xs
xsm
sm
md
lg

แกรมมี่ผนึกทีเจมีเดียขยายตลาดคาราโอเกะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - “จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” ผนึก “ทีเจมีเดีย” บันเดิ้ลเพลงแกรมมี่กรุ๊ปเข้าเครื่องเล่นคาราโอเกะทีเจมีเดีย หนุนการใช้สินค้าเพลงที่มีลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อขยายตลาดคาราโอเกะทั่วประเทศ ตั้งเป้าปีแรกโกยยอดขาย 1 หมื่นเครื่อง

นายยงศักดิ์ เอกปรัชญาสกุล กรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจการขายและการตลาด บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ Singing Marketing ควบคู่กับกลยุทธ์ Listening & Watching Marketing คือ ขยายช่องทางจัดจำหน่ายตลาดซีดี วีซีดี และดีวีดีควบคู่กับตลาดคาราโอเกะ เพื่อเป็นผู้ให้บริการเพลงครบวงจร (Total Music Business) อย่างสมบูรณ์แบบ เนื่องจากมองว่าองค์กรใดที่มีกลยุทธ์ตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคมากที่สุด ย่อมทำให้องค์กรนั้นแข็งแกร่งและเติบโตไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว

ล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาความร่วมมือกับบริษัท ทีเจมีเดีย (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือบริษัท ทีเจมีเดีย จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจเครื่องเล่นคาราโอเกะและสินค้าประเภทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องคาราโอเกะ จากประเทศสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อส่งเสริมการใช้สินค้าเพลงที่มีลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้เกิดความเป็นธรรมต่อคนทำงานเพลง ได้แก่ ศิลปิน นักแต่ง และทีมงานคนทำเพลงได้มีกำลังใจสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ออกสู่สังคม

โดยความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการนำเพลงคาราโอเกะของศิลปินในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เข้าไปบรรจุในฮาร์ดดิกส์ของเครื่องเล่นคาราโอเกะแบรนด์ทีเจมีเดีย เพื่อขยายตลาดคาราโอเกะเชิงพาณิชย์ และตลาดคาราโอเกะภายในบ้านให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น โดยมีจุดเด่น คือ นอกจากสามารถเล่นเพลงคาราโอเกะได้อย่างต่อเนื่องตามหมวดเพลงแล้ว ยังสามารถดูหนังฟังเพลงจากแผ่นซีดี วีซีดี และดีวีดีได้เช่นเดียวกับเครื่องเล่นวีซีดีและดีวีดีทั่วไป อีกทั้งยังสามารถเพิ่มเพลงใหม่ๆ หรือเพลงโปรดได้ตามใจชอบที่ร้านอิมเมจิ้นทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าปีแรกจะมียอดขาย 1 หมื่นเครื่อง

อย่างไรก็ตาม จากความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ธุรกิจคาราโอเกะในประเทศไทยมีมาตรฐานมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาการละเมิดการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงทำซ้ำ และค่าเผยแพร่ลิขสิทธิ์เพลงในสถานประกอบการคาราโอเกะต่างๆ น่าจะลดน้อยลง ขณะเดียวกันจะทำให้บริษัทฯ ได้รับค่าเผยแพร่ลิขสิทธิ์เพลงทำซ้ำ และค่าเผยแพร่ลิขสิทธิ์เพลงในสถานประกอบการคาราโอเกะแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ถือเป็นการขยายช่องทางขายเพลงในรูปแบบการร้องเพลง ซึ่งเป็นธุรกิจที่ยังมีโอกาสเติบโตสูง

“เรารู้สึกยินดีที่มีโอกาสร่วมงานกับทีเจมีเดีย ถือเป็นความร่วมมือระหว่าง “ฮาร์ดแวร์” คือ ทีเจมีเดีย และ “ซอฟท์แวร์” คือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพื่อนำเพลงคาราโอเกะของศิลปินแกรมมี่บันเดิ้ลเข้าไปในเครื่องเล่นคาราโอเกะทีเจมีเดีย เสมือนการแสดงจุดยืนสนับสนุนการทำธุรกิจบนพื้นฐานของความถูกต้องและเป็นธรรม ส่งผลดีต่อภาพรวมตลาดเพลงลิขสิทธิ์ให้มีมาตรฐานมากขึ้น เพราะเป็นการเปลี่ยนโมเดลการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ใหม่ จากเดิมที่ผู้ประกอบการร้านคาราโอเกะเป็นผู้จ่ายทั้งค่าลิขสิทธิ์เพลงทำซ้ำ และค่าเผยแพร่ลิขสิทธิ์เพลง เป็นผู้ประกอบการร้านคาราโอเกะจ่ายแค่เผยแพร่ลิขสิทธิ์เพลงอย่างเดียว เพราะทีเจมีเดียจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงทำซ้ำให้แล้ว ซึ่งเชื่อมั่นว่าโมเดลนี้จะส่งผลวิน วินกันทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเรา, คู่ค้า (คือ ทีเจมีเดีย) และลูกค้า (คือ ผู้ประกอบการร้านคาราโอเกะ)” นายยงศักดิ์ กล่าว

ปัจจุบันภาพรวมธุรกิจคาราโอเกะในประเทศไทย แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ 1.กลุ่มร้านค้าคาราโอเกะ ซึ่งมีมากกว่า 4 หมื่นร้านกระจายอยู่ทั่วประเทศ (ยังไม่รวมร้านเล็กๆ ที่อยู่ตามซอกซอยในชุมชนต่างๆ) มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากไลฟ์สไตล์ของคนไทยชื่นชอบการร้องเพลง ในโอกาสพบปะสังสรรค์กับเพื่อนพ้องน้องพี่ และเพื่อผ่อนคลายความเครียด ประกอบกับมีการเกิดของผู้ประกอบการรายใหม่อยู่เสมอ โดยเน้นแข่งขันทางด้านความแตกต่างของอุปกรณ์ทันสมัย การตกแต่งร้าน และการให้บริการเป็นหลัก เพราะแต่ละร้านมีศักยภาพอัพเดทเพลงใหม่ๆ ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และ 2.กลุ่มตลาดบ้าน มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน เพราะคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะวัยพรีทีนและทีนที่มีอายุระหว่าง 10-19 ปี กล้าแสดงออกเพื่อโชว์ความสามารถของตัวเอง ประกอบกับเทคโนโลยีการผลิตเครื่องเล่นคาราโอเกะสำหรับภายในบ้าน ตลอดจนมือถือและอินเตอร์เนตมีความทันสมัยมากขึ้น ทำให้การร้องเพลงไม่จำกัดเฉพาะในร้านคาราโอเกะอีกต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น