กำลังเป็นที่สนใจไม่น้อยทีเดียวสำหรับกรณีของนักร้องหนุ่ม "นาธาน โอมาน" ที่ได้ออกมาให้ข่าวตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้วถึงการที่ตนได้มีโอกาสไปแสดงหนังฟอร์มใหญ่ในฮอลลีวูดกระทั่งกลายเป็นที่ฮือฮามาแล้ว
ในครั้งนั้นเจ้าตัวบอกว่ายังไม่สามารถบอกรายละเอียดของชื่อและบริษัทผู้สร้างหนังได้เหตุเพราะต้องปิดเป็นความลับ แต่ที่บอกได้ก็คือเป็นหนังไตรภาค แนวผจญภัย กำกับโดยผู้กำกับชื่อดัง "วูล์ฟ กัง" (Wolfgang Petersen) โดยรับบทเป็นตัวละครชื่อ "ซี เคีย" (C KIE) ประกบกับดาราชื่อดัง "บรูซ วิลลิส" และ "คริสติน่า ริชชี่"
โดยตกลงค่าตัวกันอยู่ที่(ภาคละ) 40 ล้านบาท
ส่วนสาเหตุที่ได้ไปเล่น เริ่มต้นจากการที่เขาได้นำเรื่องที่ตัวเองเขียนไว้ในหนังสือเรื่อง "ผมมันเด็กหลังเขา(หิมาลัย)" ส่งไปขายเป็นพล็อตหนัง และไปเข้าตาผู้กำกับจนถูกเรียกไปแคสฯ และได้เล่นเป็นตัวเอกในหนังดังกล่าว (อ่านรายละเอียดของข่าวได้ที่ "นาธาน" ฟัน 100 ล้านเล่นหนัง "วูล์ฟ กัง" ประกบ "บรูซ วิลลิส"
"หนังจะเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำจริงวันที่ 22 มกราคมปีหน้า จะมีการแถลงข่าวที่นิวยอร์ก สถานที่แรกในการถ่ายทำคือทะเลทรายซาฮาร่าแถบอาบูดาบี จอร์แดน จะคาบเกี่ยวหลายประเทศ และจะอยู๋ที่นั่น 4 เดือน เขาจะมีตู้คอนเทนเนอร์ให้อยู่" ส่วนหนึ่งของการสัมภาษณ์ที่เจ้าตัวพูดไว้ในรายการ "ที่นี่หมอชิต" เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายนปีที่แล้ว
หลังให้ข่าว เรื่องของหนุ่มนาธานก็หายไป ก่อนที่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเจ้าตัวก็ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าในการแสดงภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวอีกครั้งกับผู้สื่อข่าว "ซูเปอร์บันเทิง" โดยบอกว่าหลังใช้เวลาถ่ายทำนานกว่า 6 เดือนทั้งในโอมาน, อิหร่าน และจอร์แดน (เมืองโบราณเภตรา) ตอนนี้หนังมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 50% (เฉพาะภาคแรก)
พร้อมกันนี้เจ้าตัวยังได้บอกรายละเอียดของหนังเพิ่มเติมว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อว่า THE PRINCE OF RED SHOE เป็นของบริษัท BIGBLUE ในเครือทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ โดย คริสติน่า ริชชี่ เล่นเป็นเจ้าหญิงเทเรยัน, บรูส วิลลิส เป็นโจรทะเลทราย (ไม่บอกชื่อ) ส่วนตนแสดงเป็นชาวประมงอายุ 15 ปี ชื่อ อินฮัม (ครั้งแรกเจ้าตัวบอกว่าแสดงเป็น "ซี เคย") มี "วูลฟ์ กัง" และ "มูฮำหมัดซูอัต" เป็นผู้กำกับฯ (อ่านรายละเอียดได้ที่“นาธาน” เผยชีวิตฮอลลีวูด สุดกดดันเป็นแค่โนบอดี้ โดนผกก.ด่าจนร้องไห้)
ซึ่งในครั้งนี้เองที่ได้กลายเป็นประเด็นที่หลายคนตั้งกระทู้ถึงข้อสงสัยมากมายว่าเรื่องที่เจ้าตัวพูดมาทั้งหมดจะมีเค้ามูลของความเป็นจริงมากน้อยเพียงใด?
เพราะนับจากคำบอกกล่าวของเขาที่ว่าจะมีการเปิดกล้องในวันที่ 22 มกราคมของปีนี้ แต่จากการติดตามข่าวของผู้สื่อข่าวบันเทิงสายต่างประเทศ ที่ผ่านมากลับไม่พบว่าได้มีการรายงานข่าวถึงการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องที่ว่าแต่อย่างใด
ทั้งๆ ที่หากดูจากโครงสร้างของภาพยนตร์ ตัวผู้กำกับ และนักแสดงตามที่เจ้าตัวบอกแล้ว ต้องถือว่าหนังเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่ฟอร์มใหญ่ทีเดียว
นอกจากนี้เมื่อผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบไปยังเว็บไซต์ IMDb (The Internet Movie Database) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รวบฐานข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับภาพยนตร์ที่น่าเชื่อถือที่สุดแห่งหนึ่ง เมื่อนำมาเทียบกับคำให้สัมภาษณ์ของนาธาน โอมานแล้ว จะพบว่าไม่มีมีแม้แต่ส่วนเดียวที่ตรงกันเลย
เมื่อตรวจสอบข้อมูลภาพยนตร์ที่ทางค่าย 20th Century Fox จะสร้างหรือจัดจำหน่ายในปี 2009 จนถึงปี 2012 ก็ไม่พบชื่อของ THE PRINCE OF RED SHOE อย่างที่นาธานเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้แต่อย่างใด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้สำหรับหนังที่เจ้าตัวอ้างว่าเปิดกล้องไปตั้งแต่ต้นปี แต่กลับมาไม่ตัวตนอยู่ในฐานข้อมูลของค่ายหนังที่ใหญ่ระดับนี้
เมื่อตรวจสอบไปดูรายชื่อข้อมูลหนังของทั้งตัวผู้กำกับ วูล์ฟกัง ปีเตอร์เซน พร้อมทั้งนักแสดงที่เจ้าตัวอ้างว่าร่วมงานด้วยทั้งดารารุ่นเก๋า บรูซ วิลลิส และ ดาราสาว คริสตินา ริชี ต่างก็จะพบรายชื่อโปรเจ็คท์หนังที่ทั้ง 3 เตรียมจะร่วมงานอยู่มากมายในช่วง 3 ปีที่จะถึงนี้ แต่กลับไม่มีรายชื่อของหนังเรื่อง THE PRINCE OF RED SHOE อยู่ในข้อมูลของทั้ง 3 คนแม้แต่น้อย สวนทางกับที่นักแสดงหนุ่มไทยผู้นี้ได้ประกาศเอาไว้ว่าเคยลับฝีมือการแสดงกับผู้กำกับและดาราทั้งสองมาแล้ว
ที่ผิดสังเกตที่สุดก็คือค่ายหนังที่นาธานอ้างว่าอยู่เบื้องหลังการถ่ายทำครั้งนี้อย่าง BIGBLUE ที่เขาเคยชี้แจงว่าอยู่ในเครือ 20th Century Fox เมื่อค้นดูแล้วกลับพบเพียงชื่อที่ใกล้เคียงอย่าง Blue Sky Studios ที่ทำหนังแอนิเมชั่นให้กับค่าย 20th Century Fox (ผลงานล่าสุดอย่าง Ice Age 3 ที่กำลังทำเงินทั่วโลกอยู่ในเวลานี้) จะมีก็แต่เพียง Big Blue Record ซึ่งเป็นบริษัทค่ายเพลงของไทยในเครืออาร์เอส ที่นาธานเคยออกเทปด้วยกันเมื่อหลายปีก่อนเท่านั้น
และเมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามยังค่ายหนัง ทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ ประเทศไทย แหล่งข่าวได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้โทรศัพท์ตรวจสอบไปยังต้นสังกัดต่างประเทศแล้วได้รับคำตอบว่าทางค่ายฯ มิได้มีการลงทุนสร้างภาพยนตร์เรื่อง THE PRINCE OF RED SHOE แต่อย่างใด
"ก็มีนักข่าวสอบถามเข้ามาพอสมควร ซึ่งทางเราไม่อยากจะแสดงความคิดเห็นอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ อาจจะเป็นไปได้มั้ยว่าเป็นบริษัทเอกชนอื่นๆ ที่ทำ แต่ที่บอกได้ก็คือในส่วนของเราไม่มีชื่อหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน" แหล่งข่าวคนหนึ่งเปิดเผย
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดข้อถกเถียงถึงเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปหาเจ้าตัวเพื่อขอคำตอบโดยยืนยันว่าจะต้องมีเอกสารต่างมาด้วย ก็พบว่าเจ้าตัวได้บ่ายเบี่ยงที่จะชี้แจง ก่อนจะบอกว่าทางต่างประเทศให้ตนหยุดพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้
พร้อมกับยังบอกว่า "ทางนั้น" จะดำเนินการให้เอง ซึ่งคล้ายๆ กับคำตอบที่แทบจะไม่ได้อะไรเลยจากการที่เขาไปให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการ "โต๊ะข่าวบันเทิง" โดยบอกว่าทางค่ายหนังต่างประเทศให้ตนปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ?
...
นอกจากความความแคลงใจต่อเรื่องที่ว่านี้แล้ว ล่าสุดทางนักร้องหนุ่มก็ต้องตกเป็นข่าวที่ต้องถือว่าเป็นการเพิ่มความไม่น่าเชื่อถือให้กับตัวเขาเองยิ่งขึ้นไปอีก หลังเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมาเขาเพิ่งจะถูกดีเจ "เจเจ จามจุรี จูลี่ แคสเชอร์" หนึ่งในหุ้นส่วนของร้าน jamaree yak cafe gallery ย่านพระรามเก้าไปแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ที่สน.หัวหมาก
เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าจะถูกทางนักร้องหนุ่มโกงเงินค่าซื้อเต็นท์รวมถึงเงินค่าเช่าร้านรวมเป็นเงินจำนวนประมาณ 1.2 แสนบาท
โดยดีเจหญิงจากคลื่นอีซี่เอฟเอ็ม 105.5 เปิดเผยว่ารู้จักกับนักร้องหนุ่มราวๆ 4 ปีที่แล้วจากการไปทัวร์ที่ประเทศเนปาล ก่อนจะตัดสินใจลงทุนทำธุรกิจร่วมกันพร้อมกับเพื่อนๆ รวม 5 คน และได้เปิดร้านขึ้นเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
และในวันอังคารที่ 27 ก.ค.นี้เองที่ดีเจหญิงก็ได้ไปเจอกับหนุ่มนาธานที่ไปให้การที่สน.หัวหมากอย่างบังเอิญระหว่างที่กำลังนำเอกสารไปให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งในระหว่างที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น นักร้องหนุ่มก็ลุกขึ้นและวิ่งหนีไปทันทีหลังรู้ว่ามีผู้สื่อข่าวมา (อ่านรายละเอียดที่“นาธาน โอมาน” แจ้นหนีกลางโรงพักฉ้อโกงหุ้นส่วนดีเจสาว 1.3 แสน)
นอกจากนี้ทางดีเจหญิงยังได้เล่าถึงพฤติกรรมชวนมีพิรุธของนักร้องหนุ่มให้ฟังด้วยว่า...
"มีหนังสือเนชั่นจูเนียร์ที่เขามีพฤติกรรมแปลกๆ ก็คือเขามาสัมภาษณ์ พอเจเจจัดรายการเสร็จก็รีบมาเพื่อที่จะช่วยทำโรตีให้หนังสือถ่าย นาธานบอกเจเจว่า พี่บอกเขานะว่าธานไม่อยู่ นี่คืออารัญน้องชายนาธาน ให้เจเจโกหก ทุกวันนี้เรายังต้องโทรศัพท์กลับไปขอโทษเขาอยู่เลยเราก็อึ้งเขาพูดไปแล้วนี่คืออารัญ”
“แล้วอารัญก็เดินว่อนอยู่ในร้านใสหมวกใส่แว่นก็คือตัวนาธานนั่นล่ะ แต่ให้เราบอกว่าเป็นน้องชาย พี่ๆ นักข่าวที่เขามาเขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าจริงๆ เขาเป็นใคร แต่พูดไม่ออกมันจุกปาก" ดีเจเจเจเผย
ที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือคำบอกเล่าของเธอที่ว่า หนุ่มนาธานอยู่ที่ประเทศไทยตลอดแม้กระทั่งวันเกิดของเขาที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม โดยเจ้าตัวเพิ่งจะบินไปต่างประเทศเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน และกลับมาอีกทีวันที่ 13 กรกฎาคม
ซึ่งจะเห็นได้ว่าขัดแย้งกันอย่างชัดเจนกับที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ไว้ว่าไปถ่ายภาพยนตร์ที่ต่างประเทศตลอดเป็นระยะเวลานานร่วม 6 เดือน และนอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีรายงานด้วยว่า ทางนักร้องหนุ่มนั้นยังได้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีฉ้อโกงเกี่ยวกับในเรื่องของบริษัททัวร์ ของเขาที่ชื่อ บริษัทโอมานี ทัวร์ อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม มิใช่เพียงเรื่องที่เกิดขึ้นจะมากไปด้วยข้อสงสัยเท่านั้นในส่วนของประวัติของนักร้องหนุ่มคนนี้ก็ต้องถือว่ามีความน่าสนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวันเกิดที่ถูกระบุไว้ตามเว็บไซต์ต่างๆ เมื่อครั้งเจ้าตัวเป็นศิลปินในสังกัดอาร์เอสฯ (ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว) ว่า 14 พ.ค.2524
แต่เจ้าตัวกลับบอกกับดีเจเจเจเพื่อนร่วมหุ้นร้านอาหารที่กำลังมีคดีความกันอยู่ว่าตัวเองเกิดเมื่อ พ.ศ.2526 ขณะที่ดีเจหญิงยืนยันว่าในบัตรประชาชนของหนุ่มนาธานนั้นระบุไว้ว่าเขาเกิด พ.ศ. 2519
เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยอย่าง RANAJAYAKAR UNIVERSITY ที่เจ้าตัวอ้างถึงในหลายครั้งระหว่างให้สัมภาษณ์ว่าเรียนจบมานั้น เมื่อลองสืบค้นทั้งในส่วนของ Google และ Yahoo แล้วก็ค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจไม่น้อยเพราะไม่พบฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยที่ว่าแต่อย่างใด
ที่ผ่านมาไม่นานวงการบันเทิงบ้านเราก็เพิ่งจะเจอะเจอเรื่องราวในลักษณะนี้มาแล้วจากกรณีของ "อุ้ม พรพัชญา สุพรรณรัตน์" เกี่ยวกับการได้รับรางวัลจากเทศกาลหนังที่เมืองคานส์ (อ่านรายละเอียดได้ที่กรณี “อุ้ม คานส์” : สปีลเบิร์กเมืองไทย หรือ “สมพงษ์ 2” งานนี้ก็คงจะต้องรอดูกันว่าเรื่องนี้จะจบลงเช่นไร?
จบแบบเป็นจริงอย่างที่หนุ่ม "นาธาน โอมาน" บอก
จบแบบไม่ชัดเจนตามเหตุผลของความเข้าใจผิดอย่าง "น้องอุ้ม"
หรือจะจบด้วยการยอมรับผิดในท้ายที่สุดแบบ "สมพงษ์ เลือดทหาร" อดีตคนขับแท็กซี่ที่กุเรื่องเก็บกระเป๋าผู้โดยสารชาวต่างชาติได้กระทั่งกลายเป็นข่าวโด่งดังเมื่อปี พ.ศ.2540
โปรดติดตามด้วยใจระทึก!!
"เฉลิมไทย ณ พันทิป" นักสืบอิสระแห่งโลกไซเบอร์
“นาธาน” แหล 10 ดอก โกงเงิน ไม่ได้ไปถ่ายหนัง ปลอมตัว ปลอมเสียง โกงอายุฯลฯ
ในครั้งนั้นเจ้าตัวบอกว่ายังไม่สามารถบอกรายละเอียดของชื่อและบริษัทผู้สร้างหนังได้เหตุเพราะต้องปิดเป็นความลับ แต่ที่บอกได้ก็คือเป็นหนังไตรภาค แนวผจญภัย กำกับโดยผู้กำกับชื่อดัง "วูล์ฟ กัง" (Wolfgang Petersen) โดยรับบทเป็นตัวละครชื่อ "ซี เคีย" (C KIE) ประกบกับดาราชื่อดัง "บรูซ วิลลิส" และ "คริสติน่า ริชชี่"
โดยตกลงค่าตัวกันอยู่ที่(ภาคละ) 40 ล้านบาท
ส่วนสาเหตุที่ได้ไปเล่น เริ่มต้นจากการที่เขาได้นำเรื่องที่ตัวเองเขียนไว้ในหนังสือเรื่อง "ผมมันเด็กหลังเขา(หิมาลัย)" ส่งไปขายเป็นพล็อตหนัง และไปเข้าตาผู้กำกับจนถูกเรียกไปแคสฯ และได้เล่นเป็นตัวเอกในหนังดังกล่าว (อ่านรายละเอียดของข่าวได้ที่ "นาธาน" ฟัน 100 ล้านเล่นหนัง "วูล์ฟ กัง" ประกบ "บรูซ วิลลิส"
"หนังจะเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำจริงวันที่ 22 มกราคมปีหน้า จะมีการแถลงข่าวที่นิวยอร์ก สถานที่แรกในการถ่ายทำคือทะเลทรายซาฮาร่าแถบอาบูดาบี จอร์แดน จะคาบเกี่ยวหลายประเทศ และจะอยู๋ที่นั่น 4 เดือน เขาจะมีตู้คอนเทนเนอร์ให้อยู่" ส่วนหนึ่งของการสัมภาษณ์ที่เจ้าตัวพูดไว้ในรายการ "ที่นี่หมอชิต" เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายนปีที่แล้ว
หลังให้ข่าว เรื่องของหนุ่มนาธานก็หายไป ก่อนที่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเจ้าตัวก็ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าในการแสดงภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวอีกครั้งกับผู้สื่อข่าว "ซูเปอร์บันเทิง" โดยบอกว่าหลังใช้เวลาถ่ายทำนานกว่า 6 เดือนทั้งในโอมาน, อิหร่าน และจอร์แดน (เมืองโบราณเภตรา) ตอนนี้หนังมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 50% (เฉพาะภาคแรก)
พร้อมกันนี้เจ้าตัวยังได้บอกรายละเอียดของหนังเพิ่มเติมว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อว่า THE PRINCE OF RED SHOE เป็นของบริษัท BIGBLUE ในเครือทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ โดย คริสติน่า ริชชี่ เล่นเป็นเจ้าหญิงเทเรยัน, บรูส วิลลิส เป็นโจรทะเลทราย (ไม่บอกชื่อ) ส่วนตนแสดงเป็นชาวประมงอายุ 15 ปี ชื่อ อินฮัม (ครั้งแรกเจ้าตัวบอกว่าแสดงเป็น "ซี เคย") มี "วูลฟ์ กัง" และ "มูฮำหมัดซูอัต" เป็นผู้กำกับฯ (อ่านรายละเอียดได้ที่“นาธาน” เผยชีวิตฮอลลีวูด สุดกดดันเป็นแค่โนบอดี้ โดนผกก.ด่าจนร้องไห้)
ซึ่งในครั้งนี้เองที่ได้กลายเป็นประเด็นที่หลายคนตั้งกระทู้ถึงข้อสงสัยมากมายว่าเรื่องที่เจ้าตัวพูดมาทั้งหมดจะมีเค้ามูลของความเป็นจริงมากน้อยเพียงใด?
เพราะนับจากคำบอกกล่าวของเขาที่ว่าจะมีการเปิดกล้องในวันที่ 22 มกราคมของปีนี้ แต่จากการติดตามข่าวของผู้สื่อข่าวบันเทิงสายต่างประเทศ ที่ผ่านมากลับไม่พบว่าได้มีการรายงานข่าวถึงการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องที่ว่าแต่อย่างใด
ทั้งๆ ที่หากดูจากโครงสร้างของภาพยนตร์ ตัวผู้กำกับ และนักแสดงตามที่เจ้าตัวบอกแล้ว ต้องถือว่าหนังเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่ฟอร์มใหญ่ทีเดียว
นอกจากนี้เมื่อผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบไปยังเว็บไซต์ IMDb (The Internet Movie Database) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รวบฐานข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับภาพยนตร์ที่น่าเชื่อถือที่สุดแห่งหนึ่ง เมื่อนำมาเทียบกับคำให้สัมภาษณ์ของนาธาน โอมานแล้ว จะพบว่าไม่มีมีแม้แต่ส่วนเดียวที่ตรงกันเลย
เมื่อตรวจสอบข้อมูลภาพยนตร์ที่ทางค่าย 20th Century Fox จะสร้างหรือจัดจำหน่ายในปี 2009 จนถึงปี 2012 ก็ไม่พบชื่อของ THE PRINCE OF RED SHOE อย่างที่นาธานเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้แต่อย่างใด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้สำหรับหนังที่เจ้าตัวอ้างว่าเปิดกล้องไปตั้งแต่ต้นปี แต่กลับมาไม่ตัวตนอยู่ในฐานข้อมูลของค่ายหนังที่ใหญ่ระดับนี้
เมื่อตรวจสอบไปดูรายชื่อข้อมูลหนังของทั้งตัวผู้กำกับ วูล์ฟกัง ปีเตอร์เซน พร้อมทั้งนักแสดงที่เจ้าตัวอ้างว่าร่วมงานด้วยทั้งดารารุ่นเก๋า บรูซ วิลลิส และ ดาราสาว คริสตินา ริชี ต่างก็จะพบรายชื่อโปรเจ็คท์หนังที่ทั้ง 3 เตรียมจะร่วมงานอยู่มากมายในช่วง 3 ปีที่จะถึงนี้ แต่กลับไม่มีรายชื่อของหนังเรื่อง THE PRINCE OF RED SHOE อยู่ในข้อมูลของทั้ง 3 คนแม้แต่น้อย สวนทางกับที่นักแสดงหนุ่มไทยผู้นี้ได้ประกาศเอาไว้ว่าเคยลับฝีมือการแสดงกับผู้กำกับและดาราทั้งสองมาแล้ว
ที่ผิดสังเกตที่สุดก็คือค่ายหนังที่นาธานอ้างว่าอยู่เบื้องหลังการถ่ายทำครั้งนี้อย่าง BIGBLUE ที่เขาเคยชี้แจงว่าอยู่ในเครือ 20th Century Fox เมื่อค้นดูแล้วกลับพบเพียงชื่อที่ใกล้เคียงอย่าง Blue Sky Studios ที่ทำหนังแอนิเมชั่นให้กับค่าย 20th Century Fox (ผลงานล่าสุดอย่าง Ice Age 3 ที่กำลังทำเงินทั่วโลกอยู่ในเวลานี้) จะมีก็แต่เพียง Big Blue Record ซึ่งเป็นบริษัทค่ายเพลงของไทยในเครืออาร์เอส ที่นาธานเคยออกเทปด้วยกันเมื่อหลายปีก่อนเท่านั้น
และเมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามยังค่ายหนัง ทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ ประเทศไทย แหล่งข่าวได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้โทรศัพท์ตรวจสอบไปยังต้นสังกัดต่างประเทศแล้วได้รับคำตอบว่าทางค่ายฯ มิได้มีการลงทุนสร้างภาพยนตร์เรื่อง THE PRINCE OF RED SHOE แต่อย่างใด
"ก็มีนักข่าวสอบถามเข้ามาพอสมควร ซึ่งทางเราไม่อยากจะแสดงความคิดเห็นอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ อาจจะเป็นไปได้มั้ยว่าเป็นบริษัทเอกชนอื่นๆ ที่ทำ แต่ที่บอกได้ก็คือในส่วนของเราไม่มีชื่อหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน" แหล่งข่าวคนหนึ่งเปิดเผย
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดข้อถกเถียงถึงเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปหาเจ้าตัวเพื่อขอคำตอบโดยยืนยันว่าจะต้องมีเอกสารต่างมาด้วย ก็พบว่าเจ้าตัวได้บ่ายเบี่ยงที่จะชี้แจง ก่อนจะบอกว่าทางต่างประเทศให้ตนหยุดพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้
พร้อมกับยังบอกว่า "ทางนั้น" จะดำเนินการให้เอง ซึ่งคล้ายๆ กับคำตอบที่แทบจะไม่ได้อะไรเลยจากการที่เขาไปให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการ "โต๊ะข่าวบันเทิง" โดยบอกว่าทางค่ายหนังต่างประเทศให้ตนปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ?
...
นอกจากความความแคลงใจต่อเรื่องที่ว่านี้แล้ว ล่าสุดทางนักร้องหนุ่มก็ต้องตกเป็นข่าวที่ต้องถือว่าเป็นการเพิ่มความไม่น่าเชื่อถือให้กับตัวเขาเองยิ่งขึ้นไปอีก หลังเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมาเขาเพิ่งจะถูกดีเจ "เจเจ จามจุรี จูลี่ แคสเชอร์" หนึ่งในหุ้นส่วนของร้าน jamaree yak cafe gallery ย่านพระรามเก้าไปแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ที่สน.หัวหมาก
เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าจะถูกทางนักร้องหนุ่มโกงเงินค่าซื้อเต็นท์รวมถึงเงินค่าเช่าร้านรวมเป็นเงินจำนวนประมาณ 1.2 แสนบาท
โดยดีเจหญิงจากคลื่นอีซี่เอฟเอ็ม 105.5 เปิดเผยว่ารู้จักกับนักร้องหนุ่มราวๆ 4 ปีที่แล้วจากการไปทัวร์ที่ประเทศเนปาล ก่อนจะตัดสินใจลงทุนทำธุรกิจร่วมกันพร้อมกับเพื่อนๆ รวม 5 คน และได้เปิดร้านขึ้นเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
และในวันอังคารที่ 27 ก.ค.นี้เองที่ดีเจหญิงก็ได้ไปเจอกับหนุ่มนาธานที่ไปให้การที่สน.หัวหมากอย่างบังเอิญระหว่างที่กำลังนำเอกสารไปให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งในระหว่างที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น นักร้องหนุ่มก็ลุกขึ้นและวิ่งหนีไปทันทีหลังรู้ว่ามีผู้สื่อข่าวมา (อ่านรายละเอียดที่“นาธาน โอมาน” แจ้นหนีกลางโรงพักฉ้อโกงหุ้นส่วนดีเจสาว 1.3 แสน)
นอกจากนี้ทางดีเจหญิงยังได้เล่าถึงพฤติกรรมชวนมีพิรุธของนักร้องหนุ่มให้ฟังด้วยว่า...
"มีหนังสือเนชั่นจูเนียร์ที่เขามีพฤติกรรมแปลกๆ ก็คือเขามาสัมภาษณ์ พอเจเจจัดรายการเสร็จก็รีบมาเพื่อที่จะช่วยทำโรตีให้หนังสือถ่าย นาธานบอกเจเจว่า พี่บอกเขานะว่าธานไม่อยู่ นี่คืออารัญน้องชายนาธาน ให้เจเจโกหก ทุกวันนี้เรายังต้องโทรศัพท์กลับไปขอโทษเขาอยู่เลยเราก็อึ้งเขาพูดไปแล้วนี่คืออารัญ”
“แล้วอารัญก็เดินว่อนอยู่ในร้านใสหมวกใส่แว่นก็คือตัวนาธานนั่นล่ะ แต่ให้เราบอกว่าเป็นน้องชาย พี่ๆ นักข่าวที่เขามาเขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าจริงๆ เขาเป็นใคร แต่พูดไม่ออกมันจุกปาก" ดีเจเจเจเผย
ที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือคำบอกเล่าของเธอที่ว่า หนุ่มนาธานอยู่ที่ประเทศไทยตลอดแม้กระทั่งวันเกิดของเขาที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม โดยเจ้าตัวเพิ่งจะบินไปต่างประเทศเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน และกลับมาอีกทีวันที่ 13 กรกฎาคม
ซึ่งจะเห็นได้ว่าขัดแย้งกันอย่างชัดเจนกับที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ไว้ว่าไปถ่ายภาพยนตร์ที่ต่างประเทศตลอดเป็นระยะเวลานานร่วม 6 เดือน และนอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีรายงานด้วยว่า ทางนักร้องหนุ่มนั้นยังได้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีฉ้อโกงเกี่ยวกับในเรื่องของบริษัททัวร์ ของเขาที่ชื่อ บริษัทโอมานี ทัวร์ อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม มิใช่เพียงเรื่องที่เกิดขึ้นจะมากไปด้วยข้อสงสัยเท่านั้นในส่วนของประวัติของนักร้องหนุ่มคนนี้ก็ต้องถือว่ามีความน่าสนใจไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวันเกิดที่ถูกระบุไว้ตามเว็บไซต์ต่างๆ เมื่อครั้งเจ้าตัวเป็นศิลปินในสังกัดอาร์เอสฯ (ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว) ว่า 14 พ.ค.2524
แต่เจ้าตัวกลับบอกกับดีเจเจเจเพื่อนร่วมหุ้นร้านอาหารที่กำลังมีคดีความกันอยู่ว่าตัวเองเกิดเมื่อ พ.ศ.2526 ขณะที่ดีเจหญิงยืนยันว่าในบัตรประชาชนของหนุ่มนาธานนั้นระบุไว้ว่าเขาเกิด พ.ศ. 2519
เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยอย่าง RANAJAYAKAR UNIVERSITY ที่เจ้าตัวอ้างถึงในหลายครั้งระหว่างให้สัมภาษณ์ว่าเรียนจบมานั้น เมื่อลองสืบค้นทั้งในส่วนของ Google และ Yahoo แล้วก็ค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจไม่น้อยเพราะไม่พบฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยที่ว่าแต่อย่างใด
ที่ผ่านมาไม่นานวงการบันเทิงบ้านเราก็เพิ่งจะเจอะเจอเรื่องราวในลักษณะนี้มาแล้วจากกรณีของ "อุ้ม พรพัชญา สุพรรณรัตน์" เกี่ยวกับการได้รับรางวัลจากเทศกาลหนังที่เมืองคานส์ (อ่านรายละเอียดได้ที่กรณี “อุ้ม คานส์” : สปีลเบิร์กเมืองไทย หรือ “สมพงษ์ 2” งานนี้ก็คงจะต้องรอดูกันว่าเรื่องนี้จะจบลงเช่นไร?
จบแบบเป็นจริงอย่างที่หนุ่ม "นาธาน โอมาน" บอก
จบแบบไม่ชัดเจนตามเหตุผลของความเข้าใจผิดอย่าง "น้องอุ้ม"
หรือจะจบด้วยการยอมรับผิดในท้ายที่สุดแบบ "สมพงษ์ เลือดทหาร" อดีตคนขับแท็กซี่ที่กุเรื่องเก็บกระเป๋าผู้โดยสารชาวต่างชาติได้กระทั่งกลายเป็นข่าวโด่งดังเมื่อปี พ.ศ.2540
โปรดติดตามด้วยใจระทึก!!
"เฉลิมไทย ณ พันทิป" นักสืบอิสระแห่งโลกไซเบอร์
“นาธาน” แหล 10 ดอก โกงเงิน ไม่ได้ไปถ่ายหนัง ปลอมตัว ปลอมเสียง โกงอายุฯลฯ
