"โทมัส บีทตี" หรือที่ชาวโลกตั้งฉายาให้กับเขาว่า "ผู้ชายท้อง" คลอดลูกสาวเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โทมัส บีทตี ทอมแปลงเพศที่เฉือนเต้าแต่ยังเก็บรังไข่และมดลูกเอาไว้ ได้คลอดลูกสาวสมใจเมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลในเมืองเบนด์ รัฐโอเรกอน
แม้รายงานหลายฝ่ายจะระบุว่าเขาคลอดลูกโดยวิธีการผ่าท้อง แต่เจ้าตัวรายงานต่อทาง People ว่าเป็นการคลอดโดยธรรมชาติ และตัวแม่และลูกสาวมีสุขภาพที่แข็งแรงดี
"เธอน่ารักมากๆ สวยมากทีเดียว" แหล่งข่าวแจ้งต่อสำนักข่าว ABC News
โดยทางทีมข่าวของ TMZ ที่บันทึกภาพของโทมัสขณะที่เดินออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันจันทร์ หนึ่งวันหลังจากที่เขาคลอดลูก ในสภาพที่เขาต้องสวบฮูดปิดบังใบหน้า เผยว่าเขาต้องแอดมิตโรงพยาบาลด้วยการใช้ชื่อปลอม และห้องทำคลอดของเขาถูกแยกออกไปจากผู้หญิงที่จะมาทำคลอดรายอื่นๆ
ในฐานะประสบการณ์การเป็นแม่ครั้งแรก แต่สิ่งหนึ่งที่เขาทำเหมือนแม่คนอื่นๆ ไม่ได้ก็คือการให้นมลูก
"สิ่งเดียวที่ต่างออกไปคือผมไม่สามารถให้นมลูกได้ แต่แม่หลายๆ คนก็ไม่ได้ให้นมลูกเหมือนกัน" โทมัสวัย 34 กล่าว โดยตั้งใจว่าจะเอาเรื่องราวอันโลดโผนในการได้มาซึ่งลูกสาวของเขาตีพิมพ์เป็นหนังสือในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
เหตุผลที่ทำให้อดีตสาวนางแบบผู้เคยเข้ารอบสุดท้ายการประกวดมิสทีน ฮาวาย ที่ใช้ชื่อเดิมว่า เทรซี ลากอนดิโน ตัดสินใจแปลงเพศเป็นชาย และหันมาตั้งท้อง เนื่องจาก แนนซี ภรรยาวัย 45 ที่อยู่กินกันมา 10 ปีของเขาไม่สามารถมีลูกได้เนื่องจากผ่าตัดเอามดลูกออกไปจากปัญหาด้านสุขภาพเมื่อหลายปีก่อน และเจ้าตัวเองก็ฝันที่อยากจะมีลูกมาตั้งนานแล้ว
"ผมเลือกที่จะไม่แตะต้องอวัยวะเพศหญิงของผมตอนที่ตัดสินใจแปลงเพศ เพราะวันหนึ่งผมอยากจะคลอดลูกด้วยตัวเอง ผมเห็นว่าการตั้งครรภ์เป็นเพียงขบวนการอย่างหนึ่ง มันไม่ได้จำกัดความเป็นตัวตนของผม" โทมัส บีทตี กล่าวในรายการของ โอปราห์ วินฟรีย์ เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
"ผมรู้สึกว่าการมีลูกไม่ใช่แรงปรารถนาของเพศชายหรือหญิง แต่มันเป็นความต้องการของความเป็นมนุษย์ ผมเป็นแค่คนๆ หนึ่ง และผมมีสิทธิ์อย่างเต็มที่ที่จะมีลูกโดยธรรมชาติ"
คู่รักทั้งสองประสบความสำเร็จในการได้เชื้ออสุจิจากผู้บริจาคนิรนามจากธนาคารน้ำเชื้อ แต่ล้มเหลวในการหาหมอที่จะช่วยในการผสมเทียม ทั้งสองถึงหาหนทางกันเองที่บ้าน ด้วยการไปซื้อหลอดยาจากร้านรักษาสัตว์ ที่ปกติจะใช้ในการให้อาหารนก ที่เกิดความผิดพลาดจนเขาต้องเสียท่อนำไข่ด้านขวาและตัวอ่อนของเด็กไป ก่อนที่ความพยายามครั้งต่อมาจะประสบความสำเร็จจนได้ลูกสาวไปชื่นชมในที่สุด
"พวกหมอๆ ไม่เห็นด้วยกับเรา หันหลังให้เราเนื่องด้วยความเชื่อทางศาสนาของเขา ทีมพยาบาลบางคนไม่ยอมรับผมในฐานะผู้ชาย ไม่ยอมรับว่าแนนซีเป็นภรรยาผม พนักงานต้อนรับหัวเราะใส่เรา เพื่อนๆ และครอบครัวก็ไม่สนับสนุน ครอบครัวของแนนซีส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมแปลงเพศมา"
ในการเปิดใจครั้งนั้น ทางโอปราห์ก็ถามเปิดใจว่า ทำไมไม่หยุดอยู่แค่การเป็นหญิงรักหญิง โทมัสก็อธิบายว่า "มันยากที่จะอธิบาย ผมชอบผู้หญิงมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้ว แต่มันไม่ใช่เรื่องทางเพศ"
"ผมดูเหมือนกับทอมบอยที่ชอบเล่นเลโกหรือไปตกปลา จนพออายุ 14 ที่นมเริ่มตั้งเต้า มันเป็นเรื่องที่ช็อคสำหรับผมมากๆ เลย"
หลังจากนั้นโทมัสก็ตัดสินใจแปลงเพศเมื่ออายุ 24 ซึ่งวันนี้ที่เขากลายเป็นแม่คนจากการให้กำเนิดลูกสาวแล้ว เขาก็วางแผนว่าอาจจะมีลูกอีกครั้ง เมื่อเขาเรียนรู้ประสบการณ์ในการเป็นพ่อคนจากการเลี้ยงดูลูกสาวต่อไป
ช็อค!อดีตนางงามฮาวายแปลงเพศพร้อมตั้งท้องในคราบผู้ชาย