xs
xsm
sm
md
lg

“มี้ทแอนด์ลันชท์”รุกธุรกิจบริการนัดเดท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นิกกี้ อัศวทร ผู้ก่อตั้ง “มี้ทแอนด์ลันชท์” (MeetNLunch) ธุรกิจให้บริการด้านคำปรึกษาและแนะนำคู่เดท กล่าวว่า ปัจจุบันตัวเลขจำนวนคนโสดในเมืองไทยมีมากกว่า 15 ล้านคน เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ทุ่มเทเวลาให้กับหน้าที่การงานมากขึ้น ทำให้มีเวลากับชีวิตส่วนตัวน้อยลง โดยมีคนหนุ่มสาวอายุ 26 – 35 ปีจำนวนมาก ซึ่งไม่ได้เลือกที่จะเป็นโสด แต่เพราะเวลาที่จำกัด แวดวงสังคมที่ซ้ำหน้า ทำให้ไม่มีโอกาสที่จะได้เจอกับคนที่ถูกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิสัยของคนไทย ที่ยังติดกับความเชื่อ “ไม่คุยกับคนแปลกหน้า” จึงยิ่งทำให้ยากกับการได้เจอและเรียนรู้ผู้คนใหม่ๆ การให้บริการนัดเดท จึงตอบสนองความต้องการของคนกลุ่มนี้ได้อย่างดี ด้วยการเปิดโอกาสให้ได้เจอกับคู่ที่เหมาะสม ด้วยปัจจัยดังกล่าวนี้ส่งผลให้ธุรกิจนัดเดทมีแนวโน้มเติบโตสูงมากในประเทศแถบเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศสิงคโปร์ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุนให้ประชาชนมีครอบครัวที่มีคุณภาพ ในประเทศไทยการให้บริการนัดเดทเริ่มได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในช่วง 2-3ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้จากมีบริษัทที่เข้ามาดำเนินธุรกิจนี้มากขึ้น
“มีการประเมินว่าธุรกิจนัดคู่เดทในประเทศจีนมีมูลค่าตลาดประมาณ 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และตลาดกำลังโตขึ้น 15-20% ทุกปี ส่วนตลาดในอินเดียและญี่ปุ่น มีมูลค่า 300 และ 500 เหรียญสหรัฐต่อปีตามลำดับ เมื่อปี พ.ศ. 2549 การสำรวจตลาดในสิงคโปร์พบว่า คนโสดอายุระหว่าง 25-44 ปี ใช้จ่ายเงินรวมปีละมากกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐในการหาคู่ครอง ไม่ว่าจะผ่านการใช้บริการมืออาชีพหรือการออกไปพบปะสังสรรค์เพื่อหาคู่ แต่ก็ยังมีผู้ชายจำนวน 32% และผู้หญิงอีกจำนวน 26% ที่ยังเป็นคงครองความเป็นโสดอยู่ ทั้งนี้ “มี้ทแอนด์ลันชท์” ประเมินตลาดธุรกิจนัดคู่เดทในประเทศไทยมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาทต่อปี และจะโตไม่น้อยกว่าปีละ 10-15% ในห้าปีต่อจากนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะเติบโตน้อยมากก็ตาม”
คุณนิกกี้ กล่าวต่อไปว่า “มี้ทแอนด์ลันชท์” ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2549 โดยคุณนิกกี้ อัศวทร เปิดให้บริการด้านคำปรึกษาและแนะนำหนุ่มสาวให้รู้จักกันในรูปแบบส่วนตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย นอกจากนี้ คุณนิกกี้ ยังเป็นคนแรกในประเทศไทย ที่ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพการเป็นผู้จัดหาคู่เดท (Matchmaker) จากสถาบัน The Matchmaking Institute (S.E.A.) ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสถาบันวิชาชีพชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการสนับสนุนและรับรองโดย Matchmaking Institute ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นองค์กรวิชาชีพระดับสากลของธุรกิจและการให้บริการนัดคู่เดท

“ในต่างประเทศ การเป็นผู้จัดหาคู่เดท (Matchmaker) ถือเป็นวิชาชีพอย่างหนึ่ง อย่างในประเทศสิงคโปร์ ธุรกิจจัดหาคู่เดทเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะจำนวนคนโสดมีมากขึ้นเรื่อยๆ การให้คนที่เป็นผู้จัดหาคู่เดท เข้าอบรมและทดสอบความรู้และมาตรฐานของการให้บริการหาคู่เดท (Matchmaking) เพื่อรับใบรับรอง จึงเป็นเครื่องหมายยืนยันมาตรฐานและคุณภาพการให้บริการ สร้างความเชื่อมั่นถึงความเป็นมืออาชีพและมาตรฐานการให้บริการของ Matchmaker กับคนที่มาใช้บริการ โดยภายหลังจากได้ใบรับรองแล้ว ดิฉันยังต้องได้รับการอบรมอย่างต่อเนื่อง และจะมีการตรวจสอบมาตรฐานการให้บริการเป็นระยะอีกด้วย”

สำหรับกลุ่มลูกค้าของ “มี้ทแอนด์ลันชท์” จะเป็นกลุ่มหนุ่มสาวระดับบีบวกขึ้นไป อายุตั้งแต่ 22 – 60 ปี ทั้งคนไทยและต่างชาติ มีหน้าที่การงานที่มั่นคง และมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะใช้บริการหาคู่เดท เพราะถือว่าเป็นประสบการณ์ และได้เจอกับเพื่อนใหม่ๆ สิ่งสำคัญในการให้บริการคือ ความเข้าใจความต้องการและจิตวิทยาของคน การให้คำแนะนำการวางตัวและการพัฒนาความสัมพันธ์ การคัดสรรคู่เดทที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการ และการรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ซึ่งล้วนมีหน้าที่การงานดี มีสถานะทางสังคม และไม่ต้องการจะให้ข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้แพร่งพรายให้คนอื่นๆ ได้รับรู้

ปัจจุบัน “มี้ทแอนด์ลันชท์” มีการจำกัดจำนวนสมาชิกใหม่ต่อเดือน เพราะต้องการให้บริการอย่างเต็มที่กับสมาชิกแต่ละคน โดยปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกกว่า 1,500 คน แบ่งเป็นผู้หญิง 60% และผู้ชาย จำนวน 40% โดยกว่าครึ่งของสมาชิกที่เป็นผู้ชายเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ไม่น้อยกว่า 2 ปี

“รูปแบบการให้บริการของ “มี้ทแอนด์ลันชท์” เริ่มจากให้ผู้ที่สนใจลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.meetnlunch.com หรือโทรศัพท์หมายเลข 084-458-4455, 081-255-0552 เพื่อให้ข้อมูลส่วนตัวเบื้องต้น จากนั้นก็จะโทรนัดหมายเพื่อพูดคุยและเก็บข้อมูลส่วนตัว เช่น ถามถึงอาชีพ อายุ การศึกษา สถานภาพ กิจกรรมที่ชอบทำ นิสัยส่วนตัว อยากได้คู่เดทแบบไหน ถ้าเป็นคนต่างชาติ ก็จะเช็คว่าอยู่ประเทศไทยมากี่ปีแล้ว ซึ่งเราจะไม่รับคนที่อยู่เมืองไทยน้อยกว่า 2 ปี โดยเขาจะต้องมอบเอกสารประกอบทั้งพาสปอร์ต วีซ่าในการทำงานที่ประเทศไทย ส่วนคนไทยก็จะเป็นสำเนาบัตรประชาชน นามบัตร จากนั้นก็เป็นขั้นตอนสกรีนความถูกต้องของข้อมูลที่เขาให้มา เมื่อจับคู่เดทกันได้แล้ว ดิฉันจะเล่ารายละเอียดของคู่เดทให้ทราบ โดยข้อมูลส่วนตัวของทั้งสองฝ่ายจะถูกเก็บเป็นความลับ ไม่เปิดเผยให้บุคคลที่ 3 ได้รับรู้ใดๆ และจะช่วยจัดหาสถานที่เดทที่เหมาะสมให้ พร้อมกับให้บริการคำแนะนำอย่างใกล้ชิดสำหรับการออกเดทในแต่ละคู่ หลังจากนั้นจะมีการประเมินผลความพอใจของคู่เดท เพื่อนำข้อมูลมาปรับให้ตรงความต้องการมากยิ่งขึ้น”
กำลังโหลดความคิดเห็น