เชียงราย – ชี้วิกฤตเศรษฐกิจทำคนถูกยึดทรัพย์พุ่ง ทำให้สินทรัพย์ในมือกรมบังคับคดีเพิ่มสูงต่อเนื่อง ตั้งเป้าขายให้ได้ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 120,000 ล้านบาท แม้ติดปัญหาผู้ซื้อลดลงหลังแบงก์คุมเข้มสินเชื่อก็ตาม เผยคนเชียงรายถูกยึดทรัพย์บ้าน-ที่ดินสูงกว่า98%
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ได้จัดสัมมนา "สื่อมวลชนสัญจร กรมบังคับคดี ครั้งที่ 1" ขึ้น ณ ห้องประชุมโรงแรมเดอะมันตรีนี่ บูติค รีสอร์ท อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีนายสิรวัต จันทรัฐ อธิบดีกรมบังคับคดี เป็นประธานและแจ้งวัตถุประสงค์ในการจัดงาน เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรู้ถึงโครงสร้างการทำงานของกรมบังคับคดีตลอดจนสถานการณ์เกี่ยวกับการบังคับคดีในปัจจุบันด้วย
นายสิรวัต เปิดเผยว่า วิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลต่อการฟ้องร้องบังคับคดีมากขึ้น โดยพบว่าปริมาณทรัพย์สินที่เข้าสู่ระบบบังคับคดีและการผลักดันทรัพย์สินออกจากการบังคับคดีสูงขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามปริมาณการซื้อก็ลดลง สาเหตุคงมาจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เพื่อลดความเสี่ยงโดยเฉพาะสินเชื่อด้านอสังหาริมทรัพย์
จากการประเมินพบว่าผู้ที่เข้าซื้อทรัพย์ราว 80-90% มีความจำเป็นต้องขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน นั่นหมายความว่าผู้ซื้อทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีปัญหาทางการเงิน นอกจากผู้ซื้อทั่วไปดังกล่าวแล้วยังมีสถาบันการเงินที่ซื้อทรัพย์เอาไว้เอง แต่กลุ่มนี้ก็ชะลอการซื้อและไม่เก็บทรัพย์ไว้กับสถาบันแต่จะเก็บไว้ที่กรมบังคับคดีแทน
นายสิรวัตร กล่าวว่า ในปี 2551 กรมบังคับคดีตั้งเป้าในการผลักดันทรัพย์สินออกไปประมาณ 110,000 ล้านบาท แต่สมารถดำเนินการผลักดันสินทรัพย์ได้มากกว่าเป้าคือจำนวน 119,990 ล้านบาท คิดเป็น 109.08% ส่วนปีงบประมาณ 2552 มีเป้าหมายที่จะผลักดันทรัพย์สินจำนวน 120,000 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินการในช่วงไตรมาสแรก สามารถดำเนินการได้แล้วจำนวน 47,818 ล้านบาท ไตรมาสสองจำนวน 21,985 ล้านบาท รวมสองไตรมาสผลักดันทรัพย์สินไปได้แล้วจำนวน 69,800 ล้านบาท
ส่วนสถิติคดีล้มละลายในปีงบประมาณปี 2551 พบว่ามีคดีที่ค้างดำเนินการจากปีงบประมาณ 2550 จำนวน 38,862 เรื่อง ทุนทรัพย์ 3.6 ล้านบาท คดีเกิดใหม่มีจำนวน 49,381 เรื่อง ทุนทรัพย์ 6.7 แสนล้านบาท และคดีที่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จมีจำนวน 34,408 เรื่อง ทุนทรัพย์รวม 6.8 แสนล้านบาท สำหรับในไตรมาสที่ 1-2 ปี 2552 มีคดีที่ค้างมาจากปีก่อนรวมจำนวน 57,403 เรื่อง ทุนทรัพย์รวม 3.69 ล้านล้านบาท เป็นคดีเกิดใหม่จำนวน 12,443 เรื่อง ทุนทรัพย์รวม 2.9 แสนล้านบาท สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จจำนวน 15,222 เรื่องทุนทรัพย์ รวม 2.78 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดีมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงได้เปิดให้บริการระบบค้นคว้าหาทรัพย์ ที่ประกาศขายทอดตลาดทางอินเตอร์เน็ต ประชาชนสามารถเข้าไปค้นหารายการทรัพย์สินที่ประกาศขายได้ตามประเภทของทรัพย์ ได้อย่างรวดเร็วทันใจ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปสอบถาม
นอกจากนี้กรมบังคับคดียังได้จัดทำโครงการพัฒนาระบบงานบังคับคดีแพ่ง และระบบคลังข้อมูล เพื่อพัฒนาและปรังปรุงระบบงานเพื่อใช้ในการปฏิบัติงานและบริการประชาชนด้านบังคับคดีแพ่ง ได้แก่ ระบบยึดทรัพย์สิน ระบบอายัดทรัพย์สิน และระบบจำหน่ายทรัพย์สิน รวมทั้งระบบงานสนับสนุนอื่นๆ เพื่อให้การปฏิบัติงานและการบริการประชาชนมีความรวดเร็วขึ้น คาดว่าทั้งหมดจะแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2553
ด้านนาย ธนพร โปธานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดี จ.เชียงราย กล่าวว่า ทรัพย์ที่ยึดได้ใน จ.เชียงราย ร้อยละ 98 เป็นประเภทที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง โดยแบ่งเป็นบ้านและที่อยู่อาศัยร้อยละ 78 ที่ดินสำหรับทำการเกษตรร้อยละ 22 สำหรับแนวโน้มในอนาคตคาดว่าจะมีการยึดทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ แต่ในทางกลับกันสำนักงานบังคับคดีก็สามารถผลักดันทรัพย์สินในปี 2551 ออกขายได้ถึง 1,669 ล้านบาท
สำหรับในปี 2552 มีเป้าหมายการผลักดันทรัพย์สินจำนวน 1,644 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ผ่านไปแล้วสองไตรมาส สามารถผลักดันทรัพย์สินได้แล้วจำนวน 772 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าแน่นอน
