นับว่าเป็นภาพแห่งความสุขทีเดียวสำหรับครอบครัวสุขสันต์ของ "โทมัส บีทตี" หรือที่รู้จักกันดีทั่วโลกในฐานะ"ผู้ชายท้อง" ที่พาภรรยาและลูกสาวตัวน้อยที่เขาอุ้มท้องเองออกไปปิคนิกกันในสวน นับเป็นภาพแห่งความสุขที่อวดสายตาคนทั่วโลกเลยทีเดียว
จะว่าไปหากดูเผินๆ ภาพถ่ายเหล่านี้ก็คงไม่ต่างจากภาพครอบครัวแสนสุขทั่วๆไป แต่ใครที่ติดตามข่าวของ โทมัส บีทตี มาตลอดคงพอจะรู้ว่าเป็นความสับสนทางเพศอย่างเหลือล้น เพราะในภาพดูเหมือนว่าบีทตีจะรับหน้าที่เป็นพ่อ แต่หนูน้อยซูซานกลับคือลูกที่ถือกำเนิดจากการตั้งครรภ์ของเขาเอง
ชายหนุ่มวัย 34 ปีผู้เปลี่ยนเพศตนเองจากหญิงมาเป็นชาย แต่ยังคงเก็บอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงไว้อย่างครบถ้วน ทำให้เขาสร้างประวัติศาสตร์คือเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดลูกจากการทำคลอดเป็นเวลานานกว่า 40 ช.ม. เมื่อวันที่ 29 มิ.ย ที่ผ่านมา
ซูซาน จูเลียต เป็นหนูน้อยสุขภาพดีกับน้ำหนักแรกคลอด 9 ปอนด์ 5 ออนซ์ ที่แนนซีผู้เป็นแม่ที่ไม่ได้ให้กำเนิดเธอเป็นผู้ให้นม
แม้ว่าพวกเขาจะทำให้คนทั่วทั้งโลกตื่นตะลึงมาแล้ว แต่เมื่อมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์พวกเขาก็ต่างเก็บเรื่องราวชีวิตครอบครัวไว้เป็นความลับอย่างเงียบๆ ภายหลังหนูน้อยซูซานลืมตาดูโลก
แต่แล้วแสงแดดในฤดูใบไม้ร่วงก็เป็นผู้เชื้อเชิญให้บีทตีออกจากบ้านพร้อมครอบครัวมาสูดอากาศบริสุทธิ์ บีทตีเดินอย่างภาคภูมิไปบนถนนเมืองเบนด์ ในโอเรกอน โดยมีหนูซูซานถูกอุ้มอยู่แนบอก
หนูน้อยซูซานวัย 2 เดือน ที่มีผมสีดำเช่นเดียวกับพ่อผู้ให้กำเนิด สวมชุดคลุมติดกันทั้งตัวสีชมพูมีตัวอักษรประทับที่หน้าอกว่า "Princess" ( เจ้าหญิง ) พร้อมกับที่พ่อและแม่ของเธอได้สวมหมวกทรงมงกุฏที่เข้ากันกับชุดส่งให้เธอกลายเป็นเจ้าหญิงน้อยๆท่ามกลางสายลมและแสงแดด
บีทตีสนุกสนานกับสมาชิกในครอบครัว เขาเล่นกับลูกสาวเหวี่ยงเธอขึ้นไปบนอากาศพร้อมมองตากับหนูน้อย โดยมีซูซานผู้เป็นแม่คอยมองดูทั้งคู่อยู่ข้างๆอย่างมีความสุข พร้อมกันนั้นบีทตียังแสดงความรักโดยจูบกับภรรยาของเขาต่อหน้ากล้องด้วย
ก่อนหน้านี้หลังจากที่บีทตีคลอดหนูน้อยซูซานได้ไม่นาน เขาได้เผยถึงประสบการณ์การตั้งครรภ์ที่น่าตื่นเต้นนั้นว่า "มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างแท้จริง และมันงดงามมาก ในช่วงเวลานั้นผมจะรู้สึกรักและดูแลชีวิตผมดีเป็นพิเศษ"
"ทุกๆคนคิดว่าผมจะคลอดโดยการผ่าท้อง แต่ผมรู้ตัวดีเสมอว่าผมต้องการที่จะคลอดด้วยวิธีธรรมชาติและผมก็ทำได้ ขณะที่กำลังทำคลอดผู้ช่วยทำคลอดพูดว่าลูกมีผมสีดำเหมือนผม ผมได้ยินที่เธอบอกกับผม แต่ผมก็อยากที่จะดูลูกด้วยตาผมเองมากกว่า"
"จากนั้นซูซานก็ออกมาและดวงตาของผมก็เต็มไปด้วยน้ำตา เธองดงามและสมบูรณ์แบบมากในทุกๆส่วน"
"ผมเต็มตื้นไปด้วยความรัก ความรู้สึก และผมไม่อาจละสายตาจากเธอได้เลย ทุกวันนี้ผมก็ยังคงไม่อาจละสายตาจากเธอได้เลยเช่นกัน"
บีทตีตกเป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์เกือบทั่วโลกหลังประกาศอย่างเป็นทางการว่าเขาตั้งครรภ์ในเดือน มี.ค. ซึ่งขณะนั้นเขาก็ตั้งครรภ์มาได้ 6 เดือนแล้ว
ซึ่งภาพถ่ายที่ช็อคสายตาคนทั้งโลกก็คือภาพของคนคนหนึ่งที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนผู้ชายเต็มไปด้วยหนวดเครากำลังเปลือยท่อนบนเพื่อเผยให้เห็นหน้าท้องโหนกนูนพร้อมระบุว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์
โทมัส บีทตี หรือชื่อเดิมว่า เทรย์ซีย์ ลากอนดิโน ได้เปลี่ยนเพศตนเองจากหญิงเป็นชายเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว และได้ผ่าตัดเอาหน้าอกของผู้หญิงออกไปทำให้เขาดูเหมือนผู้ชายมากยิ่งขึ้น
แม้ว่าเขาจะใช้ชีวิตด้วยการบริโภคฮอร์โมนเพศชายเพื่อทำให้ตนเองกลายร่างเป็นชายเป็นเวลานานหลายปี แต่เขาก็ยังยืนยันที่จะเก็บรักษาอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงทั้งมดลูกและรังไข่ไว้อย่างครบถ้วน เพราะเชื่อแน่ว่าวันใดวันหนึ่งเขาต้องได้ใช้งานมัน
"ผมรู้สึกว่าไม่ต้องตัดสินหรอกว่าหญิงหรือชายที่จะมีลูก มันเป็นความต้องการของมนุษย์ ซึ่งผมเองก็เป็นคนคนหนึ่งและอยากที่จะมีลูกที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง" เขาบอกกับโอปราห์ วินฟรีย์ ในรายการทอล์คโชว์
บีทตี ตั้งครรภ์ด้วยวิธีการนำน้ำเชื้อจากธนาคารสเปิร์มมาใช้ โดยอาศัยความช่วยเหลือจากแนนซีภรรยาของเขา หลังจากที่โดนปฏิเสธจากบรรดาแพทย์ภายหลังพวกเขาเข้าขอรับคำปรึกษา เรื่องการตั้งครรภ์
แนนซี แต่งงานกับบีทตี ตั้งแต่ 5 ปีก่อน พร้อมกับมีลูกสาวมาก่อนหน้านี้แล้ว 2 คนจากการแต่งงานครั้งแรก และแนนซีไม่สามารถตั้งครรภ์เองได้อีกต่อไปเนื่องมาจากเธอผ่าตัดเอามดลูกออกไปแล้ว
ซึ่งหลังจากที่บีทตีให้กำเนิดลูกสาว พวกเขาได้รับเงินจากการขายภาพแรกของซูซานลูกน้อยเป็นจำนวน 500,000 ปอนด์เลยทีเดียว ( หรือประมาณ 31,615,000 บาท )