ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราชจัดงาน “เบญจมาศบานในม่านหมอกครั้งที่ 7 ” กระตุ้นการท่องเที่ยวรับเทศกาลปีใหม่ระหว่าง 1-3 ม.ค. ที่ อ.วังน้ำเขียว คาดนักท่องเที่ยวไทย-เทศ แห่ชมความงามเบญจมาศและสัมผัสอากาศหนาวไม่น้อยกว่า 5 หมื่นคน พร้อมเปิดตัว “เบญจมาศแคระ” เล็กที่สุดในโลกเป็นครั้งแรก ด้านนายอำเภอฯ เผยโรงแรม-รีสอร์ทถูกจองเต็มตั้งแต่เดือน ธ.ค.51 ยาวถึง ม.ค.ปีหน้า เตรียมเปิดวัด-โรงเรียน-อุทยานฯรับนักท่องเที่ยวเพิ่มในช่วงจัดงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนภูริตะ ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายประนอม โพธิ์คำ ส.ส. นครราชสีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน , นายสุวิทย์ คำดี นายอำเภอวังน้ำเขียว , นายอรรคพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สาขา นครราชสีมา และผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “เบญจมาศบานในม่านหมอก ครั้งที่ 7 ประจำปี 2552” ขึ้น ระหว่างวันที่ 1-3 ม.ค. 2552 พร้อมเปิดตัวดอกเบญจมาศแคระ ซึ่งเป็นเบญจมาศสายพันธุ์ใหม่ที่เพาะจากเนื้อเยื้อ มีขนาดเล็กที่สุดในโลก และจะนำมาโชว์ในงานดังกล่าวเป็นครั้งแรกด้วย
ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าท้องถิ่น และประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.นครราชสีมา ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้รับทราบ รวมถึงสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตและจำหน่ายดอกเบญจมาศแหล่งใหญ่ของประเทศให้รู้จักกว้างขวางมากขึ้น
นายสุวิทย์ คำดี นายอำเภอวังน้ำเขียว เปิดเผยว่า การจัดงาน “เบญจมาศบานในม่านหมอกครั้งที่ 7” นี้ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 ม.ค. 2552 ที่ ศูนย์ท่องเที่ยวเชิงเกษตร องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยนักท่องเที่ยวจะได้ชมและเข้าไปสัมผัสแปลงปลูกดอกเบญจมาศมากกว่า 40 สายพันธุ์จำนวนกว่า 100 แปลงในพื้นที่ 5 ไร่ ที่บานสะพรั่งรับนักท่องเที่ยวอยู่ในขณะนี้ และจะมีแปลงปลูกผักปลอดสารพิษหลากหลายชนิดอีกกว่า 6 ไร่ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเลือกซื้อโดยเก็บผักสด ๆ จากแปลงกลับบ้านไปเป็นของฝากคนที่รักได้
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมาก เช่น การประกวดการจัดสวนหย่อม การจัดกระเช้าดอกไม้สด, การสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์จาก 32 อำเภอ ของ จ.นครราชสีมา, การประกวดผัดหมี่ ส้มตำ จากตำบลต่างๆ , การประกวดน้องนางหางเครื่อง, การแสดงความสามารถของนักเรียนโดยเรียนต่างๆ ในอำเภอวังน้ำเขียวกว่า 20 ชุดการแสดง, การแสดงดนตรีพื้นบ้าน ,การแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดัง และงานราตรีเบญจมาศบาน ในม่านหมอก’52 ด้วย
ที่สำคัญในปีนี้ จะมีการเปิดตัวดอกเบญจมาศแคระ ซึ่งเป็นเบญจมาศที่เล็กที่สุดในโลกที่สวนภูริตะ ถือเป็นการเปิดตัวให้ประชาชนได้ชมเป็นครั้งแรกหลังจากมีการทดลองเพาะเลี้ยงเนื้อเยื้อมานานร่วม 2 ปี โดยดอกเบญจมาศแคระ มีความสวยงามไม่แพ้ดอกเบญจมาศทั่วไป เพียงแต่ต้นเล็กมาก สามารถที่จะนำไปปลูกเป็นไม้ประดับในห้องทำงานหรือสถานที่ที่มีพื้นที่จำกัดได้
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวงานเบญจมาศบาน ในม่านหมอก อ.วังน้ำเขียว ไม่น้อยกว่า 50,000 คนมากกว่าปีที่ผ่านมา คาดจะมีเงินสะพัดหลายสิบล้านบาท ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชมความสวยงามของดอกเบญจมาศบานในแปลงสาธิตแล้วยังได้สัมผัสกับอากาศหนาวเย็นและอากาศที่บริสุทธิ์ด้วย
ล่าสุดจากการสอบถามโรงแรมรีสอร์ทในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียวที่มีจำนวนกว่า 200 แห่ง ขณะนี้ห้องพักและจุดกางเต็นท์ ถูกจองเต็มทั้งหมดแล้วตลอดเดือน ธ.ค.2551 ยาวไปถึงเดือน ม.ค. 2552 ซึ่งทางอำเภอกำลังประสานวัดและโรงเรียน รวมทั้งอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดสถานที่พักรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาในช่วงการจัดงาน คาดว่าจะรองรับได้อีกหลายพันคน
นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เป็นแหล่งผลิตดอกเบญจมาศแห่งใหญ่และมีคุณภาพของประเทศไทย มีเกษตรกร 10 หมู่บ้านกว่า 200 ราย ยึดอาชีพปลูกดอกเบญจมาศขายมานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยส่งขายในตลาดหลักคือ กรุงเทพฯ และภายในจ.นครราชสีมา สร้างรายได้ต่อปีหลาย 10 ล้านบาท
สำหรับดอกเบญจมาศต้องใช้การดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี และเกษตรกรต้องมีความขยัน อดทนสูง จึงจะปลูกดอกเบญจมาศขายได้ และใช้เวลาเพียงแค่ 60-65 วันก็ตัดขายได้ราคาจำหน่ายอยู่ที่ดอกละ 10 บาท ส่วนดอกช่อ กิโลกรัมละ 50 บาท
