อวสานศึกนางฟ้า! เอ็กแซ็กท์ถอย ยอมลดตบ-ชุดหวิว

“สงครามนางฟ้า” ยุติ เอ็กแซ็กท์ยอมลดฉากตบ ปรับเสื้อผ้า เพิ่มเนื้อหาส่วนดีๆ ของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ด้านสหภาพฯ แรงงานการบินไทยพอใจ ย้ำจะจับตาดูความเปลี่ยนแปลง

วันนี้ (25 ม.ค.) ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้มีการจัดเวทีกลางไกล่เกลี่ยระหว่างสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย กับผู้แทนผู้ผลิตละคร “สงครามนางฟ้า” กรณีที่ทางสหภาพแรงงานฯได้ขอให้มีการระงับการออกอากาศละครเรื่อง สงครามนางฟ้า ทาง ททบ.5 เนื่องจากมีเนื้อหาของตัวละครที่ประกอบอาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินบิดเบือนไปจากความจริง มีการตบตี ทำให้เกิดความเสื่อมเสียแต่อาชีพนี้ โดยมี นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร รองปลัด วธ.เป็นประธาน ใช้เวลาหารือราว 1 ชั่วโมง

นายนิพนธ์ ผิวเณร ผู้กำกับละคร สงครามนางฟ้า กล่าวว่า ทางผู้ผลิตจะมีการดำเนินการแก้ปัญหาดังนี้ 1.จะมีการปรับลดเนื้อหาละครสงครามนางฟ้าลง ภาพความรุนแรง ตบตี ขัดขากันของพนักงานต้อนรับระหว่างปฏิบัติหน้าที่ หรืออยู่ในเครื่องแบบจะถูกตัดออกทั้งหมด
 
2.สั่งให้ฝ่ายเสื้อผ้าให้แก้ไขให้ความยาวของกระโปรงยาวขึ้นกว่าเดิมอีก 2 นิ้ว
 
3.จะเพิ่มเนื้อหาละครที่สื่อให้เห็นว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินทำงานหนัก เพื่อผู้โดยสาร โดยจะทำเป็นฉากสั้นๆ แทรกในเนื้อหาละครเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าขณะนี้ละครถ่ายทำไปแล้วเป็นจำนวนมาก ต้องมาตัดเนื้อหาบางตอนทิ้ง แล้วทำใหม่เข้าไป อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ไม่คิดว่าเป็นความเสียหาย เพราะอยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจ รู้สึกดีขึ้น ทั้งทางสหภาพแรงงานฯ หรือผู้ชม จะต้องได้ดูละครที่เนื้อหาเข้มข้น ต่อเนื่อง และมีดความสนุกเหมือนเดิม

“ในส่วนที่เราตัดเนื้อหาความรุนแรงออกไปนั้น จะมีการถ่ายซ่อมใหม่ แม้ละครเรื่องนี้จะลงทุนไปสูงมาก ผมเดินทางไปถ่ายทำกันต่างประเทศ เช่าพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิเอง เสื้อผ้าตัดใหม่ทั้งหมด แล้วต้องมาตัดออกแล้วถ่ายใหม่ ก็ไม่ถือว่าเป็นความเสียหาย หากทุกฝ่ายสบายใจและมีความเข้าใจอันดีต่อกัน และยอมรับว่า เมื่อมีการเผยแพร่ข่าวร้องเรียนเรื่องเนื้อหาละครออกไป ทำให้เรตติ้งของละครดีขึ้น แต่ทางผู้ผลิตเห็นว่าเรตติ้งที่ได้จากด้านลบแบบนี้ เป็นเรตติ้งไม่น่าภาคภูมิใจเลย บทเรียนเรื่องนี้จะทำให้ผู้ผลิตละครได้ตระหนักว่า การทำละครออกมาเรื่องหนึ่งนั้น จะต้องดูแลเรื่องผลกระทบต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องด้วย ไม่ถึงกับต้องระมัดระวัง แต่ต้องทำงานให้รอบคอบมากกว่านี้” นายนิพนธ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ ศรีนวล รักษาการประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย กล่าวว่า ทางสหภาพฯรู้สึกพึงพอใจที่ทางเอ็กแซ็กท์ ได้ทำตามข้อเสนอของทางสหภาพฯเรียกร้องที่จะมีการปฏิบัติให้ดีขึ้น ทั้งนี้ คงจะต้องให้ทุกคนช่วยกันจับตามองว่า ละครเรื่องสงครามนางฟ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นหรือไม่ นอกจากนี้ ตนเห็นว่า ละครเรื่องใดที่มีฉากที่มีความรุนแรง ควรจะมีการขึ้นข้อความเตือนด้วยว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรจะปฏิบัติตาม ดีกว่าขึ้นแค่สัญลักษณ์ น.13 ซึ่งบางครั้งหลายๆ คนอาจจะไม่เข้าใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อตกลงกันได้ด้วยดีแล้ว จะมีการจับมือระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายหรือไม่ และการออกมาเรียกร้องในครั้งนี้เป็นการเชื่อมโยงกับการหาเสียงเลือกประธานสหภาพฯคนใหม่ด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันได้ดีแล้ว ก็ควรที่จะจับมือกัน ส่วนประเด็นหาเสียงนั้น ตนตอบได้เลยว่า เรื่องของการเรียกร้องความถูกต้องเกี่ยวกับละครสงครามนางฟ้า ไม่เกี่ยวข้องกันอะไรกันเลยกับเรื่องของการหาเสียงเลือกตั้งประธานสหภาพฯ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการเรียกร้องเพื่อความถูกต้องทางสังคมและวิชาชีพเท่านั้น

“ผมจะไม่ใช้ประเด็นชาวบ้านมาหาเสียงเลือกประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยที่เป็นเรื่องของภายใน ซึ่งไม่รู้ว่ามีประเด็นแบบนี้ออกมาได้อย่างไร ถ้าผมลงเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ก็ว่าไปอีกอย่างหนึ่งที่น่าจะนำเชื่อมโยงกันได้ อย่างไรก็ตาม ผมขอเน้นย้ำว่า เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งประธานสหภาพฯแต่อย่างใด” นายสมศักดิ์ กล่าว

ด้าน นางฉวีรัตน์ กล่าวว่า การหารือในวันนี้จับลงด้วยดีทั้ง 2 ฝ่าย ทางผู้ผลิตละครยินดีที่จะปรับแก้เนื้อหาละครตามที่สหภาพแรงงานฯร้องขอ ทั้งการลดทอนเนื้อหาสาระ การดูแลเครื่องแบบการแต่งกาย ลดความรุนแรงลงด้วย เป็นสิ่งที่ทางผู้ผลิตละครยอมรับ ซึ่งทางสหภาพแรงงานฯพอใจ และยังเสนอข้อคิดเห็นกรณีดังกล่าวให้ วธ.คอยดูแลปัญหาที่จะเกิดขึ้นในลักษณะนี้ต่อไปในรูปแบบของคณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ต่อไป รวมทั้งจะเชิญให้ทางสหภาพแรงานฯ ผู้ผลิตละคร มาเป็นเครื่อข่ายหนึ่งในการช่วยกันดูแลเนื้อหาสื่อสร้างสรรค์ และหาทางออกในแนวทางที่สร้างสรรค์ต่อไป เป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นสังคมเกิดความตื่นตัว ทาง วธ.ในฐานะหน่วยงานกลางสร้างความเข้าใจกันขอขอบคุณทั้ง 2 ฝ่ายด้วย

“ในส่วนของ วธ.จะถือกรณีนี้เป็นกรณีศึกษาในการทำงานต่อไป นำเสนอต่อคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องเนื้อหาความเหมาะสมของสื่อ หรือเรตติ้ง คณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กระตุ้นให้ภาครัฐ ประชาชนมีส่วนร่วมกำหนดทิศทางสื่อ จะมีการพบปะกันเพื่อสร้างความเข้าใจที่ดี และนำเสนอสิ่งที่ดีต่อสังคมต่อไป” รองปลัด วธ.กล่าว