"เอิ๊ก" แจง โดนโรคจิตคุกคาม โทรมาทุกวัน จนตนเริ่มระแวงว่าจะก่อให้เกิดเหตุร้ายแรง คาดว่าน่าจะเป็นคนในบริษัททรูเพราะรู้รายละเอียด เผยโทรไปแจ้งที่บริษัทแล้วแต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือ เจ้าตัวเตรียมแจ้งความเอาผิด
ถึงกับออกอาการเครียดขึ้นมาเลยทีเดียวสำหรับพิธีกรหญิง "เอิ๊ก พรหมพร ยูวะเวส" เพราะหลังจากเจ้าตัวหันมาเปิดใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของบริษัท "ทรู" ก็ปรากฏว่าได้มีโทรศัพท์โรคจิตโทรเข้ามาคุกคามก่อกวนทุกวันทันที
"เมื่อก่อนใช้โทรศัพท์ขององค์การ สามสิบกว่าปีก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอมาติดไฮ สปีด ของทรู ได้สองอาทิตย์เท่านั้นก็มีโรคจิตโทรมา วันละหลายๆ รอบ ทั้งกลางวัน กลางคืน คือเหมือนโทรอยู่ตลอดเวลา ยิ่งถ้าไม่รับยิ่งโทรมาถี่"
"จนตีสองเราต้องยกหูออก พอตื่นมาตีห้าปุ๊บคงไม่มีใครโทรมาแล้วละก็เอาหูโทรศัพท์วางลงไปที่เดิม พอวางปู๊บโทรศัพท์ดังเลย คือไม่ใช่โรคจิตแบบที่โทรมาสุ่ม แต่นี่โทรมาระบุเลยว่าอยากคุยกับใคร ไม่ใช่โรคจิตที่โทรมาสุ่ม"
"เขาไม่ใช่แบบโทรมาแล้วพูดลามกเลยมันไม่ใช่ โทรมาแบบ ฮัลโหล ขอสายเอิ๊กครับ ตอนแรกๆ ก็คิดว่าเพื่อน แต่เพื่อนจะรู้ได้ไงเพราะเราเพิ่งติดมาได้สองอาทิตย์ เราไม่ได้บอกเบอร์ใครเลย และเราก็ไม่ได้ใช้เป็นเบอร์โทรศัพท์"
"เราติดอินเทอร์เน็ตแล้วเขาก็ให้โทรศัพท์มาอยู่แล้ว ปรากฏก็มีคนโทรมาเราก็รู้ว่าไม่หวังดี โทรมาแต่ละครั้งก็พูดจาฟังไม่ได้เลย ลามกให้ถอดนั่น ถอดนี่ เปิดให้ดูหน่อย คือแบบลามกมาก และหยาบคายพูดมึงกู รู้สึกจะเป็นแฟนรายการด้วยเพราะว่าเขารู้ว่าเอิ๊กใส่ชุดไหนรู้หมด"
เชื่อเป็นคนในเพรราะค่อนข้างรู้รายละเอียด
"ส่วนตัวเอิ๊กแล้วคิดว่าใช่ คงเป็นคนในบริษัททรู เพราะข้อแรกเขารู้เร็วมาก ข้อสองระบุข่าวได้ชัดเจนว่าเจ้าของเบอร์นี้คือใคร ข้อสามการโทรมาเหมือนคนที่ทำงานตอนกลางคืน อาจจะเป็นพนักงานที่อยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะคนปกติเขาก็ต้องทำงานตลอดนะ อยู่ทำงานปกติ"
"แต่พอถ้ากลางคืนเขาโทรตลอดแสดงว่าเขาทำงานกลางคืน เดาว่าเป็น ตอนหลังๆ เราเริ่มที่จะไม่พูดเขาโทรมาแล้วเราเงียบ แต่เขาเริ่มจะรู้แล้ว พอรับปุ๊บเขาก็พูดลามกเลย เหมือนกับเป็นเพื่อนกันไปแล้ว"
เผยแจ้งไปที่ทรูแล้วแต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือมากนัก..."เราขอเปลี่ยนหมายเลขไปแล้ว พอมาถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนเลย ตั้งแต่แจ้งไปเรากูบอกว่าคุณเช็คได้มั๊ย ไม่น่าเชื่อว่าเขาเช็คไม่ได้ว่าใครโทรเข้ามาเพราะตั้งแต่ติดตั้งมามีอยู่เบอร์นี้เบอร์เดียวที่โทรมา เขาก็บอกว่าถ้าไม่มีหนังสือแจ้งมาเป็นรายลักษณ์อักษรเขาก็จะไม่อัดเสียงบันทึกให้"
"ไม่น่าเชื่อว่าถ้ามีปัญหากันปุ๊บทางกฏหมายยื่นเรื่องไปเขาสามารถตรวจสอบว่าเราโทรหาใคร ใครโทรมา มันต้องมีบันทึกเป็นปกติสิ แต่การบันทึกมันต้องมี แต่เขาบอกไม่มีอย่างที่บอกว่าเหมือนเป็นคนในเพราะตั้งแต่แจ้งก็โทรมาน้อยลง เพราะเหมือนเป็นคนที่รู้ความเคลื่อนไหวของเราตลอด"
"ซึ่งก็ได้แจ้งไปทางทรูแล้วค่ะ ตั้งแต่เรื่องเกิดใหม่ๆ แต่ดำเนินการให้เราช้ามาก เราถูกคุกคาม เพราะเขาระบุชื่อได้ว่าเป็นใคร คือแบบการจะเช็คว่าใครโทรมามันไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าเป็นคนในยิ่งง่ายเพราะมีประวัติอยู่แล้วว่าบ้านอยู่ตรงไหน แล้วเหมือนคนเครซี่หนัก ก็กลัวว่าสักวันถ้าเขามาดักเจอหน้าบ้านก็ไม่ไหวแล้วแหละ ก็เลยคิดว่าต้องแจ้งตำรวจแล้ว"
พิธีกรสาวเผยว่า กำลังจะไปแจ้งความ เพราะตนไม่ได้รับความช่วยเหลือจากบริษัททรูเลย
"กำลังจะไปแจ้งความกับทางตำรวจ ซึ่งตอนนี้ก็ได้ตรวจสอบเบอร์ได้แล้ว ซึ่งทางทรูเขาบอกว่าตรวจสอบไม่ได้เพราะเบอร์นี้ลงทะเบียนในระบบจีเอสเอ็มเลยเช็คไม่ได้"
"แหมแต่ไม่ต้องบอกก็รู้นะว่าเช็คไม่ได้ ทรูกับจีเอสเอ็ม แต่ถ้าลงทะเบียนของทรูก็จะเช็คได้ ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าถ้าป็นคนในจะเอาเบอร์ทรูโทรมาทำไม ซึ่งก็ต้องเตรียมใจแล้วว่าถ้าเป็นโทรศัพท์แบบเติมเงินอาจจะตามตัวไม่ได้"
"บางครั้งมันน่าจะจัดการแบบจริงจังอย่าคิดว่าเป็นปัญหาเล็กๆ มันอาจจะนำไปสู่การดักทำร้ายการข่มขืน คือไม่อยากให้มองข้ามปัญหาเหล่านี้ เราไม่ต้องการให้เขามารับโทษ เพียงแค่อยากให้เขาได้รับการรักษาคนที่เป็นโรคจิตแบบนี้เขาไม่รู้ตัว อยากให้เขาได้รับการบำบัด แต่ถ้าเป็นเมืองนอกถือว่าเป็นเรื่องใหญ่นะเพราะเขาถือว่าเป็นการคุกคามสิทธิส่วนบุคคล"
