“อุ๊บ” เดินหน้าเปิดชมรมนักปั้น ไม่สน “พจน์” ไม่เข้าร่วม บอก คนอื่นเห็นด้วยทั้งนั้น เพราะเห็นเป็นเรื่องสร้างสรรค์ ไม่ได้เปิดชมรมสวิงกิ้งซะหน่อย ถึงเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ ได้ทีเหน็บกลับ จะเอาแต่สร้างหนังกะเทยตลอดชีวิตหรือยังไง? เผย ไม่ต้องการคำขอโทษ แต่ถ้าจะให้เข้าไปคุยก่อนคงไม่เอา
บานปลายไปกันใหญ่ สำหรับศึกนักปั้นรุ่นใหญ่ระหว่าง “อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ” กับ “พจน์ อานนท์” ที่กอดคอเลิฟกันอยู่ดีๆ แต่จู่ๆ ก็มาแตกคอกันซะเอง เพราะไม่เห็นด้วยเรื่องการตั้งชมรมนักปั้นแห่งประเทศไทย จนเปิดฉากโต้กันไปโต้กันมา ล่าสุด อุ๊บก็ออกมาสวนกลับอีกรอบอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน บอก ต่อให้ไม่มีพจน์ก็จะเดินหน้าเปิดชมรมต่อไป เพราะมีคนอื่นอยากเข้าร่วมเยอะแยะ
“เดือนหน้าเปิดชมรมแน่นอน เพราะว่าตอนนี้ก็คุยเรียบร้อยแล้ว หลายๆ คนก็เห็นด้วย ควรจะทำ เพราะว่าสร้างสรรค์สังคมดี อย่างองค์กรต่างๆ ช่างภาพเขาก็มีชมรมกันหมดแล้ว แต่ของนักปั้นยังไม่มี ชมรมมันมีประโยชน์ต่อวงการบัันเทิง และมีคุณค่ามหาศาล จริงๆ มันก็ควรจะมี”
“หลายคนบอกว่าเป็นการโปรโมตจริงหรือเปล่า คงไม่ใช่ แต่เป็นเกาเหลาคู่ใหม่จากที่เคยดีกันมา กรณีนี้มันเกิดมาตั้งแต่ปี 38 หลังจากที่แทกทีมออกงานกันจนเป็นปลากระป๋องตราสามแม่ครัว มี พจน์ อุ๊บ โกโก้ ก็เลยคุยกันว่าเราน่าจะตั้งชมรมนักปั้นแห่งประเทศไทย และทุกคนก็เออ ออด้วย แล้วทุกคนก็บอกว่าคนที่ควรจะเป็นนายกชมรมควรจะเป็น พี่อุ๊บ ด้วยวัยวุฒิ ประสบการณ์ ศักยภาพพร้อมหมด ซึ่งเราก็โอเค”
“เสร็จแล้วก็มีนักข่าวเอาไปเขียน รายการทีวีก็เอาไปออก แต่พจน์ก็บอกว่าเค้าไม่รู้เห็น และไม่เข้าชมรมด้วย แล้วก็บอกว่าไม่อยากสังคายนาไม่ได้ไปไหนมาไหนกับพี่อุ๊บ ไม่ได้สนิทกับพี่อุ๊บ ก็เลยมึนไปเลย และใบ้แดกไปเลย ว่าทำไมพูดแบบนี้ ว่าเขาเอาส่วนไหนของสมองคิด และเอาส่วนไหนของปากมาพูด แล้วที่ไปตะลอนๆ กันออกงาน เรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องซีเรียสนะ แล้วเราก็ไม่ได้นักปั้นหัวโปกกะโหลกกะลา เราอายุมากแล้ว มาพูดอย่างนี้ได้ยังไง รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2524 ตั้งแต่พี่อุ๊บอยู่ช่างกล แล้วก็มาเจอกันในวงการบันเทิง รู้จักนานมาก ถึงจะไม่ได้ไปเที่ยวไปจิกผู้ชายด้วยกัน เราก็ยังคุยกัันสม่ำเสมอ”
บอกพจน์ไม่ต้องขอโทษก็ได้ แต่แค่อยากให้มาคุยกัน
“จริงๆ พจน์ก็ยังไม่ได้โทร.มาคุย จริงๆ ไม่ต้องมาขอโทษแต่อยากให้มาคุยกัน ให้เข้าใจก็โอเค พร้อมจะเปิดใจคุย ถ้าไม่อย่างนั้นมันก็จะบานปลายไปกันใหญ่ เพราะว่าบางทีพจน์อาจจะไม่ผิด แต่เขาอาจจะพูดแรงไป บางทีคนฟังแล้วอาจจะคิด รู้สึกว่าเอ๊ะ ผมว่าการมีมิตรดีกว่ามีศัตรูนะ พจน์คิดอยากจะสร้างหนังกะเทย หนังตุ๊ดตลอดชีวิตหรือยังไง ไม่คิดจะมีเพื่อนบ้างเลยหรอจ๊ะ ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกันเลย”
พอถามถึงปัญหาที่ทำให้หาจุดร่วมกันไม่ได้คืออะไร? เจ้าตัวบอกว่า.....
“เรื่องชมรมนักปั้นพูดจริงๆ นะ ถ้าพี่จะไปตั้งชมรมบาร์เกย์ ชมรมสวิงกิ้ง ผมไม่ซีเรียสนะ ถ้าเขาจะไม่ร่วม แต่ชมรมนี้เป็นชมรมที่สร้างสรรค์ โก้โก้ยังบอกว่าหนูขอเข้าแจมด้วย แต่ต้องไม่มีนายคนนี้นะ (เอ) ก็เลยบอกว่าโอเค ซึ่งพจน์ก็ยังบอกว่าอยากจะลบภาพนักปั้น แต่จริงๆ เขาก็เกิดจากนักปั้น อยากเป็นภาพผู้กำกับแทน แต่ผมว่าภาพมันก็ไม่เห็นต่างกันเท่าไหร่ เพราะว่าคนทำหนังถ้าไม่ได้ทุ่มเททำให้เด็กดัง ใครเขาจะไปดู แล้วภาพนักปั้นผมก็คิดว่ามันดูดี คุณไม่ได้ไปติดคุกไปติดยา ไม่ได้ฆ่าคนตาย ผมว่ามันไม่ใช่ แล้วการสร้างหนังของเขาก็เหมือนปั้นเด็กหมดเลย พาออกงานออกทีวีตามสื่อ”
“ผมไม่ซีเรียส ไม่มีพจน์ก็ต้องเดินหน้าต่อไป ไม่มีนายเอ นายบี ก็ยังต้องเดินหน้าต่อ จริงๆ ทำเองได้ เพราะว่าชมรมนักปั้นมันก็ดี ถ้าไม่มีใครอะไรด้วยก็ยังจะทำเองคนเดียว เพราะว่าผู้ปั้น กับผู้ถูกปั้นมักจะมีเรื่องผลประโยชน์เรื่องเงินทอง เรื่องกินเด็ก เรื่องอนาจารเด็ก อย่างมีเด็กคนหนึ่งอยากจะเข้าวงการ แต่ไม่รู้ว่านายเอ นายบี มีตัวตนจริงหรือเปล่า ผมก็ยังสามารถสกรีนได้ เพราะอยู่ตรงนี้มานานรู้จักหมด เพราะว่าเด็กบางคนก็เอาชื่ออุ๊บไปแอบอ้าง เวลาไปต่างจังหวัดเขาจะมาขอถ่ายรูป แล้วเอาไปแอบอ้างว่าอยู่กับอุ๊บ ซึ่งผมไม่เคยมีแฟรนไชส์ต่างจังหวัดนะ บางคนเสียเงินสี่ห้าพันแล้ว บางคนก็ต้องเสียตัวให้กับเกย์ก็มี”
“ที่ผ่านมา มีแต่ภาพนักปั้นตบตีกัน แย่ง_ำเด็ก มันวุ่นวายไปหมด ผมว่าน่าจะจัดระเบียบตรงนี้ สำหรับตัวผมอยู่วงการมา 20 กว่าปี เป็นนักปั้นมือทอง ปั้นทั้งนางเอก พระเอกมาทั่ววงการแล้ว ในชีวิตผมสร้างประโยชน์ให้วงการบันเทิงมาเยอะแล้ว ปั้น คุณอั้ม พัชราภา คุณ เอ๊ะ อิศริยา กวาง ฟ้ารุ่ง ก็เลยอยากทำโครงการที่เป็นมาสเตอร์พีซให้กับตัวเอง ก็คือ ชมรมนักปั้นแห่งประเทศไทย”
พจน์เองก็จะมาร่วมงานนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งอาจจะต้องประจันหน้ากันจั๋งๆ อุ๊บก็บอกว่าคงไม่เป็นคนเดินไปทักทายก่อน
“ทางนู้นก็ต้องมาทักผมก่อนสิ เพราะผมอายุสูงกว่า มาคุยกับผมก่อน มาคุยมาเคลียร์กันก็ยังดี มันจะได้จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง”
ส่วนกรณีที่พจน์ประกาศไว้ว่าจะไม่เผาผีกันเลย อุ๊บสวนว่าก่อนหน้านี้เพิ่งคุยงานกันอยู่เลย โมเมพูดไปหรือป่าว
“มันมีเรื่องมาก่อนหน้านี้ มีงานที่เดอะมอลล์โคราช วันที่ 30 พ.ค.เดอะมอลล์โทร.มาให้ผมไปเป็นกรรมการคนหนึ่ง ก็เลยเสนอไปว่า ให้เอาพจน์ด้วยสิ งานจะได้ดูยิ่งใหญ่ เอาโกโก้ด้วย ทางเดอะมอลล์ก็ตอบโอเค ก็เลยเอาเงินมัดจำครึ่งนึงไปให้คุณนายพจน์ ไม่ได้เป็นการมัดมือชกนะ เพราะว่าถ้ามัดมือชก ก็คุยกันหลายวันแล้ว เขาก็มาด้วยตอบตกลง เขาให้เลือกวัน พจน์เลือกวันที่ 30 แล้วน้องอีกคนนึงก็ขอไปด้วย ไปเป็นเพื่อนพจน์ แล้วจะมาโมเมได้ยังไงว่าไม่ได้คุยกัน แล้วพอใกล้วันงาน มีเรื่องนี้เกิดขึ้นเขาก็มาแคนเซิล นี่ก็เพิ่งคืนเงินมัดจำทางโน้นไปเมื่อช่วงบ่ายนี้เอง”
ถึงขนาดมีข่าวจะดักตบกันข้างนอก?
“ผมก็เด็กช่างกลเก่านะ เคยถูกยิงมาแล้ว เรียนช่างยนต์ ไอ้เรื่องตบตีไม่เคยกลัว บ่ยั่นหรอก แต่ตอนนี้มันหมดวัยแล้ว 50 แล้ว ภาพนักปั้นมันก็จะไม่ดี และคุณนายพจน์ โอ้โหเธอก็มีเรื่องฉาวตลอดปี จริงๆ ภาพลักษณ์มันก็ไม่ค่อยจะดี ถ้ามาตบตีกันมันก็จะแย่”
“นิสัยผม ถ้าคุณนายเอ ศุภชัย มาแย่งเด็ก จะไม่ด่า แต่จะชกหรือตบเลย จริงๆ ไม่มีใครมากล้าหือกลับผม เพราะพจน์เขารู้นิสัยผมดีว่าเป็นคนจริง เป็นคนพูดจิรงทำจริง ตบเป็นตบ ด่าเป็นด่า ผมไม่สนใจใคร จุดยืนของเรามี เราไม่ได้เกาะใครดัง เราดังด้วยตัวของเราเอง คนที่จะมาเข้าชมรมนักปั้นต้องสมัครใจ เพราะไม่เคยชวนใคร อย่างโกโก้ยังบอกเลยว่าหนูเข้าด้วย แค่ต้องไม่มีคนที่มีอักษรตัวแรกของภาษาอังกฤษ (เอ) แล้วคนที่เข้าชมรมต้องมีประวัติโปร่งใส ไม่จิกเด็ก ผมไม่เคยมีประวัติมีเซ็กซ์กับเด็กตัวเองเลยนะ จริงๆ นอนยัน ตะแคงยัน ไม่เคยกินเด็กตัวเองเลยนะ (มีด้วยเหรอที่กินเด็กตัวเอง?) ก็มี หนูไปอยู่ไหนมาคะ แหมมันก็มีทั้งนั้นแหละ เด็กมันก็ยอม เพราะเด็กมันอยากดัง ประเภทข้างหน้าหอยสังข์ข้างหลังหอยแครง มันปกติ”
บอกถ้าพจน์มาคุยด้วยก่อน ก็พร้อมจะกลับมาดีกัน
“ถ้าเกิดเขามาคุย ก็ปกติเพราะว่าผมมีความจริงใจกับทุกคนในวงการบันเทิง”