แต่ไหนแต่ไรมา พระเอกในหนังรักวัยรุ่นของฮอลลีวู้ดมักจะมาในรูปลักษณ์ของชายหนุ่มแสนซื่อ อ่อนด้อยทั้งหน้าตาและความสามารถ คุณสมบัติเดียวของพวกเขาที่ทำให้เอาชนะใจนางเอก - ที่อยู่สูงราวกับเป็นดอกฟ้า - คือจิตใจอันดีงาม ซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายใต้ใบหน้าอันเซื่องซึมและแสนจะธรรมดา
หลังจากการมาถึงของ จัดด์ อะพาเทาว์ (The 40-Year-Old Virgin, Knocked Up) โกลเด้นบอยคนใหม่ของฮอลลีวู้ด เราจึงได้เห็นพระเอกที่อยู่ในข่ายนั้น - ถี่และชัดขึ้นไปอีก ตัวละครชายของอะพาเทาว์ ไม่ได้มีหน้าตาที่สะกดใจตั้งแต่แรกเห็น หากเสน่ห์ของพวกเขาจะค่อยๆ เพิ่มพูนขึ้นทีละน้อย จนท้ายที่สุดผู้ชมก็อดที่จะรักไม่ได้
นับตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา ผลงานเขียนบท กำกับหรืออำนวยการสร้างของอะพาเทาว์ ได้ทำให้พื้นที่ในหนังคอมเมดี้ เป็นยุคของเขาอย่างแท้จริง (สื่อบางแห่งถึงกับเขียนว่า Apatow makes a new era of comedy) อะไรหลายๆ อย่างในหนังของเขาไม่ได้แปลกใหม่ จุดขายเพียงประการเดียวคือ ตัวละครที่สร้างความขบขันอย่างเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญ - สาระสำคัญของหนังก็ไม่ได้ละลายไปกับเสียงหัวเราะที่ดูไร้สติ
ไมเคิล เซร่า เด็กหนุ่มจากแคนาดาวัย 20 ที่หน้าตาธรรมดามากๆ - โด่งดังมาจากหนังวัยรุ่นเรื่อง Superbad (สร้างสรรค์โดย อะพาเทาว์และพวกพ้อง) และหนังที่เข้าชิงออสการ์เรื่อง Juno เมื่อ 2 ปีก่อน - เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้อานิสงค์นั้นไปเต็มๆ เดิมทีเซร่าเป็นที่รู้จักจากซีรีส์ที่ฉายให้ดูออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ตเรื่อง Clark and Michael และซีรีส์ Arrested Development ส่วนในปีนี้ เราอาจจะได้ดูหนังที่เขาแสดงราว 4-5 เรื่องด้วยกัน
ปลายปีก่อน ไมเคิล เซร่า แสดงนำในหนังรักวัยรุ่นเรื่อง Nick and Norah's Infinite Playlist กำกับโดยคนทำหนังอินดี้ - ปีเตอร์ โซเลตต์ เนื้อหาและสไตล์ดูเป็นงานในแบบฉบับของอะพาเทาว์มากๆ ทั้งๆ ที่ฝ่ายหลังไม่ได้มาเกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย
อย่างที่เดากันได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่หนังเริ่มต้น เซร่าในบทของ นิค โอเลียรี่ เป็นไอ้ทึ่มที่กำลังจะโดนแฟนสาวสุดเซ็กซี่บอกลา เขาตั้งใจจะไรท์เพลงที่ตนคัดเลือกมาอย่างดีมอบให้เธอเป็นครั้งสุดท้าย โดยหวังอยู่ลึกๆ ว่าสาวเจ้าอาจจะเปลี่ยนใจ
ผลลัพธ์นั้นตรงกันข้ามทุกอย่าง นอกจากจะไม่ลังเลแล้ว แฟนสาวของเขาก็โยนแผ่นซีดีทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ไยดี คนที่มาเก็บซีดีแผ่นนั้นไว้อย่างทะนุถนอมคือ นอร่าห์ (เคต เดนนิ่งส์) เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่ซ่อนเสน่ห์ไว้ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูเฉิ่มๆ
จากที่เคยมึนตึงต่อกันในทีแรก นิคและนอร่าห์ ก็ค่อยเข้ากันได้ทีละน้อย เพราะรสนิยมการฟังเพลง เลยไปถึงทัศนคติต่อการมีชีวิตและความรัก
เหตุการณ์ทั้งหมดของหนังเกิดขึ้นในคืนเดียว นิคและเพื่อนๆ ในวงดนตรีของเขา (ซึ่งหนังบอกไว้ว่าเป็นเกย์) เปิดการแสดงเล็กๆ ก่อนจะหาทางไปงานคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นอย่างลับๆ ของวงขวัญใจวัยรุ่นชื่อ "แวร์ส เดอะ ฟลัฟฟี่? " ระหว่างนั้นคือการผจญภัยที่รวมเอาส่วนผสมของตลกแบบอะพาเทาว์และหนังอย่าง American Pie ที่เป็นโล้เป็นพายบ้าง รวมถึงหาประโยชน์อะไรไม่ได้บ้าง
ส่วนที่น่าจดจำมีอยู่ 1-2 อย่างด้วยกัน อย่างแรกคงจะเป็นบุคลิกของไมเคิล เซร่า ที่สาวๆ หลายคนคงเห็นว่ามันเป็นเสน่ห์ นั่นคือ อาการเงอะๆ งะๆ พูดจาตะกุกตะกัก และความขวยเขินทำอะไรไม่ถูก เซร่าเล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ และสร้างมันขึ้นมาด้วยลักษณะเฉพาะของตนเอง
และเพราะชื่อหนังคือ Nick and Norah's Infinite Playlist เพลงประกอบที่คัดสรรมา ก็แสดงให้เห็นรสนิยมอันเยี่ยมยอดของผู้กำกับ และคนเขียนบท (หรือเจ้าของบทประพันธ์ดั้งเดิมในฉบับนิยาย โดย เดวิด เลวิธัน และ เรเชล โคห์น) – ซึ่งสะท้อนถึงบุคลิกของตัวละครเอกอีกทอดหนึ่ง
เพลงส่วนใหญ่ในหนังเป็นเพลงป๊อบและร็อค ซาวนด์ดนตรีแปลกหูบ้าง เพราะวงดนตรีส่วนใหญ่เป็นวงใหม่ที่ทำงานกันนอกระบบค่ายเพลง และเข้าใจว่าเพื่อไม่ต้องเสียเงินค่าลิขสิทธิ์เพลงให้มากเกินจำเป็น หนังจึงให้ตัวละครพูดถึงวงหรือนักดนตรีที่เขาชอบ แทนที่จะเปิดให้คนดูฟัง อย่าง เดฟ เลพเพิร์ด, เอซี/ดีซี, อาร์เคดไฟร์, เดวิด โบวี่, บิลลี่ โจล ฯลฯ
เซธ โรเก้น เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่อยู่ในก๊วนเดียวกับจัดด์ อะพาเทาว์ และประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการแสดงนำและเขียนบทหนังตลกในรอบ 1-2 ปีมานี้ เขากลายเป็นนักแสดงงานชุกในชั่วข้ามคืน และมีอำนาจต่อรองกับสตูดิโอสูงกว่าซูเปอร์สตาร์บางคนเสียอีก
โรเก้นได้มาร่วมงานกับ เควิน สมิธ นักทำหนังตลกอินดี้ ซึ่งเขายกย่องให้เป็นฮีโร่ในดวงใจ ในหนังตลกร้ายกาจเรื่อง Zack and Miri Make a Porno ออกฉายในอเมริกาเมื่อปีที่ผ่านมา และคงไม่ได้ฉายในบ้านเราแล้ว เพราะเจอพิษของคณะกรรมการเซ็นเซอร์
Zack and Miri Make a Porno ก็เหมือนหนังของเควิน สมิธทุกเรื่อง คือภายนอกอาจจะดูหยาบโลนชั่วช้า และดูเป็นภัยต่อความมั่นคงของศีลธรรมเอามากๆ แต่เนื้อแท้นอกจากจะตรงกันข้ามแล้ว สมิธยังพูดถึงสิ่งที่งดงามเหลือเกิน ตั้งแต่คุณค่าของมิตรภาพ และความบริสุทธิ์ใจที่มนุษย์พึงมีให้ต่อกัน
โรเก้นและ เอลิซาเบธ แบงค์ส มารับบท แซ็ค กับ มิริ เพื่อนรักสมัยมัธยมที่เป็นรูมเมทกันมาตั้งแต่วัยรุ่นยันอายุย่างเข้าเลขสาม นอกจากนิสัยที่บ้าบอคล้ายกัน ทั้งคู่ยังประสบชะตากรรมแบบเดียวกันอีกด้วย คือถังแตก และขาดแคลนชีวิตรักมาเป็นโกฏิชาติ
งานเลี้ยงรุ่นของโรงเรียนมัธยมที่ทั้งสองคาดหวังว่า จะคว้าใครสักคนมานอนกอด และทวงความมั่นใจกลับคืนมา กลายเป็นความล้มเหลว นอกเหนือจากการได้พบว่า เพื่อนคนอื่นๆ ได้ดิบได้ดีกันหมด แซ็คกับมิริก็ไม่พบเจออะไรที่นั่นอีก
เควิน สมิธ นำเอาประเด็นว่าด้วยยูทูบและสื่อลามกทางอินเตอร์เน็ตมาพูดอย่างผ่อนคลาย ในขณะที่ใครหลายคนเข้าใจว่ามันเป็นสื่อที่ควรเฝ้าระวัง สมิธก็ให้แซ็คกับมิริ หาทางออกให้กับปัญหาความยากจนของตนเองด้วย การตั้งบริษัททำหนังโป๊และขายมันผ่านอินเตอร์เน็ต
เนื้อหาถัดจากนี้ ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดเดา กระบวนการผลิตหนังโป๊จากทีมงานมือสมัครเล่นนำพาคนดูไปพบกับมุกตลกเปรอะเปื้อนมากมาย แบบที่แฟนๆ ของเควิน สมิธจะต้องสาแก่ใจ ก่อนที่จะสรุปตบท้าย เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแซ็คกับมิริ ที่ปิดบังหัวใจตัวเองมานาน และมอบรักแท้ให้แก่กัน
ฉากโป๊เปลือยนั้นมีให้เห็นไม่มากมาย ส่วนใหญ่ออกไปในทางตลกขบขันและทุเรศทุรังเสียมากกว่า ความสุดโต่งเรื่องเนื้อหาและภาษาพูด - นั้นแรงอย่างที่มันควรจะเป็น สมเหตุและสมผล อีกทั้งไม่ได้เป็นการดูถูกเพศหญิงอย่างที่บางคนกล่าวหา
ข้อดีอย่างหนึ่งที่เรามักจะพบได้ในงานของเควิน สมิธ คือการปฏิบัติต่อตัวละครเพศหญิงอย่างเป็นธรรม พวกเธอดูเป็นมนุษย์และมีคุณค่ากว่านางเอกในหนังหลายเรื่องเสียอีก เราได้เห็นมิริในทุกมุมของเธอ ซ้ำยังเข้าอกเข้าใจเธอด้วย หากเธอจะอยากหลับนอนกับผู้ชายสักคน
นางเอกในหนังของเควิน สมิธไม่ใช่คนที่สวยหยาดเยิ้ม แบบที่ผู้ชายเห็นแล้วกระสันอยากหลับนอนด้วย (แม้กระทั่ง ลิฟ ไทเลอร์ ใน Jersey Girl ก็ยังเป็นผู้หญิงที่ดูไร้ระเบียบกฏเกณฑ์) พวกเธอเป็นผู้หญิงปกติที่เต็มไปด้วยข้อด้อย มีหัวใจเสรีที่มีสิทธิ์ใช้ชีวิตไปตามทางของเธอเอง โดยคนดูไม่มีหน้าที่ (และไม่จำเป็น) ไปตัดสิน
หลังจากการมาถึงของ จัดด์ อะพาเทาว์ (The 40-Year-Old Virgin, Knocked Up) โกลเด้นบอยคนใหม่ของฮอลลีวู้ด เราจึงได้เห็นพระเอกที่อยู่ในข่ายนั้น - ถี่และชัดขึ้นไปอีก ตัวละครชายของอะพาเทาว์ ไม่ได้มีหน้าตาที่สะกดใจตั้งแต่แรกเห็น หากเสน่ห์ของพวกเขาจะค่อยๆ เพิ่มพูนขึ้นทีละน้อย จนท้ายที่สุดผู้ชมก็อดที่จะรักไม่ได้
นับตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา ผลงานเขียนบท กำกับหรืออำนวยการสร้างของอะพาเทาว์ ได้ทำให้พื้นที่ในหนังคอมเมดี้ เป็นยุคของเขาอย่างแท้จริง (สื่อบางแห่งถึงกับเขียนว่า Apatow makes a new era of comedy) อะไรหลายๆ อย่างในหนังของเขาไม่ได้แปลกใหม่ จุดขายเพียงประการเดียวคือ ตัวละครที่สร้างความขบขันอย่างเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญ - สาระสำคัญของหนังก็ไม่ได้ละลายไปกับเสียงหัวเราะที่ดูไร้สติ
ไมเคิล เซร่า เด็กหนุ่มจากแคนาดาวัย 20 ที่หน้าตาธรรมดามากๆ - โด่งดังมาจากหนังวัยรุ่นเรื่อง Superbad (สร้างสรรค์โดย อะพาเทาว์และพวกพ้อง) และหนังที่เข้าชิงออสการ์เรื่อง Juno เมื่อ 2 ปีก่อน - เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้อานิสงค์นั้นไปเต็มๆ เดิมทีเซร่าเป็นที่รู้จักจากซีรีส์ที่ฉายให้ดูออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ตเรื่อง Clark and Michael และซีรีส์ Arrested Development ส่วนในปีนี้ เราอาจจะได้ดูหนังที่เขาแสดงราว 4-5 เรื่องด้วยกัน
ปลายปีก่อน ไมเคิล เซร่า แสดงนำในหนังรักวัยรุ่นเรื่อง Nick and Norah's Infinite Playlist กำกับโดยคนทำหนังอินดี้ - ปีเตอร์ โซเลตต์ เนื้อหาและสไตล์ดูเป็นงานในแบบฉบับของอะพาเทาว์มากๆ ทั้งๆ ที่ฝ่ายหลังไม่ได้มาเกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย
อย่างที่เดากันได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่หนังเริ่มต้น เซร่าในบทของ นิค โอเลียรี่ เป็นไอ้ทึ่มที่กำลังจะโดนแฟนสาวสุดเซ็กซี่บอกลา เขาตั้งใจจะไรท์เพลงที่ตนคัดเลือกมาอย่างดีมอบให้เธอเป็นครั้งสุดท้าย โดยหวังอยู่ลึกๆ ว่าสาวเจ้าอาจจะเปลี่ยนใจ
ผลลัพธ์นั้นตรงกันข้ามทุกอย่าง นอกจากจะไม่ลังเลแล้ว แฟนสาวของเขาก็โยนแผ่นซีดีทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ไยดี คนที่มาเก็บซีดีแผ่นนั้นไว้อย่างทะนุถนอมคือ นอร่าห์ (เคต เดนนิ่งส์) เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่ซ่อนเสน่ห์ไว้ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูเฉิ่มๆ
จากที่เคยมึนตึงต่อกันในทีแรก นิคและนอร่าห์ ก็ค่อยเข้ากันได้ทีละน้อย เพราะรสนิยมการฟังเพลง เลยไปถึงทัศนคติต่อการมีชีวิตและความรัก
เหตุการณ์ทั้งหมดของหนังเกิดขึ้นในคืนเดียว นิคและเพื่อนๆ ในวงดนตรีของเขา (ซึ่งหนังบอกไว้ว่าเป็นเกย์) เปิดการแสดงเล็กๆ ก่อนจะหาทางไปงานคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นอย่างลับๆ ของวงขวัญใจวัยรุ่นชื่อ "แวร์ส เดอะ ฟลัฟฟี่? " ระหว่างนั้นคือการผจญภัยที่รวมเอาส่วนผสมของตลกแบบอะพาเทาว์และหนังอย่าง American Pie ที่เป็นโล้เป็นพายบ้าง รวมถึงหาประโยชน์อะไรไม่ได้บ้าง
ส่วนที่น่าจดจำมีอยู่ 1-2 อย่างด้วยกัน อย่างแรกคงจะเป็นบุคลิกของไมเคิล เซร่า ที่สาวๆ หลายคนคงเห็นว่ามันเป็นเสน่ห์ นั่นคือ อาการเงอะๆ งะๆ พูดจาตะกุกตะกัก และความขวยเขินทำอะไรไม่ถูก เซร่าเล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ และสร้างมันขึ้นมาด้วยลักษณะเฉพาะของตนเอง
และเพราะชื่อหนังคือ Nick and Norah's Infinite Playlist เพลงประกอบที่คัดสรรมา ก็แสดงให้เห็นรสนิยมอันเยี่ยมยอดของผู้กำกับ และคนเขียนบท (หรือเจ้าของบทประพันธ์ดั้งเดิมในฉบับนิยาย โดย เดวิด เลวิธัน และ เรเชล โคห์น) – ซึ่งสะท้อนถึงบุคลิกของตัวละครเอกอีกทอดหนึ่ง
เพลงส่วนใหญ่ในหนังเป็นเพลงป๊อบและร็อค ซาวนด์ดนตรีแปลกหูบ้าง เพราะวงดนตรีส่วนใหญ่เป็นวงใหม่ที่ทำงานกันนอกระบบค่ายเพลง และเข้าใจว่าเพื่อไม่ต้องเสียเงินค่าลิขสิทธิ์เพลงให้มากเกินจำเป็น หนังจึงให้ตัวละครพูดถึงวงหรือนักดนตรีที่เขาชอบ แทนที่จะเปิดให้คนดูฟัง อย่าง เดฟ เลพเพิร์ด, เอซี/ดีซี, อาร์เคดไฟร์, เดวิด โบวี่, บิลลี่ โจล ฯลฯ
เซธ โรเก้น เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่อยู่ในก๊วนเดียวกับจัดด์ อะพาเทาว์ และประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการแสดงนำและเขียนบทหนังตลกในรอบ 1-2 ปีมานี้ เขากลายเป็นนักแสดงงานชุกในชั่วข้ามคืน และมีอำนาจต่อรองกับสตูดิโอสูงกว่าซูเปอร์สตาร์บางคนเสียอีก
โรเก้นได้มาร่วมงานกับ เควิน สมิธ นักทำหนังตลกอินดี้ ซึ่งเขายกย่องให้เป็นฮีโร่ในดวงใจ ในหนังตลกร้ายกาจเรื่อง Zack and Miri Make a Porno ออกฉายในอเมริกาเมื่อปีที่ผ่านมา และคงไม่ได้ฉายในบ้านเราแล้ว เพราะเจอพิษของคณะกรรมการเซ็นเซอร์
Zack and Miri Make a Porno ก็เหมือนหนังของเควิน สมิธทุกเรื่อง คือภายนอกอาจจะดูหยาบโลนชั่วช้า และดูเป็นภัยต่อความมั่นคงของศีลธรรมเอามากๆ แต่เนื้อแท้นอกจากจะตรงกันข้ามแล้ว สมิธยังพูดถึงสิ่งที่งดงามเหลือเกิน ตั้งแต่คุณค่าของมิตรภาพ และความบริสุทธิ์ใจที่มนุษย์พึงมีให้ต่อกัน
โรเก้นและ เอลิซาเบธ แบงค์ส มารับบท แซ็ค กับ มิริ เพื่อนรักสมัยมัธยมที่เป็นรูมเมทกันมาตั้งแต่วัยรุ่นยันอายุย่างเข้าเลขสาม นอกจากนิสัยที่บ้าบอคล้ายกัน ทั้งคู่ยังประสบชะตากรรมแบบเดียวกันอีกด้วย คือถังแตก และขาดแคลนชีวิตรักมาเป็นโกฏิชาติ
งานเลี้ยงรุ่นของโรงเรียนมัธยมที่ทั้งสองคาดหวังว่า จะคว้าใครสักคนมานอนกอด และทวงความมั่นใจกลับคืนมา กลายเป็นความล้มเหลว นอกเหนือจากการได้พบว่า เพื่อนคนอื่นๆ ได้ดิบได้ดีกันหมด แซ็คกับมิริก็ไม่พบเจออะไรที่นั่นอีก
เควิน สมิธ นำเอาประเด็นว่าด้วยยูทูบและสื่อลามกทางอินเตอร์เน็ตมาพูดอย่างผ่อนคลาย ในขณะที่ใครหลายคนเข้าใจว่ามันเป็นสื่อที่ควรเฝ้าระวัง สมิธก็ให้แซ็คกับมิริ หาทางออกให้กับปัญหาความยากจนของตนเองด้วย การตั้งบริษัททำหนังโป๊และขายมันผ่านอินเตอร์เน็ต
เนื้อหาถัดจากนี้ ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดเดา กระบวนการผลิตหนังโป๊จากทีมงานมือสมัครเล่นนำพาคนดูไปพบกับมุกตลกเปรอะเปื้อนมากมาย แบบที่แฟนๆ ของเควิน สมิธจะต้องสาแก่ใจ ก่อนที่จะสรุปตบท้าย เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแซ็คกับมิริ ที่ปิดบังหัวใจตัวเองมานาน และมอบรักแท้ให้แก่กัน
ฉากโป๊เปลือยนั้นมีให้เห็นไม่มากมาย ส่วนใหญ่ออกไปในทางตลกขบขันและทุเรศทุรังเสียมากกว่า ความสุดโต่งเรื่องเนื้อหาและภาษาพูด - นั้นแรงอย่างที่มันควรจะเป็น สมเหตุและสมผล อีกทั้งไม่ได้เป็นการดูถูกเพศหญิงอย่างที่บางคนกล่าวหา
ข้อดีอย่างหนึ่งที่เรามักจะพบได้ในงานของเควิน สมิธ คือการปฏิบัติต่อตัวละครเพศหญิงอย่างเป็นธรรม พวกเธอดูเป็นมนุษย์และมีคุณค่ากว่านางเอกในหนังหลายเรื่องเสียอีก เราได้เห็นมิริในทุกมุมของเธอ ซ้ำยังเข้าอกเข้าใจเธอด้วย หากเธอจะอยากหลับนอนกับผู้ชายสักคน
นางเอกในหนังของเควิน สมิธไม่ใช่คนที่สวยหยาดเยิ้ม แบบที่ผู้ชายเห็นแล้วกระสันอยากหลับนอนด้วย (แม้กระทั่ง ลิฟ ไทเลอร์ ใน Jersey Girl ก็ยังเป็นผู้หญิงที่ดูไร้ระเบียบกฏเกณฑ์) พวกเธอเป็นผู้หญิงปกติที่เต็มไปด้วยข้อด้อย มีหัวใจเสรีที่มีสิทธิ์ใช้ชีวิตไปตามทางของเธอเอง โดยคนดูไม่มีหน้าที่ (และไม่จำเป็น) ไปตัดสิน
