ตำรวจหนองคายรวบผู้ต้องหาฆ่าเศรษฐีนีเพิ่ม

หนองคาย - ตำรวจหนองคาย เค้นลูกเลี้ยงโหด ฆ่าแม่เลี้ยงเศรษฐีนีเมืองหนองคาย ขยายผลสารภาพร่วมมือกับพ่อเพื่อน ร่วมกันขโมยทรัพย์สินในบ้าน ขณะที่เศรษฐีนีชะตาขาด กลับบ้านเจอคนร้ายกำลังขโมยของ จึงถูกฆ่าปิดปาก อ้างเป็นฝีมือพ่อเพื่อน ตำรวจรวบพ่อเพื่อนโหดทันควัน แต่ปฏิเสธไม่รู้จักลูกเลี้ยงชั่วรายนี้

จากกรณีเหตุการณ์ลูกเลี้ยงวัย 11 ขวบ เมืองหนองคาย ใช้เหล็กแป๊บฟาดหัว น.ส.ศิริรัตน์ โคว้ศรีวงศ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 2 ต.มีชัย อ.เมืองหนองคาย ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงและมีฐานะดีถึงขั้นเศรษฐินีเจ้าของโรงไม้ตายสยองคาห้องนอน เหตุเกิดเมื่อเวลา 17.30 น. ของวันที่ 30 ต.ค.51 ที่ผ่านมา โดยลูกเลี้ยงผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่บ้านเพื่อน

เจ้าหน้าที่ตำรวจตามรวบตัว ด.ช.ตุ้ย นามสมมุติ ลูกเลี้ยง วัย 11 ปี ได้แล้ว เบื้องต้นด.ช.ตุ้ย รับสารภาพถึงปมเหตุฆ่า เพราะแค้นที่ถูกดุด่า พร้อมระบุว่าได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ คาดว่าจะต้องมีผู้ร่วมก่อเหตุอีก ดังที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (1พ.ย.) พ.ต.ท.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รองผกก.(สส.)สภ.เมืองหนองคาย เปิดเผยว่า หลังจากควบคุมตัว ด.ช.ตุ้ย สอบสวน เบื้องต้นรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าแม่เลี้ยงเอง แต่ตำรวจไม่เชื่อ ด.ช.ตุ้ย จึงอ้างว่าร่วมกับนายเปี๊ยกเพื่อนรุ่นพี่ อายุ 17 ปี ชาวบ้านสามัคคี ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย พอตำรวจไปตามตัวที่บ้านพักแต่ไม่พบ และกลับมาสอบสวน ด.ช.ตุ้ยอีกครั้ง แต่ ด.ช.ตุ้ย ก็บอกอีกว่าไม่ใช่ฝีมือนายเปี๊ยก แถมยังพูดจาวกวนกลับไปมา

เจ้าหน้าที่ตัดสินใจพา ด.ช.ตุ้ย ไปที่บ้านที่เกิดเหตุเพื่อขอขมาผู้ตาย เมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ ญาติผู้ตายได้นำศพผู้ตายไปบำเพ็ญกุศลที่วัดแล้ว ทำให้ ด.ช.ตุ้ย ไม่ได้ขอขมาศพผู้ตาย ตำรวจพาไปที่ห้องนอนจุดที่พบศพผู้ตาย ทันทีที่เห็นคราบเลือด ด.ช.ตุ้ย ก็ร้องไห้โฮ ทรุดตัวลงกับพื้น นั่งกราบไหว้รอยเลือดจางๆ ในที่สุด ด.ช.ตุ้ย จึงยอมบอกว่า ได้ร่วมกับ นายธราพงษ์ โสตถิเสาวรภย์ หรือ หนวด อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 5 บ้านสามัคคี ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย อาชีพรับจ้างทั่วไป ก่อเหตุในครั้งนี้

ด.ช.ตุ้ย เล่าว่า ตนถูกผู้ตายดุด่าเป็นประจำ จึงหนีเที่ยวและติดเพื่อนรุ่นพี่ จนมารู้จักกับนายธราพงษ์ ซึ่งเป็นพ่อของเพื่อนเก่าที่โรงเรียน ต่อมาตนได้ชวนนายธราพงษ์ไปขโมยเศษเหล็กและขโมยเงินที่บ้านผู้ตายหลายครั้งเพื่อหาเงินไปเที่ยวกลางคืน จนกระทั่งในวันเกิดเหตุนายธราพงษ์ชวนตนมาขโมยทรัพย์สินในบ้าน แยกกันค้นหาทรัพย์สินโดยตนค้นหาภายในห้องทำงานติดกับห้องนอน ส่วนนายธราพงษ์เข้าไปรื้อค้นภายในห้องนอนที่เกิดเหตุ

ระหว่างนั้นปรากฏว่าผู้ตายได้กลับเข้าบ้าน แล้วความตกใจตนจึงแอบเข้าไปหลบอยู่หลังชั้นเก็บของ ขณะที่ผู้ตายได้เดินตรงเข้าไปที่ห้องนอน ตนได้ยินเสียงคนใช้ของแข็งทุบตี 2 ครั้ง ได้ยินเสียงผู้ตายร้องด้วยความเจ็บปวดแล้วเงียบไป จากนั้นนายธราพงษ์ ได้เดินออกมาจากห้องนอนพร้อมกับสร้อยคอทองคำ และกำไลของผู้ตายมาด้วย โดยนายธราพงษ์ได้ขู่ตนว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใคร ส่วนทองที่ได้จะนำไปขายแล้วเอาเงินที่ได้มาแบ่งกันภายหลัง จากนั้นจึงแยกย้ายกันไป โดยตนหนีไปอยู่บ้านเพื่อนที่หมู่บ้านสามัคคี ก่อนที่จะถูกตำรวจตามจับได้

ต่อมา พ.ต.ท.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รองผกก.(สส.) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำหมายจับศาลจังหวัดหนองคาย ที่ จ.456/2551 ลงวันที่ 31 ต.ค.2551 ไปทำการจับกุมตัวนายธราพงษ์ที่บ้านพักของนายธราพงษ์ ในข้อว่า ร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้มีผู้ถึงแก่ความตายและใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิดหรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และพบนายธราพงษ์นั่งอยู่หน้าบ้าน จึงคุมตัวมาสอบสวน แต่นายธราพงษ์ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหายืนยันว่าตนเองไม่รู้จักกับ ด.ช.ตุ้ย แต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง