กลืนน้ำลายตัวเองไปอึกใหญ่ สำหรับพ่อหม้ายป้ายแดง “ฟลุค เกริกพล มัสยวานิช” กับ “แป้ง อรจิรา แหลมวิไล” หลังแทกทีมกันออกมายอมรับทั้งน้ำตาว่า “กำลังคบหาดูใจกัน” ในฐานะคนพิเศษมานานกว่า 2 เดือน
ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยปฏิเสธหัวชนฝา ว่า ความสัมพันธ์ไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่า “เพื่อนร่วมงาน” ถึงจะมีภาพปาปาราสซีออกมายืนยัน ว่า ทั้งคู่แอบไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ดูเหมือนว่าหลักฐานเหล่านี้จะไม่หนักพอที่จะง้างเอาความจริงจากปากของทั้งคู่ได้
แถมสาวแป้งก็มักจะออกอาการเม้งแตก! ทุกครั้งที่ถูกเค้นถาม ซ้ำยังเคยปากหนักบ่น “ซวย” ที่ต้องมาตกเป็นข่าวเป็นมือที่สามแย่งฟลุคจาก “โบ ชญาดา” อดีตภรรยา ส่วนคาสโนวาลูกติดก็แสบไม่น้อยหน้า เป็นประเภทพ่อจอมเฉไฉ สรุปออกแนว “คู่รักปลาไหลเรียกพี่” ทั้งคู่
ไล่มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หลังจากที่หนุ่มฟลุคออกมาเปิดปากว่าได้ “แยกทาง” กับอดีตภรรยา โบ ชญาดา เป็นที่เรียบร้อย หลังเก็บงำไว้นานกว่า 2 ปี ถึงคราวคาสโนวาฆ่าไม่ตาย ได้ตีปีกผับๆ สมใจ ปลายเดือนเจ้าตัวก็ตกเป็นข่าวใหญ่ประเดิมชีวิตโสด ว่าแอบสานสัมพันธ์กับนักแสดงรุ่นน้อง แป้ง อรจิรา ในกองละครเรื่อง “นารีสโมสร”
นอกจากหนุ่มฟลุคจะขยันพาไปกินข้าวแล้ว ยังหยอดคำหวานเรียกสาวแป้ง “ที่รักๆ” ทุกคำ จนบรรดาแมงเมาท์เขาระคายหู พากันกระพือข่าวกระจายกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา และแม้ว่าฝ่ายชายจะออกตัวปฏิเสธไปก่อนแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเชื่อ งานนี้สาวแป้งก็เลยต้องจำใจออกมาเคลียร์แบบเซ็งๆ ด้วยตัวเองว่า...
“แป้งก็ไม่ทราบนะคะ อาจจะเพราะว่ามีอยู่วันนึงถ่ายละครเสร็จแล้วก็ชวนพี่แมน (ศุภกิจ) ชวนคนนั้นคนนี้ในกองไปเที่ยวกัน เราไม่ได้ซีเรียสอะไร เราถ่ายละครด้วยกันถามว่าสนิทกันมั้ยก็สนิทกันกับทุกคน ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว ส่วนที่ว่าพี่ฟลุคเรียกที่รัก เขาเรียกทุกคนว่าที่รักค่ะ คุยโทรศัพท์เรียกทุกคนว่าที่รักเป็นปกติ”
“ก็อาจเพราะเล่นละครเรื่องเดียวกันอีก อย่างปีหน้าก็มีละครเล่นด้วยกันอีกมั้ง ไม่รู้ดิ เขาก็คงจับไปจับมา พอเป็นข่าวก็ได้คุยกับพี่ฟลุคบ้างค่ะ ตลกดี เขาก็ไม่ได้อะไร มีคนฝากถามเพื่อนแป้งมาเหมือนกันก็บอกเป็นเพื่อนร่วมงานกัน จริงๆ แป้งไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้ว่าเป็นเรื่องซีเรียสเหมือนเราก็ชวนทุกคน เราก็สนิทกันไม่ได้ไปนั่งเล่น นัดกินข้าวกันก็ไปกันหลายคน เขาไม่ได้มีท่าทีอะไรกับเราเป็นพิเศษเป็นพี่เป็นน้องกันก็ดีอยู่แล้ว”
กลางเดือนมกราคมของปีนี้ จู่ๆ ก็มีข่าวออกมาตอกย้ำอีกว่า สาวแป้งได้หอบเสื้อผ้าย้ายเข้ามาอยู่คอนโดเดียวกันเป็นที่เรียบร้อย แถมยังพากันไปสวีตที่เชียงใหม่ รวมถึงประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเคยเป็นที่ฮันนีมูนของหนุ่มฟลุค กับ สาวโบ เมื่อครั้งแต่งงานกันใหม่ๆ แถมยังมีหมอดูยกธงฟันฉับ ว่า สาวแป้งจะพบรักใหม่กับพ่อหม้าย ซึ่งกับข่าวนี้ก็ทำเอาสาวแป้งถึงกับควันออกหู ฉะกลับทันควัน ว่า ไม่เคยทำตัวแบบนั้น พร้อมกับย้ำด้วยว่าระหว่างเราไม่มีทางเป็นได้มากกว่าเพื่อนร่วมงาน
“ก็ยังไม่ได้ไปไหนก็ยังอยู่นี่ มีไปต่างประเทศไม่ได้ไปด้วยกันสองคน ไปกับกองนารีสโมสรทุกคน สองอาทิตย์ที่ผ่านมา ข่าวออกมาไม่ซีเรียส แต่ซีเรียสข่าวที่ว่าเราเป็นมือที่สาม หรือการที่เราไปทำให้เขาหย่ากัน คือ เท่าที่เราคลุกคลีกับการถ่ายละครด้วยกัน เราก็รู้ว่าเขามีปัญหามาระยะนึงแล้ว คือ ถ้าเขาจะมีปัญหาอะไรคงไม่ใช่เพราะเราแน่นอน อีกอย่างเขาไม่ได้มาอะไรกับเรา”
“เขาจะหย่าจะอะไรแป้งไม่ทราบจริงๆ เป็นเรื่องของเขา แป้งแค่ฐานะเพื่อนร่วมงานเขา ฉะนั้น เขาจะมีปัญหาแป้งไม่กล้าไปยุ่งเรื่องของเขาสำหรับแป้งถือว่าเป็นแค่น้อง แค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษมากกว่านั้น ส่วนเรื่องอยู่ด้วยกันที่คอนโด แป้งยังอยู่บ้านค่ะ แป้งอยู่กับพ่อแม่ จริงๆ ข่าวของเขาคงแรงอยู่แล้วก็เลยทำให้ใครที่เหมือนเข้าใกล้เป็นประเด็นก็เลยไม่หนักใจ ไม่รู้สึกอะไร ตอนนี้ทำงานด้วยกันเป็นพี่เป็นน้องอย่าให้เป็นประเด็นอื่นเลย เพิ่งคุยกับพี่เขา บอกพี่ทำแป้งซวยอีกแล้ว”
“เรื่องหมอดูไม่เชื่อค่ะ อันนั้นเป็นเรื่องของหมอดู ถ้าแป้งจะเชื่อไม่ได้ปักใจเชื่อขนาดนั้น แป้งจะเชื่อในสิ่งที่ดีๆ มันไม่จำเป็นต้องมีเขา เราแค่เพื่อนร่วมงานกัน เขาบอกดวงเรายับเยิน จริงๆ ไม่คิดว่าความรักของแป้งจะดีตั้งแต่ต้นอยู่แล้วเพราะฉะนั้นจะยับเยินไม่ยับเยินมันก็อยู่ที่บุญมันจะเป็นยังไงก็ต้องปล่อยเป็นไป”
ข่าวลือเริ่มหนักขึ้นๆ เรื่อย ปลายเดือนมกราคม สาวแป้งโดนซัดอีกหนึ่งดอก ว่าอาจหาญกดรับโทรศัพท์ของหนุ่มฟลุค ทั้งที่รู้ว่าเป็นเบอร์ของสาวโบโทร.เข้ามา เป็นเหตุให้เจ้าตัวยิ่งถูกมองติดลบ เกิดกระแสข่าวตามมา ว่า ที่แท้เหตุผลที่ฝ่ายชายเร่งหย่ากับภรรยาเก่า เพราะอยากคบกันแบบเปิดเผยนั่นเอง
“เรื่องนี้แป้งงงมาก ว่า ทำไมทุกคนถึงคิดว่าเป็นแต่เสียงแป้ง มันอาจจะเป็นเสียงของสาวๆ คนไหนก็ได้ ทำไมมันถึงต้องเป็นแป้งด้วย แล้วอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ แป้งอยากทราบว่านักข่าวไปอยู่ในสายโทรศัพท์หรืออย่างไร ถึงได้รู้อะไรละเอียดยิบขนาดนั้น”
“กับข่าวในเรื่องของมือที่สามพวกนี้ แป้งไม่ค่อยซีเรียสนะ เพราะแป้งรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ แต่มันจะซีเรียสก็ตรงที่แป้งเข้าไปอ่านข่าวในอินเทอร์เน็ตแล้วเห็นคนคอมเมนต์ ซึ่งบางอันมันก็แรงนะ อย่างคำว่า ทำไมหน้าไม่อายไปแย่งของคนอื่นอะไรอย่างนี้ ซึ่งเรารู้นะว่าอะไรมันเป็นอะไร และเราก็รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ อีกอย่างเราก็ไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่นอน ส่วนข่าวกับพี่ฟลุคนั้น แป้ง ขอยืนยันอีกครั้งว่า แป้งกับพี่ฟลุคเราเป็นแค่เพียงเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น เราไม่ได้มีอะไรกันอย่างที่เป็นข่าวเลย”
ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ชื่อของทั้งคู่ก็กระฉ่อนอีกหน เมื่อมีคนเห็นตำตาว่าแอบไปเดินจูงมือกันชอปปิ้ง และกดเอทีเอ็ม ที่ห้างเดอะคริสตัล พาร์ค แต่เสียดายที่ปาปาราสซีแชะภาพไม่ทัน เพราะแว่วว่านางเอก “หน่อย บุษกร” ขี่ม้าขาวมาช่วยตะโกนบอกให้รู้ตัวซะก่อน มือที่เกี่ยวกันอยู่ก็เลยกระเด้งออกจากกันไปคนละทิศละทาง ขวัญกระเจิงหายตัวเข้ากลีบเมฆไป ในเมื่อหลักฐานขาดมือก็เลยเข้าทางหนุ่มฟลุค ปฏิเสธได้สบายบรื๋อ!
“เดอะคริสตัลคืออะไร ไม่เคยไปในชีวิตเลย (เน้นเสียง) ในชีวิตเลยสาบานได้เลยถ้าไปขอให้เดินขาหักสองข้างเลยวันนี้ ไม่เคยเห็นเลย ให้ตายเถอะโรบิน เอทีเอ็มไม่เคยกด น้อยมากเลยนะ เพราะว่าเวลาเบิกๆ เป็นปึกแล้วก็แลกเป็นแบงก์ใหม่ ผมไม่ค่อยชอบกดเอทีเอ็ม อันนี้มั่วร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีใครเตือน คือ เรารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นข่าวเราคงไม่ทำอะไรให้เป็นข่าวมากขึ้น”
“โอกาสพัฒนาเหรอ ตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรเลย ขอให้ทุกคนเข้าใจเป็นหลักเดียวกันก่อนแล้วอาจจะมีใครเข้ามาถึงค่อยคิดตอนนี้ไม่กล้า สงสารคนที่จะคุยด้วย ยังไม่ได้เปิดรับอะไรเขา ยังอินอยู่กับลูกอยู่ สนุกกับการไปเที่ยวกับลูกอยู่”
11 กุมภาพันธ์ ก่อนวันวาเลนไทน์ไม่กี่วัน เกิดขบวนรถไฟชนกันที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โครมใหญ่ จู่ๆ ก็มีสายรายงานมาว่า เห็นสาวแป้ง เดินสวนกับสาวโบ โดยต่างคนต่างเชิดใส่ไม่มองหน้ากันแม้แต่น้อย ซ้ำร้ายไปกว่านั้นจังหวะก่อนที่ทั้งคู่จะประจันหน้ากัน มีคนยืนยันว่า เห็นหนุ่มฟลุคเดินตามสาวแป้งต๊อกๆ ขึ้นบันไดเลื่อน แต่ทำฟอร์มทิ้งระยะห่าง แต่ครั้งนี้มีฮา เพราะไม่ได้เตี๊ยม! กันมา ฝั่ง ฟลุค-แป้ง บอกไม่เห็น ไม่เจอ แต่ถามสาวโบกลับบอกว่าเดินสวนกันจริง เพียงแต่ไม่ได้ทักทาย เพล้ง!!
แป้ง : “ไม่เคยเขม่นค่ะ เขาเป็นพี่ ถ้าเจอแป้งต้องไหว้ แต่ว่าวันนั้นไม่เจอจริงๆ แล้วก็ไม่เห็น ไม่แน่ใจว่ายังไง แต่ถ้าเห็นก็ต้องสวัสดี เพราะเราไม่ได้มีปัญหา จะคุยเรื่องข่าวมั้ยเหรอ มันไม่ใช่หน้าที่ที่แป้งต้องไปพูดนะ เพราะว่าให้แป้งไปพูด พี่คะข่าวมันคืออย่างนี้ มันก็ไม่ใช่เราอยู่นิ่งๆ ของเรา เราไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้โทร.หาเขาไม่รู้จะโทร.ทำไม ไม่เคยเคลียร์ค่ะ ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ และกับพี่เขา (ฟลุค) เราไม่เคยไปเดินเซ็นทรัลเวิลด์ด้วยกันเลย”
โบ : “เรื่องเขาไปเที่ยวกัน โบยังไม่เห็นเลยค่ะ ส่วนข่าวที่บอกว่าเดินสวนกับแป้งแล้วไม่มองหน้ากัน ก็ไม่ได้ไม่มองหน้ากันจริง ก็เดินผ่านกันแล้วน้องที่ไปด้วยกันบอกว่าเดินสวนกันนะ แต่เราไม่ได้แบบตั้งใจไม่มองหรืออะไร เป็นจังหวะที่เราไม่ได้มองพอดี”
ส่วนปาปาราสซีที่จับภาพตอนหนุ่มฟลุคกำลังกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารแห่งหนึ่ง โดยมีสาวแป้งเดินโทรศัพท์รออยู่ด้านนอกนั้น เจ้าตัวก็ยังปลาไหลอธิบายไปข้างๆ คูๆ ว่าไม่ได้นัดกัน แต่บังเอิญใจตรงกันไปทำธุระแถวนั้นเท่านั้นเอง
“ภาพที่กดเอทีเอ็มนี้นะครับมันอยู่ที่ เจ อเวนิว เชื่อมั้ยผมเห็นภาพผมยังงงเลยนะ ก็ผมไม่ได้ไปด้วยกันนะ ผมไม่รู้จริงๆ ว่า เขาอยู่ที่นั่นด้วย ดูหน้าผมสิ ผมไม่รู้จริงๆ ถ้าโกหกปากผมจะแหลมๆ นิดหนึ่ง มันมีไอติมอยู่ร้านเดียว I berry มันไม่มีทางไปกินร้านอื่นได้ก็เลยต้องไปกินร้านนี้ คนถ่ายก็เก๊งเก่ง ผมยังไม่รู้เลยว่าเขา (แป้ง) มา วันนั้นมีคนส่งแมสเสจมาว่า มีคลิปสดฟลุค-แป้ง ผมก็ยังจำไม่ได้เลยว่าวันนั้นไปทำอะไร ผมไม่ได้ไปกดเงินครับ ไปโอนเงิน ไม่ได้ปากแข็งด้วย”
ไม่ใช่แค่คู่นี้เท่านั้นที่ปากแข็งปิดเงียบ ขนาดเพื่อนร่วมงานที่เล่นละครเรื่องเดียวกันอย่าง “เจี๊ยบ โสภิตนภา ชุ่มภาณี” หรือแม้แต่เพื่อนซี้ของสาวแป้งอย่าง “วีเจ วุ้นเส้น วิริฒิพา” ที่น่าจะเห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีที่สุด ต่างก็ใบ้รับประทานไปตามๆ กัน โดยสาวเจี๊ยบดูจะอึกอัก และแสดงสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อถูกถาม
“จริงๆ เรื่อง นารีสโมสร ปี 2 ฟลุคเขาบอกนะว่าเรื่องราวคล้ายชีวิตจริงเลย แต่เจี๊ยบไม่ตอบเรื่องเขานะคะ คือ ไม่ตอบเรื่องคนอื่นได้มั้ย ถ้าถามว่าในกองมีใครถามพวกเขาถึงข่าว ก็ถามเขาเองละกันค่ะ ซึ่งถามเจี๊ยบว่าในกองทั้งคู่สนิทสนมกันแค่ไหนเหรอ คือ กองเรานักแสดงสนิทกันทุกๆ คน สนิทพอๆ กัน”
“ตั้งแต่มีข่าวเค้าสองคน (แป้ง-ฟลุค) ไม่ได้ซีเรียสนะ ไม่ตอบ ให้พวกเขาตอบกันเองดีกว่านะคะ สถานการณ์ในกองถ่ายหลังมีข่าวก็ไม่มีอะไรค่ะ สนุกสนานกันเหมือนเดิม ทุกคนสนิทกันเหมือนเดิม ไม่มีใครมาปรับทุกข์หรือปรึกษาอะไรเจี๊ยบหรอกค่ะ เพราะปกติฟลุคเขาก็มีข่าวทั้งปีอยู่แล้ว ซึ่งฟลุคเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร”
ในขณะที่ สาววุ้น เอง ก็เลือกที่จะไม่ออกความคิดเห็น เพียงแต่แง้มเป็นนัยว่า “ความรักของทั้งคู่ออกแบบไม่ได้” จะมีก็แต่นักแสดงรุ่นพี่ “ตุ๊ก จันจิรา จูแจ้ง” ที่เคยหลุดออกมาว่า หนุ่มฟลุคมีแผนจะพาฝ่ายหญิงไปเที่ยวเมืองนอก และคนในกองก็เริ่มพูดถึงทั้งคู่ว่าดูสนิทกันเป็นพิเศษ
26 กุมภาพันธ์ ยอมรับว่า พ่อหม้ายป้ายแดงขับรถมาส่งที่งานเดินแบบ เซ็นทรัล ชิดลม หลังไปเรียนแอกติ้งที่แกรมมี่ด้วยกัน แต่ปฏิเสธไม่ได้คบกัน ปัดกรณีมีข่าวว่า หนุ่มฟลุคหอบดอกไม้ช่องามไปเซอร์ไพรส์วันเกิด วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา แถมยังพาไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
“ไปเรียนแอกติ้ง ที่ แกรมมี่ ก็เลยติดรถมาลงที่นี่ เขามาส่งค่ะ แต่ขากลับมีเลขามารับค่ะ เมื่อเช้าก็ไปคุยเรื่องละคร (ความลับของซุปเปอร์สตาร์) กับ พี่ป้อน (นิพนธ์ ผิวเณร) ด้วยกันมา ตอนแรกจะเปิดกล้อง แต่ปรากฏว่า ยังไม่ได้เปิดก็เลยเข้าไปดูบท คุยว่าอยากให้ตัวละครตัวไหนแอกติ้งเป็นยังไงเท่านั้นเอง”
“วันเกิดไม่ได้มอบดอกไม้ ไม่มีดอกไม้ วันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาทำงาน วันเกิดแป้งเขาก็ไม่ได้ให้อะไรค่ะ อวยพรอะไรมั้ย ก็แฮปปี้เบิร์ธเดย์กันธรรมดา จริงๆ แล้วเรื่องไหนเป็นเรื่องส่วนตัวแป้งก็ไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะยิ่งพูดไปก็เสียหมดอยู่ดีๆ เรื่องบางเรื่องไม่ต้องพูดทุกเรื่อง ความสัมพันธ์ก็เป็นพี่ที่สนิทกัน รู้จักกันเท่านั้น พิเศษหรือยัง เรื่องนี้ไม่ขอพูดดีกว่าค่ะ พูดไม่เดี๋ยวก็หาสตรอเบอรี่ พูดใช่เดี๋ยวก็หาว่า... ขอไม่พูดดีกว่าค่ะ”
28 กุมภาพันธ์ ทิ้งห่างกันแค่วันเดียว คาสโนวาพ่อหม้าย ก็อุ้ม “น้องอชิ” ลูกชาย มาชมละครเวทีเรื่อง บางรักซอย 9 พร้อมกับประกาศยอมรับเป็นครั้งแรก หลังโดนเค้นอยู่นาน ว่ากำลังคบหาดูใจอยู่กับสาวแป้งมากว่า 2 เดือน โดยเผยว่า ประทับใจที่ฝ่ายหญิงเป็นคนจิตใจดี ส่วนที่ผ่านมาเจ้าตัวบอกไม่ใช่โกหก เพียงแค่ไม่ได้บอกเท่านั้นเอง?!!
“ความสัมพันธ์ตอนนี้ เราก็ศึกษากันอยู่ ก็ยังอยู่ในช่วงดูใจกันอยู่ ว่า จะสามารถพัฒนาต่อไปในอนาคตได้มากน้อยแค่ไหน สำหรับวันนี้ที่ผมยอมพูด มันก็เนื่องมาจากเราเริ่มมั่นใจบ้างแล้วกับเขา กับเรื่องตรงนี้เรามีการคุยกันมาประมาณ 2 เดือนแล้ว แต่เราก็รู้จักกันมาก่อนหน้านี้เป็นปีแล้ว ที่ผ่านมา ก็คุยกันในฐานะพี่น้องมาตลอด แล้ว 2 เดือนที่ผ่านมา ก็รู้สึกดีๆ ต่อกัน เพราะน้องเค้าเป็นคนที่มีจิตใจดีก็เลยลองคบกัน”
“ผมไม่เคยปฏิเสธนะว่าคบกัน แต่ผมแค่ไม่ได้บอก มันเป็นเพราะว่า ช่วงนั้นช่วงแรกเราเพิ่งรู้จักกัน คือ เราทั้งสองคนก็ยังไม่แน่ใจ ว่า คนๆ นี้ที่เรากำลังคบอยู่ใช่หรือเปล่า แต่ถ้าเกิดเรารีบประกาศแล้วมารู้สึกว่ามันไม่ใช่ เดี๋ยวคนก็จะมาหาว่าผมเป็นคนเจ้าชู้อีก คือเรายังไม่แน่ใจเราก็เลยยังไม่บอก”
ปิดฉากเรื่องราวรักสามเส้าด้วยน้ำตาของสาวแป้ง ในที่สุดเจ้าตัวก็ยอมออกมาปรากฏตัว เลิกหมกเม็ดอ้ำอึ้งให้อึดอัด ด้วยการเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรกกลางกองถ่ายละครเรื่อง นารีสโมสร ละครที่เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิง โดยนางเอกสาว ได้เปิดใจน้ำตาพราก ว่า ไม่เคยคิดจะทำให้ครอบครัวใครแตกแยก อ้างมีสามัญสำนึกพอ ก่อนจะกล่าวขอโทษคนที่ทำให้ต้องผิดหวังและเสียใจ ยืนยันจะคบหากับพ่อหม้ายฟลุคต่อไปบนความบริสุทธิ์ใจ
“คำว่าแย่งสามีชาวบ้าน เป็นคำพูดที่แรงค่ะ คือ แป้งเชื่อว่าทุกคนอยากมีครอบครัวที่มีความสุข และไม่อยากให้ครอบครัวของตัวเองต้องจบลง หรือแยกทางกัน ซึ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น แป้ง เชื่อว่า ไม่มีใครยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเกิดว่าตัวแป้งเองโดนวิพากษ์วิจารณ์ว่าต้องเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวเขาต้องแยกทางกัน คือ แป้งรู้ว่าด้วยนิสัยของแป้ง... คนเราจะสามารถมีความสุขได้มันต้องแฮปปี้กับสิ่งที่ตัวเองเป็น และแฮปปี้กับสิ่งที่ตัวเองทำ ถ้าเกิดว่าสิ่งที่แป้งทำเป็นการที่ทำให้ใครเขาเดือดร้อน หรือไปทำให้เขามีปัญหา แป้งเชื่อว่าแป้งไม่มีความสุขกับสิ่งที่มันเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน.. (เสียงเครือเริ่มร้องไห้)
“พ่อกับแม่เขาเครียด แต่เขารู้เหตุผลค่ะ และเขารู้จักแป้งดีว่าทุกอย่างที่แป้งทำมีเหตุผล แต่สิ่งที่เขากังวลและพะวง คือ ข่าว และแรงกดดันจากหลายๆ ฝ่าย ฉะนั้นแป้งขอทุกคนนะคะว่าโอเคพี่ๆ อาจจะไม่ได้พูด แต่ว่าการนำเสนอข่าวที่พี่ๆ เสนอออกไป ในเน็ตมันมีด่าพ่อด่าแม่ด่าแรงด้วย..(ร้องไห้) แป้งสงสารพ่อกับแม่ คือ พ่อกับแม่เลี้ยงแป้งมาดี ไม่เคยสอนให้แป้งเป็นคนไม่ดี ฉะนั้น อย่าด่าพ่อแม่แป้งเลย”
“ยืนยันว่า จะศึกษากับพี่ฟลุคต่อไปเรื่อยๆ มั้ย อันนี้ไม่ทราบค่ะ ก็ต้องดูต่อไป กลัวฟลุคเจ้าชู้มั้ยก็ทุกคนไม่ได้เจ้าชู้มาโดยกำเนิด ทุกคนคงอยากมีครอบครัวที่มีความสุข แป้งเองอยากมีครอบครัวที่มีความสุข คือ การเจ้าชู้ไม่ได้ทำให้เรามีความสุข เพราะว่าเราไม่ได้ความจริงใจจากใครเลยสักคน แป้งเชื่อว่าพี่ฟลุคเองอยากจะมีใครสักคนที่จริงใจ ทุกคนไม่ได้อยากแต่งงานไม่ได้อยากเลิก ตัวแป้งเองก็ไม่ได้อยากคบหลายคน อยากเจอคนที่ใช่และแต่งงานกับคนๆ นั้น แต่ทุกคนมันไม่ได้โชคดีเหมือนกันหมดทุกคน”
โล่งมะ!!!!!