xs
xsm
sm
md
lg

"แหม่ม" แจงที่มา "โอ้โห" โหวตชนะใจผลสำรวจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เปล่าเลียนแบบ "แหม่ม" เผยชื่อหนังสือ "โอ้โห" ต้นคิดคือ "เปิ้ล" และเป็นหนึ่งในชื่อที่อยู่ในแบบสอบถามวัดความชอบจากผลสำรวจ ลั่นคงไม่ทำให้เข้าใจผิดอีก ฟุ้ง หวังให้หนังสือขายดีแม้ยอมรับว่าอยู่ในความเสี่ยงกับการลงทุน บอกกดดันต้องวิ่งหาสปอนเซอร์เอง

เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว สำหรับนิตยสารบันเทิง "OHO" (โอ้โห) นำทีมบริหารงานโดย "แหม่ม-วิลลี่-เปิ้ล-หอย" หลังจากที่มีกระแสข่าวว่าสาเหตุที่ทั้งหมดยอมลงทุนคลอดนิตยสารบันเทิงน้องใหม่ ก็เพื่อจะแข่งกับนิตยสาร oops! ของ "นิด อรพรรณ วัชรพล" บอสเก่าคุณแม่ลูกหนึ่งหลังเดินออกจาก "โพลีพลัส" ไม่นาน โดยทั้งชื่อของหนังสือซึ่งเป็นคำอุทานเหมือนกันแล้ว ภาพรวมเนื้อหาข้างในดูไม่แตกต่างอะไรกันมากด้วย โดยทั้งสี่ได้เปิดใจถึงที่มาในการทำนิตยสารเล่มนี้ว่า.....

แหม่ม : "เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สุดค่ะ"
วิลลี่ : "ตามแนวธุรกิจที่เราทำอยู่คือมีอีกทาง ทำละคร ทำหนัง หรือนิตยสารบันเทิงและก็ทำเพลง วิทยุ เลยคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งที่น่าจะเอื้อกันและส่งเสิรมซึ่งกันและกันได้และต่างฝ่ายต่างสามารถอยู่ได้ในเศรษฐกิจแบบนี้ จุดแข็งของเราเป็นยังไงผมไม่แน่ใจมีจุดแข็งหรือเปล่า เพราะเราก็พยายามทำให้รอดไปเฉยๆ"

แหม่ม : "มีค่ะ ก็เป็นรูปแบบหรือแบบแนวทางที่เราถนัด เรื่องอารมณ์ดียิ้มๆ มีความสุข"
เปิ้ล: "มีคอนเท้นท์นึงน่าสนใจอันนี้แหละเป็นจุดแข็ง "หอยสอยมาเล่าครับ"
หอย: "เป็นการเป็นนักข่าวครั้งแรกในชีวิตนะครับ โดนสัมภาษณ์มาเยอะแล้วลองมาเป็นนักข่าวไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเลย เป็นการสัมภาษณ์ไม่เหมือนใครตามสถานการณ์ของแขกที่เราไปสัมภาษณ์ คนแรก ตูน บอดี้สแลมครับ"

แจงสาเหตุที่นำคู่แม่ลูก "หมิว-โบ-แหม่ม" ขึ้นปกฉบับปฐมฤกษ์ เพื่อให้ตรงกับคอนเซ็ปหนังสือที่เพิ่งจะเริ่มต้นเหมือนกับเด็ก

วิลลี่ :"เป็นหนังสือที่เพิ่งเกิดมาเป็นเด็กๆ อยู่เราก็คิดว่าน่าจะเป็นเซตแม่ลูกมีความหมายที่ดี ขอให้เราเป็นเด็กตัวเล็กๆ เพิ่งจะเริ่มต้นทำวงการบันเทิงแบบนี้ถือซะว่าเอาเด็กๆ ขึ้นปกเราจะได้เหมือนเด็กๆ เพิ่งมาใหม่นะครับ"

เปิ้ล: "ในเรื่องนี้ไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรสักเท่าไรครับ แหม่มเขาจะเป็นคนหาตังค์ หาสปอนเซอร์ วิลลี่ดูแลบริหาร หอยก็สัมภาษณ์ เปิ้ลดูเรื่องอาร์ต"

ปฏิเสธเสียงแข็งรูปแบบหนังสือไม่เหมือนนิตยสาร oops! ของบอสใหญ่ "นิด อรพรรณ"

วิลลี่: "เราจะพยายาททำหนังสือให้ดีที่สุด อันแรกเลยที่เราจะหลีกเลี่ยงคือพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เหมือนหนังสืออื่นๆ มากที่สุด ไม่ให้เหมือนเลย ไม่อย่างนั้นสปอนเซอร์จะไม่ซื้อเรา"
เปิ้ล :"ถ้าคิดว่าไปเหมือนหนังสือเล่มนึงก็ให้คิดว่าไปเหมือนหนังสือทุกเล่มแหละฮะ เพราะเราเป็นหนังสือบันเทิงเหมือนกัน"
วิลลี่ : "คงเน้นที่ผู้อ่านชอบมากกว่า ไม่ได้เน้นข่าวของเราเอง อย่างนึงหนังสือต้องอยู่ได้ที่ตัวเขาเองด้วยไม่ได้รับการสนับสนุนจากทีวีหรืออย่างใด"

"แหม่ม" รับกดดันต้องวิ่งเต้นหาสปอนเซอร์เอง..."มันก็กดดันตามเศรษฐกิจนะคะแต่ว่าก็ต้องทำ แต่ถ้าเราอยู่เฉยๆ ก็ไม่มีสปอนเซอร์เข้าเราก็ต้องไปหาเอง ซึ่งเราก็ได้รับการตอบรับที่ดี เรื่องการลงทุนก็หลายล้านบาทเหมือนกันแต่การทำธุรกิจมันย่อมอยู่ในความเสี่ยงอยู่แล้วค่ะ"

ส่วนชื่อหนังสือ "OHO" ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนตั้งให้คล้ายกับชื่อของนิตยสาร oops! ลั่น ทุกอย่างถูกโหวดขึ้นจากผลสำรวจ

"แหม่มไม่ได้เป็นคนตั้งค่ะ แหม่มไม่มีชื่อที่ตั้งๆ มาเข้ารอบเลย เราไม่ได้เป็นหัวครีเอทีฟก็จะมีคนโน้นคิด คนนี้คิด ตั้งแล้วก็เสนอกันมาแล้วเสร็จทำแบบสอบถาม 500 ชุด แล้วโอ้โหเป็นชื่อที่พี่เปิ้ลตั้ง ปรากฎว่าเขาทำแบบสอบถามแล้ว ชื่อที่มาวินคือโอ้โห จะได้เข้าใจและเขียนกันถูกทางกันหมด"

"ถามว่าคาดหวังมั้ย ก็อยากให้ขายดีๆ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ขณะเดียวกันมันเป็นเรื่องของสองทาง อยากให้ขายดีๆ และหาเรื่องราวดีๆ นำเสนอให้คนอ่านด้วย เป็นเรื่อง two way ความเป็นแหม่มไม่ได้เกี่ยวกับยอดขายเลยค่ะ อย่างที่บอกเราไม่ได้มีส่วนร่วมอะไร เราแค่ขายโฆษณา คุณก็ไม่รู้ว่าโฆษณาตัวไหนเราไปขาย เราไปหาลูกค้าคนไหนบ้าง เป็นเบื้องหลังมากๆ ส่วนเบื้องหน้าเป็นทีม บก.จัดการ แหม่มไม่ได้มีส่วนอะไรมากมาย อยู่ที่เนื้อหา การนำเสนอ รูปแบบมากกว่าค่ะ คุณภาพงานมากกว่าค่ะ"


กำลังโหลดความคิดเห็น