“พจน์” สวน “อุ๊บ” ตบเจอเตะ ถ้ายังไม่หยุดด่าตนออกสื่อเจอฟ้องแน่ กร้าว ต่อไปนี้จะเป็น “พจน์ ระเบิดขวด” ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกแล้ว เจ้าตัวยืนกราน ไม่เข้าชมรมนักปั้นเพราะไรสาระ ไม่โกรธหาก “โกโก้” จะเข้าร่วม แต่เตือนอยากเปลืองตัวก็ตามใจ โว ปีนี้มีเรื่องเยอะ เพราะมีแต่คนอยากจะมาเกาะดัง
ยื้ดเยื้อบานปลายเข้าไปอีก สำหรับเรื่องราวแก๊งค์นักปั้นสามแม่ครัว ที่มาแตกคอกันเอง เพราะหลังจากที่ “อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ” ออกมาประกาศศึกชัดเจน ว่าหากเจอ “พจน์ อานนท์” เมื่อไหร่จะตบสั่งสอน ด้านพจน์งานนี้ก็ไม่ยอมน้อยหน้า สวนทันควันหากจะมาตบ ตนก็จะเตะกลับ พร้อมขู่ถ้ายังไม่หยุดโจมตีเจอฟ้องแน่
“ไม่ใช่จะฟ้อง ผมบอกว่าผมจบไปแล้วตั้งแต่รายการวู้ดดี้ฯแล้ว แล้วถ้าเกิดยังมาด่าผมอีก ให้ผมเสียหายผมก็จะฟ้อง เพราะต่อไปนี้ผมจะฟ้องแล้ว ผมรู้สึกว่าเขาเยอะไปแล้ว มากไปแล้ว ถ้ารู้สึกว่าสนุกปากก็เจอกันที่ศาล เพราะว่าถ้ายังคิดว่าตัวเองพูดไปแล้วทำให้ผมเสียหายผมฟ้องแน่นอน ผมก็คงเอากฎหมายเข้าช่วยแหละ เพราะว่าผมคงไม่ไปทะเลาะอะไรกับเขามากมาย เพราะผมถือว่าผมได้จบไปแล้ว ถ้าเขาไม่หยุดก็ฟ้องแน่นอน”
“ตบก็เตะสิ กลัวอะไรเพราะเราก็มีขามีแขนเหมือนกัน ก็ต้องลองดู ถ้าเขากล้าทำเราก็กล้าสวน แล้วบ้านเมืองมีขื่อมีแปลจะมาทำอะไรมากๆ ตบก็เตะ กูเป็นผู้ชาย(หัวเราะ)”
ต่อไปนี้ไม่ยอมไม่ญาติดีแล้ว บอกต่อไปนี้จะเป็นพจน์ ระเบิดขวดเพราะโดนรังแก ย้ำไม่เคยสนิทอุ๊บ
“ใครเป็นคนหาเรื่องอ่ะ เขาเป็นคนหาเรื่องเอง ผมเป็นคนบอกว่าไม่เข้าสมาคมแค่นั่นแหละด่าผม ด่าออกสื่อ ออกรายการทีวีทุกวัน ผมไม่ได้เป็นคนหาเรื่อง ใครล่ะจะยอมให้ด่า แต่พจน์ อานนท์ ไม่ยอมหรอก ต่อไปจะเป็นพจน์ ระเบิดขวดแล้วยิ่งไม่ยอมใหญ่”
“ไม่ยอม เพราะต่อไปนี้พจน์ อานนท์จะเปลี่ยนเป็นพจน์ระเบิดขวดแล้ว เพราะรู้สึกว่าคนรังแกง่ายเหลือเกิน ใครมาทำตอนนี้ก็จะสู้ ก็ลองดู”
“ไม่เอาแล้ว อย่ามายุ่งกับชั้น อย่ามายุ่งกับพี่แล้ว เพราะพี่ถือว่าต่างคนต่างอยู่ จริงๆ ต่างคนต่างอยู่มาตั้งนานแล้ว แต่มาทำตัวสนิทเอง ไม่สนิท ยังไงก็บอกว่าไม่สนิท(เน้นเสียง) สนิทไปคนเดียว ผมไม่สนิทด้วย”
แจงเหตุผลไม่เข้าชมรมเพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระ บอกทำบุญไม่ต้องบอกให้ใครรู้ แต่หากโกโก้ (นิรุณ) จะเข้าร่วมก็ไม่ว่าอะไร ไม่มีปัญหา
“โนและก็โน ไม่ยอม ไม่เอาไม่เข้า เพราะจะมีไปทำไมไร้สาระ เขาอยากมีก็ตั้งไปอยากทำอะไรก็ทำไปอย่ามาเกี่ยวกับผมแล้วกัน คือไม่อยากยุ่งแค่นั้นเองเพราะมีงานทำ ไม่ใช่ว่างมาก งานมีทำต้องทำหนังตั้ง 2 เรื่อง จะมาสมาคมอะไรขนาดสมาคมผู้กำกับ ผมยังไม่ค่อยเข้าไปประชุมกับเขาเลย แล้วจะมาอะไร สมาคมอะไรก็ไม่รู้”
“ถ้าทำแล้วมันดีก็เรื่องของเขาอีกเหมือนกัน ก็บอกแล้วไงว่าไม่เอา อย่างที่บอกขนาดสมาคมผู้กำกับยังไม่ค่อยได้ไปร่วมกับเขาเลย เพราะว่าไม่มีเวลา มีงานทำตลอดไม่ได้ว่างงานมาก ถ้าเขาทำได้จริงอย่างที่ว่า มันไม่เกี่ยวกับผมเพราะไม่เอา ผมมีงานอย่างอื่นทำ เพราะไม่ต้องเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวนี่ เพราะว่าคนเราทำบุญมันไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งบอกให้คนอื่นรู้หรอก ไม่ต้องไปป่าวประกาศให้คนอื่นรู้หรอก อยู่เงียบๆ มันก็ได้บุญ”
“แต่ที่ป่าวประกาศให้คนรู้นะ จะทำจริงรึเปล่า มันไม่ได้ทำบุญหรอก บอกไปทั่วว่าเลี้ยงหมาเลี้ยงแมว อันนั้นมันไม่ได้ตั้งใจทำบุญรึเปล่า ทำไมต้องมาบอกด้วยล่ะว่าเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวไม่ใช่ คนเราทำบุญไม่ต้องป่าวประกาศหรอก อยู่เฉยๆ ไปเลี้ยงเด็กกำพร้าผมไปอะไรไม่เห็นจะต้องไปบอกเลย ผมเอาเงินให้ขอทานไม่เห็นต้องบอกเลยว่าเอาเงินให้ขอทานใช่ไหม คนเราทำบุญไม่ต้องป่าวประกาศหรอก ป่าวประกาศแล้วจะมาอาศัยบุญทำให้ดังรึเปล่า อันนี้คิดไปเองนะ เดี๋ยวจะหาว่าว่าเขาอีก ไม่ได้ว่านะ”
“โกโก้เขาเข้าร่วมก็ไม่เป็นไรก็เรื่องของเขา สิทธิ์ของโกโก้เขา โกโก้กับผมก็เพิ่งจะรู้จักกันเหมือนกัน ก็เป็นสิทธิ์ของโกโก้เขาก็ไม่เกี่ยวกับผม ถ้าเอเขาจะไปร่วมก็เป็นสิทธิ์ของเอ เขาก็ไม่เกี่ยวกับผมอีกเหมือนกัน ต่างคนต่างอยู่อย่ามายุ่งกับผม ถ้ายุ่งก็ไม่ยอม ถ้ายุ่งก็เป็นเรื่องเหมือนกัน”
“ผมก็บอกกับเขาแล้วไง ถ้าโกโก้อยากเปลืองตัวก็ตามใจโกโก้ใช่ไหม เดี๋ยวอีกหน่อยโกโก้ก็โดนเขาด่าเองแหละ เพราะเขาเป็นแบบนี้มาเป็นประจำอยู่แล้ว ผมไม่มีปัญหากับโกโก เราก็ทำงานด้วยกัน พี่เอาเด็กโกโก้มาเล่นหนังก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว สามารถร่วมงานได้ แล้วโกโก้กับผมๆ ไม่ได้ทะเลาะกัน ก็บอกโกโก้ว่าผมไม่เข้านะ โกโก้จะเข้าก็เรื่องของโกโก้ไม่เกี่ยวกัน”
บอก ช่วงปีนี้มีแต่ข่าวเพราะว่าคนอยากมาอาศัยเกาะความดังของตน แจงหากเอจะไปร่วมชมรมด้วยก็ไม่เป็นไรเพราะไม่เคยเป็นศัตรูกัน ที่ผ่านมาแค่สอนในฐานะพ่อสอนลูก บอกต่างคนต่างอยู่ดีที่สุด
“โดนระเบิดมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว แต่ผมไม่ได้เป็นคนก่อนี่ ลองคิดดูดีๆ เรื่องเอถ้าเขาไม่แอบมาขอเบอร์เด็กผมไป ขอเด็กมาเซ็นสัญญากับแม่เด็กก็ไม่เป็นเรื่อง ส่วนหยวนถ้าหยวนไม่ออกมาพูด ว่าผมไม่จ่ายสตางค์เขา ก็ไม่เป็นเรื่อง เพราะว่าเรื่องนี้จ่ายไปตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว แล้วเรื่องอุ๊บนี่ถ้าผมไม่ปฎิเสธ เขาเอาชื่อผมไปแอบอ้างว่าอยู่ชมรม พอผมปฎิเสธปุ๊บ ก็กลายเป็นเรื่อง ก็แสดงว่าผมไม่ได้ไปหาเรื่องทั้งนั้น แสดงว่าผมดัง ทุกคนก็เลยมาอาศัยความดังจากผม”
“ก็น่าจะเกาะเราดังรึเปล่า เพราะว่าพอผมออกมาพูด แค่ว่าไม่เป็น ไม่ร่วมด้วย แค่นี้เป็นเรื่องเป็นข่าวใหญ่โตเลย สู้เราเงียบๆ ไปดีกว่า ไม่ต้องช่วยให้เขาดังด้วย”
“แต่เอไม่ใช่ฝ่ายตรงข้าม ผมไม่ได้ไปทะเลาะกับเขา เราแค่บอกกับเอ ว่าทำงานตรงนี้มันต้องมีมารยาทนะ คุณจะมาเอาเด็กคนนู้นมาเป็นเด็กตัวเองไม่ได้ เพราะว่าคนอื่นที่เขาหามา กว่าจะมีวันนั้นใช่ไหม แล้วก็สอนเขาเฉยๆ เอเขาก็ออกมาขอโทษ เหมือนพ่อสอนลูก คิดว่าพ่อสอนลูก แต่ลูกก็ไม่เคยมาขอโทษพ่อนะ โทรศัพท์อะไร ก็ไม่เคยมี ก็ไม่เป็นไรต่างคนต่างอยู่ เพราะว่าก่อนหน้านั้น ก็ต่างคนต่างอยู่กันอยู่แล้ว เอเขาก็ต่างอยู่ ผมเองก็ต่างอยู่ก็ไม่มีอะไรอยู่แล้ว อย่างกรณีอุ๊บนี่ก็ต่างคนต่างอยู่ๆ แล้ว แต่ถ้าเกิดทำให้ผมเสียชื่อเสียง หรือว่าด่าอะไรอีก ผมก็จะไม่ไว้หน้าแล้ว”
