“หลาน” ไม่สนใจ “หนุ่ม กรรชัย” ฟ้องหมิ่นประมาท บอก ดีจะได้สาวไส้ว่าใครกันแน่ปด ท้าทาย แน่จริงเอาหลักฐานมาสู้อย่ามัวแต่ขู่ปากเปล่า พร้อมยืนกรานไม่ถอนคำพูดที่ด่าอกตัญญู ในเมื่ออีกฝ่ายทำตัวแบบนั้น แฉซ้ำหนุ่มไม่เคยให้อะไรพ่อบังเกิดเกล้าอย่างที่กล่าวอ้าง แถมยังได้ทรัพย์สินไปมากกว่าลูกคนอื่นๆ ด้วยซ้ำ ลั่น แน่จริงกล้าสาบานหรือเปล่า
ดูท่าจะบานปลายไปกันใหญ่ สำหรับกรณีที่พิธีกรชื่อดัง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ประกาศฟ้องขอแบ่งสมบัติมูลค่ากว่า 100 ล้าน จาก “นางวิมลรัตน์ กำเนิดพลอย” แม่เลี้ยง และ “นายอัคระ” พี่ชายต่างมารดา ต่อศาลแพ่งธนบุรี เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งเปลี่ยนผู้จัดการมรดกและจัดแบ่งมรดกของบิดา “นายประกอบ” เนื่องจากคู่กรณีไม่ยอมแบ่งมรดกในส่วนที่ตนสมควรจะได้มาให้ จึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
จนเป็นเหตุให้ “พลอยไพลิน กำเนิดพลอย” หลานสาว ทนไม่ไหวหอบสารพัดหลักฐานออกมาแฉแหลก พร้อมกับซัดกลับหนุ่มว่าเป็นคนอกตัญญู สร้างความไม่พอใจให้กับหนุ่ม กระทั่งตัดสินใจฟ้องร้องดำเนินคดีกับหลานสาว ในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง กลายเป็นศึกสายเลือดที่หลายคนจับตามอง
ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดทีมข่าว “ASTVผู้จัดการออนไลน์” ได้ต่อสายตรงสอบถามไปยังพลอยไพลิน ถึงการถูกอาแท้ๆ ฟ้องร้องดำเนินคดีว่ารู้สึกอย่างไร งานนี้นอกจากเจ้าตัวจะประกาศสู้ตายเรื่องถูกฟ้องในคดีหมิ่นประมาทแล้ว ยังสวนกลับ หนุ่ม กรรชัย เป็นฉากๆ ยันสิ่งที่ตนออกมาแฉคือความจริงไม่ได้โกหก
“ไม่รู้สึกยังไง เพราะรู้สึกว่าคำว่าหมิ่นประมาทมันคือพูดไม่จริง พูดเท็จพูดโกงอะไรแบบนี้ค่ะ แต่ว่าอันนี้คือพลอยพูดความจริงทุกอย่าง คือพลอยออกมาปกป้องศักดิ์ศรีให้คุณย่านะคะ แล้วมันเหมือนกับว่าไม่มีอะไรที่ไม่เป็นความจริงน่ะค่ะ ก็เลยไม่รู้สึกอะไร”
“ไม่หวั่นเลย พลอยชอบตรงที่ว่าถ้ามีการฟ้อง มันก็ต้องมีการสืบหาความจริง เขาก็ต้องหาอะไรมาอ้างว่าอะไรที่พลอยโกหก เรื่องเงินเหรอ เรื่องรถเหรอ ก็ว่ามาสิ ว่าสิ่งที่พลอยพูดมันเป็นความจริง เอามายันกับสื่อสิว่าพลอยโกหกตรงไหน คือพลอยไม่ใช่ดารา เป็นใครไม่รู้ ไม่อยู่ในวงการเลยนะ พลอยอยู่เฉยๆ ก็ดีแล้ว อยู่ดีๆ จะไปนั่งโกหกพี่เขาอะไรแบบนี้ มันโกหกอ่ะ พลอยไม่ทำอยู่แล้ว”
“พลอยกับเขาคุยกันไม่ดีอยู่แล้ว ขนาดในศาลยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย เพราะว่าเขารู้จักพลอยดี พลอยก็รู้จักเขาดี พลอยรู้จักเขาดีที่สุดในบ้าน แล้วก็คือบ้านพลอยไม่มีใคร พลอยเรียกปู่กับย่าว่าพ่อกับแม่ เขาเลี้ยงพลอยมาเหมือนลูก แล้วพลอยกับเขาก็ไม่ได้ห่างอะไร คนอื่นอาจจะมองเหมือนว่าห่างแต่จริงๆ แล้วคือพลอย 32 แล้ว โตแล้วค่ะ สู้เพื่อครอบครัวนะ ไม่ใช่สู้เพื่อตัวเอง เพราะทุกคนก็จะบริสุทธิ์ไปด้วย”
“ให้เขามายันกับพลอยดีกว่า ว่าเราทำให้เขาเสียชื่อเสียงอย่างไร พลอยว่าคนดียังไงมันก็ดี พลอยไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล ไม่ใช่ดารา พลอยมีอำนาจขนาดนั้นเลยเหรอในการทำให้เขาเสียชื่อเสียง ถ้าเขาดีจริง เขาต้องอยู่ได้ เพราะว่ามันอยู่ที่ตัวเขา ถ้าเขาทำอะไรไม่ดีกับครอบครัว กรรมก็ตามทันเอง ไม่จำเป็นต้องออกมาพูดก็ได้ และก็ไม่คุยแล้วค่ะ เพราะว่าพลอยยืนยันว่าพลอยไม่ได้โกหก”
“เรื่องหลักฐานเขาก็พูดแบบนี้ตั้งแต่ในศาลแล้วค่ะ (หัวเราะ) คือจะบอกว่าถ้ามีหลักฐานก็ให้รีบเอาออกมาเลยค่ะ เอาออกมาเหมือนที่พลอยจะส่งใบบวชเขาไปที่รายการแฉแต่เช้า หรือกับเมเนเจอร์อย่างนี้ ยังรีบเลย จะรอทำไม ก็ถ้ามีก็เอาออกมาเลย ให้เห็นว่าไม่เคยรับเงินเลยนะ ตัวบุ๊คแบงค์ ก็เอาออกมาเลย”
รับ เรื่องรถฮอนด้าที่หนุ่มแย้งว่าเป็นรถประจำตำแหน่งของบริษัทที่ออกให้ ไม่ใช่ขอเงินแม่เลี้ยงมาซื้อเป็นเรื่องจริง แต่ที่มีข่าวออกไปก่อนหน้านี้ว่าพ่อของตนเป็นคนให้ข่าว จนหนุ่มไม่พอใจนั้น เป็นเรื่องสื่อสารกันผิดระหว่างพ่อกับนักข่าวเท่านั้น ส่วนเรื่องเงิน 2.2 ล้าน กับเช็ค 2 แสน ที่ให้หนุ่มไปเป็นความจริง
“อันนี้พลอยพูดไปแล้วนะคะ ว่าคุณอาที่สัมภาษณ์คุณพ่อเขาเป็นนักข่าวอาวุโส แล้วจดด้วยมือด้วย เขาอาจสับสนหรือเปล่า เพราะพ่อบอกว่าหลังจากที่ปู่เสีย หนุ่มก็หายไป ได้เงินไปสองล้านกว่าๆ แล้วก็ดูแฮปปี้ดี เขาคงเอาไปซื้อรถหรือทำอะไรแบบนี้ พ่อพูดประมาณนี้ คืออาจจะเป็นการจดข้อมูลผิดพลาดมากกว่า”
“จริงๆ แล้วเงินเป็นของย่าทั้งหมดเลย แล้วย่าแบ่งให้ลูกทั้งหมด จริงๆ แล้วย่าจะไม่ให้อาหนุ่มก็ได้ ไม่จำเป็นเลย แต่ก็คือให้ อันนี้คือเป็นเงินของย่าค่ะ ได้จากบุคคลภายนอกจริง แต่ว่ามันต้องเป็นของย่าคนเดียว เขาให้ภรรยาของผู้ตาย ไม่ใช่ให้ลูกผู้ตายนะคะ ถึงจะเป็นเงินจากบุคคลภายนอกให้ แต่มันเป็นสิ่งที่ย่าควรจะได้แต่เพียงผู้เดียว แต่มันเป็นเรื่องของน้ำใจที่ย่าให้อาหนุ่มไงคะ จริงๆ จะไม่ให้ก็ได้”
“เรื่องเงิน 2 แสนก็เหมือนกัน พี่เมย์คือใครคะ ตลกแล้ว ได้ข่าวว่านอนในห้องคนใช้ไม่ใช่เหรอ คือเป็นแค่แฟนนะ ยังไม่ได้แต่งงานกันเลย แล้วย่าพลอยเลี้ยงเขาก็ไม่ดีไม่ใช่เหรอ ทำไมมาพูดว่าเลี้ยงแฟนเขาดีขนาดนี้ ที่คุณย่ายื่นเช็คให้นี่เป็นร้านอาหารของรีสอร์ทนะคะ ร้านอาหารบ้านกำเนิดพลอย ยื่นให้แล้วบอกว่า หนุ่มแม่ให้วันปีใหม่ลูก เขาก็หยิบเช็คไปค่ะ อาจจะส่งให้เมย์เก็บ อันนี้พลอยพูดในวงเล็บนะคะ เหมือนอ่ะ..เธอเก็บอะไรแบบนี้”
“มันเป็นเช็คเงินสด คือพลอยพูดในรายการแล้วว่าพลอยไม่ได้อะไร จะเอาเงินไปให้ใคร พลอยไม่ได้ว่า แต่แค่ถ้าเช็คแล้วมันไปเข้าบัญชีใคร ก็ขอให้อาหนุ่มยอมรับว่าได้รับเงินจริงๆ สมมติว่าเช็คแล้วมันเข้าบัญชีพี่เมย์แบบนี้ แล้วถามว่าย่าพลอยให้ไหม ย่าพลอยก็ให้”
“ที่บอกว่าให้เพราะเอ็นดูพี่เมย์ กล้าสาบานไหมเนี่ย สาบานนิดนึง ระวังปากนิดนึงนะ แจ้งจับไม่พอยังจะทำแบบนี้อีก แจ้งจับย่าพลอยนะตอนนี้ เดี๋ยวพลอยต้องพาย่าไปพิมพ์ลายนิ้วมืออีก ย่าไปศาลไม่ได้ เพราะหลังจากเป็นนิวมอเนีย (ปอดติดเชื้อ) ก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาล คือตอนนี้โดนแจ้งจับเพราะยักยอกทรัพย์ ทรัพย์ตัวเองหรือเปล่า (หัวเราะ) แล้วพี่เมย์เป็นใคร ทำไมต้องให้พี่เมย์ เงินมันตั้งสองแสน ไม่ใช่น้อยๆ คือพลอยพูดตรงๆ ว่ามันเยอะมากเลย แล้วบ้านพลอยไม่ได้รวยขนาดว่า แจกเงินแฟนลูก ไม่ได้รวยขนาดนั้น พูดตามตรง บัญชีย่าตอนนี้ก็อยู่ที่ศาลหมดแล้ว ศาลตรวจสอบว่ามีเงินเท่าไหร่อะไรยังไง ไม่ได้รวยล้นฟ้าอย่างที่คนอื่นเข้าใจ ไม่ได้มีเงินเป็นร้อยล้านนะ เรากินอยู่อย่างประหยัด”
ท้าเรื่องที่หนุ่มอ้างว่ามีพยานเห็น ว่าสมัยเด็กต้องไปนอนห้องคนขับรถจริงๆ บอกถ้ามีตัวตนจริงๆ พามาเลย ก่อนเหน็บถ้าเป็นคนอื่นพูดคนคงเชื่อ แต่นี่เป็น หนุ่ม กรรชัย ?!....
“ให้พาพยานมาเลย ว่าเห็นอาหนุ่มนอนที่นี่ ห้องคนขับรถอยู่ตรงไหนอะไรยังไง โอ้โห บ้านพลอยมีห้องคนขับรถเลย มีแต่ห้องคนรับใช้เป็นเตียงเล็กๆ คือมันตลกอ่ะ พลอยไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร เขาน่าจะตรวจร่างกาย พลอยงงเขามากเลยว่าเขาเป็นอะไร พลอยจะให้เขาพูดไป เพราะพลอยว่าคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อที่เขาพูด เป็นเพราะว่ามันค้านกับที่เขาให้สัมภาษณ์ว่าเขาเป็นคุณหนู มีคนรับใช้ตามตลอดเวลา คือจริงๆ ทีเขาออกมาเป็นสิบๆ ปีก็จะมีเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวตลอดเลย หนังสือที่เขาเขียนเขาไม่เขียนเรื่องตัวเองว่าเขาเคยนอนกับคนใช้ พลอยว่ามันน่าจะขายดีกว่านี้อีกนะ เออ มันสนุก บ้านทรายทองอะไรแบบนี้(หัวเราะ)”
“คำถามแรกเลยนะ ห้องขับรถเราอยู่ตรงไหน (หัวเราะ) ตอนนี้มีคนขับรถ แต่ก็ไม่มีห้องคนขับรถ มันเป็นเหมือนบ้านที่รีสอร์ทที่เอามาสร้างเป็นแบบบ้านตัวอย่าง แต่สมัยนั้นเราไม่ได้มีเงินขนาดสร้างแยกเป็นห้องคนขับรถ ห้องคนใช้อะไรแบบนี้ ไม่ขนาดนั้น จะมีก็เข้ามานอนดูหนังในห้องพ่อ นอนอยู่กับพ่อพลอย อยู่กับอาหนุ่ย”
“คิดว่าที่อาพูดไปแบบนั้น คงคิดว่าถ้ามันตีแผ่ออกมา มันอาจจะโดนใจคนไทยแบบนี้ มันใช่เลย (หัวเราะ) แต่เรื่องนี้นะ ถ้าคนอื่นพูดอาจจะเชื่อ แต่ถ้าเป็นกรรชัยปุ๊บ คนก็จะแบบอืม..ใช่หรอ อะไรแบบนี้ ถ้าเป็นคนอื่นพวกพลอยคงแย่ไปแล้ว แต่นี่เป็นเขา คนก็เลยถามกันไปกันมา เขาได้ไปฮ่องกงกับคุณย่า ซึ่งสมัยก่อนฮ่องกงก็หรูแล้วนะ หลายสิบปีมาแล้ว เขาก็ได้ไปเที่ยวนะ เหมือนลูกคนอื่นปกติ เป็นที่รัก นี่ถ้านอนห้องคนขับรถจริงๆ เขาคงอาละวาด แล้วคงกลับไปอยู่บ้านแม่เขาแล้วล่ะ ถ้าที่นี่ไม่มีที่นอน ทำไมไม่ไปบ้านแม่เขาล่ะ บ้านก็ใหญ่โต อยู่ได้แบบสบาย”
“บ้านที่ราชวัตรก็ใหญ่โต บ้านเขาไม่ใช่เล็กๆ เลย เป็นตระกูลที่ดี แล้วทำไมจะต้องมานั่งทน เป็นคนใช้ที่บ้านพลอย เขาก็มีสมบัติ มีอะไร จะมาทนอยู่กับพลอยทำไม แล้วบ้านหลังนั้นมันเป็นที่ของคุณตาเขา แต่บ้านหลังเล็กๆ ที่อาหนุ่มอยู่ คุณพ่อท่านเป็นคนปลูกให้นะคะ มันจะมีบ้านใหญ่ บ้านคุณป้าเขา บ้านเขาอยู่ข้างหลัง ปู่เป็นคนต่อเติมให้ หรือเขาจะบอกว่าใช้เงินตัวเองอีก (หัวเราะ)”
“แล้วเรื่องงานบวชด้วย เขาบอกว่าทางป้าเขาเป็นคนจัดให้ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าแม่ใหญ่เป็นคนหาข้าวปลาอาหารมาให้พลอยถามหน่อยค่ะว่า ทำไมต้องมาวันนี้ ใครเป็นคนติดต่อที่วัด ไปถามทางวัดก็ได้ว่าใครเป็นคนติดต่อมา พลอยเชื่อว่าพระท่านไม่มุสา ใครเป็นคนจัดข้าวปลาอาหาร เงินทำบุญ
“เรื่องการใส่ซองน่ะไม่รู้ รู้แต่ว่าป้าเขาไม่เกี่ยวแน่นอน อาหารทุกอย่าง ไม่เมคเซ้นส์ พลอยท้าให้ไปถามที่วัดได้เลย ถามหน่อยว่าคุณป้าเขาไปวัดถูกหรือเปล่า (หัวเราะ) ขอถามหน่อย ต้องมีคนพาไปไหม บ้านพลอยก็หลับตาไปวัดนี้ได้กันหมด ทั้งบวชอาหนุ่ย พ่อเสีย รวมญาติทำบุญก็ไปจัดที่นี่ เรื่องของเรื่องคือเขาบอกว่าเจ้าอาวาสรู้จักกับนางวิมลรัตน์ ก็เลยบอกข่าวให้ทราบ ประโยคนี้หมายถึงย่าพลอยเป็นแค่แขก ไม่ได้มีส่วนร่วมในงานบวชครั้งนี้ เข้าใจมั้ยคะ มันคือคำที่แบบว่าโอ้โห อะไรเนี่ย สงสารย่าจังเลย เพราะย่าเหนื่อยกับงานนี้ คือปกป้องย่าดีกว่า งานนี้พลอยเคลียร์ ไปถามที่วัดเลยค่ะ”
ยืนยันครอบครัวไม่เคยคิดจะเอาฤๅษีซึ่งเป็นของศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลไปขายอย่างที่ หนุ่ม กรรชัย กล่าวอ้างแน่นอน
“เขาบอกแม่ว่า ขอยืม 3 ชั่วโมง พลอยเพิ่งรู้ ก็โกรธมากๆ ว่าทำไมถึงให้ไป เพราะมันเป็นของพ่อพลอยมานานแล้ว แล้วรูปในเมเนเจอร์ที่มีรูปอาหนุ่มถ่ายในห้องพ่อ ตรงหัวเตียงจะติดรูปพระฤๅษี คือมันอยู่ในห้องพ่อมานานแล้ว ทุกคนในบ้านจะรู้ ย่าไม่กล้าเอาของลูกไปขายหรอกค่ะ มันไม่ควร เขาบอกว่าจะเอาไปให้ชาวสิงคโปร์ดูสามชั่วโมง หายไปปีครึ่ง แม่พลอยจะแจ้งความ แต่ทุกคนห้ามไว้ แต่ย่ากับพลอยขอว่าอย่าทำ”
“สมมติว่าเอาไปเก็บไว้นานขนาดนั้น เป็นเจตนาดี โทรไปแล้วไม่รับ เกิดอะไรขึ้น เช็คโทรย้อนหลังก็ได้โทรหาคุณย่าหรือเปล่า ส่วนพลอยเช็คแมสเสจได้เลย พลอยทวงเกือบทุกวัน ถ้าเป็นอย่างนั้นทำไมอาหนุ่มทำให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าขโมยของไป ทำไมไม่แก้ต่าง หายไปปีครึ่ง อาหนุ่มก็มาบอกดีๆ สิ ว่าอย่าขายเลย เชื่อว่าย่าต้องให้ มันขัดกับความรู้สึกที่ว่าถ้าอยากจะเก็บของให้กับวงศ์ตระกูลแล้วทำไมต้องหายไป แล้วกลับมาเป็นเพราะหมายศาล พลอยรู้พร้อมสื่อนะว่าเอาไปเก็บไว้ ก็ตกใจมากว่าอ๋อ ที่มันหายไปเนี่ยเขาเป็นคนเก็บเอง”
“พ่อพลอยบอกว่าหนุ่มเอากลับมาสิ เดี๋ยวจะขาย เอาเงินให้หนุ่ม พ่อพลอยพูดในห้องไกล่เกลี่ยนะคะ พ่อไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้งกกับเขาเลย ที่พ่อพูดแบบนั้นคนเป็นสิบก็ได้ยิน เขาก็เงียบ ก็บอกแค่ฤๅษียังอยู่ วันที่ 27 นี้เขาต้องเอามาให้ทุกคนดู มันเป็นของพ่อพลอย ตั้งแต่อาหนุ่มยังไม่เข้าวงการ พลอยว่ามันเป็นมรดกตกทอดมา ทุกคนก็ร่วมกราบไหว้”
ส่วนเรื่องที่หนุ่มโวยว่าโดนปรักปรำว่าเป็นคนอกตัญญู เจ้าตัวยันจะไม่ถอนคำพูด เพราะอีกฝ่ายเป็นแบบนั้นจริงๆ แฉที่ผ่านมายังไม่เห็นหนุ่มทำอะไรที่เป็นการตอบแทนบุญคุณพ่อบังเกิดเกล้าเลย
“พลอยไม่ได้ปรักปรำค่ะ พลอยว่าเขาใช่เลยแหละ พลอยยืนยันและพลอยจะไม่ถอนคำพูดด้วย (หัวเราะ) แล้วพลอยก็ว่าเขาในศาลด้วย และพูดต่อหน้าทุกคน แล้วไม่เห็นมีใครเถียงแทนเขาเลยว่าไม่ใช่ ถามหน่อยว่าตอนที่ว่าเขา มีใครเถียงแทนเขามั้ย ทุกคนเงียบหมด ป้าเขายังเงียบเลย บอกพลอยด่าเขาอกตัญญูต่อหน้าผู้พิพากษา ไม่เห็นมีใครยกมือค้านเลย เขาก็รู้นะว่าพลอยพูดอะไรได้มากกว่านี้ นี่พลอยมีมารยาทกับเขาที่สุดแล้ว สงวนสุดๆ แล้ว ไม่อยากรุนแรงแล้ว”
“แล้วเขาก็ไม่เคยทำอะไรให้คุณปู่เลย ไม่เคยให้เงินย่า ไม่เคยเลย จะบอกให้ว่าพลอยอยู่กับปู่ทุกวัน ทานข้าวกลางวันทุกวัน บางทีเดือนนึงอาหนุ่มยังไม่มาเจอพ่อเลย ช่วยถามเขาด้วยว่าเขาทานข้าวกับพ่อปีละกี่ครั้ง แต่พลอยต้องรอทานข้าวกับปู่ทุกวัน แล้วเขาล่ะ เขาทำอะไรให้บ้าง อาจจะติดต่อกับปู่ทางโทรศัพท์ แต่บางทีโทร.ไปไม่รับด้วยซ้ำ ยังไม่เคยเห็นเป็นรูปธรรมเลย แต่ถ้ามีก็ให้เขาแสดงมาโชว์มาเลย มีหลักฐานว่าทำอะไรให้ปู่โชว์มาเลย อย่ารอ ให้รีบๆ เลย(หัวเราะ)”
สวนกลับ หนุ่มได้ทรัพย์สินจากกองมรดกไปมากว่าทายาทคนอื่นๆ ด้วยซ้ำ
“พลอยบอกได้เลยว่าเขาได้ค่ะ และได้มากกว่าคนอื่นๆ และได้มากกว่าพ่อพลอย ได้มากกว่าลูกชายคนโตของคุณย่า เหมือนเงิน 2 ล้านกว่านั่นพ่อพลอยก็ไม่ได้นะคะ เขาได้มากไปแล้วด้วยซ้ำ จริงๆ ถ้าเขามาพูดตั้งแต่แรก บ้านพลอยไม่ต้องฟ้องนะ คุณย่าเป็นคนที่ของ่ายที่สุดในโลกแล้ว เป็นคนที่ตามใจลูกหลานมาก บอกตรงๆ แค่เขาซื้อก๋วยเตี๋ยวมาถุงนึงย่าก็น้ำตาไหลแล้ว แต่เขาไม่เคยซื้อ แค่ถามว่าแม่กินข้าวรึยังย่าพลอยก็ปลื้มแล้ว”
“ทรัพย์สินที่มีอยู่อาหนุ่มมีสิทธิ์ทุกอย่างเหมือนลูกๆ ทุกคน อาหนุ่มเป็นลูกที่เท่าเทียมกับคุณพ่อพลอยคุณอาพลอยทั้งสองคนเลย แต่สิ่งที่อาหนุ่มไม่มีก็คือความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ถ้าตอนนี้อาหนุ่มลดละเลิก เราก็พร้อมที่จะให้เหมือนเดิมด้วย เพราะที่ผ่านมาเราก็ให้อยู่แล้ว แล้วถ้าเกิดวันหน้าพวกพลอยจะแพ้ ก็ไม่เสียใจที่จะต้องให้เขาอีก เพราะว่าเราก็ให้เขามาตลอดอยู่แล้ว แต่เขามาพูดว่าเขาไม่เคยได้อะไร เราก็เลยต้องกู้ศักดิ์ศรีตรงนี้ และที่สู้เพราะมันมีการพูดไม่ตรง ไม่ใช่สู้เพราะงกจะไม่ให้ ไม่ใช่นะคะ แค่อยากแก้ข้อเท็จจริงตรงนี้เท่านั้นเอง”
“อย่ามาอ้างเรื่องศีลธรรมจรรยา อย่ามาดราม่าเรื่องนอนในห้องคนขับรถ อย่ามาอะไรแบบนี้ บ้านพลอยไม่เคยทำอะไรแบบนี้ เรื่องศีลธรรมบ้านพลอยไม่แพ้เขา ถ้าจะมาสู้กับพลอยเรื่องพวกนี้ไม่ได้หรอก แต่เรื่องกฎหมายนี่ไม่ทราบ ถ้าเขามั่นใจบ้านพลอยก็มั่นใจเหมือนกันว่าไม่แพ้ หลักฐานก็ให้เขาเตรียมไว้ เพราะบ้านพลอยก็แน่นเหมือนกัน”