“นางฟ้า” มาแล้ว!!! บุก วธ.ประท้วงละครฉาว “สงครามนางฟ้า”

เหล่าแอร์โฮสเตสจากสหภาพแรงงานการบินไทยเดินทางถึงกระทรวงวัฒนธรรมแล้วเพื่อร้องเรียนเนื้อหาละครโทรทัศน์ “สงครามนางฟ้า” หัวหน้าพนักงานต้อนรับการบินไทยเผยขณะนี้เอพีตีข่าวดังกล่าวทั่วโลก ระบุเตรียมประสานไปยังสหพันธ์ขนส่งโลกดูแลและร่วมกันบอยคอตกรณีนี้แล้ว

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 22 มกราคม สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย นำโดย นายสมศักดิ์ ศรีนวล รักษาการประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เข้ายื่นหนังสือถึงคุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เพื่อขอให้แจ้งระงับการออกอากาศละครเรื่อง “สงครามนางฟ้า” ทาง ททบ.5 โดยมี นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้รับหนังสือแทน

ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวระบุว่า บริษัท เอ็กแซกท์ ผู้ผลิตละครโทรทัศน์เรื่อง สงครามนางฟ้า กำลังทำลายวิชาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เนื่องจากละครดังกล่าวมีเนื้อหาของตัวละครที่ประกอบอาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินบิดเบือนไปจากความเป็นจริง และแพร่ภาพที่ไม่เหมาะสม ขัดต่อจริยธรรมและศีลธรรมอันดีงามของวิชาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน อันอาจทำให้สังคมโดยเฉพาะเยาวชนเข้าใจคลาดเคลื่อน ดูหมิ่นเกลียดชังผู้ประกอบวิชาชีพนี้ของทุกสายการบิน

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การยื่นหนังสือถึง วธ.เนื่องจาก วธ.เป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องศีลธรรม และจริยธรรม ซึ่งละครดังกล่าวได้แพร่ภาพสู่สาธารณชนทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่ยังไม่สามารถแยกแยะผิดถูกได้ก็อาจจะเกิดการเข้าใจผิด แม้ว่าจะมีการกำหนดเรตติ้งของละครไว้ แต่ผู้ปกครองก็อาจจะไม่ได้ให้คำแนะนำหรืออยู่ด้วยขณะที่เด็กดูละครเรื่องนี้ นอกจากนี้เนื้อหาของละครยังอาจทำให้เกิดความเข้าใจว่าผู้ประกอบวิชาชีพดังกล่าวมีพฤติกรรมตามที่ละครนำเสนอจริง ซึ่ง วธ.ควรมีคณะกรรมการที่จะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการพิจารณาสื่อที่จะเผยแพร่สู่สาธรณชนเพื่อไม่ให้มีความรุนแรงหรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมออกไป

“ผู้ผลิตละครอาจจะไม่ทันได้คิดว่าการนำเสนอละครบางเรื่องจะส่งผลทางลบต่อวิชาชีพบางวิชาชีพ แต่เมื่อไปกระทบกับความรู้สึกของผู้ประกอบวิชาชีพนั้นอย่างรุนแรง ผู้ผลิตละครก็ควรจะต้องรับฟัง และคำนึงถึงผลได้ผลเสียที่จะเกิดขึ้นตามมา ซึ่งสิ่งที่พวกเราเรียกร้องขณะนี้คือขอให้งดออกอากาศละครสงครามนางฟ้าไปก่อน เพื่อให้มีการปรับปรุงเนื้อหาของละครให้มีความเหมาะสม และอยากให้เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาของการจัดเรตติ้งละครก่อนที่จะเผยแพร่สู่สาธารณชน”

นายสมศักดิ์กล่าวต่ออีกว่า สหภาพแรงงานฯ ได้ทำหนังสือส่งถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในเรืองนี้ภายในการบินไทย ส่วนการยื่นหนังสือถึงหน่วยงานภายนอกนั้น สหภาพฯจะยื่นหนังสือถึง วธ. ททบ.5 บริษัท เอ็กแซกท์ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป

ด้านนางฉวีรัตน์กล่าวว่า วธ.จะทำหน้าที่ประสานผู้ผลิตรายการเพื่อมาหารือร่วมกับฝ่ายสหภาพฯ ในวันศุกร์ที่ 25 ม.ค.นี้ เวลาประมาณ 13.30 น.ที่กระทรวงวัฒนธรรม อย่างไรก็ตาม วธ.ไม่มีหน้าที่ชี้ขาดที่จะให้ละครเรื่องนี้ยุติการออกอากาศได้หรือไม่ แต่ในฐานะที่สหภาพฯ รู้สึกว่าเป็นผู้ได้รับผลกระทบก็สามารถที่จะดำเนินการเพื่อร้องสิทธิ์ต่างๆ ได้

นางสาวลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าวว่า การจัดเรตติ้งละครมีคณะกรรมการในการพิจารณาโดยมีสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ เข้าร่วมด้วย โดยมีกรมประชาสัมพันธ์เป็นแม่ข่าย ซึ่งกรณีนี้ก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ โดยจะถือเป็นกรณีศึกษาว่า เมื่อเกิดผลกระทบต่อผู้บริโภคจะมีการดำเนินการอย่างไร ทั้งนี้ในการหารือร่วมกัน วันที่ 25 ม.ค. นอกจากสหภาพฯ และบริษัทเอ็กแซกท์แล้ว วธ.จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) อัยการสูงสุด ททบ.5 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กรมประชาสัมพันธ์ และมูลนิธิคนึงนิต ฤไชย เข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ตนจะนำข้อมูลทั้งหมด ตลอดจนเสียงสะท้อนจากสังคมที่ผ่านสื่อต่างๆ เข้าพิจารณาในคณะกรรมการจัดเรตติ้ง เพื่อหารือในเรื่องดังกล่าวด้วย แต่การยกเลิกให้ออกอากาศนั้นคงจะต้องเป็นการพิจารณาในขั้นตอนต่อไป

นางพิจิตรา ทวีรัตน์ หัวหน้าพนักงานต้อนรับการบินไทย กล่าวว่า ในส่วนของพนักงานต้อนรับการบินไทยไม่ได้มีเจตนาจะเป็นศัตรูกับนายถกลเกียรติ วีรวรรณ และดารานักแสดง เพราะจากที่ตนเข้าไปอ่านข่าวในเว็บบอร์ด พบว่าดาราออกมาให้สัมภาษณ์ระบุว่า พวกตนน่าจะใจกว้างมากกว่านี้ ขณะเดียวกัน ตนอยากถาม นายถลกเกียรติว่า ควรจะใจกว้างในการทำละครเช่นกัน หากจะทำละครโดยไม่คำนึงถึงสังคมว่าจะไปในทิศทางไหน จะปล่อยให้ผู้ชมที่เป็นเด็กที่พ่อแม่ไม่ได้คอยให้คำแนะนำ เนื่องจากละครออกอากาศในช่วงเวลา 20.30 น. เด็กยังไม่นอน ควรเลื่อนเวลาออกอากาศละครเรต น.13 ออกไปหลังเวลา 22.00 น. โดยเฉพาะลูกสาวของตนก็ดูละครเรื่องนี้มาตั้งแต่ช่วงแรกที่ออกอากาศก็บอกว่า เรื่องนี้มีการตบตีกันทุกตอน ในฉากมีการลากกระเป๋ามาชนกันก็เป็นสาเหตุให้ตัวละครตบตีกันแล้ว ซึ่งตนไม่อยากให้เด็กรับชมอย่างนี้ นอกจากนี้ยังมีผู้ปกครองอีกหลายคนที่อาจจะแนะนำไม่ให้ลูกมาประกอบอาชีพพนักงานต้อนรับ เพราะจดจำภาพลักษณ์ไม่ดีมาจากละครเรื่องนี้ ดังนั้น ผู้ผลิตละครควรจะใจกว้างกับวิชาชีพนี้ด้วย

ด้าน นายนภดล ตวงทอง หัวหน้าพนักงานต้อนรับการบินไทย กล่าวว่า ขณะนี้ทราบว่าสำนักข่าวเอพี ของต่างประเทศได้นำเรื่องที่เราร้องเรียนไปเสนอข่าวเผยแพร่ไปทั่วโลกแล้ว ขณะเดียวกันได้ประสานงานไปยังสหพันธ์ขนส่งโลก (International Transpotation Fedenation : ITF) ซึ่งเป็นองค์กรกลางดูแลวิชาชีพการขนส่งของสายการบินทุกสายการบิน เพื่อประสานงานดูแลและร่วมกันบอยคอตกรณีนี้แล้ว

นายวิชากร อัจจิมาธร หัวหน้าพนักงานต้อนรับ บริษัทการบินไทย จำกัด  กล่าวว่า วิชาชีพของพนักงานต้อนรับทุกคนบนเครื่องบิน ทุกสายการบินทั้งในการบินไทย บางกอกแอร์แวย์ คาร์เธ่แปรซิฟิกส์ หรือ เจแปนแอไลน์ ก็ตาม  เป็นวิชาชีพหนึ่งที่ทุกคนใฝ่ฝันจะเข้ามาทำงาน แต่ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ผู้สร้างละครต้องมีจริยธรรม ในการนำกรอบของละคร ซึ่งปิดกั้นเฉพาะพนักงานต้อนรับมาสร้างละคร  ซึ่งการสร้างละครทั่วไป จะไม่มีกรอบ จะเปิดกว้างในแต่ละอาชีพอาจเข้ามาประสมกัน แต่ในวันนี้พนักงานต้อนรับเป็นกรอบละครที่ถูกปิดกั้น และในฉากของละคร มีแต่พูดถึงเรื่องการตบตี และแย่งชิงผู้ชาย ซึ่งในชีวิตจริงของตน เพียงแค่ทำงานบริการผู้โดยสารตลอดเที่ยวบินทั้ง 10 ชั่วโมง  ก็ยังไม่มีเวลาที่จะพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปตบตีกันแบบในละคร

หัวหน้าพนักงานต้อนรับการบินไทยกล่าวต่อว่า  จากการที่ผู้จัดละครอ้างว่า  ได้ดูจากเอกสารที่มาจากเว็บไซต์ แต่อยากถามผู้จัดละครว่า เคยได้เข้าไปสัมผัสชีวิตจริงของพนักงานต้อนรับหรือไม่  ทั้งนี้ตนขอยกตัวอย่าง หนังสือที่ได้รับการยอมรับว่าได้อ้างอิงถึงพนักงานต้อนรับที่ดีที่สุด คือ หนังสือ สารคดี ปี 1988/8 ซึ่งได้มีการคลุกคลีกับชีวิตพนักงานต้อนรับตั้งแต่วันแรกเข้ามา จนกระทั่งถึงออกไปปฎิบัติงานจริง สามารถอธิบายได้ว่าชีวิตพนักงานต้อนรับเป็นอย่างไร แต่ ละครที่ออกมาทุกวันนี้  เป็นการนำกากเดนของความน้ำเน่าของสังคมมาประกอบกันกับวิชาชีพ  แล้วนำมาสร้างเป็นละคร   

“ผมไม่ปฏิเสธ เรื่องเหล่านี้ ยอมรับว่า เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นทุกสังคมไม่ใช่เพียงแค่พนักงานต้อนรับ  เท่านั้น แต่การที่จะนำเสนอ กรอบชีวิตของคน ควรจะนำเรื่องที่ดีๆมาประกอบ เช่น ละครของประเทศญี่ปุ่น ที่เคยออกอากาศในประเทศไทย ก็ได้นำชีวิตของพนักงานต้อนรับของบริษัทเจแปนแอร์ไลน์มาสร้างละคร ซึ่งผู้สร้างได้เข้าไปสัมผัสชีวิตทุกขั้นตอนของพนักงานต้อนรับสายการบินนั้น ซึ่งเนื้อหาก็มีการตบตีเช่นกัน แต่คนที่รับชมไม่ได้สนใจในเรื่องการตบตี กลับให้ความสำคัญกับเนื้อหาแบบแผนการฝึกพนักงานต้อนรับจนสามารถออกมาปฏิบัติงาน รวมทั้งการให้บริการผู้โดยสาร อยากถามวาทำไมบริษัทเอ็กแซ็ก ถึงไม่สร้างละครเช่นนี้ แต่กลับนำในส่วนที่เป็นกากเดนของสังคมมาสร้างละคร ซึ่งผมรับไม่ได้ เพราะเป็นวิชาชีพที่ผมทำงานอยู่ ดังนั้นอยากเสนอให้กระทรวงวัฒนธรรม ว่าอยากให้กรณีนี้เป็นกรณีสุดท้าย และผู้จัดละครที่จะสร้างละคร ที่มีกรอบปิดกั้นจะต้องพิจารณาวิชาชีพด้วย หากเป็นวิชาชีพตำรวจ ผู้จัดคงไม่กล้านำเสนอ เพราะมีความเสี่ยงและอันตรายเกินไป แต่การที่นำวิชาชีพพนักงานต้อนรับมาสร้างละคร คงมีความรู้สึกว่าไม่เป็นไร  แต่ควรจะนึกถึงคนบ้างพนักงานต้อนรับมีเป็นหมื่นๆคน ไม่ใช่แต่พนักงานการบินไทยเท่านั้น”

สำหรับ “สงครามนางฟ้า” นั้นเป็นผลงานของผู้ประพันธ์ที่ใช้นามปากกา “แอร์กี่” ที่ก่อนหน้านี้เธอได้เข้ามาเขียนเรื่องราวชีวิตเป็นนิยายในพันทิปชื่อ “ชีวิตรันทด เรื่องจริงผ่านคอม” ... หลังจากนั้นไม่นาน นิยายของ “แอร์กี่” ก็กลายเป็นเรื่องฮิตติดกระแสในพันทิป และทำให้ชื่อ “แอร์กี่” ติด smart search ของพันทิปเป็นระยะเวลายาวนานทีเดียว ต่อมาผู้จัดละครค่าย exact ได้ขอนำนิยาย “ชีวิตรันทด เรื่องจริงผ่านคอม” มาสร้างเป็นละคร และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “สงครามนางฟ้า” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวโดย บี น้ำทิพย์, ก้อง สหรัถ ป้อง ณวัฒน์ ร่วมด้วยดาราชื่อดังอีกมากมาย