“พจน์ อานนท์” ยันเสียงแข็ง ไม่เข้าร่วมสมาคมนักปั้นที่ “อุ๊บ” เตรียมจะก่อตั้ง เพตุเพราะกลัวคนหมั่นไส้ อีกทั้งรู้สึกเป็นเรื่องบ้าบอ ตั้งมาเพื่ออะไร? สวนกลับ ไม่เคยสนิทกันและไม่เคยลืมกำพืดอย่างที่อีกฝ่ายกล่าวหา ฉะนั้นอย่าเอาชื่อไปแอบอ้าง บอก นักปั้นเป็นสิ่งที่คนอื่นตั้งให้ แต่ตนอยู่ในฐานะผู้กับกำกับภาพยนตร์
หลังจากที่เคยแท็กทีมนักปั้นอันได้แก่ “พจน์ อานนท์”, “อุ๊บ วิริยะ” และ “โกโก้ นิรุณ” ออกมาถล่มนักปั้นด้วยกันอย่าง “เอ ศุภชัย” ในข้อหาฉกเด็ก จนรุ่นพี่อุ๊บ ปิ๊งไอเดียรวมกลุ่มคนนักปั้นตั้งสมาคมนักปั้นแห่งประเทศไทย แต่ก็ยังไม่เห็นแววว่าจะมีนักปั้นแมวมองคนใดมาร่วมด้วย รวมไปถึงนักปั้นที่อดีตเคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากันอย่างพจน์ ที่หลังๆดูเหมือนว่าทั้งคู่จะกลับกลายเป็นซี้กัน
แต่งานนี้สุดท้ายก็วงแตกเหมือนเดิม นอกจากพจน์จะไม่เล่นด้วยแล้ว เจ้าตัวยังทั้งจิกกัดอุ๊บ ที่ลุกขึ้นมาก่อตั้งสมาคมนักปั้น ว่าเป็นเรื่องบ้าบอ ใครจะมาอยู่ จวก อย่าเอาชื่อตนไปแอบอ้าง เพราะไม่ได้สนิทอะไรด้วย
“ไม่เอาด้วยเพราะว่าผมไม่มีเวลาว่าง เพราะว่าก็ต้องไปทำหนังของผม แค่ทำหนังก็จะตายอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะมายุ่งกับสมาคมอะไร บ้าบอนะในความรู้สึกผม แล้วอีกอย่างกลัวคนหมั่นไส้ หมั่นไส้ในลักษณะที่ว่ามึงจะตั้งขึ้นมาทำไมสมาคมเนี้ย ตั้งมาเพื่ออะไรมันไม่จำเป็น แล้วใครจะมาเข้ากับเรา ใครจะมาอยู่สมาคมกับเรา พี่ไก่ วรายุฑเหรอ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว พี่ไก่เขาก็ไฮโซของเขา เอเหรอ...เอเขาก็ไม่มาอยู่แล้ว เขาก็อยู่ของเขาก็มีความสุขแล้ว ผมเองก็มีความสุขแล้ว จะไปอยู่กับเขาทำไม”
“สมาคมอะไรก็ไม่รู้ ไม่ใช่ว่าลืมกำพืดอย่างที่เขาพูดมา ว่า ไอ้คำที่เขาว่าลืมกำพืดมันหมายความว่ายังไง ลองถามตัวเองดูว่ากำพืดมันคืออะไร ผมเป็น พจน์ อานนท์ เมื่อก่อนยังไงก็เป็น พจน์ อานนท์ อย่างนี้อยู่ตั้งนานแล้ว ใส่ขาสั้น รองเท้าผ้าใบไม่เคยลืมกำพืดอยู่แล้ว แต่คนเรามันต้องมีวันโต มันต้องมีวันเกิด ตอนนี้ผมมาเป็นผู้กำกับแล้ว ก็ต้องทำหน้าที่ของผมตรงนี้ให้ดีที่สุด ใช่ไหม ไม่ลืมตัวเองแน่นอน จริงๆ แล้วผมไม่ใช่นักปั้นเลย แต่ผมทำหนังสือวัยรุ่นอยู่ หาเด็กมาถ่ายหนังสือเอง เกลียดมากกับคำว่าปั้น คำว่านักปั้นไม่ชอบเลย กล้าพูดตรงนี้เลย”
“เขาอยากดังรึเปล่า ต้องไปถามเขา ผมไม่เอา ยังไงผมก็ไม่เอาด้วยจบ ถ้าผมไม่เอาแล้วใครจะมีสิทธิ์มาว่าผม พี่ไม่ได้ทำผิดอะไร คือใครจะตั้งก็ตั้งอะไรก็ตั้งไป ผมไม่เอา อย่ามาด่ากัน เพราะถ้าด่ากันมันจะทะเลาะกันเปล่าๆ”
“อะไรคือกำพืดมันไม่ใช่ลืมกำพืด เพราะผมเป็น พจน์ อานนท์ มาตั้งนานแล้ว แล้วสมัยที่ผมกำกับหนังก็ยังหาเด็กมาเล่นหนังใหม่ๆ อยู่เรื่อย มันคือการหาเด็กใหม่ๆ มาเล่นหนังมากกว่าไม่ใช่นักปั้นอะไร ไม่เอา ไม่ชอบ คนเขาจะหมั่นไส้เอา ใครเขาจะเป็นยังไง ใครจะทำอะไรก็เรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับผม”
“ไม่ชอบมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วคำนี้ พจน์ อานนท์นักปั้น เมื่อก่อนจะเป็นพจน์ เธอกับฉัน ตอนหลังมาก็มาเป็นนักปั้นระดับประเทศ นักปั้นแมวมองตาเพชรอะไรพวกนี้ ผมไม่ชอบถามใครก็ได้ใครเคยสัมภาษณ์ตั้งหลายครั้งจะรู้เลยว่าไม่ชอบคำนี้เลย แต่มันเป็นไปแล้วคนรู้จักเราในแบบนี้เราก็ยอมรับสภาพไป คือตอนนี้ผมมาทำหนังแล้ว ก็ทำหนังมา 15 ปี มันสมควรที่จะลืมไปได้แล้วนะนักปั้น แต่ภาพผมยังติดอยู่ไง เราก็รู้สึกเฉยๆ ไมได้คิดอะไรมาก”
ปฏิเสธฉายาเป็นนักปั้นสามแม่ครัว ย้ำว่าไม่เคยสนิทกับทั้งอุ๊บและโกโก้ ออกปากอุ๊บต้องการแอบอ้างชื่อตนไปใช้ในการกลับคืนวงการ
“ไม่ใช่แม่ครัว ผมเป็นผู้กำกับ โกโก้ก็ไม่สนิท พูดตรงนี้เลย โกโก้เพิ่งมาสนิทตอนที่ออกช่อง9 ด้วยกันแค่นั้นเอง ผมนี่แหละเป็นคนพาพวกเขามาออก เพราะเขาบอกว่าเหมือนมาในลักษณะของพวกที่เขาบอกว่าเอ เป็นผู้ปลุกปั้นอั้ม ผมก็บอกว่าพี่อุ๊บจะพูดไหมว่า พี่เคยปลุกปั้นอั้ม เขาก็มา โกโก้มาไหม โกโก้ก็มา”
“แอบอ้างเอาชื่อผมไปใช้เท่านั้นเองจบ เพราะผมไม่สนิท ยืนยันตรงนี้ว่าไม่สนิท แล้วคนในวงการที่สนิทจริงๆ คนมันไม่สนิทจะให้มาตอแหลว่าสนิทได้ไง ถ้าพูดถึงพี่หนึ่ง ชัชวาล ผมรู้จักพี่หนึ่งมากกว่าเขาอีก”
และกับคำสัมภาษณ์ตัดพ้อ ที่อุ๊บเคยกล่าวว่าเวลาพจน์มีปัญหาเดือดร้อน จากกรณีฉกเด็กกับ เอ ศุภชัย ตนก็เขามาช่วย แต่พอตนตั้งใจทำสิ่งดีๆ กลับปฏิเสธ เล่นเอาพจน์เดือดบอกไม่เคยเดือดร้อน อุ๊บต่างหากที่อยากเข้ามาเอง
“พจน์เดือดร้อนเรื่องอะไร ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องพี่เอเลยนะ พี่เอสิต้องเดือดร้อนเพราะว่ามาเอาเด็กผม แล้วตอนนี้เอเขาก็บอกว่าเขาไม่ได้ผิด ไม่ผิดก็คือไม่ต้องขอโทษกัน ผมไม่ได้เดือดร้อน อะไรคือผมเดือดร้อน ก็ยังเป็นพจน์ อานนท์ เหมือนเดิม ผมเดือดร้อนตรงไหน”
ยืนกรานว่าไม่ต้องเคลียร์กับอุ๊บ เพราะว่าไม่เคยสนิทกันอย่างที่ใครๆ เข้าใจ
“บอกคนภายนอกมองผิดแล้วไม่สนิทกัน แล้วทำไมจะต้องไปเคลียร์กับเขา ไม่ได้สนิทกับเขา ถึงจะต้องไปนั่งเคลียร์กับเขา คนที่สนิทกับผมจริงๆ ก็คือพี่ตู่ โดมอนแมน ฐา คุณสถาพร ที่อยู่แกรมมี่ แล้วก็พี่หน่อง ประวิทย์ ที่เป็นผู้จัดการเซ็นทรัล เมื่อก่อน แล้วก็ไปทำจังซีลอนอันนั้นล่ะเพื่อนเที่ยวเลย เพื่อนเที่ยวสมัยร่วมเป็นร่วมตาย มีปัญหากัน มีอะไรก็จะปรึกษากันตลอด 3 คนนี้กล้ายืนยันได้เลย ไปสนิทกันตอนไหน เขานั่นแหละมาชอบผม เขามาจีบผมตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว”