xs
xsm
sm
md
lg

ปาน-พรหมลิขิต : บทเพลงผู้หญิงเกรี้ยวกราด ตีหัวเข้าบ้านอีกแล้ว/พอล เฮง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นั่งดูมิวสิควิดีโอบทเพลง "บาปกรรมมีจริง" ในอัลบั้มชุดใหม่ล่าสุดของ ปาน – ธนพร แวกประยูร ก็นั่งขำอยู่ในใจ เอาละหว่า เหมือนดูละครน้ำเน่าที่เอาฐานข้อเท็จจริงมาจากข่าวฉาวในวงการบันเทิงมาสร้างให้เข้ากับตัวเพลงได้อย่างเถรตรงถูกใจแม่ค้าร้านตลาดได้ชะงัดจริงๆ

โดยเฉพาะการเลือก แหม่ม – วิชุดา พินดัม มาเป็นตัวเอกในมิวสิควิดีโอด้วย ยิ่งเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่า บทเพลงของปานกับการตลาดเพลงแบบเอาอกเอาใจผู้หญิงที่ถูกแย่งผู้ชายสุดที่รัก หรือถูกผู้ชายสุดที่รักนอกใจแยกจากกันไม่ได้เลย ต้องขายกันเป็นแพ็คเกจเช่นนี้แล



ยิ่งมีภาพตอน ปาน – ธนพร สวมชุดขาวทั้งชุดร้องในท่อนฮุคด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยวเคี้ยวฟัน ก็ยิ่งขำเข้าไปใหญ่ เหม่...ทำไปได้นะผู้กำกับฯ มิวสิคฯ

พอมาได้ดูมิวสิควิดีโอ ‘เหตุผล’ เข้าอีกเพลงที่อยู่ในอัลบั้มชุดเดียวกัน ก็ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่ ฮาจริงๆ ทั้งที่เป็นเพลงการแย่งชิงผู้ชายของผู้หญิง 2 คน ที่ฟาดฟันแบบใช้เล่ห์เหลี่ยมอย่างถึงอกถึงใจ ไม่แพ้ดูละครหลังข่าวในแบบซูเปอร์มินิเลยทีเดียว

พอหยิบอัลบั้มมาฟังบทเพลงทั้งหมดก็ยิ่งสำเหนียกและเข้าใจได้ทันทีเลยว่า ปาน – ธนพร ตีตราตัวเองปิดผนึกแน่นหนายากที่จะดิ้นไปทางอื่นเสียแล้ว ทั้งที่ประตูในการพิสูจน์ตัวเองในฐานะนักร้องคุณภาพและนักร้องเสียงทอง หรือที่เรียกกันว่า ดิวา (Diva) เปิดกว้างรออยู่

ความจริงงานเพลงชุดนี้ในด้านกระบวนการผลิตเพลงและดนตรีน่าจะเรียกได้ว่า เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา ซึ่งเป็นคนเขียนเองเกือบทั้งหมดในอัลบั้มให้ปานร้อง โดยวางคอนเซ็ปต์เป็นกระบอกเสียงของผู้หญิงที่ถูกกระทำจากผู้ชายและผู้หญิงคนใหม่ที่เข้ามาข้องเกี่ยวเป็นมือที่สาม

ชื่ออัลบั้ม ‘พรหมลิขิต’ ที่ใช้เพื่อบอกธีมรวมถึงบทเพลงและความคิดที่นำเสนอออกมา น่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ต้องกับความหมายของคำเท่าไหร่นัก

เพราะพรหมลิขิตในเชิงของความรักเป็นเรื่องของความรักในเชิงบวกอยู่พอสมควร ในลักษณะของคู่แท้ที่ไม่แคล้วคลาดกัน แต่ความหมายโดยรวมทั้งหมดในบทเพลงแบบปาน เป็นเรื่องเชิงเคียดแค้นชิงชังกราดเกรี้ยวโกรธาอยู่พอสมควร

โดยเฉพาะบทเพลง ‘เหตุผล’ ที่มีการร้องส่งในท่อนว่า ‘เหตุผลควายควาย’ เพื่อให้เป็นคำที่แรงโดนใจโดยทันที ก็เป็นวิธีคิดที่ตื้นเขินอยู่พอสมควร ไม่มีศิลปะและจริตจก้านของการใช้ภาษาให้ดูดีแต่แรงก็ได้

แต่อย่างที่ว่า บทเพลงที่สามารถโดนใจผู้คน โดยเฉพาะบรรดาผู้หญิงหัวอกเดียวกันกับความหมายในเนื้อเพลง แสดงว่าสังคมก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ อย่างในเพลงที่ร้อง ซึ่งก็สะท้อนภาพของสังคมไทยผ่านบทเพลงของปานได้ดีที่เดียว เรียกได้ว่า สะใจคนฟัง ยิ่งตอกย้ำด้วยภาพจากเพลงในมิวสิควิดีโอก็ทำให้เพิ่มดีกรีความอินเข้าถึงหัวใจเข้าไปอีก

ในอัลบั้มชุดนี้ส่วนมากเป็นเพลงในสไตล์ป็อปมาตรฐานแบบอาร์เอสที่เคยเป็นมาแบบดั้งเดิม มีจังหวะจะโคนท่อนขึ้นต้นเล่าเรื่อง ท่อนส่ง ท่อนฮุคหมุนวนที่ไม่มีอะไรใหม่ให้สนใจมากนัก

อจุดที่น่าสนใจของงานเพลงที่แตกต่างออกไป น่าจะมีอยู่ 3 เพลง คือ ‘ใจนำทาง’, ‘ใครสักคน’ และ ‘เธอคือความงดงามของชีวิต’

ซึ่งบทเพลง ‘ใจนำทาง’ นั้นเป็นบทเพลงพิเศษของโครงการ ‘กำลังใจ’ ในพระดำริของ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงพระกรุณาประทานบทเพลงเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการสร้างกำลังใจ ให้กับผู้ที่ดำเนินชีวิตพลั้งพลาดและต้องการโอกาสในสังคมไทยต่อไปด้วย

ปาน – ธนพร ร้องเพลงนี้ได้ดีมาก เป็นบทเพลงที่ปลุกปลอบกำลังใจ และมีการเรียบเรียงดนตรีที่อลังการสร้างความรู้สึกปิติตื้นตันและให้ความหมายของความหวังในชีวิต ซึ่งปานเป็นคนที่ร้องเพลงอารมณ์อย่างนี้ได้ยอดเยี่ยม

อีกบทเพลงคือ ‘เธอคือความงดงามของชีวิต’ ซึ่งเขียนเนื้อร้องและทำนองโดย ประภาส ชลศรานนท์ นั้นก็แสดงให้เห็นถึงคุณภาพเสียงของปานที่เต็มศักยภาพ ด้วยความหมายของเพลงและดนตรีแบบพ็อพผสมไลท์ ออร์เคสตร้า ทำให้ขับเน้นมวลรวมทั้งหมดของเพลงที่ดีและเปี่ยมด้วยความหมายที่สวยงามออกมาจรรโลงจิตใจ

ส่วนบทเพลง ‘ใครสักคน’ ที่ได้ โอ๋ ซีเปีย หรือเจษฎา สุขทรามร มาเขียนเนื้อร้อง ทำนอง และทำดนตรีให้ ก็กลายเป็นบทเพลงในแบบป็อปบอสซาโนวาที่แปลกแยกแตกต่างออกไปจากเพลงอื่นๆ ในอัลบั้ม แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวกรำและชำนาญในการร้องเพลงในสไตล์ดนตรีต่างๆ และสามารถตีความอารมณ์เพลงได้หมดจด ถ้าปาน – ธนพร หันมาร้องเพลงสไตล์นี้ สามารถเบียดแซงขึ้นหน้า ‘ลุลา’ อย่างแน่นอน

เอาเป็นว่า ปาน - ธนพร ในฐานะนักร้องเสียงดีต้องปรับตัวทำงานกับทีมเขียนเพลงที่คิดบทเพลงที่ออกมาจากตัวเธอจริงๆ และให้เธอได้โชว์ศักยภาพเสียงร้องในแนวดนตรีที่สอดรับอย่างลงตัว รวมถึงความหมายและเนื้อร้องที่ต้องหักเหออกจากแบบเดิมๆ ที่เคยเป็นมา เพื่อผลักดันขับเน้นให้เธอขึ้นหิ้งนักร้องเสียงทองเสียที ไม่เช่นนั้นจะพายเรืออยู่ในอ่างไม่ไปไหนเสียที ทั้งที่ศักยภาพในเสียงร้องของเธอเหนือกว่านักร้องในท้องตลาดทั่วไปอยู่แล้ว

ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป ก็จะไม่แตกต่างจากนักร้องเสียงดีที่มาก่อนในแวดวงเพลงพ็อพไทยซึ่งค่อยๆ เฟดหายสลายไปตามธรรมชาติของกลไกตลาดเพลงที่จับจดของเมืองไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น