“บอย” ขอโทษแอร์ฯ แต่ฉะสหภาพฯ ละเมิดสิทธิ์

“บอย” จวก “สหภาพฯ” เรียกร้องเกินเหตุ ยันไม่ยุติการฉาย “สงครามนางฟ้า” แจงเปล่าทำละครลบหลู่คนการบินไทย เจ้าตัวกล่าวขอโทษเหตุปล่อยภาพสาวแอร์ฯในเครื่องแบบรุมตบกัน ออกปากสัญญาจะไม่ทำผิดอีก ลั่นยินดีแก้กระโปรงนางฟ้าให้ยาวขึ้น หากหลายฝ่ายเชื่อว่าไม่เหมาะ พร้อมขอคุยกับ “การบินไทย” ก่อนถูกถอนโฆษณา

หลังถูกทัพแอร์โฮสเตส จับมือกับ “สหภาพแรงงานการบินไทย” ออกโรงต้านละคร “สงครามนางฟ้า” เหตุทำภาพลักษณ์ของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเสียหาย จนมีการเรียกร้องขอให้ยุติการแพร่ภาพละครเรื่องนี้ไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ (22 ม.ค.) ที่ตึก จี เอ็ม เอ็ม แกรมมี่ ผู้ผลิตละครรวมถึงนักแสดงนำของเรื่องออกโรงชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งนำทีมโดย บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ ผู้อำนวยการผลิตของ เอ็กแซ็กท์ ร่วมด้วยนิพนธ์ ผิวเณร ผู้กำกับ,ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์ ผู้ควบคุมบทโทรทัศน์,ฐานวดี สธิตยุทธการ คนเขียนบทโทรทัศน์,บี น้ำทิพย์ และ ป้อง ณวัฒน์

โดย “บอย ถกลเกียรติ” กล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า...

“สำหรับละครเรื่องสงครามนางฟ้านี้ เรามีเจตนาเพื่อนำเสนอละครให้ผู้ชมได้มีความสุข และความบันเทิง ต้องบอกก่อนว่าเราไมได้ต้องการที่จะลบหลู่อาชีพใดอาชีพหนึ่ง แต่วันนี้ที่เรามาแถลงข่าว คือ เราต้องการขอความเป็นธรรมจากทุกคน ก่อนที่จะโกรธหรืออกมาต่อต้านเราอยากบอกให้พวกท่านได้ดูละครเรื่องนี้ของเราให้ดีก่อน อย่าเพิ่งออกมาต่อต้านอะไรเลย”

“คือ ผมก็มีเพื่อนฝูงอยู่เยอะนะที่ทำงานในสายการบิน แต่ผมได้สอบถามเขาไป มันก็มีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนที่ชอบ และคนที่ชอบนั้นเขาก็ดูละครเรื่องนี้อย่างเป็นจริงเป็นจัง เขายังชมว่ามันสนุก น่าตื่นเต้น น่าติดตามต่อไปเรื่อยๆ”

โบ้ยบทประพันธ์เดิมแรงกว่าที่ตนนำเสนอออกไปเสียอีก

“ผมขอชี้แจงว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริง เป็นเรื่องที่มาจากบทประพันธ์ แต่เราก็มีการดัดแปลงขึ้นเพื่อให้มันเหมาะสมกับการเป็นละคร ผมว่ามันน่าจะเป็นเรื่องปกตินะ ผมจะบอกว่าเราตัดออกไปด้วยซ้ำเพราะบางฉากมันรุนแรงเกินไปเราก็ไม่เอา”

“อีกอย่างก่อนละครฉายทุกครั้ง เราจะมีข้อความขึ้นแสดงไว้หน้าจอเสมอว่าเรื่องนี้อ้างอิงมาจากบทประพันธ์ที่มีอยู่จริง แต่อาจจะมีการดัดแปลงอยู่บ้าง เพื่ออรรถรสในการชม แต่เราไม่ได้พาดพิงถึงใคร ส่วนเรื่องของสายการบินเราก็ตั้งขึ้นมาใหม่เอง คือ สายการบินเมขลาแอร์ซึ่งเราไม่ได้หมายความถึงสายการบินไทยเลย”

เจ้าตัวยันละครของตนได้นำเสนอด้านดีๆ ของคนการบินไทยด้วย

“ผมอยากจะบอกว่าทุกอาชีพมันมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ละครที่เรานำเสนอมันก็ต้องมีทั้งดีและไม่ดีเหมือนเรื่องจริง แต่ที่เรานำเสนอไม่ได้หมายความว่าอาชีพนี้จะไม่ดี คือ เรื่องดีๆ ในละครมันก็มีเหมือนกัน และผมเชื่อว่า ไม่มีละครเรื่องไหนที่มีแต่เรื่องดีๆ หรือเรื่องไม่ดีทั้งเรื่อง”

“อย่างในละครเรื่องนี้จะมีตัวแสดงที่ดีๆ อยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น คุณหยวน, ก้อง, บี หรือคุณแจง ซึ่งตัวแสดงเหล่านี้ได้นำเสนอถึงความตั้งใจและยึดมั่นในการประกอบวิชาชีพของตนเองและนำเสนอออกมาให้ทุกคนได้รู้ว่าอาชีพนี้ดี ได้บอกถึงแต่ละขั้นตอนกว่าจะก้าวมาสู่การเป็นแอร์ฯว่ามีมาตรการควบคุมหรือดูแลอย่างไร ผมว่าตัวละครได้นำเสนอสิ่งที่ดีให้คนดูนะ”

ต่อข้อซักถามถึงฉากที่ตัวละครตบตีกัน โดยสวมใส่เครื่องแบบอยู่นั้นและเป็นเหตุให้เหล่าคนการบินไทยออกโรงต้านนั้น ผู้ผลิตละครคนดังยอมเอ่ยปากขอโทษ

“ส่วนฉากที่มีปัญหานั้น ตัวแสดงมีการตบตี ทำร้ายร่างกายโดยสวมใส่เครื่องแบบอยู่ ผมขอบอกว่า เราออกอากาศมาแล้ว 7 ตอน และฉากทำร้ายร่างกายนั้นมีแค่ 4 ฉากเท่านั้น แต่มีเพียงฉากหนึ่งซึ่งผมอยากจะขอโทษ คือ ฉากที่แอร์ฯหลายคนมารุมแกล้งนางเอกซึ่งแต่ละคนก็อยู่ในชุดปฏิบัติงาน เราต้องขอโทษจริงๆ ที่ปล่อยให้ภาพแบบนี้หลุดออกมาแล้วทำให้ภาพลักษณ์อาชีพดังกล่าวดูไม่ดี”

“หลังจากนี้ ผมและทีมงานขอสัญญาว่าจะไม่มีภาพตบตีกันในเครื่องแบบหลุดออกมาอีก แต่ผมขอชี้แจงว่าละครเรื่องนี้เราไม่ได้นำเสนอความรุนแรงไปมากกว่าละครเรื่องอื่นๆ เลย”

เมื่อถามต่อว่าที่ทางสหภาพฯได้กล่าวอ้างว่าการแต่งตัวของแอร์ฯในเรื่องโป๊จนเกินไป ทางทีมงานจะแก้ไขอย่างไร

“เรื่องการแต่งตัวของแอร์โฮสเตส ผมถือว่ามันเป็นเรื่องปกติ อีกอย่างสายการบินในเรื่องไม่ใช่สายการบินในประเทศไทยและแอร์ประเทศอื่น เขาก็ใส่สั้นแบบนี้เหมือนกัน จริงๆ แล้วเจตนาของเราต้องการนำเสนอถึงความสง่างามและความสวยของแอร์โฮสเตส ซึ่งผมไม่เข้าใจว่าขาของคุณบี หรือคุณไอซ์ ไม่สวยตรงไหน”

“ถ้างั้นหลังจากนี้เราจะปรับชุดของแอร์โฮสเตสทุกคนให้ยาวขึ้นกว่าเดิมถ้าเกิดหลายฝ่ายเห็นว่ามันสั้นเกินไป”

ส่วนกรณีที่ทางสหภาพแรงงานการบินไทยอยากให้ยุติการออกอากาศไปก่อน โดยให้ผู้ผลิตกลับไปแก้บทแล้วค่อยนำกลับมาฉายใหม่ คุณบอยอารมณ์ขึ้นบอกเรียกร้องมากเกิน ยันขอคุยรายละเอียดกับ “การบินไทย” ก่อนจะถูกถอดโฆษณาจากทุกรายการของ “เอ็กแซ็กท์” หากตนไม่ยอมแก้บท

“ผมว่ามันดูแรงไปมั้ยครับ มันดูเป็นการละเมิดสิทธิ์กับผู้ประกอบวิชาชีพวิทยุโทรทัศน์ ตอนนี้ผมก็ถ่ายไปเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว และเรตติ้งของผมก็ดีมากประมาณ 4-5 อีกอย่างที่บอกว่าผมสร้างความรุนแรงเพื่อเรียกเรตติ้งนั้นผมว่ามันไม่เกี่ยวกันแน่นอน”

“เรื่องที่การบินไทยจะถอนโฆษณาของละครต่างๆ ของค่ายเรา ตรงนี้ผมยังไม่รู้รายละเอียดอะไร ต้องไปคุยกันอีกทีหลังจากนี้ผมต้องมีการระมัดระวังการทำละครเพิ่มขึ้นในแต่ละเรื่อง”

โต้ข่าวก่อนแอร์ฯออกมาประท้วงได้ส่งหนังสือมาเตือนแล้วพร้อมยอมรับช่อง 5 เตือนให้ประนีประนอมกับทุกฝ่าย

“ไม่มีการขอร้องอะไรทั้งนั้น เราไม่ได้รับจดหมายหรือคำเตือนอะไรเลย กับเรื่องนี้เราได้ยินมาบ้างเหมือนกันซึ่งเราก็รู้สึกตกใจและเสียใจว่าเราไปทำความกระทบกระเทือนให้กับคนอื่น เรื่องนี้ผมรู้ตั้งนานแล้วเพราะคนวงในมาบอกผมว่าเขามีการลงลายชื่อกัน”

“หลังจากนี้ ผมต้องปรับลดบททะเลาะวิวาทให้น้อยลงและตอนละครก็ไม่มีเพิ่มเพราะแค่นี้ผมก็โดนอะไรมามากพอแล้ว”

“จริงๆ เราเคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งตอนเรื่อง “รักแปดพันเก้า” เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ที่เราโดนกระแสวิจารณ์เยอะขนาดนี้ และผมเชื่อว่าเราทำงานอยู่ในวงการบันเทิงมันเป็นงานที่ละเอียดอ่อน เป็นเหมือนงานศิลปะผมเข้าใจว่ามันมีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ ผมเสียใจนะที่มีผลกระทบแบบนี้”

“ส่วนทางด้านช่อง 5 ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ วันนี้ผมก็ได้เข้าไปคุยกับเขามา ทางช่องได้ให้คำปรึกษาและตักเตือนเพราะเขาอยากให้ทางเรา และทางสายการบินประนีประนอมกันทั้ง 2 ฝ่าย หลังจากนี้ เราจะทำจดหมายไปถึงทางสหภาพฯ ส่วนถ้าคนอื่นหรือสายการบินอื่นอยากได้เราก็จะทำให้ถ้าหากต้องการ”








ด้านผู้กำกับ “ป้อน นิพนธ์ ผิวเณร” ลั่นเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ออกปากจะไม่เปลี่ยนแปลงบทอะไรมาก โดยให้เหตุผลว่าถึงอย่างไรสงครามก็ต้องเป็นสงคราม

“ผมเสียใจมากที่ละครเรื่องนี้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างขนาดนี้แต่ผมขอยืนยันว่าการทำละครของเราไม่ได้ต้องการดูถูกหรือเหยียดหยามอาชีพใดเลย พวกเราแค่ต้องการสร้างความสนุกและความบันเทิงให้กับคนดู”

“ส่วนเรื่องของการตบตีที่มีปัญหานั้นผมขอบอกว่าการตบตีทุกครั้งมันมีที่มาและเหตุผลอยู่ตลอด ถ้าคุณดูละครตลอดจะเห็นได้ว่าเราไม่ต้องการจะเน้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งเลย อีกอย่างเนื้อหาทุกตอนมันก็มาจากเรื่องจริงผมอยากให้ทุกคนลองติดตามชมไปเรื่อยๆละครเรื่องนี้มันยังมีอะไรดีๆให้ดูอีกเยอะ มันไม่ใช่แค่เรื่องการตบตีหรือแย่งผัวเมียกัน”

“ผมคิดว่าเราทำดีเราก็ต้องได้ดี และเราก็จะไม่เปลี่ยนอะไรมากถึงอย่างไรสงครามก็ต้องเป็นสงครามต่อไปแต่หลังจากสงครามจบลงนั้นซากที่เหลืออยู่จากสงครามจะเป็นอย่างไรอันนี้ก็ต้องติดตามกันเอาเอง”

ในส่วนของนักแสดงนำอย่าง “บี น้ำทิพย์” และ “ป้อง” ได้แสดงทัศนะถึงเรื่องนี้พวกตนทำไปตามหน้าที่เท่านั้น

“ถ้าเกิดถามบีว่ากระโปรงสั้นเกินไปหรือเปล่าบีคิดว่ามันไม่สั้นเพราะบีเป็นนางแบบ บีคิดว่าบางครั้งที่เล่นละครมันยังมีชุดอะไรที่สั้นกว่านี้อีก ทุกครั้งบีใส่ซับในตลอดเวลาและบีคงไม่ปล่อยให้ภาพหวอมาออกอากาศหรอกค่ะ”

“ส่วนตัวบีคิดว่าอาชีพใครใครก็รักซึ่งบีก็เข้าใจในอาชีพของแต่ละคน แต่บีอยากจะขอชี้แจงว่าเรื่องนี้มาจากเรื่องจริงและบีก็เป็นนักแสดงบีก็ต้องแสดงออกมาให้อย่างเต็มที่ที่ผู้กำกับสั่ง ตามบทบาทการแสดงที่ได้รับ”

ป้อง : “ผมโดนอะไรแบบนี้มาเป็นเรื่องที่ 2 แล้ว เรื่องแรกคือรักแปดพันเก้าแต่ผมเป็นนักแสดงผมก็ต้องเล่นไปอย่างเต็มที่ ผมอยากให้ทุกคนตามละครเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ แล้วทุกคนจะเห็นว่าบทสรุปของผู้ชายเจ้าชู้คนนี้เป็นอย่างไร”