"โบ" ช่วยแจงสาวคนสนิททำแสบส่งดอกเบญจมาศตรงถึงสำนักพิมพ์เหตุถูกซักประเด็นจูงมือฝ่ายชายดูหนังอยากให้มองที่เจตนาดีอยากขอโทษ เชื่อเกิดจากการเข้าใจผิด ป้องตนก็โง่ไม่รู้ดอกไม้ใช้สำหรับตั้งหน้าศพ แต่ยอมรับแฟนสาวหน้ากวน เปรยหรืออาจยังไม่เห็นด้านมืดของอีกฝ่าย
ถูกสื่อซักถามถึงประเด็นที่มีคนเห็น "หนูจ๋า อาชิรญาณ์ ภีระพัภร์กุญช์ชญา" นักแสดงน้องใหม่จากภาพยนตร์เรื่อง "คนไฟลุก" เดินจูงมือดีเจหนุ่ม "โบ ธนากร ชินกูล" อดีตหวานใจสาว "จักจั่น อคัมย์สิริ" ดูหนังแบบหวานแหวว
พอเจอตัวฝ่ายหญิงกระจอกข่าวจากสำนักพิมพ์หนึ่งจึงรุดเข้าไปซักข้อสงสัย แต่ปรากฎว่านักแสดงหญิงกลับชักสีหน้าไม่พอใจ ทำตาถลึงใส่และพร้อมทั้งพูดว่า ถามอย่างนี้เลยเหรอและให้ไปถามฝ่ายชายเองด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ทำเอาผู้สื่อข่าวงงเป็นไก่ตาแตกโร่โทรเคลียร์กับทางประชาสัมพันธ์ค่ายหนังถึงกิริยาที่นักแสดงน้องใหม่แสดงออก จนท้ายที่สุด "หนูจ๋า" ได้ส่งการ์ดขอโทษพร้อมแจกันดอกไม้ ซึ่งเป็นดอกเบญมาศคนไทยนิยมใช้สำหรับตั้งหน้าศพตรงถึงออฟฟิศ
งานนี้พอเจอตัวหนุ่มคนสนิท สอบถามเรื่องดังกล่าวหนุ่ม "โบ" ป้องอยากให้มองที่เจตนาเพราะตนก็ไม่รู้ว่าดอกเบญจมาศใช้สำหรับงานศพเช่นกัน
"เออๆ เป็นดอกงานศพเหรอครับ แล้วเขาส่งไปเหรอ ผมอยากให้มองที่เจตนามากกว่า ซึ่งผมก็ไม่รู้หรืออาจจะโง่ด้วยว่าเพราะไม่รู้ใช้งานศพ อยากให้มองที่เจตนาดีกว่าว่าเขาจะมาขอโทษไม่ต้องไปสนใจหรอกดอกอะไรก็เหมือนกันถ้าเขาจะขอโทษ จะใช้ดอกบัวก็เป็นการให้เกียรติอยู่แล้วผมว่าอย่าไปคิดมากเลยครับ ผมว่าดอกเบญจมาศสวยดีออกผมยังเคยซื้อมาตั้งเลย"
แจงก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงไม่เคยมาปรึกษาถึงเรื่องดังกล่าว บอกนิสัยไม่ชอบหาเรื่องใครแต่หน้าตาอาจดูกวนบาทา
"ไม่มีเลยครับเพิ่งได้ยินเอง เขาไม่ได้เล่าส่งดอกไม้ให้เขาก็ไม่ได้ปรึกษานะเพราะเขาก็โตแล้วมีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่พอสมควร ผมเชื่อว่าจัดการตัวเองได้ครับ ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดมากกว่าผมก็ไม่รู้เขาไปมีอารมณ์ตอนไหนเพียงแต่ว่าค่อยๆ คุยดีกว่าเดี๋ยวจะไปถามเขา อย่างที่ผมเจอพวกพี่ๆ ก็เป็นธรรมดาถ้าวันนึงมาด้วยอารมณ์เหนื่อยๆ อาจไม่อยากตอบซึ่งหลังจากนั้นอาจไม่มีอะไรแต่ด้วยเหตุการณ์อาจเกิดการเข้าใจผิด ผมอยากให้ไปคุยกับเขาดีกว่าผมเชื่อว่าเขามีเหตุผลพอคุยกับพวกพี่ๆ ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นครับ ส่วนตัวผมมั่นใจในตัวเขาร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ"
"จะให้ผมพูดไปโดยไม่รู้เรื่องไม่อยากพูดมากเชื่อว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดเพราะด้วยความที่ผมรู้จักกับเขามาปีกว่าจริงๆ แล้วอาจไม่รู้เท่ากับพ่อแม่พี่น้องผม เท่าที่ผมรู้จักผมเชื่อว่านิสัยที่ผมรู้จักกับเขาหรือสันดานที่ผมเจอเขาเป็นคนที่น่ารักนะ เขาอาจเป็นคนคิดตรงพูดตรงเลยอาจทำให้กระทบกระทั่งง่ายๆ เชื่อว่าจริงใจเขาเนี่ยไม่ได้มีเรื่องกับใครง่ายหรือเป็นคนที่ไม่หาเรื่องใคร เขาเข้ากับเพื่อนผมได้ทุกคนก็เชื่อว่าเขาเข้ากับทุกๆ คนได้เหมือนกัน"
"นิสัยเขาเป็นคนไม่ใจร้อนครับ แต่เป็นคนที่พูดตรงมากเหมือนกับว่าถ้าไม่รู้จักอาจจะดูเหมือนคนกวนตีนครับ จริงๆ เขาเป็นคนน่ารักนะครับต้องรู้จักแล้วสนิทให้มากกว่านี้นิดนึง มีหลายคนบอกทำไมเขามองนี้อย่างนี้แต่จริงๆ เขาไม่ใช่คนอย่างนี้ครับ เอาเป็นว่าผมน่าจะรู้จักเขาดีกว่าพวกพี่ๆ ปีกว่าแต่ไม่ได้สนิทเท่ากับพ่อแม่เขานะ ผมว่าเขาเป็นคนน่ารักนะมีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่พอสมควร เขาคงไม่ทำอะไรไม่ฉลาดอยางนั้นหรอกถ้าเขาไม่มีเหตุผลเพียงพอครับ เขาก็ไม่เคยมีเรื่องมีราวอะไรกับใครครับ"
"ผมต้องปกป้องเขาแน่นอนครับเพราะผมสนิทกับเขาครับ เขาไม่มีเหตุผลอะไรที่มาวีนกับพวกพี่ๆ ถ้าเขาไม่มีเหตุผลอะไรในใจเขานะผมไม่เคยเจอมุมมืดที่พีๆ เจอมาหรือเปล่า (ยิ้ม) ค่อยๆ คุยกันดีกว่าอาจได้เหตุผลมากกว่านี้ ผมก็ไม่ได้แนะนำอะไรเขาครับเพราะผมก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขา ถ้าเป็นเรื่องการวางตัวผมว่าค่อยๆ เรียนรู้กันไป เรื่องของกระทบกระทั่งเป็นเรื่องธรรมดาไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจผมเชื่อว่าเวลาผ่านไปเดี๋ยวพี่ๆ ได้รู้จักกับเขามากขึ้นเหมือนที่ผมรู้จัก"
ย้ำสัมพันธ์ยังไม่ใช่แฟน..."ตอนนี้สนิทกันเป็นพี่เป็นน้องแต่ไม่อยากให้ใช้คำว่าแฟนเพราะดูเหมือนตีกรอบเกินไป เอาเป็นว่าสนิทค่อยๆ เรียนรู้และเราเชื่อว่าสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่ใช้คำว่าแฟนครับเพราะเขายังเรียนอยู่ผมไม่อยากตีกรอบมากเกินไป ความพัฒนามากขึ้นหรือเปล่าเชื่อว่าพัฒนามากขึ้นแต่จะใช้คำว่าแฟนเมื่อไรต้องติดตามครับ"