xs
xsm
sm
md
lg

นางไม้-เปนชู้กับผี(?)

เผยแพร่:   โดย: โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล

หากการเป็น ‘สาวก’ ของคนทำหนังสักคน หมายถึง การชื่นชอบชื่นชมหนังของผู้กำกับคนนั้นๆ แบบสุดลิ่มทิ่มประตู เขาทำอะไรให้ดูก็ดูหมด ดูแล้วก็พร้อมจะชอบทั้งหมด ชอบไปหมดโดยไม่สนและไม่ใส่ใจว่าใครจะคิดกับมันอย่างไร – ดิฉันก็ห่างไกลจากการเป็นสาวกของ คุณเป็นเอก รัตนเรือง ลิบลับ

ดิฉันดูหนังคุณเป็นเอกไม่ครบทุกเรื่อง (ก่อนหน้านี้หยุดตัวเองไว้ที่ ‘เรื่องรัก น้อย นิด มหาศาล’) และเรื่องที่พูดได้เต็มปากว่า “ชอบ” ถึงวันนี้ก็มีแค่เรื่องเดียวคือ ฝัน บ้า คาราโอเกะ พ้นจากนั้นแล้ว หนังของคุณเป็นเอกมักจะทำให้ดิฉันมีความเห็นไปทาง “ก็ดีนะ แต่...” อยู่เสมอ

กับ ‘นางไม้’ ดูจบแล้วดิฉันมีคำว่า “แต่” ตัวใหญ่ทดไว้ในหัวตัวหนึ่ง

แต่กระนั้น ถ้าใครมาถามว่าชอบหนังเรื่องนี้หรือไม่ ดิฉันก็ตอบได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจว่า ชอบ – อย่างน้อยที่สุด มันก็เป็นหนังไม่กี่เรื่องในรอบหลายปี ที่ดิฉันมีความคิดที่อยากจะไปดูซ้ำเพื่อพิสูจน์ว่า คำว่า ‘แต่’ ที่ดิฉันเคยค้างคากับหนังไว้ ท้ายที่สุดจะได้รับการชำระสะสางลงบ้างหรือไม่และอย่างไร

สมมติว่าคุณไม่เคยทราบข้อมูลใดๆ ของหนังมาก่อนเลย – ‘นางไม้’ เป็นภาพยนตร์เรื่องยาวลำดับที่ 7 ของคุณเป็นเอก รัตนเรือง

หนังไปเปิดตัวที่เทศกาลหนังเมืองคานส์เมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยได้รับเลือกให้เข้าฉายในสาย Un Certain Regard – ซึ่งไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจของผู้จัดงานหรือไม่ก็ตาม มันเป็นสายที่เป็นศูนย์กลางชุมชนของ ‘หนังแหวกๆ’ ทั้งหลายไปแล้ว (‘สุดเสน่หา’ ของ คุณอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล เข้าฉายและได้รับรางวัลในสายนี้เมื่อปี 2002 ขณะที่ Hotel ของ เจสสิกา เฮาส์เนอร์ ที่เคยทำให้ผู้ชมบ้านเราเกิดอาการ ‘เหวอแตก’ มาแล้ว ก็เคยไปฉายในสายนี้เช่นกัน ในปี 2004)

โครงเรื่องเนื้อหาของหนัง พูดให้สั้นที่สุด มันเล่าถึง นพ กับ เมย์ สามี-ภรรยาที่อยู่กินกันมาหลายปี และถึงวันนี้ ชีวิตคู่ก็มีอันต้องสั่นคลอน เมื่อเมย์ดอดไปมีสัมพันธ์ลับกับ กรณ์ ผู้เป็นทั้งเพื่อนร่วมงานและเจ้านาย ทั้งที่ฝ่ายชายก็มีภรรยาเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว

วันหนึ่ง นพชวนเมย์เดินทางเข้าป่า เป้าหมายหนึ่งเพราะต้องการถ่ายภาพป่าชอุ่มต้นไม้ชื่นชุ่มสำหรับงานของตน ส่วนอีกเป้าหมาย เขาหวังจะให้มันเป็นช่วงเวลาพักผ่อนของทั้งตัวเองและภรรยาด้วย

อย่างไรก็ตาม ที่สุดแล้ว การเดินทางเข้าป่าครั้งนี้กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของทุกคน เมื่อจู่ๆ ตอนกลางดึกคืนค่ำวันหนึ่ง นพหายตัวไปอย่างลึกลับ เมย์ออกตามหาให้จ้าละหวั่น และนับตั้งแต่ตรงนั้น เรื่องลี้ลับชวนฉงนก็ทยอยเกิดขึ้นตามต่อมาอีกหลายพะเรอเกวียน

‘นางไม้’ ที่ดิฉันดู เป็นฉบับสั้น ไม่ใช่ฉบับฉายคานส์ซึ่งเท่าที่ทราบ ยาวขึ้นอีกราว 10 นาที (ฉบับคานส์ฉายอยู่ 2 โรง คือ Paragon Cineplex และ SF เซ็นทรัลเวิลด์)

ดิฉันไปดูหลังหนังเข้าฉายได้ 3 วัน (รอบสื่อมวลชนน่าจะก่อนนั้นสัก 2 วัน) ตลอด 3-5 วันนั้น มีเสียงข่มขู่เขย่าขวัญจากคนรู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง –ซึ่งโดยมากบังเอิญอยู่ในฝั่งผู้ที่ไม่ปลื้มหนังเท่าใดนัก- แพลมผ่านเข้าหูเป็นระยะๆ ข้อหาหลักๆ ที่หนังได้รับ สรุปรวมความมีอยู่ 2 ประเด็น คือ หนึ่ง ดูแล้วหลับ และสอง ดูแล้วปวดกะบาล เพราะมันเป็นหนังที่ “ดูไม่รู้เรื่อง”

ผลการพิสูจน์จริง ดิฉันเอาตัวรอดจากข้อหาทั้งสองของหนังมาได้ – แม้จะอย่างไม่สง่าผ่าเผยเท่าใดนัก

ในแง่ของความบันเทิง ครึ่งชั่วโมงแรกของหนังถือเป็นช่วงเวลาที่โหดมากสำหรับดิฉัน ดิฉันไม่ตื่นเต้นกับภาพลองเทคในฉากเปิดเรื่อง และไม่เพลิดเพลินกับการดูนพและเมย์ทำกิจกรรมส่วนตัวของตนในป่า (ซึ่งเป็นได้ว่า โดยพื้นฐานรสนิยมส่วนตัว ดิฉันไม่มีความอดทนมากมายต่อหนังที่เล่าเรื่องด้วยจังหวะและลีลาเนิบๆ แบบนี้อยู่แล้ว แต่ที่มากกว่านั้นก็คือ ตลอด 30 นาทีนั้น ดิฉันรู้สึกว่าหนังกำลังเล่าไปเรื่อยโดยไม่รู้ว่ามันจะพาเราไปไหน – และบังเอิญดิฉันก็อยากรู้ว่ามันจะพาไปไหน)

อย่างไรก็ตาม พ้นจากความอึดอัดทรมาน ‘เกือบร่วง’ นั้นไปแล้ว ทันทีที่นพหายตัวไปและเมย์เริ่มออกตามหา (พูดอีกแบบก็คือ ทันทีที่หนังเริ่ม ‘มีเรื่อง’) หนังก็ดึงความสนใจของดิฉันให้กลับมาจดจ่ออยู่ที่มันได้ตลอด ตลอด 60 นาทีที่เหลือของ ‘นางไม้’ นั้นน่าติดตาม มันมีทั้งการทิ้งร่องรอยของความพิศวงดึงดูดผู้ชมให้เดินตามมันต่อไปเพราะอยากรู้ว่าที่สุดแล้วเรื่องราวทั้งหมดเป็นเช่นไรและจะลงเอยเช่นไร และอารมณ์โรแมนติกเย้ายวนของคู่รัก ที่ครั้งหนึ่งคล้ายๆ จะหมดรักกัน ทว่าวันนี้พวกเขากำลังจะเริ่มต้นใหม่

ในแง่มุมหลัง มีสองฉากที่ดิฉันชอบมาก หนึ่งคือ ตอนที่นพเอาดินโปะป้ายเมย์จนเธอเปรอะไปหมดทั้งตัว เพื่อที่เธอจะออกไปทำงานไม่ได้ และจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้หายคิดถึง กับอีกฉากคือตอนที่เมย์ไปซื้อของในซูเปอร์มาร์เกต ข้าวของที่เธอเลือกซื้อเป็นของใช้สำหรับผู้ชายที่เธอซื้อให้กับสามีเสียเป็นส่วนใหญ่ ทว่าขณะกำลังรอจ่ายเงิน เธอก็เหลือบไปเห็นถุงยางอนามัยแขวนเรียงอย่างเขินอายอยู่ใกล้ๆ เมย์ตัดสินใจหยิบมันติดมาด้วยหลายอัน...แน่นอน ของชิ้นนั้นเธอซื้อมันให้กับ ‘เราทั้งคู่’

ประเด็นที่ว่าหนังดูไม่รู้เรื่อง ถ้าการดูไม่รู้เรื่องหมายถึง การที่หนังเล่าเรื่องอย่างสับสนจนผู้ชมจับต้นชนปลายไม่ถูกและไม่สามารถเรียบเรียงความคิดจนนำเรื่องราวที่ได้ชมไป ไปถ่ายทอดให้ใครฟังต่อได้ – ดิฉันไม่คิดว่า ‘นางไม้’ คุกคามทำร้ายระเบียบลำดับความคิดของผู้ชมขนาดนั้น

จริงอยู่ หนังมีเนื้อหาส่วนที่คล้ายๆ จะเป็น ‘เรื่องลวง’ ซ้อนทับกับ ‘เรื่องจริง’ อยู่บ้าง อีกทั้งยังมีการนำภาพจากอีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเล่าผ่านมุมมองของตัวละครอีกตัวหนึ่ง มาแทรกคั่นเรื่องราวที่กำลังเล่าผ่านอีกคนหนึ่งบ้างประปราย (เช่น ขณะที่เมย์กำลังฟันต้นไม้ฉับๆ อย่างโกรธแค้น หนังก็แทรกด้วยภาพของนพที่กำลังเศร้า สวมกอดประคองร่างนางไม้ที่อยู่ในสภาพเลือดท่วม)

อย่างไรก็ตาม ในความเห็นส่วนตัว ดิฉันเชื่อว่าทั้งหมดนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของการที่คนทำ ‘คิดมาแล้ว’ ไม่ใช่แค่มั่วไปงั้นๆ ไม่ใช่สักแต่ว่าทำ ไม่ใช่ทำไม่เป็น ทว่าหนังมีระเบียบกลไกในการเล่าเรื่องของมันอยู่ แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่า ทั้งหลายทั้งปวง เรียกร้องความตั้งใจในการดู ความพยายามในการทำความเข้าใจ เหนืออื่นใด การ ‘ปล่อยวาง’ ในจุดที่ควรปล่อย ไม่น้อยเหมือนกัน

พูดให้ชัดกว่านั้นก็คือ ลำพังการลำดับเหตุการณ์เพื่อตอบคำถามทำนอง ใคร? ทำอะไร? ที่ไหน? อย่างไร? กับ ‘นางไม้’ นั้น มันไม่ได้ยากจนถึงกับเป็นไปไม่ได้เอาเสียเลย

แต่คำถามที่สำคัญกว่านั้น ท้าทายมากกว่านั้น และสำหรับดิฉันเอง เก็บเอามาคิดต่ออยู่หลายวัน ก็คือ คำถามที่ว่า ตกลงนางไม้คืออะไร? คือผี? คือผู้หญิงที่เคยถูกเพศตรงข้ามกลุ้มรุมทำร้าย (ในฉากเปิดเรื่อง) และเนรเทศตัวเองเข้าสู่ป่าเพื่อรอวันจะชำระแค้น? (ตามคำโปรย ‘รอคอยเพื่อทวงคืน’) หรือคือภาพในมโนสำนึกของตัวละครที่รู้สึกผิดบาปในความผิดที่ตนได้กระทำ?

เมื่อแรกที่คิดถึงมันใหม่ๆ ดิฉันพยายามหาข้อสรุปไปทางใดทางหนึ่งใน 3 ทางข้างต้น (ก. ผี / ข. ผู้หญิงที่ถูกขับดันด้วยพลังแค้น / ค. ภาพในความคิดของตัวละคร) แล้วพบว่าไม่สามารถไปได้สุดเลยสักทาง พูดกันอย่างสรุป ดิฉันเห็นว่านางไม้ในเรื่อง มีการกระทำบางอย่างที่ ‘เกินผี’ ขณะเดียวกัน ก็มีบางอย่างที่ ‘เกินคน’ และอีกไม่น้อยที่ดูจะจับต้องได้เกินกว่าจะเป็นแค่ ‘ภาพในความคิด’

อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นจะต้องหาข้อสรุปกับตัวเองให้ได้จริงๆ ดิฉันขอตัดข้อ ข. ทิ้ง แล้วคงไว้เพียง ก. กับ ค.

กล่าวคือ ในทางหนึ่ง ดิฉันเห็นว่าหนังใช้นางไม้ในฐานะตัวแทนความลี้ลับในป่าลึก เป็นภูตผีวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ในป่า (ตามเรื่องประเภท “เข้าป่าไป 6 แต่กลับออกมาแค่ 5” อย่างที่เจ้าหน้าที่ดูแลป่าเล่าไว้) ขณะเดียวกัน ในอีกด้านหนึ่ง หนังก็ใช้นางไม้ในฐานะภาพในห้วงความคิดของตัวละคร – ไม่ว่าจะเป็นตัวนพ ที่เกิดความรู้สึกผูกพันเชื่อมโยงกับต้นไม้ใหญ่อันเป็นที่สิงสถิตย์ของนางไม้ ในฐานะที่ต่างฝ่ายต่างตกอยู่ในฐานะของผู้ที่ ‘ถูกโดดเดี่ยว’ เหมือนกัน

ทำนองเดียวกัน การที่กรณ์เห็นนพปรากฏตัวมาพูดคุยกับตนในช่วงท้าย –ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หนังทำให้ผู้ชมเข้าใจว่า เขากลายเป็นพวกเดียวกับนางไม้ไปแล้ว- ก็น่าจะเป็นได้ว่า มันคือภาพในห้วงสำนึกของตัวกรณ์เอง ที่กำลังถูกก่อกวนด้วยความรู้สึกผิดที่ตัวเองทำกับครอบครัวของนพ-เมย์และภรรยาของตัวเองไว้ และจิตสำนึกที่ปรารถนาจะได้รับการให้อภัย ก็ก่อให้เกิดภาพในหัวว่า นพปรากฏตัวขึ้นเพื่อยกโทษให้กับตัวเอง อีกทั้งยังชี้แนะเขาว่า ควรจะกลับไปหาภรรยาเสีย (ซึ่งน่าจะเป็นหนทางที่จิตสำนึกฝ่ายรู้ถูกรู้ควรของกรณ์อยากจะให้เขาทำ)

อย่างไรก็ตาม จะเรียกว่าเป็นการ ‘ออกตัว’ ก็คงใช่ ทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมา ควรจะต้องเน้นย้ำขีดเส้นใต้ไว้ด้วยว่า เป็นความเห็นส่วนตัวของดิฉันล้วนๆ ถูกบ้างหรือไม่นั้นไม่ทราบ หรืออาจผิดทั้งหมดเลย ดิฉันก็ไม่รู้

เท่าที่พอจะรู้อยู่บ้างก็มีแต่เพียงว่า การคิดอ่านกับหนัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตามนั้น เป็นเรื่อง ‘เฉพาะบุคคล’ อีกทั้งความรู้สึกว่าชอบ-ไม่ชอบหนังสักเรื่องนั้น ถึงที่สุดแล้วดิฉันเห็นว่ามันเป็นเรื่อง ‘ก็แล้วแต่’
พูดกันตามจริง ดิฉันเชื่อว่าการจะชอบหรือไม่ชอบหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า หนังเรื่องนั้นๆ ‘ถูกรสนิยม’ ของเราหรือไม่

ไม่เกี่ยวว่าใครรสนิยมดี-ไม่ดี ไม่เกี่ยวว่าใครมีความรู้เรื่องหนังมาก-น้อย และยิ่งไม่ใช่เรื่องที่ว่าหนังเรื่องใดสูงส่งหรือเรื่องใดต่ำต้อยเกินไปสำหรับใคร

เหนืออื่นใด ดิฉันคิดว่า มันไม่เสมอไปที่ความชอบ-ไม่ชอบจะต้องสัมพันธ์กับการดูรู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่อง
ที่ผ่านมา มีหนังหลายเรื่องทีเดียวที่ดิฉันไม่สามารถเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้ และไม่บังอาจพูดว่าอ่านทุกเหลี่ยมมุมของมันได้อย่างทะลุปรุโปร่ง อย่างไรก็ตาม ดิฉันก็ยังชอบหนังเหล่านั้นได้ และรู้สึกว่ามันท้าทายที่จะพยายามคุ้ยค้นหาความกระจ่างในด้านที่ไม่รู้มุมที่ไม่เข้าใจเหล่านั้น

และ ‘นางไม้’ ก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น