“เอิ๊ก พรหมพร” โร่แจ้งความจับหนุ่มโรคจิตโทร.ขอร่วมเพศและข่มขู่ เป็นเวลานานกว่า 2 เดือน หลังติดตั้งเบอร์โทรศัพท์เพื่อต่อไฮสปีดอินเทอร์เน็ตของทรู มั่นใจเป็นคนในแน่นอน เผยตอนนี้ได้เบอร์หนุ่มนิรนามคนนี้แล้ว รอแค่ตำรวจสืบหาตัว เจ้าตัวลั่นไม่ขอเรียกร้องอะไรจากทรู เพราะแค่เปลี่ยนเบอร์ให้ยังยากเลย
ถึงกับต้องวิ่งโร่เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต. ประจำ หนุนนาค พนักงานสอบสวน สน.บางพลัด เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา(11 พ.ค.) สำหรับพิธีกรสาว “เอิ๊ก พรหมพร ยูวะเวส” ที่เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนสาวคนสนิท “น้ำฝน วิรุฬกานต์ กฤตบุญญาลัย” เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับหนุ่มโรคจิตที่โทร.มาคุกคาม และพูดจาในเชิงลามกอนาจารเป็นเวลากว่า 2 เดือน ตั้งแต่เจ้าตัวขอติดตั้งระบบโทรศัพท์กับบริษัททรู คอร์เปอเรชั่น
ซึ่งภายหลังที่สาวเอิ๊กเข้าให้ปากคำกับตำรวจแล้ว เจ้าตัวก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงสาเหตุที่ต้องมาแจ้งความ ว่าเป็นเพราะแจ้งเรื่องไปยังบริษัททรูตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย. แต่เรื่องกลับเงียบไม่มีความคืบหน้าใดๆ ให้อุ่นใจ อีกทั้งกลัวตัวเองจะไม่ปลอดภัยจึงอยากให้ตำรวจเข้ามาจัดการให้ พร้อมตั้งข้อสงสัยต้องเป็นคนในทรู เนื่องจากตนยังไม่เคยให้เบอร์นี้กับใคร
“วันนี้มาแจ้งความค่ะ เพราะว่ามีโทรศัพท์โรคจิตโทรมาคุมคาม โทรถี่มาก จนรู้สึกว่าเราคงปล่อยไว้ไม่ได้ และระยะเวลาประมาณ 3 เดือนแล้ว แต่ก็ยังโทรอยู่ตลอดนะคะ เริ่มจากที่บ้านเราติดไฮสปีดอินเตอร์เน็ตเป็นระบบทรูเมื่อช่วงกลางๆ เดือนกุมภาพันธ์ หลังจากติดไปได้ประมาณ 2 อาทิตย์ คืออินเตอร์เน็ตนี่ยังไม่ทันใช้ได้เลยนะ แต่โทรศัพท์โรคจิตเข้ามาก่อน(หัวเราะ)”
“แค่ 2 อาทิตย์เอง ประมาณสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ก็เริ่มมีโทรศัพท์เข้ามาแล้ว และที่เรากลัวคือมันไม่ได้เป็นการสุ่มโทรเข้ามา แต่ว่าโทร.เข้ามาแล้วก็ระบุชื่อเราได้อย่างชัดเจนว่า ขอสายคุณเอิ๊กครับ เสียงกระเส่าด้วยนะ แรกๆ เราก็ยังงงนึกว่าเจ้าหน้าที่ของทางทรูโทร.มาเช็คระบบหรือเปล่า พอดีรับเองด้วย เราก็ถามว่าจากไหนคะ เขาก็ไม่พูด ครั้งแรกสุดวางไป แล้วแป๊บนึงก็ดังอีก เราก็รับขึ้นมา ขอสายคุณเอิ๊กครับ ตอนแรกเราก็คิดว่าสายหลุด เราก็ถามอีกว่าจากไหนคะ”
“คราวนี้ก็เริ่มพูดจาลามกออกมาเลย คือว่าพอชัดเจนว่าเป็นตัวเราปุ๊ปก็มาเลย ก็ขอมีเพศสัมพันธ์ ร่วมเพศน่ะค่ะ ขอให้เปิดโน่น เปิดนี่ให้ดูหน่อย แล้วก็หลังๆ โทร.มาถี่มากจนแบบพอเริ่มมีข่าวออกไปประปรายเนี่ย หลังๆ เริ่มมีโทร.มาแต่โกรธแล้ว โทร.มาขู่ ก็พอหลังๆ เขาเริ่มขู่ เขาเริ่มเรียกเราว่า มึง หลังๆ เริ่มไม่ได้ขอชื่อแล้ว ก็เริ่มหยาบคาย ว่าเหมือนกับเราพูดมาก อย่าพูดมาก ยังไม่ถึงขู่ฆ่าอะไร ยังไม่ถึงกับพูดออกมาขนาดนั้นนะคะ แต่ก็ขู่ประมาณว่าให้เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว แต่เอิ๊กไม่ได้มีการโต้ตอบอะไรเลยค่ะ”
“คือมีอยู่ครั้งนึงตอนนั้นเขาโทร.มาตอนกลางวัน แล้วช่วงนั้นฝนอยู่ที่บ้านพอดี แล้วเขาก็รับ เขาพูดหยาบคายกับฝน คือเขาคิดว่าฝนเป็นเอิ๊ก พอฝนรับแล้วบอกว่าไม่มี เบอร์นี้ไม่มีนะ พอพูดว่าไม่มีปุ๊บมันก็บอกว่าอย่าเลย แล้วก็พูดหยาบคายมาเลย ฝนก็เลยด่าไป บอกว่าเลิกโทร.มาได้แล้ว เดี๋ยวก็ไปนอนในคุกหรอก คราวนี้เขาก็ตอบโต้กลับมารุนแรง แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นเสียงคนเดิมตลอดเวลา เป็นคนนี้ตลอด สายเดียวตลอดเลยค่ะ”
“แต่เขาโทร.มาตอนไหนบ้างเอิ๊กไม่ทราบนะคะ เพราะตอนกลางวันเอิ๊กไม่ได้อยู่บ้านอยู่แล้ว แต่ว่ากลางคืนเนี่ยโทร.มาตลอด จะเริ่มโทรจากประมาณ 2 ทุ่ม 3 ทุ่ม โทรตลอดทุกชั่วโมง โทร.จนเราต้องเอาหูออก ครั้งแรกๆ ยกหูออกจากเครื่อง แล้วเอิ๊กตื่นเช้า ตื่นตี 5 เพราะต้องไปทำรายการแต่เช้า ตื่นตี 5 ปุ๊บ เอาหูวางเข้าไปในโทรศัพท์เชื่อมั้ยคะ ไม่ถึง 10 นาทีโทรศัพท์ดังแล้ว แล้วมันไม่มีใครน่ะ เพราะเบอร์นี้เราไม่ได้บอกใคร เพราะว่ามันเป็นเบอร์สำหรับอินเตอร์เน็ตเท่านั้นเอง”
เผยว่าสงสัยคนในบริษัททรูเองที่โทรมาป่วน เพราะน่าจะเป็นคนในถึงสามารถรู้เบอร์ได้ และเลือกช่วงเวลาที่โทร.มาเจอตัวได้
“ในความสงสัยเรานะคะ ถ้าถามว่าสงสัยใครมั้ย เราสงสัยคนในทรู เพราะเนื่องจากว่ามันแค่ 2 อาทิตย์ ระยะเวลามันเร็วมาก แล้วเขาระบุชื่อได้ชัดเจนเลยว่าเจ้าของเบอร์นี้คือใคร แล้วก็การโทร.มามันเหมือนคนที่ทำงานช่วงกลางคืน เพราะว่าถ้าเป็นคนโรคจิต เรามีความรู้สึกว่าชีวิตปกติเขาน่าจะทำงานได้ปกติ เพราะฉะนั้นกลางคืนต้องนอนนะ แต่นี่กลางคืนคือโทร.ตลอด ตี 2 โทร ตี 3 ยิ่งถ้าไม่รับยิ่งโทร.ตลอด”
“แต่ ณ ปัจจุบันได้เบอร์มาอยู่ในมือแล้ว เบอร์ที่โทร.เข้ามาเนี่ยนะคะ ขึ้นต้นด้วย 084 ขั้นตอนต่อไปก็ต้องเป็นการมาแจ้งความ เพื่อที่จะให้ทางตำรวจช่วยเช็ค Call detail ออกไปว่าเบอร์นี้คือใคร คือจริงๆ ถามว่าเราอยากจะจับเขามาลงโทษมั้ย คือมันไม่ได้อย่างนั้นหรอก เรามีความรู้สึกว่าคนเหล่านี้เราเห็นใจ เขาป่วยมากกว่า”
“แต่ที่เริ่มกลัวเพราะเราไม่รู้ว่าชีวิตเราจะปลอดภัยแค่ไหน มันกลายเป็นว่าเราไม่รู้ว่าคนๆ นี้เป็นคนใกล้ตัวรึเปล่า แล้วก็ขนาดเบอร์โทรศัพท์ยังเช็คได้เลย เช็คบ้านง่ายเลย มีทางรู้ได้แน่ๆ เกิดวันใดวันนึงมาดักหน้าบ้านล่ะ หรือไปที่ทำงาน แล้วเราก็ทำรายการสด ซึ่งมันหาตัวเจอได้ง่ายอยู่แล้ว เราก็เลยรู้สึกว่าเราเริ่มไม่ปลอดภัยแล้วนะ ก็กลัวน่ะค่ะ เพราะทุกวันนี้พูดง่ายๆ ว่าโทรศัพท์ไม่รับเลย คือถ้ามันดังก็ปล่อยให้มันดังไป จนทนไม่ได้ก็ยกหูออก ดึงสายออกคือเหมือนกับเราไม่ต้องใช้โทรศัพท์อีกต่อไปแล้ว”
“เราติดต่อทางทรูไปแล้ว แต่เรื่องดำเนินการไปช้ามากนะคะ คือหลังจากที่มีโทรศัพท์นี้เข้ามา 2 อาทิตย์ปุ๊บ พอได้รับโทรศัพท์ตอนแรกๆ ตกใจมาก แต่ตอนนี้เริ่มชินแล้วนะ เริ่มเป็นเพื่อนกับเขาแล้ว(หัวเราะ) คือตอนแรกตกใจกลัวมาก แล้วก็เลยรีบติดต่อไปทางทรู ก็เล่าให้ฟังด้วยปาก เรื่องหายเงียบไปเดือนกว่า เงียบสนิทไม่มีอะไรเลย เราก็โทรไปอีก ว่าตกลงเรื่องไปถึงไหนแล้ว เขาก็เลยบอกว่าให้ช่วยพิมพ์เป็นหนังสือมาหน่อย เราก็เลยทำหนังสือไป หนังสือก็ลงวันที่ 3 เมษายน”
“ซึ่งส่งไปให้ทางบริษัททรู ถึงคุณอรประภัทร คือเขาไม่ใช่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรอก เขาคือคนที่เราโทร.ไปติดต่อตอนที่เราโทร.ไปจะขอหมายเลขมาติดไฮสปีดเท่านั้น เขาเป็นคนเดียวที่เรารู้จัก เราก็เลยต้องโทร.กลับไปที่คนๆ นั้น เท่านั้นเอง แต่ว่าคงไม่ได้เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของเขาโดยตรง หนังสือก็ลงวันที่ 3 เมษายน เล่าพฤติกรรมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างกับเรา เราก็ได้ส่งแฟกซ์ไป ก็ตั้งแต่ 3 เมษายนจนมาถึงวันนี้พฤษภาคมเนี่ยค่ะ ความคืบหน้าที่ได้รับก็แค่ว่าได้เบอร์มาหนึ่งเบอร์ว่าคนนี้แหละที่โทร. แล้วหลังจากนั้นเขาบอกว่าเขาทำอะไรอีกไม่ได้แล้วนอกจากจะต้องไปแจ้งความ”
เผยว่าไม่ได้อยากให้ “ทรู” มารับผิดชอบค่าเสียหาย แต่แค่ขอให้เปลี่ยนเบอร์ใหม่ให้เท่านั้น
“คือเรามีความรู้สึกว่าจริงๆ ไม่ได้อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่ แต่เรามีความรู้สึกว่าก่อนหน้านี้ที่บ้านเรามีเบอร์ขององค์การโทรศัพท์ 3 เบอร์ไม่เคยมีปัญหาแบบนี้เลย ก็เลยต้องย้อนกลับไปถามทางทรูว่าระบบจัดเก็บข้อมูลลูกค้าของคุณเนี่ย มันหละหลวมรึเปล่า เพราะว่าเรื่องของเบอร์โทรศัพท์หรือที่อยู่บ้านหรือว่าข้อมูลพื้นฐานส่วนบุคคลเป็นเรื่องที่บางครั้งจะต้องเก็บเป็นความลับ มันถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลของแต่ล่ะคนนะคะ ถ้าเผื่อว่ามันหาได้อย่างง่ายดายหรือเอามาเปิดเผยกันง่ายๆ ชีวิตก็คงไม่มีความสุขกันแล้วล่ะแต่ละคน”
“เพราะฉะนั้นเราก็เลยต้องย้อนกลับไปทางทรูว่าคุณจัดเก็บระบบข้อมูลลูกค้าอย่างไร ทำไมมันหลุดออกไปอย่างนี้ได้ เพราะเราไม่เชื่อว่ามันเป็นคนบ้าสุ่มกดมามั่ว เขารู้ด้วยว่าเบอร์นี้เป็นเบอร์ของเรา แล้วก็ยังโทรอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเขาควรจะออกมารับผิดชอบ อย่างเช่นจะรีบจัดการ เดี๋ยวเปลี่ยนเบอร์ให้เลย หรือว่าย้อนกลับไปดูช่วยเราหาตัวอะไรอย่างเนี้ย”
“แต่ไม่ใช่ว่าผ่านมา 2-3 เดือนก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าอย่างนี้มันไม่ถูก แล้วมันไม่ใช่มีแค่เอิ๊กคนเดียวแน่ ถ้าคนที่เราสงสัยแล้วไม่รู้จริงหรือไม่จริงนะคะ แต่เป็นแค่ความสงสัยว่ามันน่าจะเป็นคนภายในทรู ยิ่งถ้าเป็นคนภายในเนี่ย ดาราติดทรูเยอะแยะสมัยนี้ไฮสปีดอินเตอร์เน็ตใครๆ ก็ต้องใช้ ใช้กันทุกบ้าน เพราะฉะนั้นก็ต้องมีคนที่โดนอย่างเรา มันต้องมีน่ะ”
“ส่วนคดีที่มาแจ้งความในวันนี้ก็ต้องเป็นในลักษณะของการถูกคุมคามน่ะค่ะ มีขู่ทำร้าย ถูกคุมคาม แล้วก็อนาจาร ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลค่ะ จริงๆ ถ้ารู้ตัวแล้วอยากส่งเขาไปรักษาเนอะ คือสงสารเขาน่ะ เขาคงไม่รู้ตัวด้วยว่าเขาเป็น จริงๆ ตอนเด็กๆ เคยเจอคนมาโชว์ของลับนะ เขาก็จะมีอาชีพปกตินะ อาจจะอาชีพใดอาชีพนึงก็ไม่รู้ แต่ว่าเขาป่วยโดยที่เขาไม่รู้ตัวไง เราก็รู้สึกว่าเขาน่าจะได้รับการรักษา เขาจะได้มาเป็นคนที่ทำประโยชน์อย่างอื่นให้กับประเทศชาติได้ แทนที่จะคอยไปรุกราน คุกคามหรือว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของคนอื่น แล้วอีกอย่างนึงคือเราเคยดูหนัง จอห์น เลนอน เนี่ยถูกฆ่าตายโดยคนโรคจิตนะ ซึ่งของแบบนี้มันประมาทไม่ได้ จะรอให้เขามาฆ่าเราก่อนเหรอ เราก็คงต้องทำอะไรบางอย่าง”
“ซึ่งหลังจากที่แจ้งความไปเรียบร้อยแล้ว เราก็ให้หมายเลขกับตำรวจไปแล้ว ตำรวจก็จะดำเนินการขอเช็คการโทร Call detail ย้อนหลังกลับมาจากเบอร์โทรศัพท์ที่เราให้ไป ว่าหมายเลขนี้ได้มีการโทรเข้ามาในบ้านเราจริงหรือไม่ อย่างไร เพราะว่าที่เรามาแจ้งก็มีหลักฐานอยู่แล้ว แล้วก็ถ้าเผื่อตรงกันปุ๊บก็น่าจะหาตัวได้ ระยะเวลาคงต้องถามทางตำรวจน่ะค่ะ แต่ก็กลัวอย่างนึงคือระบบโทรศัพท์สมัยนี้มันมีระบบเติมเงิน เป็นระบบที่บางครั้งไม่ต้องลงทะเบียน ก็ยังกลัวอยู่ว่ามันจะเป็นแบบนั้นรึเปล่า เพราะคนโทรโรคจิตระดับนี้อาจจะต้องระวังตัวไว้บ้าง”
“ช่วงนี้ก็พยายามไม่ไปไหนมาไหนคนเดียวนะคะ ก่อนออกจากสถานีทำรายการเสร็จก็มองซ้ายมองขวา หรือระหว่างนั่งทำรายการ คือเอิ๊กทำรายการสดด้วยไงก็พยายามดูว่ามีใครหน้าตาประหลาดๆ มายืนรึเปล่า กลับบ้านก็ต้องระมัดระวัง”
“กลัวการรับโทรศัพท์ไปเลย คือเบอร์มือถือที่โทรเข้ามา ปกติทำงานอย่างเรามันจะเป็นเบอร์ไม่ค่อยชินอยู่แล้วล่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก เรื่องงานเรื่องอะไรอย่างเนี้ยค่ะ ตอนหลังก็ต้องพยายามให้น้องคนอื่นๆ ที่ออฟฟิศช่วยกันรับบ้าง น้องๆ ผู้ช่วยอะไรอย่างเนี้ย เพราะเราเริ่มรู้สึกว่าจะเป็นเบอร์โรคจิตรึเปล่า เบอร์บ้านยังหาได้ เบอร์มือถือคงหาได้มั้ง ไม่น่ายาก”
“ฝนเขาก็บอกว่าต้องจับให้ได้นะ ตอนแรกเราพยายามไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่ ก็บอกว่าปล่อยๆ ไปเหอะ เดี่ยวก็คงเลิกโทร.เองมั้ง แต่ปรากฏว่า 2-3 เดือนก็บอกฝนตลอด ว่าเออฝนมันโทรมาอีกแล้ว ฝนก็บอกว่าไม่ได้แล้วล่ะ ต้องทำให้เป็นเรื่องเป็นราวแล้วล่ะ เพราะว่าปล่อยไว้อย่างนี้ก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง แล้วเราก็แทบไม่ได้นอนเลย เพราะเราต้องตื่นเช้ามา ตี 2 ตี 3 โทรศัพท์ดังตลอด”
“ก็ที่ขอไปคือเราไม่ได้ต้องการให้ทรูมารับผิดชอบจ่ายค่าเสียหายหรืออะไรให้เรา แค่ขอเปลี่ยนเบอร์ให้เราเท่านั้นเอง และขอให้เก็บหมายเลขที่เราลงทะเบียนเป็นความลับ ไม่ใช่แต่เอิ๊กหรอกคนที่อาจจะเป็นดาราหรือทำงานในวงการแบบนี้มันมีโอกาสโดนได้ง่าย ก็น่าจะช่วยดูแลรักษาข้อมูลให้เป็นกรณีพิเศษหน่อย เท่านั้นเองที่เราอยากได้ ให้เขาช่วยดูแลนิดนึง แต่ดูเหมือนเขาไม่ค่อยใส่ใจนะ ก็อยากให้ทรูรับผิดชอบในการเปลี่ยนเบอร์และช่วยดำเนินการอย่างรวดเร็วหน่อย เพราะว่าเราแจ้งเรื่องไปก็สักพักแล้ว แต่ว่ามันก็ยังนานมากเลย เพราะฉะนั้นการมาแจ้งความก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่เขาน่าจะกระตุ้นให้เร็วขึ้นค่ะ”
“แต่ตอนนี้คิดเปลี่ยนระบบแล้วล่ะ คิดเลยค่ะ ถ้าจะเห็นในใบนี้นะคะ ดิฉันพิมพ์ไป 3 ข้อ ข้อที่ 1 มีความประสงค์ขอเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์พื้นฐานของทรู คอปอเรชั่นอย่างเร็วที่สุด โดยไม่มาคิดค่าใช่จ่ายใดๆ กับเรา ข้อ 2 หากไม่ดำเนินการเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ให้อย่างเร็วที่สุดแล้ว มีความประสงค์จะขอคืนหมายเลขดังกล่าว และต้องคืนค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ชำระไปกับทรูให้แก่เราด้วย ข้อ 3 ต้องการทราบเบอร์บุคคลนิรนามดังกล่าวที่ใช้ในการก่อกวน เพื่อจะได้ดำเนินการต่อไป”
“แต่ตอนนี้เพิ่งได้ข้อเดียวค่ะ หลังจากผ่านมาตั้งแต่กุมภา-มีนา-เมษาก็ 2 เดือนกว่าๆ คือคนทำงานอย่างนี้คงไม่ต้องติดต่อสื่อสารกับใครแล้วมั้งเนอะ(หัวเราะ) คือก็คงต้องฝากไปสำหรับคนที่รู้ตัว ที่อาจจะมีจิตใต้สำนึกว่าชอบพูดจาลามกหรืออะไรอย่างเนี้ยนะคะ ก็ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วมันเป็นอะไรที่เป็นการป่วยที่รับการรักษาให้หายได้ คุณอาจจะอาย ไม่ต้องบอกใครก็ได้ ย่องไปหาหมอ ดูซิว่าหมอจะมีวิธีรักษายังไง แต่ว่าอย่าปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้ มันไม่ใช่อาการปกติ”
“แต่สำหรับคนที่เคยโดนอย่างนี้ก็บอกว่าต้องออกมาค่ะ คืออย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก แล้วก็อย่ามองว่าช่างมันเถอะ โรคจิตแป๊บเดียวก็เลิกโทร เพราะอย่างที่บอกว่าในต่างประเทศมันเคยมีคดีมาแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง เพราะฉะนั้นคงต้องออกมาแสดงตัวหน่อยว่าตอนนี้คุณกำลังไม่ปลอดภัยนะ อย่างน้อยถ้าคุณตายไป(หัวเราะ) เขาจะได้รู้สาเหตุว่าอันนี้อาจจะเป็นสาเหตุก็ได้”