"อู๋ม่งต๊ะ" ชื่อที่แฟนหนังฮ่องกงในช่วงปีทศวรรษที่ 90 ได้ยินก็อดขำไม่ได้ ด้วยบุคลิกในหนังที่โผงผาง แต่ใจดีรักพี่น้องและผองเพื่อน เมื่อรวมกับเสียงพากย์ที่ขาดไม่ได้ของ เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง แห่งสำนักพากย์อินทรีและพันธมิตร ความฮาแบบสั่งได้ก็อุบัติขึ้น
ล่าสุดในงานเทศกาลภาพยนตร์ตลกโลก 2009 ที่จัดขึ้นที่บ้านเราในวันที่ 10 - 16 มิ.ย.นี้ ทาง อู๋ม่งต๊ะ ได้เดินทางมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ต่อทางสื่อมวลชนเมื่อบ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมา ทั้งเรื่องราวความผูกพันธ์ของเมืองไทยที่มีผลต่อการหันเหสู่การเป็นดาวตลก พร้อมทั้งชี้แจงข่าวลือความขัดแย้งที่ว่าเขาจะไม่กลับไปร่วมงานกับอดีตคู่หูอย่าง โจวซิงฉือ อีกแล้ว เพราะไม่ต้องการเป็นลูกไล่ดารารุ่นน้องหรือมีเบื้องหลังอื่นๆ เช่นไร
1.เริ่มต้นชีวิตนักแสดงตลกอย่างไร
- ก่อนที่ผมจะเจอกับโจวซิงฉือผมยังไม่ได้เป็นนักแสดงตลกอย่างทุกวันนี้ มันมีจุดเปลี่ยนตอนที่ผมเล่นหนังกับ โจวหยุนฟะ เรื่อง All About Ah-Long เมื่อปี 1989 ซึ่งเป็นหนังดรามา ในเรื่องนั้นผมมีภรรยาเป็นคนไทย เลยต้องพูดภาษาไทย แต่ถึงแม้จะมีคนสอนแต่ผมก็พูดไม่ชัด พอพูดคำว่า "กินข้าวได้แล้ว" มันเลยฟังดูตลกมาก จากนั้นคนเลยเห็นแววตลกของผม
ผมว่านักแสดงที่ดีต้องเล่นให้ได้ดีทั้ง ตลก เศร้าหรือหนังผี ผมได้ยินว่าเมืองไทยทำหนังผีเก่งและประสบความสำเร็จหลายเรื่อง อยากให้ผู้กำกับไทยรู้ว่าผมเล่นเป็นผีได้เหมือนมากๆ เลยน่ะ(ฮา)
ผมอยากฝากถึงนักแสดงรุ่นใหม่ว่าต้องทุ่มเทให้กับการเล่นหนังทุกแนว ต้องเคารพในทุกบทบาทการแสดง จนถึงตัวผู้กำกับ ทีมงาน และตัวหนัง แล้วคุณจะได้รับความเคารพนั้นกลับคืนมาเอง
2.เมื่อ 2 ปีก่อนเห็นคุณไปแสดงละครร่วมกับซูเปอร์สตาร์เกาหลี คิมจองฮุน ด้วย
- คิมจองฮุนเขาเป็นเด็กดี น่ารัก เสียดายไม่หล่อเท่าผม(ฮา) แต่เขาก็รักผมมากน่ะ
3.หลังจาก Shaolin Soccer นี่ก็ 8 ปีแล้วที่คุณไม่กลับไปเล่นหนังกับโจวซิงฉืออีกเลย มันเกิดอะไรขึ้น
- ตอนแรกเค้าจะให้ผมไปเล่นเรื่อง Kung Fu Hustle อยู่แล้ว แต่ตอนถ่ายทำเมื่อปี 2003 โรคซาร์กำลังระบาด ก็เลยต้องเลื่อนไป พอจะกลับมาถ่ายทำใหม่ ผมก็ติดเล่นหนังอีกเรื่องซะแล้ว เราไม่ได้ทะเลาะกันน่ะครับ เหมือนกับหนุ่มนัดแฟนเอาไว้แต่สาวเจ้าดันแต่งหน้านานก็เลยไม่ได้ไปเที่ยวกันซะที
เรื่อง CJ7 นี่ตอนแรกเขาก็จะให้ผมเล่นเป็นพ่อเด็ก แต่ตอนหลังเขาขอเล่นเอง เรื่องก็มีเท่านี้
4.แล้วจะกลับมาเล่นด้วยกันอีกเมื่อไหร่
- ช่วงนี้ยังไม่ได้คุยกันเลย คุยผ่านคนของบริษัทเขาเท่านั้นเอง
5.เล่นกับโจวซิงฉือมาหลายเรื่อง บอกได้ไหมว่าเขาเป็นคนยังไง
- เขาเป็นคนมีความสามารถ ฉลาด สมแล้วที่จะประสบความสำเร็จ ที่เราเข้าขากันได้ดีเพราะความหล่อเราสูสีกัน(ฮา) เล่นกับเขาแล้วสาวๆ ติดผมตรึม มีตั้งแต่สาวรุ่น 3 ขวบจนถึง 80 ทีเดียว
6.ล่าสุดเห็นคุณไปเล่นละครที่เมืองจีนรับบทเป็นตัวร้าย เป็นยังไงมายังไง
- ผมรับเล่นหนังไม่ได้คิดว่าจะต้องเล่นอยู่ฝ่ายคนดีหรือคนไม่ดี เรื่องนี้ผมต้องเล่นเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง ผมต้องสวมบทเป็นคนอายุตั้งแต่ 40 จนถึง 90 ซึ่งถือเป็นเรื่องท้าทายการแสดงมาก
7.ในใจอยากจะร่วมงานกับผู้กำกับคนจีนคนไหนอีกบ้าง
- มีเยอะน่ะ ทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็ก หลายคน
8. ตั้งแต่เล่นหนังมาชอบเรื่องไหนมากที่สุด
- ชอบหลายเรื่อง มีดีแตกต่างกันไป แต่ยังไม่มีเรื่องไหนเข้าขั้นดีที่สุด อยากลองคุยกับผู้กำกับไทยดูเผื่อจะได้ร่วมงานกันบ้าง(ฮา)
9. เคยได้รับรางวัลอะไรมาบ้าง
- เคยได้รางวัลสาขาดาราสมทบชายที่ 10th Annual Hong Kong Film Awards จากเรื่อง A Moment of Romance (ผู้หญิงข้า ใครอย่าแตะ) ที่เล่นกับหลิวเต๋อหัว แต่ไม่ได้ไปรับ ไม่ว่าง(ฮา)
10.เดินทางมารวมเทศกาลภาพยนตร์ตลกโลกที่เมืองไทยครั้งนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง
- เพิ่งลงมาจากเครื่องเลยไม่รู้จะรู้สึกยังไง แต่รู้ว่าคนไทยเป็นมิตรมาก ผมไม่ได้มาเมืองไทยนานแล้ว เมื่อก่อนรถติดมาก เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยติดแล้ว ดีมากเลย
11.วางแผนจะไปที่ไหนอีกบ้าง
- ผมชอบอาหาร อยากไปหาที่อร่อยๆ กิน ชอบหูฉลาม
12. เท่าที่เล่นมาชอบนักแสดงหญิงคนไหนที่สุด
ขืนบอกไปโดนเมียด่าแหง(ฮา) แต่ที่เคยชอบก็คือ กวนจือหลิน ตอนนี้เปลี่ยนใจมาชอบนักข่าวสาวที่เมืองไทยดีกว่า(ฮา)