xs
xsm
sm
md
lg

หัวใจ ความรัก และเกียรติยศ ของ “หญิงแม้น” ราชนิกุลที่ติดดินที่สุดในโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หญิงแม้น” เปิดใจเรื่องรักถึง “แท็ค” และผู้ชายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เผยชีวิตรักราชนิกุล สุดอึดอัดต้องรักษาภาพลักษณ์วงศ์ตระกูล บอก “ท่านพ่อ” ติดไฟแดงผู้ชายทุกคน

ตกเป็นข่าวกับหนุ่มๆ รายวันเลยทีเดียวสำหรับ “ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เปิดศึกแย่ง “คริสโตเฟอร์ โรเบิร์ต” กับ “มด คุณัชญา ชัยรัตน์” คบกับ “ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” คั่วกับ “แท็ค ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม ภรัณยู” ล่าสุดก็มีข่าวว่ากำลังควงกับนายแบบหน้าใหม่

แต่ที่ฮือฮาสุดๆ เห็นจะเป็นเรื่องที่หญิงแม้นไปปล่อยโฮกลางห้าง เพราะน้อยใจที่หนุ่มแท็คแอบไปคั่วกับ “พลอย ณัฐชา สวัสดิ์รักเกียรติ” นักร้องค่ายแกรมมี่ ทั้งหมดทั้งมวลของข่าวฉาวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของราชนิกุลผู้สูงศักดิ์อยู่ไม่น้อย งานนี้เจ้าตัวยอมรับว่า ทั้งอึดอัดและเสียใจ และนี่คือเรื่องจริงจากปากหญิงแม้น ไปดูกันสิว่า เรื่องราวของหัวใจ ความรัก และเกียติยศ สำหรับหญิงสูงศักดิ์แบบหญิงแม้นอะไรสำคัญกว่ากัน

“ที่ผ่านมาแม้นตกเป็นข่าวค่อนข้างเยอะมาก จริงบ้างไม่จริงบ้าง อย่างข่าวไปแย่งคริส(คริสโตเฟอร์ โรเบิร์ต)กับมด(คุณัชญา ชัยรัตน์)จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ ตอนนั้นแม้นพึ่งกลับมาจากเมืองนอกยังไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัย ตอนแรกเราจะมีเวลาว่างก็ได้เจอกับคริสเขาเป็นพระเอกเอ็มวีของมัดหมี่(พิมดาว พานิชสมัย) ซึ่งมัดหมี่เป็นเพื่อนสนิทของแม้นเราก็เลยรู้จักกันและเรียนรู้กัน แต่พอวันหนึ่งเรารู้สึกว่า เราเข้ากันไม่ได้มันไม่ใช่อย่างที่เราคิดก็เลยห่างกันแล้ว”

“ตอนนี้เขาก็ไปเรียนรู้กับคนอื่นเราก็ไม่ได้ไปหวงไม่ได้ไปห้าม แต่มีข่าวออกมาตลอดว่าแม้นไปแย่งผู้ชายกันกับมด ซึ่งจริงๆ มันไม่มีมีอะไรเลย แต่ก็ยอมรับว่าตอนแรกแม้นเป็นห่วงอย่าใช้คำว่าหวง เขาคุยกับเราไม่โอเคแล้วพอเขาไปคุยกับคนอื่นโอเคไหม เขาจะดูแลดีไหม มดดีไหมเลยมีถามไถ่บ้างเป็นเรื่องธรรมดา”

“ส่วนกับไมค์(ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล) เราเป็นเพื่อนสนิทกัน มีนัดกันไปดูหนังเดินเที่ยวที่สยามบ้างแล้วก็เริ่มเป็นข่าว จากนั้นแม้นก็เริ่มมีงานเดินแบบถ่ายแบบเข้ามาบ้างเลยทำให้เจอกับพี่แทคในวันแม่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พี่เขานั่งเล่นเกมส์อยู่ข้างหลังเวทีแล้วหนูก็เข้าไปนั่งเล่นเกมส์ด้วย พอได้คุยกันก็เลยรู้ว่าเขาไม่ใช่อย่างที่เราเห็น ตอนแรกเราคิดว่าเขาเจ้าชู้เพลย์บอย เขาเองก็คิดว่าเราเป็นไฮโซหยิ่งๆ ความจริงก็ติ้งต๊องบ้าๆ บอๆ ช่วงนั้นเลยโดนกระแสข่าวเยอะมากว่าไปแย่งไมค์มาหรือเปล่า หรือหญิงแม้นจะเลือกใคร แต่จริงๆหนูไม่มีสิทธิ์เลือกได้เลย(หัวเราะ)”

“กับพี่แท็คอย่าเรียกว่าเข้ามาจีบเลยเรียกว่าเราค่อยๆ คุยกันมากขึ้นดีกว่า เพราะเริ่มแรกมันเหมือนเราได้ร่วมงานเดินแฟชั่นโชว์ด้วยกันคุยกัน ซึ่งก่อนหน้านี้พี่เขาเคยขอเบอร์โทรศัพท์ไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่แม้นให้เบอร์ผิดไปจำเบอร์ไม่ได้(หัวเราะ) พอเขาโทรไม่ติดเขาก็คิดว่าแม้นไม่อยากที่จะให้เบอร์เลยแกล้งให้เบอร์มั่วไป ส่วนแม้นก็คิดว่าที่ไม่โทรมาเพราะเขาคงขอไปเล่นๆ จนมาเจอกันในงานเดินแบบอีกครั้งเลยมานั่งคุยกันก็เลยเข้าใจกัน”

“หลังจากนั้นพี่เขาก็พาไปทานส้มตำ แม้นชอบพี่เขาตรงนี้แหละ เขาไม่เหมือนคนอื่น คือปกติถ้ามีคนมาคุยด้วยเขาจะพาไปดินเนอร์ ไปทานอาหารร้านอิตาเลี่ยน แต่พี่แท็คพาไปทานส้มตำปูม้า ซึ่งเราไม่เคยทานเลยมัดใจเลย (หัวเราะ) แปลกใจนะที่เขาไม่มีมาดพระเอกเลยพาเรามาจกข้าวเหนียวส้มตำจนรู้สึกประทับใจน่ารักดี ตอนนี้ส้มตำปูม้าเลยกลายเป็นเมนูโปรดไปแล้ว”

“ถามว่าวันนั้นเป็นการนัดเดทครั้งแรกหรือเปล่า อย่าใช้คำนั้นเลย โอเคจริงๆ เราก็ไปกันแค่สองคน แต่ว่ามันเป็นแค่การไปกินข้าวไปกินส้มตำเฉยๆ พี่เขาไม่ได้มาโรแมนติกถึงขนาดรับส่งที่บ้านหรือเดินจูงมืออะไรแบบนั้น ออกแนวสบายๆ มากกว่า เอาเป็นว่าเราได้รู้จักกันมากขึ้น ส่วนนัดเดทจริงๆ ทุกวันนี้ก็ยังไม่มี(หัวเราะ) คุยกันเรื่อยมาเรามีอะไรหลายๆ อย่างที่เข้ากันได้ทั้งๆ ที่ไลฟ์สไตล์เราต่างกันมาก”

“ตอนนี้ชีวิตโอเคมากเวลาไปทำงานไปไหนจะโทรคุยกัน ไม่ใช่เป็นการโทรรายงาน แต่มันเหมือนคุยกันมากกว่า วันนี้เราไปเดินแบบที่นี่ ส่วนพี่เขาไปเตะบอลเขาจะบอกเราเหมือนกัน หรือบางครั้งถ้าว่างจะมาเจอกันผลัดกันมานั่งรอกันบ้าง ซึ่งมันไม่ใช่การไปตามเฝ้า แต่เราใช้เวลาทุกนาทีให้มันมีค่า เพราะเวลาเขากับเรามันมีไม่เยอะมาก”

“แต่แม้นจะเป็นคนที่ค่อนข้างขี้หึงมาก อย่างเวลาที่ถ่ายรูปกับแฟนคลับสวยๆ แล้วโอบไหล่เราจะไม่พอใจ พี่แท็คเขาจะเป็นคนขี้เล่นเวลาถ่ายรูปกับแฟนคลับเขาจะมีโอบไหล่เล่นด้วย ซึ่งบางทีก็มีผู้หญิงบางคนบอกว่าพี่แทคมาจีบ แต่จริงๆ ไม่มีอะไรเขาเป็นแบบนี้กับทุกคน มันเหมือนเป็นคาแรคเตอร์ของเขามากกว่าไ

“ทุกวันนี้ก็เริ่มๆ ที่จะเข้าใจและรับได้แล้ว แม้นคิดว่าเราควรที่จะชอบในสิ่งที่เขาเป็น และแม้นก็เชื่อว่าเขาก็ชอบในสิ่งที่เราเป็น แม้นขี้วีนเอาแต่ใจเขายังรับเราได้เลย พี่แทคเองก็บอกว่า ตอนนี้ยังไม่มีแฟนและคนทั้งประเทศรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน เธอยังจะกลัวอะไรอีก(หัวเราะ) แต่บางที่มีแอบน้อยใจบ้างนะ เพราะก็ยังมีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาอยู่เรื่อยๆ”

“อย่างเรื่องของพี่พลอย(พลอย ณัฐชา สวัสดิ์รักเกียรติ)มีเพื่อนโทรมาบอกว่า พี่แท็คจีบพี่พลอยเราก็ฟังหูไว้หูไปถามเจ้าตัวเขาบอกว่าไม่มีอะไรก็เชื่อว่าไม่มีอะไร แต่วันนั้นที่เกิดเรื่องยอมรับว่าเราทะเลาะกันทางโทรศัพท์คุยกันไม่รู้เรื่องร้อนกันทั้งคู่มันเหมือนยังคุยไม่เคลียร์แล้วต้องเข้าไปในงาน”

“พอพี่นักข่าวเข้ามาสัมภาษณ์เรื่องพี่พลอยมันทำให้แม้นรู้สึกตกใจ ปัญหามันยังเคลียร์ไม่จบคุยกับพี่แท็คยังไม่รู้เรื่องแต่ทำไมพี่ๆ นักข่าวประชาชนรู้เรื่องกันหมดแล้ว รู้สึกน้อยใจมากกว่าทำไมเขาทำอะไรเหมือนไม่ให้เกียรติกัน เราให้เกียรติเขาเต็มที่กล้าบอกได้เลยว่า คบกับเขาเต็มที่ไม่เคยเผื่อเลือกคบทีละคน”

“พอให้สัมภาษณ์เสร็จเราเก็บความรู้สึกไม่ได้อายุแค่ 18 ปี มีรัก โลภ โกรธ หลง มีความรู้สึกเป็นคนและมันกระทบกระเทือนจิตใจเลยร้องไห้ออกมา แต่ก็ไม่ได้ร้องไห้โฮแค่หันหลังไปหาเพื่อนพี่เขาก็ตีวงเข้ามาถ่ายรูปกันภาพที่ออกไปเลยดูแรง”

“หลังจากมีข่าวพี่แท็คก็โทรมาเคลียร์คุยกันลงตัว เขาเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าแม้นเป็นคนอ่อนไหวมาก ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งเขาก็ห่างไปเอง ตอนนี้แม้นไม่อยากจะระแวงขอไม่รู้ไม่เห็นไม่เช็คดีกว่า พยายามคิดว่าถ้ามีผู้หญิงเข้ามาคุยกับเขาแล้วเขายินดีที่จะคุยอีก ก็จะไม่ไปยื้อไว้ในเมื่อเขาไม่เห็นคุณค่า แม้นคิดว่ามันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะคบกัน แม้นเชื่อว่าแม้นไม่ใช่ตัวเลือกของใคร ถ้าเขาบริสุทธิ์ใจก็ดีใจ แต่ถ้าเขาจะไปหาคนอื่นขอให้บอกอย่ามาโกหกกัน”

“ทุกคนมีข้อผิดพลาดกันได้เขาก็ต้องมีโอกาสที่สอง แต่ถ้าจะมีที่สามที่สี่อีกมาทางไหนคงต้องไปทางนั้น แต่พูดแบบนี้เดี๋ยวจะมีกระแสวิจารณ์หาว่าเราโง่อีก(หัวเราะ) ถูกผู้ชายหลอกหลงผู้ชาย ยืนยันได้เลยว่าแม้นไม่หลงผู้ชายและไม่ได้โง่ด้วย”

“แต่แม้นว่าในเรื่องของความรักผู้หญิงรักผู้ชายทุกคนทุกคู่ต้องมีเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเรื่องของเรามันกลายเป็นเรื่องสาธารณะทุกคนรับรู้ง่าย และที่ข่าวบอกว่าแม้นมีแต่ข่าวฉาวเรื่องผู้ชาย ทำไมไม่พูดถึงเรื่องเรียนบ้างล่ะ มันไม่มีอะไรจะพูด จะให้พูดอะไรเราเรียนอักษรศาสตร์ปี 1 มหาวิทยาลัยจุฬาอินเตอร์ มันก็ไม่มีอะไรให้พูดถึงอีก ในเมื่อเขาเลือกที่จะนำเสนอข่าวน่าตื่นเต้นมากกว่า อยากให้ทุกคนเปิดใจกว้างนิดหนึ่งสมัยนี้ยุคนี้โลกมันกว้างขึ้นแล้วอยากให้รับรู้อะไรมากขึ้น”

“แม้นอาจจะแปลกกว่าคนอื่นๆ ไม่ได้เป็นดาราไม่ทำตัวเป็นดารา แม้นเป็นคนตรงๆ รู้สึกอย่างไรคิดยังไงก็จะพูดแสดงออกหมดตอนนั้น ตอนนั้นเราร้องไห้ แต่ตอนนี้เรามีความสุขแฮปปี้ก็มีความสุข บางทีมันอาจจะเยอะไปจนคนมองว่าทำไมเด็กคนนี้มากมายจังเลยอาทิตย์เดียวมีข่าวออกมา 3-4 ข่าว อยากดังหรือเปล่า”


“ตรงนี้แม้นก็อยากจะขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจเข้ามาอ่าน แต่ทำไมไม่มองว่าเราก็เป็นเด็กธรรมดาคนหนึ่ง บางทีมีคนมาด่ามาว่าแรงๆ เรื่องท่านพ่อเรื่องคุณแม่ตระกูลมันดูไร้สาระ ไม่ใช่ว่าท่านไม่สั่งสอนท่านสั่งสอนเสมอ แต่มันขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะทำหรือเปล่า ทุกอย่างที่เราทำมันคือสิ่งที่เราเลือกเอง ฉะนั้นมีอะไรให้มาว่าที่เราอย่าไปโยงหาพี่แมงมุม หาพ่อหาแม่มันไร้สาระมากโตๆ กันแล้วแยกแยะกันนิดหนึ่ง”

เผย “ท่านพ่อ” ติดไฟแดงผู้ชายทุกคนในโลก
“ที่ผ่านมาท่านพ่อจะรับรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าไมค์เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่กับพี่แท็คเขาเข้ามาคุยด้วย ซึ่งถ้าเป็นผู้ชายไม่ว่าผู้ชายคนไหนในโลกนี้ท่านพ่อต้องกดไฟแดงไว้ก่อนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นเขียวอ่อนๆ(หัวเราะ)แล้ว ท่านพ่อหวงลูกสาวไม่ว่าจะเป็นผู้ชายคนไหนนาย ก นาย ข แรกๆ ท่านพ่อจะไม่เปิดรับอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ ท่านพ่อจะตีกรอบขีดเส้นไว้ห่างๆ ว่าอย่าพึ่งคิดเป็นอะไรเกินเลยเป็นเพื่อนพิเศษจะดีกว่า เพราะถ้าเราใช้คำว่าแฟนกว่าเราจะเรียนจบแต่งงานก็คงมีแฟนไม่รู้กี่คน”

“ตอนนี้พี่แท็คก็เข้าไปทานข้าวที่บ้านแล้ว พอดีวันนั้นทำงานเสร็จแล้วท่านพ่อกับคุณแม่ถามว่ามาทานข้าวไหมก็เลยไป พี่แท็คเขาก็จะเกร็งๆ เรียบร้อยผิดปกติ แต่ก็ยังเป็นตัวของตัวเองใส่กางเกงขาสั้นร้องเท้าแตะสบายๆ ไม่ได้ต้องถึงขนาดเอาอะไรมาลบรอยสักใส่สูทผูกไทด์ ซึ่งเขาเข้าได้กับทุกคนในครอบครัวเป็นอย่างดี อย่างกับน้องสาวเราเขาจะคุยเรื่องการ์ตูน ว่างๆ จะเอาการ์ตูนที่บ้านเขามาให้น้องอ่านน้องก็โอเค กับท่านพ่อจะคุยเรื่องฟุตบอล กับพี่เลี้ยงจะมาคุยด้วย จริงๆ แม้นก็ไม่เชิงที่จะพาเข้าบ้าน แต่ว่าอยากพาไปทำความรู้จักกับทุกคนมากกว่า เพราะคิดว่าทำอะไรก็อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ดีกว่ามาแอบคบกัน”

“ส่วนทางครอบครัวพี่แท็ค แม้นก็จะคุยโทรศัพท์กับคุณพ่อซะส่วนใหญ่ ทางคุณแม่ไม่ค่อยได้เจอแต่ก็เคยไปทานทานข้าวด้วยกันตอนที่คุณแม่มากรุงเทพฯ คุณแม่น่ารักเราไม่ได้คิดเปิดตัวฝากฝังถึงขั้นแต่งงานแต่ว่าเราทำอะไรแล้วให้ผู้ใหญ่รับรู้จะดีที่สุด”

“ก็ยอมรับว่าหลังจากมรสุมเรื่องนั้นมันทำให้เข้าใจกันมากขึ้นเราเลือกที่จะเปิดใจและเคลียร์กันมากขึ้นรู้สึกดีปกติเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองมากขี้วีน จะเป็นมากกว่าชาวบ้านเขาด้วย เพราะเป็นคนที่อ่อนไหวมากเป็นอะไรนิดหน่อยจะโวยวาย แต่จะเป็นคนที่โกรธง่ายหายเร็ว ส่วนตัวพี่แทคเขาเป็นคนที่ขี้น้อยใจ ใจร้อนเป็นผู้ชายไม่ค่อยแสดงออก ซึ่งบางครั้งเราไม่เข้าใจเขาก็จะน้อยใจกลับเข้าไปอีก แต่พอเราได้มานั่งคุยกันแล้วมันทำให้เข้าใจกันรู้จักกันมากขึ้น”

“รู้สึกประทับใจที่เขาใส่ใจในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างเวลาเดินห้างแล้วมีแม่บ้านถูพื้นอยู่บางคนจะเดินเหยียบไป อย่างมากก็ขอโทษ แต่พี่แท็คเขาจะขอโทษนะครับป้า เขาน่ารักเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เป็นคนมีน้ำใจไม่ได้ชอบแค่เรา เขาชอบเพื่อนเราครอบครัวเราด้วย อย่างเวลาไปเตะบอลที่เชียงใหม่กลับมาจะซื้อแคปหมู ,หนอนรถด่วน ,น้ำพริกหนุ่ม มาฝากท่านพ่อฝากคุณแม่เรารู้สึกว่าไม่เคยมีใครทำแบบนี้คิดดูซื้อแคปหมูมาฝากท่านพ่อ(หัวเราะ) เขาเป็นคนแรกที่ทำแบบนี้”

“พี่แท็คเป็นคนสบายๆ แม้นก็เป็นคนสบายๆ เป็นยายแม้นธรรมดา ไม่เคยคิดว่ามียศอะไรติดตัวเป็นหม่อมราชวงศ์ เป็นราชนิกุลติดดินที่สุดในโลก(หัวเราะ)ยังไงก็ได้สบายๆ เจอหน้ากันเข้ามาทักทายได้ สามารถทานข้าวได้ทุกที่ ยิ่งร้านข้างทางนี่ยิ่งอร่อยมากเลย ตั้งแต่เด็กๆ ก็ใช้ชีวิตปกติไม่เคยที่จะมามีกฎอะไรห้าม การแต่งตัวมีบ้างที่ต้องดูตามกาละเทสะ อย่างไปเดินสวนจตุจักรถ้าใส่สั้นท่านพ่อจะไม่ว่าอะไร เพราะมันร้อน แต่ถ้าไปงานผู้ใหญ่จะมาใส่กางเกงยีนส์ขาดๆ คงไม่ได้พ่อแม่ทุกคนต้องห่วงเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว”

“เรื่องการตีกรอบท่านพ่อจะมีกรอบกว้างท่านดูอยู่ห่างๆ แต่ดูอยู่ตลอดท่านจะถือคติว่าพ่อเลี้ยงลูกได้แต่ตัวใจพ่อเลี้ยงไม่ได้ คือตัวเราอยู่กับพ่อตลอดแต่ใจเราจะรักใครชอบใครท่านพ่อห้ามไม่ได้ ท่านพ่อจะสอนตลอดว่าให้รักษาภาพลักษณ์ด้วย”

“เรื่องความรักมีบ้างที่ท่านจะห่วง เพราะแม้นจะเป็นเด็กที่มากมายกว่าคนอื่นไม่ใช่เพราะว่าเราเป็นหม่อมราชวงศ์ แต่ด้วยเราจะเป็นเด็กที่มีนิสัยคูณสองเป็นคนที่นิสัยไม่ดี บางทีเป็นคนที่ตรงเกินไปมีความมั่นใจสูง ไป ปีสองปีที่กลับมาจากอังกฤษมันเหมือนเราโตแบบก้าวกระโดดเราไม่ได้ผ่านอะไรมาเยอะนะ แต่มันเหมือนกับว่ามีเหตุการณ์เข้ามาเยอะทำให้ต้องปรับตัวโตขึ้น คิดอะไรมากขึ้นทุกเรื่องทั้งเรื่อง ความรัก เพื่อน งาน ทุกเรื่องมีปัญหาหมดเป็นเด็กที่มีปัญหาเยอะ”

ท่านพ่อเคยบอกว่าคนที่จะเข้ามาหาเราไม่เกี่ยวว่าเขาจะต้องเป็นหม่อมราชวงศ์จะเป็นนายหมู นายหมา อะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องนามสกุลดังบ้านรวยไหม เป็นลูกนักการเมืองขับรถสปอร์ตเฟอรารี่หรือเปล่า เราไม่ได้ดูแค่ตรงนั้น ถ้าเป็นคนที่เรารักและเขารักเราวันหนึ่งท่านพ่อต้องเข้าใจ ในความที่เราเป็นหม่อมราชวงศ์ความรักของเราแตกต่างจากคนอื่นไหม ส่วนตัวไม่คิดไม่ระวังไม่สนใจ แต่ด้วยความที่เราเป็นครอบครัวใหญ่ต้องเห็นใจคนอื่นด้วย”

“ถ้าทำอะไรลงไปมันจะมีผลกระทบไปถึงเบื้องบน ท่านพ่อ ท่านปู่ หรือ ปู่ทวด ถึงพระเจ้าแผ่นดินเสด็จรัชกาลที่ 5 มีผลหมดเราต้องระวังต้องเข้าใจว่าการที่จะได้สิ่งที่เราต้องการมาก็ต้องยอมแลก เราเกิดมาพร้อมกับความเป็นหม่อมราชวงศ์ก็ต้องเสียสละ จะให้ไปเดินสูบบุหรี่มันก็ไม่ได้ บางครั้งเราจะน้อยใจว่าทำไมเพื่อนทำได้แต่เราทำไม่ได้ ต้องยอมรับได้อย่างก็เสียอย่าง เพื่อนเขาไม่ได้อย่างเรา แต่เราก็ไม่ได้อิสระอย่างเพื่อน”

“ยอมรับว่าอึดอัดมาก บวกกับเป็นคนที่อ่อนไหวมากในทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวกับคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นท่านพ่อ แม่ พี่น้อง แม้นเคยอกหักเสียน้ำตาเฮิร์ตสุดๆ มาแล้วครั้งหนึ่ง ถึงมันผ่านมานานแล้วแต่มันเป็นช่วงชีวิตที่ตกไปถึงจุดต่ำที่สุด ช่วงนั้นไม่สนใจอะไรรักแต่ตัวเองและคนที่เรารัก ด้วยความที่เขาเป็นคนแรกที่เรารักมากมันเลยทำให้เราเสียใจสุดๆ จำได้ว่าทุกครั้งที่ร้องไห้คุณแม่จะร้องไห้ด้วย จะมีเพื่อนสนิทไม่กี่คนที่รับรู้และผ่านช่วงเวลานั้นมาด้วยกัน ไมค์จะเป็นเพื่อนที่คอยพูดให้กำลังใจทำให้เราคิดได้รู้สึกว่ารักตัวเองรักครอบครัว”

“ที่ผ่านทุกอย่างตรงนั้นมาได้ เพราะมีกำลังใจดีๆ จากครอบครัวและเพื่อนสนิทเชื่อว่าไม่มีรักใดที่ยิ่งใหญ่เท่ารักที่พ่อแม่ให้เรา ตอนนั้นเราเป็นเด็กดื้อมากไม่เคยเชื่อฟัง แต่พอหลังจากเหตุการณ์นั้นแล้วกอดตัวเองร้องไห้ว่าไม่เหลือใครคนที่ร้องไห้ตามเราคือพ่อแม่ยอมรับว่าบาปมาก แต่มันก็ทำให้เรารู้สึกตัวเองรู้สึกทุกอย่างรู้ว่าพ่อแม่รักเรามากแค่ไหนทำให้เราเข้มแข็งขึ้นเยอะมาก ทุกวันนี้กับคนนั้นเราก็เป็นเพื่อนกันอยู่ถึงเขาจะมีรักใหม่แล้ว”

“จากเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้แม้นได้คิดอะไรมากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสิ้นหวังกับความรัก แม้นก็ยังเหมือนเดิม อกหักดีกว่ารักไม่เป็น(หัวเราะ) รักใครแม้นให้ไปเต็มร้อยเหมือนเดิม จริงๆ แม้นเป็นอย่างนี้มานานแล้วเพียงแต่ว่าตอนนี้มันชัดเจนขึ้น เพราะคนรู้จักมากขึ้น ตอนนั้นบ้ามากเลยนะร้องไห้อยู่กลางพารากอนเป็นอีบ้า ถ้าเป็นตอนนี้สิคนคงแตกตื่น”

“ปัจจุบันท่านพ่อ แม่ ครอบครัวและคนรอบข้างที่เคยเห็นเราผ่านจุดนั้นมาก็ยังรู้สึกเป็นห่วงที่เห็นเราคบพี่แท็ค เขากลัวว่าเราจะกลับไปอยู่ที่จุดเดิมซ้ำรอยเดิมอีกหรือเปล่า ถ้าวันหนึ่งไม่สมหวังขึ้นมา เอาเป็นว่าตอนนี้แม้นเชื่อใจพี่แทคและหวังว่าพี่เขาจะไม่โกหก เพราะคนเรารักกันต้องเชื่อใจกัน ซื่อสัตย์ต่อกัน ห่วงใยกัน”

“แต่ถ้าวันไหนมีคนไปถ่ายรูปพี่แท็คเดินจูงมือกับคนอื่น แม้นก็ต้องกลับไปเฮิร์ตใหม่แน่ๆ แต่เชื่อว่าต้องผ่านมันไปได้อีกเพราะเรามีกำลังใจดีๆ จากครอบครัว เรื่องแต่งงานเราคงต้องมองแค่ระยะสั้นก่อนว่าภายในสามสี่ปีนี้เป็นยังไง แต่ใจจริงๆ แม้นอยากแต่งงานมีความคิดนี้มาตั้งแต่อายุ 12 แล้ว (หัวเราะ) มีความรู้สึกว่าวันหนึ่งถ้าเราเจอคนที่ใช่แล้วและเวลาอะไรลงตัวเราจะแต่งงานเลยไม่เคยคิดว่าต้องอายุเท่านั้นเท่านี้ถึงจะเหมาะสม”
พลอย ณัฐชา สวัสดิ์รักเกียรติ
กำลังโหลดความคิดเห็น