xs
xsm
sm
md
lg

“เจเจ” เผย “นาธาน” หายจ้อย เริ่มเห็นใจ วอนคืนเงินยินดีจบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เจเจ” เผย “นาธาน” ยังไม่ติดต่อกลับ รับเรื่องราวบานปลายจนรู้สึกเห็นใจคู่กรณี คาดเรื่องราวยืดเยื้อ แต่ยินดีจบขอแค่มาเคลียร์ ส่วนเงินที่นัดมาคืนลูกทัวร์นั้น มั่นใจ 31 ส.ค.นี้ได้คืนแน่ แต่เจ้าตัวอาจจะไม่ได้มาเอง

ยังคงเป็นเรื่องราวบานปลายที่ยังไม่มีการเคลียร์ใดๆ สำหรับกรณีลวงโลกของ “นาธาน โอร์มาน” ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องโกงเงินหุ้นส่วนร้าน “GAMAREE YAK CAFÉ’ GALLARY “ ซึ่งมีดีเจคลื่นเวอร์จิ้น “เจเจ จามรี จุลี่ แคชเชอร์” เป็น 1 ในหุ้นส่วน และทั้งหมดได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อยแล้ว

แม้นาธานจะออกมายันว่าไม่ได้โกงเงิน และไม่ได้เป็นหุ้นส่วนของร้าน แต่เอกสารต่างๆ ที่ดีเจสาวนำมายืนยัน เป็นหลักฐานหรือคำให้การต่างๆ กลับกลายเป็นชนวนเปิดโปงเรื่องราวต่างๆ ของอดีตนักร้องหนุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโกหกสัญชาติ อายุ หรือการโกอินเตอร์ก็ตาม

ทั้งนี้ “ดีเจเจเจ” ได้เผยถึงความคืบหน้าถึงเรื่องดังกล่าวว่า ตนได้พยายามติดต่อนาธานแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และจากที่เรื่องราวต่างๆ เริ่มบานปลาย ทำให้ตนเริ่มรู้สึกเห็นใจคู่กรณี

“ตอนนี้เรื่องอยู่ในขั้นตอนของทางตำรวจ คือจากวันสุดท้ายที่คุยกันคือวันที่ 27 ก.ค. มีการชี้แจงเอกสารส่วนนึง แล้วก็มีการลงบันทึกว่าจะมีการนัดชี้แจงเอกสารอีกส่วนนึง เขาบอกว่าขอเวลา 2-3 วันจะรวบรวมสลิปเอกสารมาให้ นี่ผ่านไป 1-2 อาทิตย์แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็กำลังติดต่อเขาอยู่ แต่ว่ายังติดต่อไม่ได้ จริงๆ เจเจเองก็อยากจะเห็นตัวเอกสารนั้นตามที่เขาอ้างอิงว่ามี มันจะได้จบ ก็คงต้องให้เวลาเขารวบรวมเอกสารอีกสักพักนึง”

“ตอนนี้เขาหายไปเลย ปิดเครื่องหนีหาย ไม่มีเบอร์ไหนที่สามารถติดต่อเขาได้เลยสักเบอร์ เขาปิดหมดสิ้นทุกอย่าง และไม่ได้มาพูดคุยในส่วนของร้านเลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าหน้าที่จะติดต่อเขา เพื่อปิดเรื่องนี้ให้จบลงได้ยังไง นี่เจเจกับเพื่อนหุ้นส่วนก็รออยู่เหมือนกัน”

“ในส่วนของเจเจเองก็พยายามติดต่อเขาอยู่นะ แต่เราเองก็ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากเขาเลย เมื่อวานนี้ก็ยังโทรไปหาเขาอยู่ในหลายๆ เบอร์ที่เรามี แม้กระทั่งเบอร์ผู้จัดการส่วนตัวเขา คือส่วนตัวก็พยายามจะโทร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็พยายามโทรด้วย ที่เราโทรไปคือในลักษณะกรณีให้ญาติๆ พี่โทรให้ เพราะมันก็ผ่านมาหลายวันเรื่อยๆ”

เปรยคู่กรณีเกิดเรื่องมากมายจนรู้สึกเห็นใจ แย้มเรื่องของตนมีสิทธิ์จบล่าช้า แต่ยินดีขอแค่คืนเงิน

“บังเอิญมันมีเรื่องอื่นๆ ของเขาด้วย เราเองก็เห็นใจ ก็เลยไม่อยากจะไปจี้เรื่องนี้กับเขาอีก ให้เขาค่อยๆ คลี่คลายไปก่อนก็ได้ คือมันคนละเรื่องกันแล้วจริงๆ มันแค่บังเอิญมาระเบิดในเวลาเดียวกัน ตอนนี้เจเจก็เลยรู้สึกเริ่มที่จะเห็นใจเขา ตอนนั้นเราอยากที่จะจี้ เพราะมันเป็นสิทธิ์ของเรา เป็นความถูกต้องที่เราคิดว่าจะต้องทำ แต่ตอนนี้มันมีเรื่องอื่นๆ ขึ้นมาเยอะแยะ เราเองก็ไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่ ก็รู้สึกสงสารเขา เลยคิดว่าคงต้องรอไปก่อน”

“เราตัดสินใจเบรกเรื่องนี้ไว้ ไม่ไปเร่ง คือให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนจัดการดีกว่า เพราะตอนนี้เรื่องราวก็อยู่ที่ทางตำรวจด้วย จะได้ล่าช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้ได้คืน คือให้เขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง อย่าคิดว่าจะหลุดพ้นกับการกระทำผิดได้ ทุกคนต้องรับผิดชอบไม่ช้าก็เร็วแค่นั้นเอง ถ้าเราผิดเราก็จะยอมรับผิด ถ้าเขาผิดเขาก็ควรจะยอมรับผิดตามเรื่องนั้นๆไป”

“เรื่องของเรามันกลายเป็นเรื่องเล็กๆ สำหรับเขา ตอนนี้เขาอาจจะไม่ได้คิดเรื่องของเจเจ แต่ไปคิดเรื่องอื่น ซึ่งเจเจก็มองว่า มันเป็นเรื่องที่ถูกสำหรับเขา เราก็ต้องให้โอกาสคน คือถ้ามันจะยืดก็ต้องยืดไม่เป็นไร”

“เท่าที่เขาบอกว่าเขามีเอกสารหนักแน่นมาตั้งแต่ต้น ตัวเขาเองควรจะแก้ไขปัญหาไปทีละปมทีละเรื่อง เขามีเรื่องกับเราก่อนในเรื่องร้าน เขาก็ควรจะแก้ไขเรื่องนี้ก่อน ให้ออกมาอย่างลูกผู้ชาย คิดว่าทุกอย่างก็คงจะค่อยๆ คลี่คลายเอง มันไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ เราเองก็ออกมาแสดงตัวแล้วว่ามีปัญหา เราก็ต้องการแก้ไขจะถอยไม่ได้เหมือนกัน”

ไม่กลัวคู่กรณีมองเป็นตัวต้นเหตุ เปิดโปงเรื่องทุกอย่างจนบานปลาย เชื่อหลายฝ่ายใช้วิจารณญาณจับประเด็นกันเองได้ จากหลักฐานที่มี

“เจเจไม่กลัวเขาโกรธเลย เพราะเราไม่ได้เป็นคนเปิดโปงเรื่องของเขา เจเจไม่เคยไปพูดถึงเรื่องหนังของเขา เจเจไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัวของเขาให้ใครฟัง เพียงแต่หลังจากเกิดเรื่องแล้ว เขาอ้างอิงว่าไม่ได้เป็นหุ้นส่วนของร้าน นั่นแหละเป็นจุดที่ทำให้เจเจและหุ้นส่วนต้องมาปกป้องร้านโดยการโชว์เอกสารพูดให้เคลียร์"
 
"ซึ่งเอกสารนั้นมันมีวัน เวลาอ้างอิงอยู่ มันก็สามารถเป็นหลักฐานที่เราปฏิเสธไม่ได้ที่จะเห็น เราไม่ได้เอามาเพื่อที่จะมาใช้เปิดโปงเขา เราแค่อยากจะให้เขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งทุกๆคนก็ใช้วิจารณญาณในการประกอบเรื่องกันได้เอง ไม่เกี่ยวกับเรา มันไม่มีคำว่าโกรธหรือเกลียด มีแต่คำว่าหลักการความถูกต้อง ทุกอย่างคือจบ ไม่มีความรู้สึกร่วมอะไรอีกแล้ว”

“เจเจขอย้ำอีกรอบว่า จะไปทำให้เขาเสียชื่อเสียงเพื่ออะไร เราได้อะไรจากสิ่งนั้น ความเป็นเพื่อน มิตรภาพที่เรามีต่อกันมาตลอด เราไม่เคยทะเลาะกัน เพราะฉะนั้นอยู่ดีๆ จะมาเปิดโปงเขาเพื่ออะไร คุณดูที่เจตนา ดูที่แรงจูงใจก่อนว่าที่เราทำ ทำไปเพื่ออะไร จะทำเพื่อแค่เงิน 1 แสนบาทเหรอก็คงไม่ใช่ เขาบอกว่าทางเราให้เขาเป็นพีอาร์ร้านเพื่อดิสเครดิสเขา ถามหน่อยว่าเราได้อะไร เราจะทำให้ร้านเสื่อมเสียชื่อเสียงเหรอ ดูที่เจตนาเราสิ มันไม่มีเหตุและผล ไม่เสริมกับสิ่งที่เขาพูดเลย”

ยันแม้นาธานจะหนีหน้าไม่มาเคลียร์ ก็ไม่คิดฟ้องร้อง บอกถึงเห็นใจแต่ให้กลับไปเป็นเพื่อนก็ไม่เอา

“เรื่องฟ้องคงทำ เพราะจำนวนเงินมันไม่ได้มาก เราแค่ต้องการให้เขาแก้ไขในสิ่งที่ผิดในส่วนของร้าน ในเจตนาที่เขามีมาตั้งแต่ต้น ส่วนอื่นไม่เกี่ยว เรารู้ว่าเงินมันไม่ได้เยอะ แต่เจตนาและพฤติกรรม การกระทำที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มต้นทำร้าน มันมีเจตนาที่ส่อไปในทางที่ไม่ดี ในสิ่งที่เราค้นพบในส่วนที่เขาทำ เราเลยต้องออกมาให้เขาแก้ไข และก็รับผิดชอบในสิ่งที่เขา ถ้าเขารับผิดชอบแล้วแก้ไขมันก็จบ ไม่ต้องมามีเวรมีกรรมต่อกัน”

“ถึงแม้ว่าตอนนี้จะรู้สึกเห็นใจเขา แต่คิดว่าความสัมพันธ์มันคงไม่กลับมาเหมือนเดิมแน่นอน คือความไว้ใจที่เรามีให้เขามันไม่มีเหลือแล้ว ก็แค่เราจบปัญหานี้กันไป แล้วก็ทางใครทางมัน ไม่มีอะไรต่อกันดีกว่า”

ส่วนเรื่องที่นาธานนัดคืนเงินลูกทัวร์ ที่เป็นลูกค้าของที่ร้านวันที่ 31 ส.คนี้ เจ้าตัวมั่นใจคู่กรณีจะเอาเงินมาคืนแน่ แต่อาจไม่มาด้วยตัวเอง

“ในส่วนเรื่องเงินค่าทัวร์สุดท้ายที่คุยกันไป เรานัดคืนเงินให้กับเพื่อนลูกทัวร์ของที่ร้านวันที่ 31 ส.ค. ถ้าคืนเงินกรณีนั้นก็จบไป เจเจคิดว่าคงไม่มีการเลื่อน เพราะได้มีการลงบันทึกกับทางตำรวจไว้แล้วว่า จะมีการนัดกันวันที่ 31 ส.ค.”

“ลูกทัวร์ก็ยังมาหาเราที่ร้าน ดูเขายังเชื่อมั่นในระบบของกฎหมาย ตัวนาธานเอง ทางญาติผู้ใหญ่ของทางนาธานก็น่าจะเคารพในตัวกฎหมาย เพราะพวกเขาก็ไปสถานีตำรวจ และให้ปากคำด้วยเหมือนกัน เจเจเชื่อว่าเขาน่าจะเคารพในกฎหมาย คงไม่ไปไกลเกินกว่านั้นแล้ว คือเงินก็แค่ 7.7หมื่น ยังไงก็ต้องรอดู 31 ส.ค.นี้”

“ทางเราเองไม่ได้คิดเผื่อล่วงหน้าไว้ว่า ถ้าเขาไม่มาจริงๆ จะทำยังไง ก็คงต้องรอดูกัน แต่ในความคิดของเจเจ เขาคงไม่เอาเงินมาคืนเอง น่าจะฝากทางญาติผู้ใหญ่มา เพราะเท่าที่ทราบคือไม่จำเป็นต้องมาเองก็ได้”

เผยตั้งแต่เกิดเรื่องทำลูกค้าหด แต่เชื่อว่าไม่น่าเกี่ยวกับคดี ฝากบอกนาธานเชื่อเรื่องราวทุกอย่างสามารถแก้ไขได้

“ตอนแรกที่มีเรื่องร้านก็เงียบเหมือนกัน เราก็เป็นห่วงว่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่เรามีปัญหารึเปล่า แต่ทำมาแล้วยังไงก็ต้องลุยต่อ แต่ลูกค้าที่เข้ามาก็ไม่ได้ถามอะไร เขาก็มาอุดหนุนกันปกติ ก็หวังว่าจะไม่เกี่ยวข้องกัน คือเราก็ทำสนุกๆไม่ได้อยากให้มันมีผลกระทบกับใคร”

“กับทางเจ้าของบ้านหลังเกิดเรื่องก็มีโอกาสได้คุยกัน เขาก็บอกว่าไม่อยากจะมาวุ่นวายอะไร ขอให้มันเคลียร์เรื่องตัวเลข ทางเขาก็สบายใจแล้ว เขาเห็นแล้วว่าเรื่องราวมันไปไกลมากแล้ว เขาก็คงสงสารนาธานเหมือนกัน”

“สุดท้ายก็อยากจะบอกเขาว่า อยากให้เขากลับมาแก้ไข ค่อยๆ แก้ไปทีละเรื่อง การแก้ในที่นี้เราต้องเริ่มแก้จากที่ไหนสักจุดนึง เจเจคิดว่าทุกอย่างยังแก้ไขได้อยู่”


กำลังโหลดความคิดเห็น