างนี้เรียกว่าอะไร คุณมาพูดแบบนี้ นักข่าวใครไปบีบคอคุณ ไปกระชากคอคุณว่าคุณต้องตอบ ไม่มี มีแต่ฉันเนี่ย ฉันเป็นตัวแทนของผู้เสียหายอีก 20 คน มีใบรับมอบอำนาจที่จะกระทำตรงนี้ ตัวคุณหายาก ทุก 10 ปีถึงจะมีข่าวครั้งนึง เมื่อปี 41 คุณอรอนงค์ ปัญญาวงศ์ ก็โดน แล้วใครจะไปหาตัวคุณเจอ คุณหนีอุตลุตอ้างโน่นอ้างนี่ อ้างทุกอย่าง อ้างสารพัดที่จะอ้าง แล้วมาบอกนักข่าวให้เป็นกลาง ลองไปถามเขาสิว่าฉันจ้างเขามาหรือเปล่า”
ทนายเจมส์ : “ถ้าเราพร้อมเมื่อไหร่เดี๋ยวจะเชิญสื่อมวลชนมาแถลงข่าว”
ตุ๊กตา : “คราวหน้าทนายคนนี้ก็ไม่อยู่แล้ว เดี๋ยวก็เปลี่ยนอีก”
ทนายเจมส์ : “สำหรับตุ๊กตาผมจะดำเนินคดีกล่าวหาว่าผมเป็นทนายปลอม”
ตุ๊กตา : “ยังไม่ได้พูดนะคะ นักข่าวก็ได้ยินนะคะ ตุ๊กตาพูดแค่ว่าเป็นทนายปลอมหรือเปล่าก็ไม่รู้ แค่จะขอดูใบทนายแต่งตั้ง ฉันไม่ได้บอกว่าคุณเป็นทนายปลอม ดิฉันไม่ได้พูด”
ทนายเจมส์ : “ก็มันมีคำว่าปลอมอยู่”

ก่อนที่การโต้เถียงจะบานปลายไปกันใหญ่ ทางพนักงานอัยการได้เชิญผู้เสียหายทั้งหมดเข้ามาคุยในห้องสาวหล่อ “เจมส์” จึงได้มีโอกาสชี้แจงต่อสื่อมวลชนเรื่องเปลี่ยนตัวทนายว่า

“เจมส์ขอชี้แจงเรื่องทนายหน่อย เรื่องราวของเจมส์ในเวลานี้เยอะมาก มากเกิน 10-20 เรื่อง ถ้าเป็นทนายท่านเดียวจะเหนื่อย เราก็เลยมีทีมทนายความจากสำนักงานทนายความแต่ละแห่ง เท่าที่จะมีเวลาว่างมาช่วยในคดีต่างๆ ซึ่งทุกท่านก็ต้องดูคดีว่า เรื่องไหนเจมส์ผิดเจมส์ถูก ก็ว่ากันไปเป็นคดีๆ ไป”

“คุณประวิชย์เพียงคนเดียวไม่สามารถแก้ไข หรือทำอะไรให้เจมส์ได้ทุกเรื่อง เดี๋ยวพอพี่ๆ สื่อได้เห็นทนายคนอื่นอีก ก็จะคิดว่าเปลี่ยนทนายไปเรื่อยๆ จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ มันเป็นทีมทนายแต่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ขอชี้แจงตรงนี้ก่อนเพื่อป้องกันการผิดพลาดในครั้งต่อไป ซึ่งเรื่องมันค่อนข้างเยอะ เจมส์ก็เคยอยากแถลงข่าวอยากจะพูด แต่ก็ถูกสั่งว่าอย่าเพิ่งพูดอะไรทั้งสิ้น เพราะกลัวจะเสียรูปคดี ในส่วนของเจมส์เองก็อึดอัด”







จากนั้นเจมส์ได้ขอตัวไปเข้าห้องพิจารณาคดีต่อ ด้าน ตุ๊กตา อุบลวรรณ และดา ชฎาพร รัตนากร และทนายความ จึงออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยตุ๊กตาได้เผยถึงการมายื่นคัดค้านการประกันตัวของคู่กรณีในวันนี้ว่า

“วันนี้มายื่นคัดค้านการประกันตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุด คดีที่ตุ๊กตามีหมายจับในคดีที่เขาปลอมแปลงเอกสารในการทำบัตรเครดิต วันนี้ก็มาแจ้งคดีนี้ก่อน และได้พาผู้เสียหายมาเพิ่มเติม เป็นผู้เสียหายที่โดนเขาหลอกทั้งตระกูล 5 คน พอดีเขาอยากมาเจอคุณเจมส์ เพราะไม่ได้เจอมาหลายปีแล้ว หลังจากที่หลอกครอบครัวเขา"
 
ทนายความเผยกำลังรอฟังผล คู่กรณีจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ ซึ่งถ้าอัยการไม่อนุมัติ สาวหล่อ “เจมส์” ต้องติดคุกทันที

“ผลที่จะให้ประกันหรือไม่ให้ประกันตัว มันเป็นดุลยพินิจของพนักงานอัยการ ซึ่งในวันนี้ในส่วนของตัวผู้เสียหาย ที่มีอยู่หลายๆราย ก็ได้มาเรียนอธิบายให้กับท่านอัยการฟังว่า ตัวเองได้รับความเสียหายอย่างไร และเกรงกลัวผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือเปล่า ก็ต้องรอผลว่าท่านอัยการจะให้ประกันหรือไม่ให้ประกัน ถ้าเกิดไม่ให้ประกันตัว เขาจะต้องถูกส่งตัวเข้าเรือนจำวันนี้เลย แต่ถ้าได้ประกันตัวก็จะต้องถูกปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้หลักทรัพย์ประกัน"

ตุ๊กตา : “เราก็กลัวว่าเขาจะหนี เพราะวันนี้มีเจ้าทุกข์มาเยอะ เขาคงจะเซอร์ไพร์สไม่คิดว่าจะมา ตุ๊กตาคิดว่ากำลังใจเขาคงน่าจะถดถอยไปแล้ว วันนี้ตุ๊กตาก็เตรียมเอกสารมาเยอะ แน่นมากเลย อยากให้รู้ว่าบุคคลลวงโลกเป็นยังไง และไม่อยากให้บุคคลอื่นถูกหลอก เพราะฉะนั้นบางคดีซึ่งยังไม่ได้เป็นเรื่องเป็นราว ตุ๊กตาก็แค่อยากให้เขาตอบคำถามว่า เขาทำแบบนี้จริงหรือไม่จริง"

"แต่ก็อย่างที่ทราบกันนะคะ ว่าเขาไม่ตอบ และก็ยังว่าสื่อไม่เป็นธรรม ซึ่งตุ๊กตาก็มองว่าสื่อเป็นธรรม ไม่มีใครไปบีบคอเขา หรือว่าไปคัดค้านว่าคุณจะต้องตอบ ก็ไม่มีสื่อท่านไหนทำ นอกจากตัวตุ๊กตาเอง ที่อยากจะให้เขาตอบ เพราะพี่เขา (ผู้เสียหายที่ถูกหลอกทั้งตระกูล) เดินทางมาไกล ต้องนั่งรถทัวร์มาจากเชียงใหม่ เขามาเป็นตัวแทนของผู้เสียหายอีก 5-6 คนที่เชียงใหม่ เราก็อยากให้เขาได้คำตอบที่สบายใจกลับไป”

ทนายความ : “ตัวตุ๊กตาอยากให้ผู้ต้องหาเล่าข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงบางอย่าง ก็ต้องดูว่าความเสียหายมันเกิดกับใคร การที่เขาจะไปหลอกลวงหรือเอาเอกสารอะไรไปอ้าง มันมีผู้เสียหายตามกระบวนกฎหมายนะครับ ยกตัวอย่างถ้าเกิดเขาเอาเอกสารของแบงค์กรุงเทพ ซึ่งแบงค์กรุงเทพก็อาจจจะเป็นผู้เสียหาย ก็ต้องให้ทางแบงค์กรุงเทพเป็นคนฟ้อง ตอนนี้เราก็กำลังดำเนินการติดต่อ และประสานตรวจสอบกับแบงค์กรุงเทพอยู่ ทั้งในส่วนของคำพิพากษาคดี ทั้งในส่วนที่เขาแอบอ้างว่าเป็นรัชทายาท เราก็กำลังติดต่อสถานทูตอยู่ว่าจริงหรือไม่จริง”

ตุ๊กตา : “สมมติถ้าเรื่องแบงค์กรุงเทพเป็นความจริง ตุ๊กตาก็ไม่เชื่อว่ามันเป็นความจริง แล้วเราก็ยังคงดำเนินการในส่วนตรงนี้ต่อ เพื่อที่จะเอาเงินของเราคืน ตอนนี้ตุ๊กตากำลังดำเนินการฟ้องร้อง ขอเงินที่เคยจ่ายไปแล้วให้กับแบงค์คืน เพราะตุ๊กตาโดนสถาบันการเงินที่ทวงหนี้ข่มขู่ในการที่จะให้จ่ายเงินเมื่อ 9 ปีที่แล้ว จ่ายไปแล้วทั้งหมด 5 ธนาคาร”

ทนายความ : “ซึ่งความเสียหายของคดีนี้ประมาณ 3-4 ล้าน เป็นบัตรเครดิต 2 ธนาคารคือ ธนาคารทหารไทยกับไทยพาณิชย์”

“ตุ๊กตา” ลั่นจะเอาคู่กรณีติดคุกให้ได้ โดยไม่มีการไกล่เกลี่ย

ตุ๊กตา : “สิ่งที่ต้องการจบในคดีนี้คือ เขาต้องติดคุกเท่านั้น จะไม่มีการไกล่เกลี่ย เพราะเขาไม่มีความประสงค์จะไกล่เกลี่ยกับตุ๊กตาตั้งแต่ทีแรกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคดีใดๆ ก็ตาม เพราะฉะนั้นตุ๊กตาคิดว่า คงไม่กล้าจะไกล่เกลี่ยกับองค์รัชทายาทเหมือนกัน ก็อัญเชิญเขาไปอยู่ในคุกแล้วกัน”

ทนายความ : “เราค่อนข้างมั่นใจว่าจะชนะคดี เพราะคดีนี้พนักงานสอบสวนค่อนข้างสอบรายละเอียดค่อนข้างชัดว่า มีการปลอม มีการแอบอ้างเอาไปใช้จริง ซึ่งกรณีการใช้เขาเรียกว่า ต่างกรรมต่างวาระ เอาไปใช้หลายครั้งและหลักฐานค่อนข้างแน่นหนามากพอสมควร”

ตุ๊กตา : “ตุ๊กตาต้องขอบอกสื่อมวลชนและประชาชนไว้ ณ ตรงนี้ว่า ตุ๊กตากับพี่ดาไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ตอนนี้ที่เราตกเป็นข่าว เราก็ได้พี่ๆ สื่อมวลชนคอยช่วยกระจายข่าวกันไป ยังมีผู้เสียหายอีกหลายสิบคนติดต่อเข้ามา เราสองคนและพี่แก้ว (ทนายความ) ก็ช่วยกัน ซึ่งพี่แก้วก็ยินดีมาว่าความให้ โดยที่ไม่คิดสตางค์ เราก็ต้องขอบคุณพี่แก้วด้วย”

“เราทำตรงนี้ให้ทุกคนฟรี เพื่อความยุติธรรมของประชาชน ที่เขาไม่ได้มีกำลังที่จะมาเรียกร้องตรงนี้ออกสื่อ แต่เราก็ทำในฐานะที่เราพอมีชื่อเสียงบ้าง ก็อยากให้ทุกคนเห็นใจว่า ตุ๊กตาหรือพี่ดาเอง ก็ไม่อยากออกมาประจานตัวเองว่าโง่ แต่เราทำเพื่อไม่ให้เขาไปหลอกคนอื่นอีก และไม่อยากทำให้สถาบันหรือผู้หลักผู้ใหญ่ ต้องโดนเขาแอบอ้างใช้ชื่อในการหลอกประชาชน”

ด้านหนึ่งในผู้เสียหายที่เดินทางมาจากเชียงใหม่ “ติ๊ก อิสรีย์ น้าเจริญปฐมสกุล” ที่ถูกสาวหล่อ “เจมส์” ฉ้อโกงทั้งตระกูลรวมกว่า 16 ล้านบาท ได้เผยรายละเอียดว่า

“เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนรุ่นน้อง ที่แนะนำให้ติ๊กรู้จักอีกทีหนึ่ง พอเรารู้จักกันสักพัก ติ๊กก็พาเขาเข้ามาอยู่ในบ้านประมาณปี 2544 ตอนนั้นเขาใช้ชื่อ อลิสา เจริญผล แต่ชื่อเล่น เจมส์ เหมือนเดิม พอเขาเข้ามาอยู่ร่วมครอบครัวเดียวกันมา 10 ปี พ่อกับแม่เราก็เอ็นดู เขาก็ขอเป็นลูกบุญธรรม คือเขาก็เหมือนเป็นเพื่อนเรา เราก็พาเขาเข้าบ้าน แต่เราไม่ค่อยได้อยู่กรุงเทพฯ เพราะทำธุรกิจที่แม่สอด"

"เขาก็เข้ามาบ้านเราตลอด แรกๆ เขาเข้ามาไม่มีอะไรนะ เราก็ช่วยเหลือเขามาตลอด มีรถให้ใช้ได้สารพัด พอตอนหลังเขาเห็นว่าที่บ้านพอมีเงิน เขาก็เข้ามาแต่ตัวแล้วเริ่มหลอกครอบครัวเรา เราเพิ่งมารู้ตัวว่าถูกเขาหลอกอย่างชัดเจนเมื่อปีนี้เอง แต่เราเลิกคบและเลิกคุยกับเขามา 2 ปีกว่าแล้ว”

“ติ๊กโดนเขาเอารถยนต์เปอร์โย 206 ไปขายทอดตลาด ส่วนคุณพ่อติ๊กโดนเอาที่ดินจ.นครนายกจำนวน 60 ไร่ทั้งหมด 4 แปลง โดยเขาเข้ามาหลอกพ่อกับแม่ว่ามีหุ้นอยู่ที่นอร์ธต้า ฮั่งเส็ง ที่ฮ่องกง และธนาคารกรุงเทพติดหนี้เขา เขากำลังจะชนะคดีแล้ว กำลังทำเรื่องดำเนินคดีกันอยู่ และจะต้องหาเงินไปจ่ายค่าทนาย และจ่ายพิเศษให้กับผู้มีอำนาจเซ็นกับที่เขตอำนาจพิเศษที่ฮ่องกง เขาจะได้เงินจากตรงนี้ประมาณ 500 กว่าล้าน หรือ 103 ล้านเหรียญฮ่องกง เขาอยากให้พ่อช่วยหาเงินสัก 2 ล้านเพื่อนำไปจ่ายให้ทนาย อีกไม่นานก็จะได้เงินแล้ว ถ้าเกิดเจมส์ได้เงินมา จะได้เอามาเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ตลอดชีวิต”

“ปรากฏเขาขอยืมที่ดินไปจากพ่อ แล้วเอาไปจำนองกับบุคคล ครั้งแรกเอาไป 3 แปลงเกือบ 50 ไร่ ได้เงินมามูลค่าประมาณ 7-8 ล้านบาท พ่อก็ทราบเรื่องนี้เพียงเบื้องต้นว่า ให้เขายืมไปจำนองชั่วคราว พอได้เงินมาแล้วจะเอามาไถ่คืน แต่ปรากฏเขาเอาที่ดินไปจำนองซ้ำซ้อนอีก ล่าสุดที่ดินทั้ง 4 แปลงเป็นชื่อของเจ้าของบ้านที่อยู่ที่บางแสน แถวเขาสามมุก ชื่อนายนภัดล กาญจน์วัชร แต่ตอนนี้เขาย้ายออกไปแล้ว เราต้องตรวจสอบว่านายนภัดล เกี่ยวข้องกับแก๊งนี้มั้ย”

“วันนี้เราจะไปแจ้งความคดีนี้ที่สภ.เมืองนครนายก เพราะเพิ่งรวบรวมหลักฐานได้ เราเพิ่งได้เอกสารเรื่องที่ดินจากคุณพ่อ คือเราขอคุณพ่อไปนานแล้ว แต่คุณพ่อไม่สะดวก เพราะป่วยเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต แต่จะออกไปทางอัมพาตมากกว่า เพราะเดินไม่ได้ต้องนั่งวิลแชร์ตลอด เราก็จะดำเนินเรื่องแทนในฐานะลูก ส่วนคดีอื่นเราแจ้งความไว้หมดแล้ว นอกจากนี้เขายังปลอมลายเซ็นไปซื้อรถฟอร์ดเอสเคป โดยปลอมลายเซ็นทั้งผู้เช่า ผู้ซื้อ และผู้ค้ำประกันเป็นญาติเราที่รู้จักกันตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งตอนนั้นเขาได้หายสาบสูญไปแล้ว”

อย่างไรก็ตามหลังจากพนักงานอัยการได้สอบสวนคู่กรณีทั้งสองฝ่าย และได้มีคำสั่งห้ามผู้ต้องหาประกันตัว และนำไปฝากขังไว้ชั่วคราว กระทั่งมี "นายต้อย " หรือ "นายประสาน" ไม่ทราบนามสกุล อ้างตัวเป็นญาติของ "เจมส์"  และยังเป็นคนสนิทของเสธ.หนั่น "พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์" มาพร้อมกับ "นายนิพันธุ์ พลพันธุ์" ที่อ้างเคยเป็นรองอธิบดีกรมการขนส่ง ได้นำหลักทรัพย์จำนวน 2 แสนบาท มายื่นต่อศาลอาญาเพื่อขอประกันตัว “น.ส.ภัลมาภูฏิณฑ์ อัครวงศ์ตระกูล"
 
โดยทางศาลอาญาเห็นว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีเล็ก ไม่ใช่คดีอาชญากรรมร้ายแรง จึงอนุญาตให้ "เจมส์" สามารถประกันตัวออกไปได้ ทำให้ดาราสาว “ตุ๊กตา อุบลวรรณ” และ "ดา ชฎาพร รัตนากร" ถึงกับออกอาการเซ็ง และเริ่มหวั่นว่าตัวเองจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากคู่กรณีมีผู้มีอิทธิพล เป็นแบ็คคอยหนุนหลังช่วยเหลืออยู่นั่นเอง




กำลังโหลดความคิดเห็น