“เพชร” สึกแล้ว ก้มกราบพื้นขอโทษครอบครัวกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา พร้อมขอร้องพ่อให้ปล่อยตนไป พรั่งพรู อยู่กับพ่อไม่ได้จนเคยคิดฆ่าตัวตาย เจ้าตัวปัดไม่ตอบ ว่าสาเหตุเป็นเพราะรับเรื่องทางเพศของพ่อไม่ได้ใช่หรือเปล่า? แต่ยอมรับ เหตุผลหนึ่งคือเรื่องแม่ถูกพ่อทอดทิ้ง ยืนยันจะสร้างหุ่นแม่ให้สำเร็จ
หลังจากตัดสินใจบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แม่ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ที่วัดภาษี เอกมัย เป็นเวลา 15 วัน ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ เวลา 8.09 น. “เพชร สรภพ ลีละเมฆินทร์” ก็ครบกำหนดสึกเรียบร้อยแล้ว โดยมี “อ้อย ธิดารัตน์” แฟนสาว พร้อมแม่และยายของแฟนสาวเดินทางมาร่วมพิธีด้วย
โดยภายหลังจากที่สึกแล้ว เจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงความรู้สึกว่า วันนี้รู้สึกดีใจที่บวชให้แม่สำเร็จ รับรู้ได้ว่าแม่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งพอพูดจบหนุ่มเพชรก็ก้มกราบที่พื้น เผย เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และขอโทษครอบครัวสำหรับทุกๆ อย่าง พร้อมยืนยันว่าคำขอโทษนี้ มันเป็นความรู้สึกของตนจริงๆ
“วันนี้ลาสิกขาบทแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องวันที่ 13 มิ.ย. ผมเองก็ไม่ได้แจ้งใครเลย ก็ได้อยากจะให้ใครมารบกวน เราก็พยายามทำภารกิจสงฆ์ให้สำเร็จ พยายามนั่งสมาธิ นั่งวิปัสสนาให้จิตมาอยู่กับตัวเรามากที่สุด ความจริงผมตั้งใจจะบวชให้แม่ผึ้ง 15 วัน ตอนแรกผมเกือบจะทำไม่สำเร็จ แต่ถือว่าผมโชคดีมากที่ทั้งแม่(แม่แฟน)ทั้งยายก็พาผมมาอยู่ที่วัดที่นี่ก่อน แต่วันนี้เป็นวันที่ 18 ถือว่าสำเร็จ ยิ่งกว่าสำเร็จอีก ผมก็ดีใจ เพื่อที่จะได้ไม่มีใครมารบกวน เมื่อกี้ตอนที่พระท่านกำลังสวดมนต์อยู่ ก็รู้สึกได้ว่าแม่ผึ้งก็มาอยู่ด้วยแถวๆ นี้แหละ สังเกตว่าลมมา แล้วฝนก็ตกด้วย แต่พอผมออกมาข้างนอกฝนก็หยุด แม่คงรับทราบครับ”
“ตอนนี้คงจะต้องมีสติมากขึ้น ก็ยอมรับว่าผมก็เสียความรู้สึกจากตรงนั้นเยอะ ต่อไปก็ยังไม่ได้คิดว่าจะยังไง เพราะผมไม่ทราบว่าฝ่ายตรงข้ามจะออกมาให้ข่าวอะไรบ้าง เพราะผมอยู่ในวัดก็ไม่ได้ดูอะไรเลย ต้องขอกลับไปเก็บข้อมูลนิดนึงว่าใครพูดอะไร พอดีช่วงที่ผมไปบิณฑบาตแฟนเพลงก็จะบอกว่าเป็นอย่างนี้นะๆ แต่ผมอยากดูด้วยตาตัวเองก่อนว่าเขาพูดอะไร ค่อยจะมาบอกพี่ๆ สื่อมวลชนอีกทีว่าจะทำยังไง เพราะอยากให้คุยกันทีเดียวจบ”
“ผมรู้นะว่าอะไรเป็นอะไร เอาอย่างนี้ละกันความจริงเวลานี้ เราควรจะสงสารวิญญาณแม่พุ่มพวงบ้าง เอาเวลาที่เรามาทะเลาะกันมาคิดถึงแม่พุ่มพวงบ้างเถอะ ส่วนเรื่องคุณพ่อกับคุณน้า ผมก็ขอกราบตรงนี้เลยละกัน(พูดจบแล้วเจ้าตัวก็ก้มลงกราบที่พื้น) อยากจะบอกน้าๆ กับพ่อผมว่าถ้ายังถือว่าผมเป็นลูกเป็นหลานอยู่ ผมขอล่ะ ผมลาสิกขามาแล้ว ยังไงก็ปล่อยผมไปเถอะ อย่าให้ข่าวที่มันไม่ดีๆ สาดโคลนต่อกันเลยนะ และหวังว่าต่อจากนี้ไปทุกอย่างน่าจะจบ อยากให้นึกถึงดวงวิญญาณของแม่ผึ้งบ้าง”
“ถือซะว่าเป็นการขอร้องจากผมละกัน 18 ปีที่ผ่านมาที่ผมอยู่กับพ่ออยู่กับญาติๆ ถ้าใครไม่ใช่ผมก็คงไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง ผมพูดได้แค่นี้เพราะผมเองก็คงไม่มีหลักฐานไม่มีอะไร มาบอกว่าทำไมสาเหตุอะไรผมถึงอยู่ไม่ได้ แต่อยากจะบอกว่าเป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้ครับ มันไม่เชิงเรียกว่าการตัดขาด เอาเป็นว่าต่างคนต่างอยู่ดีกว่า ก็เหมือนที่ทุกคนเห็นในวีดีโอเทป ผมเสียใจมาก เรื่องประนีประนอมเป็นเรื่องของอนาคต ขอยังไม่พูดถึงดีกว่า”
“ส่วนหุ่นของแม่ก็คงจะยึดตามที่ประชาชนโหวตมา ก็คงจะดำเนินการต่อไป เพราะใจผมเองก็ต้องการที่จะสร้างอยู่แล้ว เพราะคิดถึงแม่ และอยากจะสร้างให้เหมือนที่สุด นับจากนี้ไป 10-20 ปี มาเห็นหุ่นของแม่ผึ้ง ทุกคนก็จะได้ทราบเลยว่านี่แหละแม่ของผมเอง ความจริงผมคิดไว้แล้วล่ะ ว่าจะเอาไปไว้ที่ไหน แต่ยังไงจะแจ้งอีกทีนึง แต่ที่ตอนแรกที่ยังไม่บอกกับทางญาติๆ เพราะอย่างที่รู้กันเนอะ บอกปุ๊บก็อย่างที่เห็น”
ย้อนถึงสาเหตุที่ทำให้หลุดสำรวม ในวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ว่าเป็นเพราะทนไม่ได้ที่ลุงกับน้าสาวดูหมิ่นวิญญาณแม่พุ่มพวง ซึ่งทำให้ระเบิดความลับที่เก็บมายาวนาน เรื่องพ่อฆ่าแม่ ยายฆ่าแม่ น้าๆ ฆ่าแม่ ออกมา
“ถ้าทุกคนได้ดูเทปวีดีโอตั้งแต่แรกจนจบโดยที่ไม่มีการตัดต่ออะไรเลย คงจะทราบกันดี แต่ยอมรับว่าวันนั้นที่ผมโมโหที่ผมระเบิดออกมาเพราะทางญาติๆ ผม เขาไปดูหมิ่นวิญญาณของแม่พุ่มพวง และไปดูหมิ่นท่านอุปัชฌาย์ผมที่พิษณุโลก ซึ่งเรื่องนี้ผมยอมรับไม่ได้โดยเด็ดขาดเลย ทั้ง 3 คนเลย(ลุง และน้าสาว) ดูถูกว่าแม่ผึ้งไม่มีจริง แล้วท่านอุปัชฌาย์ท่านก็บอกว่าตอนที่ผมไปบวชที่นั่น แม่ผึ้งก็ไปด้วย ทางน้าก็บอกว่าจะเป็นไปได้หรอ ท่านก็แก่แล้วคงจะเพ้อเจ้อ ผมก็เลยโมโหว่าอ้าว...แล้วทีคุณมาออกรายการแล้วบอกว่าดวงวิญญาณของแม่ผึ้งมาอย่างโน้นอย่างนี้ แล้วตกลงมันคือยังไงกัน”
“แล้วมาวันนี้ก็บอกว่าดวงวิญญาณแม่เข้าสิงวันนั้น ก็วันนั้นบอกไม่มีอยู่เลย แล้ววันนี้มาบอกว่าเข้าสิงก็ไม่รู้อะไรเป็นอะไร วันนั้นผมเสียใจเสียใจกับทุกๆ คนเลย แล้วภาพที่ทุกคนเห็นว่าพ่อจะเข้ามากอด แล้วผมไม่ให้กอดนั้น จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างที่เข้าใจ เพราะพ่อพยายามเข้ามาด้วยคำพูดที่เชือดเฉือน ดูหมิ่นผมว่าที่บวชเพราะเรื่องธุรกิจใช่มั้ย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมเสียใจที่สุด”
“เป็นครั้งแรกที่ผมหลุดพูดเรื่องพ่อฆ่าแม่ ยายฆ่าแม่ ที่ผ่านมาผมเก็บความลับนี้มาตลอด 17-18 ปี ผมไม่เคยเอาออกมาพูดไม่เคยเอาออกมาอะไรเลย เพราะผมรักทุกคน ผมรักพ่อ ญาติๆ ผมรัก ก็เหมือนแม่ผึ้งน่ะ เขาก็รักทุกคนแต่เขาไม่มีโอกาสพูดเฉยๆ ตอนนั้นมีอะไรมาดลใจผมก็ไม่รู้ คือมันสุดที่จะทนแล้ว ผมเลยพูดคำนั้นออกมา แต่ถ้าย้อนเวลากลับได้ก็คงเก็บไว้ เพราะเชื่อว่าสักวันนึงความจริงมันก็ต้องออกมาอยู่แล้ว”
“ตามความคิดเห็นผมนะ ก็แปลกตอนที่แม่ผึ้งเสีย 17 ปี ที่ผ่านมา อย่างที่ทุกคนเห็นว่าในวันที่ 13 มิ.ย. เป็นแต่อย่างนี้กัน ทะเลากัน คุยกันแต่เรื่องธุรกิจคุยแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ แม่ผึ้งเองก็คงจะต้องการกำลังใจตรงนั้น แต่กลับกลายเป็นว่าไม่มีใครมาสนใจ”
“ทุกคนหาว่าผมเด็ก จะจำเรื่องราวได้ยังไง ตอนนั้นผมก็จำได้นะ ผมเป็นเด็กที่มีความจำดีด้วยแหละ ผมยอมรับตรงนั้นเลยว่าผมจำได้ แต่บางครั้งเราไม่จำเป็นต้องพูดในสิ่งที่เราคิดเสมอไป ผมก็เลยเก็บเอาไว้ แล้วก็มีหลายๆ คนมาบอกครับ จากแฟนเพลงก็มี จากคนใกล้ตัวของแม่ผึ้งที่โรงพยาบาลก็มีด้วย สิ่งที่ผมพูดออกมาตรงนั้น มันต้องมีหลักฐานยืนยัน ไม่ได้พูดออกมาลอยๆ แน่นอน ใครจะมาเป่าหูผมไม่ได้แน่นอน เพราะผมเป็นคนชอบพิสูจน์ด้วยตัวเอง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเพราะได้ฟังเทปเสียงของแม่พุ่มพวงตัดพ้อต่อว่าพ่อหรือเปล่า ถึงคิดที่จะออกสืบหาความจริงต่างๆ? กับเรื่องนี้เจ้าตัวชี้แจงว่า...
“ชนวนตรงนั้น ตอนที่ผมออกไปจากบ้านแรกๆ นะครับ ตอนแรกผมไปหาทางน้าไก่ น้าไก่ก็บอกว่าดีแล้วที่เพชรมาหาน้า เพราะน้ารู้อยู่แล้วล่ะว่าเพชรต้องมา น้าก็เลยเอาซีดีมาให้อยากจะฟังมั้ย เพชรก็เลยถามว่าเป็นซีดีอะไร น้าก็บอกว่าเป็นซีดีที่แม่พุ่มพวงพูดไว้ครั้งสุดท้าย ก็เอามาเปิดให้ผมฟัง ผมฟังแล้วก็ร้องไห้เลย ผมก็ช้ำใจเลยว่าทำไมทุกๆ อย่างมันถึงเป็นแบบนี้ ก็เสียใจ แต่ก็ยังไม่ได้เชื่อไปเลยทีเดียว ช่วงนั้นคุณพ่อก็ออกข่าวมาเรื่อยๆ ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าก็ตรงกับที่แม่พุ่มพวงพูดจิรงๆ พฤติกรรมหลายๆ อย่างมันก็ตรงกับที่แม่พุ่มพวงเขาพูด ดูดีๆ ทุกคนจะเห็นว่าเหตุการณ์เมื่อ 17 ปีที่แล้ว มันซ้ำกับวันนี้ แค่เปลี่ยนตัวละครแค่นั้นเอง”
แจกแจงเหตุผล ที่น้าสาวปกปิดเรื่องที่ตนหนีออกจากบ้านเมื่อหลายปีก่อน ว่าหนีไปกับผู้หญิง ทั้งที่จริงอาศัยอยู่ที่บ้านกับน้าๆ ว่า....
“ทางน้าบอกว่าไม่อยากให้ทุกคนย้อนกลับไปคุยเรื่องมรดก เพราะ 17 ปีที่แล้วก็ทะเลาะกันเรื่องมรดก ตอนที่แม่ผึ้งเสียก็ทะเลาะกันเรื่องมรดก อะไรก็เงินๆๆ ผมก็ไม่รู้นะ แต่ทางน้าบอกมาอย่างนั้น ผมก็จำมาอย่างนั้น”
“แต่การทำแบบนั้นมันทำให้เพชรดูไม่ดี พ่อก็เคยบอกไว้ว่าพ่อทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว ผมก็ไม่ได้ขัดไม่ได้อะไร พี่ๆ คิดดู 4-5 ปีมานี้ผมไม่ได้ออกสื่อผมไม่ได้อะไรเลยนะ ปล่อยให้ทุกคนมองผมไม่ดีก็ได้ แล้วแต่พ่อจะออกข่าวหรือจะทำอะไร แล้วทางโน้นก็มาหาว่าตั้งแต่ผมออกมาจากบ้าน มีแต่เรื่องๆ แต่ผมอยากจะบอกตรงนี้ว่าผมเองก็ไม่ได้วิ่งไปหาพี่ๆ นักข่าวมาให้สัมภาษณ์พ่อ มาให้สัมภาษณ์ตัวเอง แต่พ่อออกมาก่อนตลอด”
“ตอนที่ผมออกเทปตอนอายุ 20 ปี เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ออกเทปอัลบั้มแรกของผม มันก็คงเป็นเรื่องธรรมดาที่พี่ๆ นักข่าวคงจะสงสัยว่า มันเกิดอะไรขึ้นยังไง ผมก็พูดความจริงออกไป ทางโน้นเขาก็โต้กลับมาอีก กลายเป็นโต้กันไปโต้กันมา เรื่องมันก็เลยไม่จบ”
เผย ออกจากบ้านมา 4-5 ปี พ่อไม่เคยตามกลับบ้านอย่างจริงใจ ขนาดยายบุญธรรมโทร.ไปตามยังบ่ายเบี่ยง
“ไม่เคยครับ ไม่เคยเลย เหมือนที่คุณยายบุญธรรมบอกว่าได้โทร.ไปบอกพ่อแล้วนะ แต่พ่อก็ผัดวันประกันพรุ่ง ทีนี้ยายก็อ้อนวอนเลยว่าให้มาหาผมหน่อย เพราะอยากให้ผมกับพ่อดีกัน แต่กลับกลายเป็นว่าพ่อพาแฟนใหม่เขามาด้วย ก็มาทะเลาะกันที่นั่น หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อไม่ได้เจอกัน เจอกันครั้งสุดท้ายที่รายการตีสิบ ผมก็พูดความจริงออกไป ซึ่งก็คิดว่าทุกอย่างน่าจะดีขึ้นแล้ว คิดว่าทุกคนน่าจะเห็นภาพแล้ว และคงคิดว่าเราน่าจะดีกันแล้ว แต่จะบอกว่าผมก็เป็นของผมแบบนี้ ต่อหน้าสื่อลับหลังสื่อผมก็เป็นของผมแบบนี้ แต่ฝ่ายทางโน้นก็ไม่รู้นะ ต่อหน้าสื่อกับลับหลังสื่ออาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ ผมก็ไม่ทราบตรงนี้”
ผู้สื่อข่าวย้อนถามถึงสาเหตุที่ทำให้หนีออกจากบ้านเมื่อหลายปีก่อน เจ้าตัวถึงกับมีสีหน้าเครียดขึ้นมาทันทีพร้อมแจกแจงเหตุผลให้ฟังว่า เป็นเพราะเจออะไรไม่ดีมาเยอะ จนอยากฆ่าตัวตาย ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ทำให้อยู่กับพ่อไม่ได้ จนต้องหนีออกมาในที่สุด แต่พอผู้สื่อข่าวย้ำถามว่า ใช่เรื่องที่รับเรื่องทางเพศของพ่อไม่ได้ตามที่มีข่าวออกมาใช่หรือไม่ ก็ทำเอาเจ้าตัวถึงกับอึ้ง และปฏิเสธไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้...“ผมขอไม่พูดตรงนี้ดีกว่า แต่ว่ามันร้ายแรงมาก แต่ผมขอไม่พูด ถ้าพูดสังคมก็รับไม่ได้อยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับเรื่องมรดกครับ (มีข่าวว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับทางเพศ?) (เงียบอึ้งไปครู่นึง) อืม..ขอไม่พูดดีกว่าครับ เอาไว้แถลงข่าวขอพูดทีเดียวดีกว่า”
อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวตัวยืนกรานจะไม่ยอมกลับไปอยู่กับพ่ออีกแน่นอน และวิงวอนขอให้พ่อ รวมถึงญาติพี่น้อง ปล่อยตนไป ทั้งนี้หนุ่มเพชรยอมรับว่า การได้รู้ความจริงเรื่องแม่ และจากการถามกับคนที่อยู่โรงพยาบาล ว่าแม่ถูกกระทำอย่างไร ทำให้ ไม่สามารถจะอยู่กับพ่อ และญาติพี่น้องได้แล้วจริงๆ ซึ่งการได้มาอยู่กับครอบครัวของแฟนสาวตนก็มีความสุขดี เนื่องจากทุกคนให้ความเมตตา และเป็นไปไม่ได้ว่าจะโดนของ ที่สำคัญเพิ่งบวชมา ถ้าโดนของจริง คงบวชไม่ได้ แล้วที่บ้านแฟนก็เป็นบ้านที่อุปการะคนอื่น มีลูกบุญธรรมอยู่แล้ว ฉะนั้นคงไม่แปลกที่จะช่วยเหลือตน
ทั้งนี้เจ้าตัวยังได้ชี้แจงเรื่องข่าวที่บอกว่า สมัยอยู่อเมริกาได้ผลาญสมบัติแม่กว่า 50 ล้านนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากอยู่เมืองนอกไม่ได้เสียค่าเล่าเรียน เป็นโรงเรียนที่เรียนฟรี อีกทั้งไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหรา ใช้เงินแค่วันละ 5 ดอลลาร์ เท่านั้นเอง ซึ่งคนที่อยู่ที่โน่นจะรู้ดีว่าตนใช้ชีวิตอย่างไร โดนอะไรบ้าง แต่ไม่อยากที่จะพูดถึงอดีตอีก ส่วนเรื่องมรดกก็ยังไม่เคยได้ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเป็นยังไง
ส่วนวันข้างหน้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็คงต้องทำใจและอดทน เพราะเข้าใจดีว่าสังคมไทย ผู้ใหญ่ต้องถูกเสมอ แต่อยากให้เข้าใจ ว่าแต่ละคนเจอประสบการณ์ดีๆ แต่สำหรับตนไม่ใช่ ถ้าไปไหนคนจะมองก็คงต้องอดทน คงทำอะไรไม่ได้ ทั้งนี้เจ้าตัวยอมรับว่า การที่ญาติพี่น้องทางฝั่งแม่ แถลงข่าวกราบขอโทษ มันทำให้ตนเหมือนโดนฆ่า ที่ทำให้ผู้ใหญ่ร้องไห้เสียใจ แต่ลึกๆ ก็อยากให้คนเข้าใจ
***
ฟังกันจะๆ "แฟนพระเพชร" แอบอัดเสียง "น้องพุ่มพวง" กรณีไม่ยอมพูดความจริงว่า หลานหนีไปอยู่ด้วย
17 ปีแห่งความหลัง "พุ่มพวง ดวงจันทร์"(1):ย้อนรอยริ้วแห่งอดีต
ญาติ“พุ่มพวง” ร้องไห้ยกบ้าน กราบขอโทษ “พระเพชร” ยันไม่ได้ฆ่าแม่ ด้าน “ไกรสร” ไม่รับไม่ปฏิเสธกรณีลูกชายเตรียมแฉเรื่องความผิดปกติทางเพศ
ศึกวันพุ่มพวง ดูกันแบบเต็มเหนี่ยว “พระเพชร” ก้าวร้าว หรือฆราวาสอาละวาดกันแน่!!
แฟนโต้ เหตุที่เอา “พระเพชร” มาอยู่ด้วย ไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เพราะเจ้าตัวรับเรื่องทางเพศของพ่อไม่ได้ แต่ไม่ยอมบอกว่าเรื่องอะไร
ครอบครัวยันไม่ได้ฆ่า “พุ่มพวง” โต้ไม่เคยคิดเกาะ “เพชร” กิน
“ไกรสร” หวั่น “เพชร” โดนของ! สุดช้ำโดนลูกด่า บ่น “ผึ้ง” ก็กตัญญูทำไมลูกเป็นแบบนี้
เปิดเทปลับ ใครกันแน่ที่ฆ่า "พุ่มพวง ดวงจันทร์"?
รำลึก 17 ปี "พุ่มพวง" ลูก-ญาติหวิดฟาดปาก