“สิงโต” ยิ้มรับขวัญใจเกย์ ยันไม่ได้กิ๊ก “กิ่ง เดอะสตาร์ 5” บอกไม่ใช่สเปค

“สิงโต” ยิ้มรับตำแหน่งขวัญใจเกย์ โต้ข่าวกิ๊ก “กิ่ง เดอะสตาร์ 5 ” ยันไม่ใช่สเปค ไม่หวั่นถูกเปรียบเทียบกับ หวังเทียบรุ่น “รุจน์ เดอะสตาร์” เผยขอทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด

กลายเป็นหนุ่มน้อยที่โด่งดังภายในชั่วข้ามคืนจริงๆ สำหรับแชมป์เดอะสตาร์ปี 5 อย่าง “สิงโต สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี” จนกลายเป็นที่จับตามองทั้งเรื่องการงานที่ถูกยกไปเปรียบเทียบกับ “รุจ ศุภรุจ เตชะตานนท์” เดอะสตาร์รุ่นพี่ ส่วนเรื่องหัวใจก็มีข่าวว่ากำลังกุ๊กกิ๊กกับ “กิ่ง เหมือนแพร พานะบุตร” ในขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าสิงโตคว้าตำแหน่งขวัญใจไปเรียบร้อยโรงเรียนเพศที่สาม

“ถ้าใครบอกว่าผมเป็นขวัญใจชาวเกย์ก็รู้สึกดีใจนะครับที่ได้เป็นขวัญใจพี่ๆ เขา แต่ผมก็คิดว่าการที่ผมได้มาเป็นเดอะสตาร์ก็อาจจะมีส่วนมาจากพี่ๆ เขาด้วยที่ช่วยร่วมโหวต ร่วมเชียร์ ก็ต้องขอขอบคุณพี่เขาด้วย มีมาจีบมั้ย ก็มีบ้างครับ แต่ว่าน่าจะมาเป็นการพูดเล่นๆ หยอกๆ มากกว่า พี่เขาอาจจะเป็นคนชอบสนุกมากกว่าครับ ผมก็ปกติครับ คุยกับพี่เขาปกติ ไม่ได้มีอะไร”

“ที่เข้ามาแปลกๆ ส่วนใหญ่ก็มีมาจับมือ หอมแก้มบ้างเล็กน้อยครับ จริงๆ ก็ป้องกันตัวเองด้วย แต่ผมก็โชคดีที่มีพี่ๆ เขาคอยดูแล มีผู้จัดการคอยดูด้วยครับ”

เผยที่มีข่าวว่าแอบกุ๊กกิ๊กกับรุ่นพี่อีกคนในเดอะสตาร์ 5 อย่างสาว “กิ่ง เหมือนแพร พานะบุตร” เจ้าตัวเผยว่าไม่ใช่สเปคเลย และไม่มีทางปีนเกลียวรุ่นพี่แน่นอน
“พี่กิ่งไม่ใช่สเปคครับ พี่กิ่งไม่ใช่เลยครับ ไม่ได้ปีนเกลียวแน่นอนครับ สเปคผมชอบผู้หญิงตาโต ตัวเล็กน่ารักๆ ครับ นิสัยต้องเป็นคนที่ร่าเริงแล้วก็เอาใจเก่งครับ อายุไม่เกี่ยวครับ”

ส่วนข่าวกำลังวัดรอยเท้ากับ “รุจ เดอะสตาร์” นั้น สิงโตบอกว่าไม่อยากให้ไปเปรียบเทียบกัน และโดยส่วนตัวก็ค่อนข้างชื่นชอบและติดตามผลงานของรุจ
“ผมไม่ได้แข่งกับพี่รุจครับ เพราะว่าผมคงแข่งไม่ได้ เพราะผมยังเด็กอยู่ครับ และพี่รุจเขาก็เป็นพี่รุจครับ แล้วเขาก็เก่งมาก ผมก็คงไม่ไปเทียบชั้นรุ่นพี่ เพราะเขาก็เป็นรุ่นพี่ในเดอะสตาร์ ซึ่งผมก็ติดตามดูผลงานของเขาอยู่ด้วยครับ คุณแม่ก็ชื่นชอบเขาเหมือนกัน”

“เราก็ทำงานของเราไปเรื่อยๆ ไม่ได้กลัวคนอื่นไส้ ทำในสิ่งที่ดีๆ ก็พอ กับพี่รุจก็ไม่มีอะไรครับ ผมก็เป็นพี่น้องกัน ก็คุยกันเข้าใจ คุยกันง่ายครับ เพราะว่าเราคนสไตล์เดียวกัน แล้วก็เป็นคนขอนแก่นเหมือนกันด้วย จริงๆ ก็ไม่มีอะไร คงไม่ไปดับคลื่นลูกเก่าของเขาหรอกครับ เราก็มาทำงาน และก็ต้องเรียนด้วยอีก มีโอกาสเข้ามาเราก็ต้องทำงานและก็ตั้งใจคว้าเอาไว้”

“ตอนนี้เราก็ต้องพยายามทำตัวเองให้ดีครับ ก็ดูว่าถ้าสิ่งไหนเราทำไปแล้วมันดีต่อตัวเองก็ทำ แต่ถ้าสิ่งไหนทำแล้วมันไม่ดีต่อตัวเองก็อย่าไปทำมันเลย ชีวิตก็เปลี่ยนไปนะครับ เพราะว่าพอได้เข้ามาอยู่ตรงนี้แล้วเราก็ต้องได้ทำอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ แล้วก็ได้ไปพบปะผู้คนมากขึ้น มีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น ก็ต้องค่อยๆ ปรับน่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องงานหรือเรื่องเรียนหรือการเข้ากับวงการบันเทิง ก็ต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ แล้วก็ต้องเรียนรู้และพัฒนาอีกเยอะครับ”