xs
xsm
sm
md
lg

ฝันในการเป็นเจ้าสาว กับชีวิตที่เหลืออีกเดือนกว่าๆ ของ "เจด กูดดี"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แหวนที่ไปเลือกซื้อในวันวาเลนไทน์ด้วยกัน
วาเลนไทน์ที่ผ่านมา คงไม่มีสาวคนไหนจริงจังกับของขวัญจากคนที่เธอรักเท่ากับ "เจด กูดดี" สาวเรียลิตี้คนดังของอังกฤษ เมื่อแฟนหนุ่มได้ขอเธอแต่งงาน และเธอมีเวลาเป็นเจ้าสาวของเขาอีกเพียงเดือนกว่าๆ ก่อนที่มะเร็งปากมดลูกที่ลามไปทั่วร่างจะพรากชีวิตเธอไปจากแม่และลูกๆ ของเธอไปตลอดกาล

เจด กูดดี สาวคนดังของ Big Brother ในวัย 27 ปี กำลังจะทำให้ลูกชายทั้งสองของเธอต้องกำพร้าแม่ เมื่อทางแพทย์ที่ทำการรักษาได้รายงานว่าการรักษาด้วยเคมีและรังสีตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาไม่สามารถยับยั้งมะเร็งปากมดลูกของเธอได้ และล่าสุดมันได้กระจายตัวไปยังตับ, ลำไส้ และบริเวณขาหนีบของเธอเสียแล้ว โดยเชื้อมะเร็งที่เริ่มกระจายไปยังกระแสเลือดจะทำให้เธอมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 8 สัปดาห์เท่านั้น

ความหวังสุดท้ายในชีวิตที่เหลืออยู่ของเธอคือการได้แต่งงานกับผู้ชายที่เธอรักอย่าง แจ็ค ทวีด แฟนหนุ่มรุ่นน้องวัย 21 ที่เคยอยู่ในบ้าน Big Brother ด้วยกัน หลังจากที่ฝ่ายชายเป็นฝ่ายขอแต่งงานกับเธอเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และจัดวาเลนไทน์ปาร์ตี้ฉลองกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าที่เจ้าบ่าวไม่สามารถอยู่ร่วมงานฉลองของตัวเองได้นานนัก เพราะยังติดคุมประพฤติต้องกลับบ้านก่อนทุ่มหนึ่ง ที่เป็นผลมาจากการพ้นโทษจำคุกก่อนกำหนดเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมาในคดีที่เขากับเพื่อนไปทำร้ายเด็กอายุ 16 ปีด้วยไม้กอล์ฟเมื่อปลายปี 2006

แหล่งข่าวที่เป็นเพื่อนของเธอกล่าวว่า "เจดกำลังจะตายแล้ว เธอรู้ตัวดี แต่งานแต่งงานครั้งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เธอมีความหวัง เธอมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อมัน ตอนนี้มันกลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเธอ เธออยากให้แจ็คมาเป็นสามีของเธอก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป มันเป็นสิ่งเดียวที่เธอเหลืออยู่"

โดยเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา แจ็คได้พาเจดที่อยู่บนรถเข็นพร้อมกับแม่ของเธอออกไปเลือกชุดแต่งงานด้วยกันในแถบลอนดอนตะวันตก ที่เจดได้รับของขวัญจากโมฮัมเมด อัล ฟาเยด เจ้าของร้าน Harrods ที่มอบชุดแต่งงานมูลค่ากว่า 3,500 ปอนด์เป็นของขวัญแก่เธอ ขณะที่เซอร์ เอลตัน จอห์น ได้เสนอแมนชั่นมูลค่า 20 ล้านปอนด์ใกล้ๆ กับพระราชวังวินด์เซอร์ให้เป็นสถานที่จัดงานของเจดที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ด้วย

และหลังจากได้แหวนหมั้นจากการช็อปปิ้ง แจ็คก็ได้พาเจดมาขอแต่งงานอย่างเป็นทางการอีกครั้งอย่างโรแมนติกที่ริมแม่น้ำเธมส์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ออกช็อปปิ้งตามประสาคู่ที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์
ก่อนหน้านี้เจดตัดสินใจที่จะแต่งงานกับแจ็คภายในโบสถ์ของโรงพยาบาลที่เธอรักษาตัว แต่เปลี่ยนใจอยากจะไปจัดพิธีกันที่อื่นเมื่อเจ้าตัวให้เหตุผลว่า "ฉันคงจะตายที่นี่ ฉันเลยไม่อยากจะจัดพิธีในนี้"

"ไม่ว่าจะจัดที่ไหน ฉันอยากจะเดินเข้าพิธีด้วยตัวเอง แม้ว่าตอนนี้ฉันจะสูญเสียการทรงตัวและหมอก็ไม่มั่นใจว่ามันเป็นสัญญาณว่ามะเร็งได้ลุกลามไปยังสมองของฉันแล้วหรือเป็นเพียงว่าความอ่อนเพลียธรรมดา แต่ฉันหวังว่าฉันจะยังคงมีกำลังเหลือพอที่จะเดินเข้างานแต่งของตัวเองได้ เพราะมันคงจะเลวร้ายมากๆ ถ้าสิ่งนี้ถูกพรากไปในนาทีสุดท้ายอย่างนี้"

เจดเผยถึงความรู้สึกครั้งแรกที่รู้ว่าเธอต้องพ่ายแพ้ต่อมะเร็งร้ายนี้ในที่สุดว่า "ฉันหายใจไม่ออก ฉันได้แต่โหยหวนและร้องไห้ และได้แต่ถามว่า 'ไม่มีใครช่วยฉันได้เลยหรือไง' แต่ฉันก็ไม่โทษพวกเขาหรอก ฉันรู้ว่าพวกเขาพยายามทำทุกวิถีทางแล้ว แต่ฉันหวังอยู่เสมอว่ามันจะผ่านพ้นไปด้วยดี"

เธอใช้วิธีผ่านความเจ็บปวดที่เข้ามาแต่ละวันด้วยมอร์ฟีนและไบเบิล และต้องการให้ บ็อบบี และ เฟรดดี ลูกชายวัน 5 ขวบและ 4 ขวบหันมานับถือศาสนาคริสต์ เพราะพวกเขาจะได้เชื่อว่า "แม่ยังอยู่บนสวรรค์และยังคงดูแลพวกเขาอยู่บนนั้น"

สิ่งที่เธอเตรียมเอาไว้ให้ลูกๆ ทั้งสองหลังจากที่เธอจากโลกนี้ไปแล้วได้แก่อสังหาริมทรัพย์ทั้ง 3 แห่ง และจำนวนเงินสดที่มากพอที่จะส่งเสียลูกชายทั้งสองสำหรับค่าเล่าเรียนในโรงเรียนเอกชนจนถึงอายุ 18

แต่สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดตอนนี้ก็คือการเริ่มต้นชีวิตคู่กับแจ็คให้เร็วที่สุด แม้มันจะมีเวลาเหลืออยู่ไม่กี่สัปดาห์ก็ตาม

"ฉันสาบานว่าจะต้องมีครอบครัวก่อนที่ฉันจะตาย แม้ว่ามันจะไม่ยั่งยืนเหมือนที่ฉันหวังไว้ ฉันรักแจ็คด้วยทั้งหมดของหัวใจและต้องการที่จะเป็นภรรยาของเขามากกว่าสิ่งใดในโลกนี้ และฉันจะเป็นให้ได้ ที่ฉันต้องการทั้งหมดคือใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดกับแจ็คและลูกๆ ของฉัน"

"เขาดูเศร้ามากๆ และเขาพยายามกลั้นความรู้สึกเมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน เมื่อเขารู้ว่าฉันกำลังจะตาย เขาก็พูดออกมาว่า 'ได้ งั้นเรามาแต่งงานกัน คุณเป็นผู้หญิงที่วิเศษ ผมรักคุณ และถือเป็นเกียรติของผมที่จะเรียกคุณว่าภรรยาของผม และไม่สนด้วยว่ามันจะเป็นอย่างนั้นแค่ไม่กี่สัปดาห์ก็ตาม' "
ขอแต่งงานกันอีกครั้งริมแม่น้ำเธมส์
"ฉันอยากจะถามพระเจ้านักว่าทำไมเขาไม่ให้เวลาฉันกับลูกๆ ให้มากกว่านี้ ฉันอยากจะมีเวลาเห็นพวกเขาหัวเราะและมีความสุขให้มากกว่านี้ อยากจะหาเวลาเขียนจดหมายยาวๆ ให้พวกเขารู้จักฉันมากกว่านี้และรู้ว่าฉันรักเขามากแค่ไหน และย้ำเตือนถึงทุกๆ สิ่งที่เราเคยทำด้วยกัน เพราะไม่นานพวกเขาคงจะต้องลืมฉัน และมันเป็นสิ่งที่ฉันคงรับไม่ได้จริงๆ"

ปัจจุบันนี้เธอยังเป็นเจ้าของรายการเรียลิตี้โชว์ Living with Jade Goody อยู่ ซึ่งเป็นรายการเรียลิตี้โชว์ที่ตามติดอาการของเธอมาตั้งแต่เดือนก.ย.ปีก่อน และเปลี่ยนชื่อมาแล้วสองครั้ง เป็น Jades Progress ในเดือนธ.ค. และตัดมาเหลือเพียง Jade เมื่อความหวังสิ้นสุดในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา โดยในสองสัปดาห์นี้ทางทีมงานไม่สามารถถ่ายทอดชีวิตของเธอได้ นอกจากดำเนินรายการโดยคำให้สัมภาษณ์ของ แจ็ค, แม่ของเจด และเพื่อนๆ ของเธอแทน โดยเจดได้ขอร้องให้ เคท แจ็คสัน โปรดิวเซอร์ของรายการมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้กับงานแต่งงานที่จะถึงนี้

โดยทีมงาน Living TV เผยว่าการจะกลับไปถ่ายทำเจดอีกครั้งต้องรอความเห็นชอบของเจ้าตัวอีกที แต่กระนั้นตัวเจดเองเห็นว่าการได้เสียชีวิตออกทีวีจะเป็นการสร้างความมั่งคงทางการเงินให้กับลูกๆ ของเธอมากขึ้นไปอีก

"ฉันใช้ชีวิตหลังบรรลุนิติภาวะในการพูดถึงชีวิตตัวเองมาตลอด มันคงแตกต่างไม่มากที่ตอนนี้ฉันกำลังพูดถึงความตายของตัวเอง"

"ฉันใช้ชีวิตอยู่หน้ากล้องมาตลอดและบางทีฉันอาจจะตายหน้ากล้องด้วยเช่นกัน ฉันรู้ว่าบางคนคงไม่ชอบที่ฉันจะทำอย่างนี้ แต่ตอนนี้ฉันไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ฉันจะทำทุกอย่างที่ฉันต้องการ"
ความสุขกับเวลาที่เหลืออยู่
ชีวิตรักของเจด กูดดี

ลูกชายทั้งสองของเจดเกิดจากความสัมพันธ์ช่วงสั้นๆ กับ เจฟ บราซิเออร์ พิธีกรรายการทีวีที่มาออกรายการเรียลิตี้โชว์ด้วยกันกับเธอหลายครั้ง แต่ก็เลิกกันหลังเจดคลอดลูกชายทั้งสองให้กับทั้งคู่เมื่อปี 2003 และ 2004 จากนั้นเจดก็ได้มาพบรักกับ แจ็ค ทวีด จากการออกรายการ Celebrity Big Brother ด้วยกัน แต่ก็ต้องเลิกกันเมื่อเธอจับได้ว่าแจ็คไม่ซื่อสัตย์ต่อเธอ และให้ความเห็นที่มีต่อความรักต่างวัยของทั้งคู่ว่า "วันหนึ่งฉันคงรู้สึกเหมือนกับเป็นแม่เขามากกว่าคนรัก ฉันคงจะไม่เคี้ยวหญ้าอ่อนอีกแล้ว" แต่จากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็กลับมาคบกันอีก และย้ายไปอยู่ด้วยกันที่บ้านของฝ่ายหญิงที่ย่านเอสเซ็กซ์ จนกระทั้งแจ็คถูกจับจำคุกเป็นเวลา 18 เดือนในข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ติดจริงเพียงแค่ 4 เดือนก็ถูกปล่อยตัวออกมาพร้อมการติดตั้งเครื่องคุมประพฤติอิเล็กทรอนิกส์เอาไว้กับตัวเมื่อม.ค. และมาดูแลว่าที่ภรรยาของเขานับตั้งแต่ได้รับอิสรภาพ

การต่อสู้มะเร็งของเจด กูดดี

เจดเคยไปตรวจมะเร็งรังไข่เมื่อปี 2004 และมะเร็งลำไส้เมื่อปี 2006 และไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร แต่การไปตรวจมะเร็งครั้งที่ 3 เมื่อต้นเดือนส.ค.ปีก่อน หลังจากเธอหมดสติไปถึง 4 ครั้ง เธอได้พบเชื้อมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเดิมทีทางโฆษกเผยว่ามะเร็งดังกล่าวยังอยู่ในระยะเริ่มต้น โดยขณะนั้นเจดกำลังไปออกรายการ Big Brother ของอินเดียอยู่ แต่พอเธอกลับมาถึงอังกฤษผลการตรวจกลับระบุว่าเชื้อมะเร็งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วและเป็นอันตรายถึงชีวิต เจดจึงเข้ารับการบำบัดทั้งเคมีและรังสี โดยทางแพทย์เผยในเวลานั้นว่าโอกาสรอดของเธออยู่ที่ 65% จนต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมาทางโฆษกเผยว่ามะเร็งได้ลามไปที่ตับ, ลำไส้ และบริเวณขาหนีบแล้ว แต่ก็ยังให้โอกาสรอดของเธออยู่ที่ 40% จนสัปดาห์ต่อมาเจดต้องเข้าผ่าตัดฉุกเฉินเพื่อเอาก้อนเนื้อที่ลำไส้ของเธอออก จนวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาทางทีมแพทย์ของโรงพยาบาล Royal Marsden Hospital ของกรุงลอนดอนยอมรับกับเจดว่าเธอคงมีชีวิตเหลืออยู่อีกเพียงเดือนกว่าๆ เท่านั้น
ลูกชายทั้งสองของเจด
กำลังโหลดความคิดเห็น