ปัญหาแย่งกันลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.เขตในพื้นที่กรุงเทพมหานครของพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะเคลียร์กันจบไปแล้ว แต่หลายคนต้องเก็บความเจ็บช้ำไว้ในใจ
เพราะอดีต ส.ส.กทม.3 คนไม่ยอมขึ้นบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ คือ โกวิทย์ ธารณา, วัชระ เพชรทอง, อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ จนก่อหวอดกันหลายรอบ
สุดท้ายกว่าที่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสุเทพ เทือกสุบรรณ จะปราบพยศแก้ปัญหาลงตัวได้ก็ทำสาวใส้ออกมาหลายขด แม้จะจบลงไปได้แต่ก็ไม่วายมีคนโดนหางเลขคนสุดท้ายก็คือ สุกิจ ก้องธรณินท์ อดีตรองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ที่โดนเบียดกระเด็นจากพื้นที่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เพราะสุกิจเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 3 ล่าสุดต้องเจอการโยกให้ “หล่อจิ๋ว” ม.ล.อภิมงคล โสณกุล จากเขต 2 ย้ายไปลงเขต 3 เพื่อเปิดทางให้อรอนงค์ลงเขต 2 แทน จะได้ไม่ต้องลาออกจากพรรค แล้วให้ “สุกิจ” ขึ้นปาร์ตี้ลิสต์แทน
ทำเอา “สุกิจ” ฉุนขาด แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ หลังเจอผู้ใหญ่ในพรรคกล่อมจะให้อันดับดีๆ ในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ “สุกิจ” เลยต้องเก็บความแค้นไว้ในอก
งานนี้เห็นได้ชัดว่า ประชาธิปัตย์ พรรคที่ดูภายนอกมีระบบบริหารจัดการที่ดี โดยเฉพาะการเตรียมการเลือกตั้ง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นเลยว่า ประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ไม่มีระบบ-มาตรฐานอะไรสักอย่าง
ขอให้คนที่จะลงเลือกตั้งมีทุนหนาบริจาคให้พรรคมาก หรือเป็นพวกสายสุเทพ-อภิสิทธิ์ หรือนามสกุลดัง อยากได้อะไรก็ต้องได้
ปัญหาแบบนี้ไม่ใช่มีแค่ที่ กทม.ที่เดียว หลายจังหวัดก็ประสบปัญหาทำนองนี้เช่นกัน แม้แต่ในภาคใต้อย่างที่ จ.สงขลา ที่มีการปรับทัพกันยกใหญ่
ดัน ถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย จาก ส.ส.เขตไปขึ้นปาร์ตี้ลิสต์ แล้วเจ้าตัวก็ผลักดันคนใกล้ชิด คือ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ที่เป็นหนึ่งในคณะทำงาน มท.3 มากินโควตาส่งลงแทนตัวเอง
โดยรู้กันดีว่าประชาธิปัตย์ พื้นที่ภาคใต้ คนจ่อคิวลงสมัครกันยาวเหยียด ต้องมีเส้นใหญ่โตในพรรค เพราะใครได้ลงโอกาสสอบได้สูงยิ่ง จนเกิดคำกล่าวขาน
ภาคใต้ ปชป.ส่งเสาไฟฟ้าก็ชนะ
เรียกได้ว่า บางคนพอได้ลงสมัครก็ไปตัดชุดสูทรอรายงานตัวต่อสภาผู้แทนราษฏรแล้ว
ปรากฏว่าการมาของ พล.ต.ต.สุรินทร์ ทำให้ นาราชา สุวิทย์ อดีต ส.ส.สงขลา ถูกเบียดตกเก้าอี้ เพราะสุรินทร์ได้แรงหนุนจากถาวรและเสียงเชียร์จากศิริโชค โสภา คนสนิทนายกฯ อภิสิทธิ์ เป็นอดีต ส.ส.สงขลา เขต 3 และเป็นเพื่อนร่วมทีมกับนาราชาในการเลือกตั้งปี 50 แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นระบบวันแมนวันโหวต ศิริโชค-นาราชา ก็ต้องแยกทางกันเดิน
โดยเรื่องข่าว ปชป.ไม่ส่ง “นาราชา” ลงสมัครอบนี้เจ้าตัวก็รู้ตัวมานานแล้ว จากปัญหาภายในพรรคและปัญหาการเมืองในพื้นที่ แต่นาราชาและบิดา คือ พ.ต.ท.วิจิตร สุวิทย์ อดีต ส.ส.สงขลา ปชป.หลายสมัย ก็พยายามผลักดันน้องชายนาราชาคือ อัศวิน สุวิทย์ ลงแทน แต่ก็ไม่เป็นผล แกนนำพรรคปชป.ไม่เอาด้วย
ส่งผลให้ครอบครัวตระกูลสุวิทย์ ที่รวมเรดคอร์ดจำนวนครั้งการเป็นอดีต ส.ส.สงขลาตั้งแต่รุ่น พ.ต.ท.วิจิตร มาถึงนาราชา พบว่าคนตระกูลนี้เป็นอดีต ส.ส.มาแล้ว 7 สมัย
มาวันนี้จำต้องขอเป็นศัตรูกับประชาธิปัตย์ โดยล่าสุดทั้งหมดตัดสินใจไปอยู่กับทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทยเรียบร้อยแล้ว
ก็ไม่รู้ว่าทักษิณ ที่หวังจะใช้แผนเกลือจิ้มเกลือเอาคนปชป.มารบกันเองจะสำเร็จหรือไม่ หลังให้สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผอ.เลือกตั้งอย่างเป็นไม่เป็นทางการของเพื่อไทยเป็นคนโทรศัพท์ติดต่อครอบครัวสุวิทย์ทั้งหมดให้มาอยู่กับพรรคเพื่อไทย โดยจะให้ พ.ต.ท.วิจิตร ขึ้นปาร์ตี้ลิสต์แล้วส่ง นาราชา ลงส.ส.เขต
โดยเฉพาะหากนาราชา ที่จะลงเขต 7 สงขลา เอาชนะ ศิริโชค ตัวแสบของทักษิณได้ คงมีรางวัลก้อนใหญ่เป็นเครื่องตอบแทน