“ไรวินทร์” แจ้นแก้ข่าวมีส่วนรู้เห็นกับงาน “PHUKET INTERNATIONNAL FASHION WEEK 2009” ยกเลิกงานนางแบบดังกะทันหัน จนเหล่านางแบบแท็กทีมออกมาโวย เจ้าตัวลั่น ถอนตัวออกมานานแล้ว เพราะความเห็นไม่ตรงกัน แล้วเจ้าของงานตัวจริงก็ไม่ใช่ตน แต่เผย เจ้าของงานมีปัญหาเรื่องงบประมาณจริง
จู่ๆ ก็งานเข้า สำหรับ “วิน ไรวินทร์ จิรพลเศรษฐ์” ที่ถูกเพ่งเล็งว่ามีส่วนรู้เห็น กรณีที่เหล่านางแบบชื่อดัง อันประกอบไปด้วย โย ยศวดี, เข็ม รุจิรา, มาวิน ทวีผล, มาร์ค มาร์คุส และ เดือน นิวัตรา ขำแก้ว และห้องเสื้อชื่อดังอย่าง คูนิต้า(KUNITA) ออกมาโวยเจ้าของงาน “PHUKET INTERNATIONNAL FASHION WEEK 2009” ว่ายกเลิกงานกะทันหัน แล้วเปลี่ยนไปจ้างนายแบบ-นางแบบอินเตอร์แทน ทำให้สูญเสียรายได้ไปมหาศาล เนื่องจากต้องแคนเซิลงานที่อื่น เป็นเวลากว่า 7 วันเพื่อมารับงานนี้ แต่จู่ๆ ก็โทร.มายกเลิกก่อนที่จะมีงานเพียงไม่กี่วัน
งานนี้คนที่ตกเป็นเป้าโจมตี ก็เลยหนีไม่พ้นหนุ่มวิน เนื่องจากในวันแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สยามพารากอน เจ้าตัวเปิดตัวในฐานะเป็นคนจัดงานดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้หนุ่มวินถึงกับร้อนใจ ต้องรีบออกมาแก้ข่าวให้ตัวเองเป็นการด่วน ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวก้องกับงานนานแล้ว เพราะได้ถอนตัวออกจากหน้าที่คนประสานงานให้หลังวันแถลงข่าวเพียงไม่กี่วัน ด้วยเหตุผลที่ว่าความคิดเห็นไม่ตรงกัน
“วินถอนตัวตั้งแต่หลังงานแถลงข่าวครั้งที่แล้ว ที่พารากอน ก็คือหลังจากงานแถลงข่าวสักวันสองวัน มันเกิดจากการคุยกันที่ไม่ลงล็อคนิดหน่อยความเห็นไม่ตรงกัน แล้วมันก็มีอะไรอีกเยอะหลายๆ เรื่อง โดยส่วนตัวแล้วผมไม่มีปัญหาเรื่องเงิน ผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับด้านบัญชีหรือว่าด้านเงินเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่มีรายรับเลย ไม่มีไม่เกี่ยวกับด้านรายรับอะไรของเขาเลย”
“เหตุผลจริงๆ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความคิดเห็นระหว่างผมกับเขา กับระบบงานที่ผมคิดว่าควรจะเป็นยังไง ระบบงานที่ตัวผมอยากจะดำเนินการยังไง มันไม่ตรงกับระบบงานของบริษัทเขา มันเลยทำให้เกิดข้อแตกต่างกันขึ้น ผมก็เลยตัดสินใจไม่ยุ่งกับเขาดีกว่า ผมก็เลือกที่จะถอนตัวดีกว่า เพราะผมก็เป็นแค่ส่วนประกอบนึงของงานนี้ ไม่ใช่เป็นตัวใหญ่ที่คอยสั่งงานให้ทุกๆ อย่าง”
“เจ้าของงานจริงๆ คือคุณไตรศร บริษัทฟินิกซ์ ตอนนั้นผมก็มีหน้าที่ประสานงาน เหมือนกับพีอาร์ แถลงข่าว อธิบายถึงงานต่างๆ ว่าจะมีอะไร เหมือนกับออกหน้ากับสื่อแทน ว่างานนี้จะมีอะไรยังไงบ้าง ส่วนกับนางแบบที่ผมประสานไปก็จะเป็นคุณโดม คือส่วนมากที่เราติดต่อก็จะเป็นพวกศิลปิน แต่ที่ชวนจริงๆ คนแรกเลยคือพี่ กุ้ง คูนิต้า(เจ้าของห้องเสื้อชื่อดัง)ที่เรามีความสนิทกันอยู่แล้ว เราก็มีการติดต่อคุยกันต่อมา”
“ตั้งแต่ไม่ยุ่งปุ๊บผมก็โทร.ติดต่อบอกพี่กุ้งแล้วว่า พี่กุ้งผมถอนตัวนะ พี่กุ้งตอนนั้นยังไม่ได้ทำงานออกมาเยอะ ผมก็บอกว่าพี่กุ้งจะถอนไหม เดี๋ยวผมจะคุย เคลียร์ให้ทุกอย่าง พี่กุ้งเขาก็บอกว่า ไม่ได้หรอกเขาออกข่าวไปหมดแล้ว ห้องเสื้อเขาชื่อเสียงใหญ่ ถ้าออกข่าวไปแล้วคงต้องทำตามนั้น เราก็เข้าใจเขาจุดนั้น”
“ที่ผ่านมาตอนผมจะถอนตัวผมบอกทุกคนเลย อย่างพี่กุ้งตอนแรกเขาติดเรื่องนางแบบ พี่กุ้งเขาสเปคว่าจะเป็นดาราทั้งหมด ผมก็ติดต่อทุกคนให้ พอเขาลดลงมาผมก็บอกกับทางพี่กุ้ง ก็ช่วยคุยไปคุยมาให้ได้เยอะที่สุด พอตอนหลังมันน้อยเกิน พี่กุ้งเขาก็ไม่ได้ตามสเปค ทางนั้นเขาก็ติดขัดเรื่องของเขาด้วย”
ถูกมองว่าไปมีส่วนได้ส่วนเสียกับเจ้าของงาน งานนี้หนุ่มวินรับแย้ง ส่วนได้ไม่มีมีแต่ส่วนเสีย เพราะทุกคนเข้าใจว่าเป็นคนจัดงานนี้
“ไม่มีส่วนได้ มีแต่ส่วนเสียที่ดูเหมือนว่าผมเป็นคนจัดงาน เพราะว่าผมรับหน้าที่เป็นคนประสานงานกับติดต่อเชิญสื่อมวลชน แต่พอหลังจากงานแถลงข่าว จะเห็นเลยว่าผมไม่ออกหน้าเลย แล้วกับคนที่สนิทๆ ผมก็จะบอกเขาว่า ผมถอนตัวแล้วนะ ไม่ได้ทำแล้วกับงานนี้”
“ก็เลยต้องรีบมาชี้แจงตรงนี้ไง ส่วนได้ส่วนเสียอะไรผมไม่มีแล้ว ผมถอนตัวตั้งนานแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้บอกข่าวไป กลัวว่าจะไปกระทบถึงงานเขา เพราะว่างานเขายังคงจัดยังมีอยู่ ส่วนเรื่องที่ได้ข่าวมาว่าเขามีการแคนเซิลนางแบบ มันเป็นส่วนที่ผมไม่ได้ติดต่ออยู่แล้ว นางแบบต่างๆ ผมไม่เคยติดต่อเรื่องงานกับเขาอยู่แล้ว ก็เลยไม่เกี่ยวกับผม”
“แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบเลยว่าจะยังไง เพราะทางเขาเองก็ยังไม่มีการติดต่อมา ที่ไปคือเขาติดต่อมาผ่านผู้จัดการ แล้วเราก็ไปในฐานะที่ไปเดินแฟชั่นโชว์กับเป้ยสองคน แต่ ณ ตอนนี้ก็ยังไม่มีการคอนเฟิร์มตั๋วเครื่องบินมา แล้วงานก็จะมีพรุ่งนี้(24)แล้วด้วย”
มีข่าวว่าวันงานแถลงข่าวที่ผ่านมา วินต้องควักเงินตัวเองจ่ายให้กับนางแบบด้วย? เจ้าตัวอึกอักตอบ...
“ไม่มีนะครับ โดยส่วนตัวรู้จักกับทีมงานเขาบ้าง วันนั้นบางทีเหตุการณ์จำเป็น แต่ไม่ถึงกับเรียกว่าเข้าเนื้อหรอก อย่าเรียกว่าช่วยออกเลย คือตอนนั้นงานมันยังไม่จบ ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ถ้าสมมติว่าต้องรอดูงานเขาก่อน (วันนั้นออกค่าอะไรไปบ้าง?) คือผมก็ช่วยเรื่องค่าตัวนางแบบนั่นแหละ ก็คือนางแบบวันนั้นเขาจ่ายตามหลัง ทางคุณไตรเขาจ่ายเป็นบางส่วน แล้วเขาก็จ่ายตามหลังไปบางส่วน คนเขาก็เลยคิดว่าผมออกมั้ง ผมไม่ได้ออกค่าอะไร มันก็เป็นเหมือนทั่วไปธรรมดา พอดีงานเขายังจัดไม่เสร็จไง แต่อย่าเพิ่งไปนับของเขาเลย ต้องรอดูสรุปงานเขาก่อน...”
บอกไม่ได้ซีเรียสกับเงินที่ออกไปก่อน แต่เห็นใจทั้งเจ้าของงานและฝั่งที่ถูกแคนเซิลมากกว่า
“จริงๆ แล้วผมไม่ได้รออยากได้คืนนะ ผมไม่ได้ซีเรียสอะไรกับเงินส่วนตรงนั้น เพียงแต่ลุ้นว่าให้ตัวเขาทำงานครั้งนี้ให้สำเร็จ และก็ไม่เสื่อมเสียชื่อเสียงของเขาให้มากนัก และก็ไม่ให้สะเทือนแต่ละคน ตอนนี้ลุ้นอย่างเดียวเอง นี่ก็สะเทือนพี่กุ้งไปคนนึงแล้ว ก็เดี๋ยวจะตามไปขอโทษเขา เมื่อวานก็ขอโทษไปรอบนึงแล้ว คือจริงๆ แล้วเราก็เห็นใจทั้งสองฝ่าย เขาห้องเสื้อใหญ่ดัง เขาก็ต้องมีสเปคในการจัดงาน แต่ทางนี้เขาให้เหตุผลว่า ติดเรื่องงบประมาณเรื่องอะไร แต่ก็เอาใจช่วยทั้งสองฝ่าย”
“เท่าที่รู้ ระบบของเขา เงินลงทุนเป็นร้อยล้าน ก็คือเขาคงไปรวมงานแรกกับงานหลัง งานหลังที่จะมีเรนกับวันเดอร์เกิร์ล อันนั้นผมได้ยินมาจริงว่ามันจะมี เขาก็ประชุมงานนัดกันก่อน ผมทราบแค่ว่าเขามีปัญหาเรื่องงบประมาณ ลึกกว่านั้นไม่ทราบ เพราะกับคุณไตรศรผมก็ไม่ได้สนิทมาก แค่รู้จัก ไม่ได้สนิทถึงขั้นไปรู้ระบบการเงินการบัญชีเขา แค่สนิทว่าคนนี้ชื่อคุณไตรศรเรารู้จัก เคยเจอกัน ก็เจอกันเรื่องของงาน”
