"อ้อม พิยดา" เปิดใจหมั้นกับแฟนหนุ่ม "อาร์ต ศรา" แน่ 4 ก.ค. เผยฝ่ายชายเป็นคนดี นิสัยดี เจ้าตัวยิ้มกริ่มบอกปีนี้ปีทองโชคดีทั้งงานและความรัก ก่อนปัดข่าวสินสอด 100 ล้าน บอกแล้วแต่ฝ่ายชาย
ปิดปากเงียบมานานในที่สุดในช่วงบ่ายที่ผ่านมาของวันนี้(17) นางเอกชื่อดัง "อ้อม พิยดา อัครเศรณี" ก็ยอมออกมาพูดถึงกระแสข่าวงานหมั้น-วิวาห์กับแฟนหนุ่ม "อาร์ต ศรา จุฒารัตนกุล" ที่มีมาอย่างต่อเนื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้วระหว่างที่มาอัดรายการ ณ สตูดิโอของโพลีพลัส
ทั้งนี้เจ้าตัวเผยว่าสำหรับงานหมั้นนั้นจะมีขึ้นในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้เป็นที่แน่นอน ณ บ้านของตนเองที่ย่านวิภาวดี โดยจะเชิญเฉพาะแขกผู้ใหญ่ที่สนิทและไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าว แต่ทั้งตนและแฟนหนุ่มจะจัดให้มีการแถลงข่าวเปิดใจหลังเสร็จพิธี ณ รร.โซฟิเทล เซ็นทรัลลาดพร้าว ขณะที่ในส่วนของงานแต่งนั้นยังไม่มีกำหนดเนื่องจากต้องรอขอพระราชทานน้ำสังข์ก่อน
“เรื่องหมั้นก็เป็นจริงตามข่าวค่ะ วันที่ 4 ก.ค. พิธีก็จะเป็นที่บ้านอ้อม มีแต่ครอบคัวและญาติๆ ไม่กี่คน ประมาณ 20 กว่าคน แต่ตอนแรกที่ยังไม่ออกมาบอก เพราะอยากจะรอให้เรื่องเรียบร้อยก่อน จะได้บอกกันทีเดียวเลย”
“พี่อาร์ตขอประมาณวันที่ 3 พ.ค. บรรยากาศก็ดีค่ะ พอดีได้ไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปสมุยกัน ไปหลายๆ คน ก็นั่งดูทีวีกันอยู่นี่แหละ แล้วพี่อาร์ตก็บอกว่า กลับไปเราแต่งงานกันมั้ย เราก็ตกใจบอกแค่ว่าจริงเหรอๆ พูดแต่ประโยคนี้จนเขาต้องถามว่า ตกลงว่ายังไง อ้อมก็ตอบว่าค่ะๆ ตอนนั้นลืมตอบว่าเยสไง เพราะเราก็ได้แต่พูดว่าจริงเหรอๆ”
“เพิ่งผ่านวันเกิดมาด้วย พี่อาร์ตก็ให้การ์ดมาใบนึง เขียนว่าขอให้มีความสุขมากๆ นะ แล้วก็อะไรๆ ไปเรื่อย แล้วก็ลงวันที่ สุดท้ายก็เขียนว่า การ์ดใบนี้คงจะเป็นใบสุดท้าย ที่เราจะเป็นแฟนกัน ตอนแรกก็ตกใจทำไมเขียนว่าใบสุดท้าย อ่านจบก็โอเค เราก็หัวเราะกันไป ไม่มีอะไร”
“จริงๆ ก็ไม่ได้ตัดสินใจอะไรมาก เพราะเราก็คบๆ กันดูๆ กันไปอยู่แล้ว แต่ที่ยังไม่บอกใครเพราะอยากกลับมาบอกพ่อกับแม่ก่อน แล้วคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองท่านก็ยังไม่ได้คุยกัน พอบอกท่านเสร็จเราก็เริ่มบอกเพื่อนๆ แล้วก็ขอพระราชทานน้ำสังข์จากสมเด็จพระนางเจ้าฯ ตอนนี้ก็รอว่าท่านจะพระราชทานโปรดเกล้าเมื่อไหร่ จริงๆ ก็เรื่องนี้แหละ ที่อยากรอให้เรียบร้อยก่อน จะได้เช็คว่าวันต่อไปยังไง จะได้บอกพี่ๆ นักข่าวบอกแฟนๆ ทีเดียว ตอนนี้ก็เลยยังไม่ได้ฤกษ์แต่งงานว่าวันไหน เพราะว่าเรื่องหมั้นก็เป็นทางที่บ้านจัดการ”
หลังจากแฟนหนุ่มขอแต่งงานแล้ว ก็กลับมาบอกกล่าวที่บ้าน ซึ่งงานนี้ “เปี๊ยก พิศาล” ถึงกับขอคุยเปิดอกกับว่าที่ลูกเขยแบบลูกผู้ชายเลยทีเดียว
“กลับมาบอกพ่อกันเอง 2 คน ก็พอบอกเสร็จพ่อก็เงียบไป เราก็นึกว่าพ่อจะเหมือนแม่ เพราะพอบอกแม่แม่ก็ดีใจว่าลูกจะแต่งงาน แต่พอบอกพ่อนึกว่าจะได้คำตอบเหมือนกับแม่ แต่ปรากฏว่าเงียบ และก็บอกว่าพ่อก็ดีใจด้วย ที่ลุกทั้งสองคนคิดแบบนี้ แต่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราจะต้องมีอนาคตต่อไป และพ่อก็ขอคุยกับพี่อาร์ตสองคน แต่ก็ไม่ได้มีอะไร คือเราก็ลืมคิดว่าอารมณ์ของพ่อกับแม่ต่างกัน เพราะผู้ชายจะรู้สึกว่านี่ลูกสาวนะ แต่ผู้หญิงก็คือเป็นแม่ไง ก็เลยรู้สึกดีใจกับลูก”
“อ้อมก็ไม่ได้ตกใจอะไร เขาคงอยากจะสอนว่าสองคนตัดสินใจกันแล้ว ก็อยากจะสอนอะไรในสิ่งที่เขารู้มา เขาเคยประสบอะไรของเขามาบ้าง ให้ลูกทั้งสองฟัง ว่ามั่นใจนะ กับเราทั้งสองน่ะ แต่พ่อเขาสอนแต่พี่อาร์ต อ้อมก็เลยไม่ทราบรายละเอียดว่าพูดอะไรบ้าง แต่จริงๆ เราก็นั่งอยู่ด้วยกันทั้งสามคนแหละ แต่บางทีพ่อก็จะใช้อ้อมไปหยิบนั่นหยิบนี่มาสิ เราก็หายไปหยิบ ก็เลยไม่ทราบว่าพูดอะไรกันบ้าง พี่อาร์ตก็ไม่ได้มาเล่าให้ฟัง”
บอกไม่ได้เตรียมตัวเข้าคอร์สเจ้าสาว เพราะปกติก็ดูแลตัวเองอยู่แล้ว แต่ตอนนี้จะเน้นเรื่องออกกำลังกายมากกว่า เพราะกลัวอ้วน
“ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย ไม่ได้ไปเข้าคอร์สอะไร เหมือนเดิมเลยก็มีแต่คนมาถามว่าจะไปฟอกหน้าทำตัวอะไรบ้างมั้ย ก็บอกว่าคงไม่ได้ทำ เพราะชีวิตปกติเราเป็นนักแสดง ก็ทำเยอะกว่าชาวบ้านเขาอยู่แล้ว เช่นฟอกหน้า ออกกำลังกาย แต่ตอนนี้จะกลัวอ้วนมากกว่า เพราะช่วงนี้กินเลี้ยงกันแทบทุกเย็นเลย เลี้ยงผู้ใหญ่ท่านโน้นท่านนี้ ตอนนี้ก็เลยจะออกกำลังกายมากกว่าการไปทำอย่างอื่น”
“เรามีผู้ใหญ่ที่น่ารักมาก ผู้ใหญ่ท่านจัดการให้ทั้งหมดทุกสิ่ง อ้อมกับพี่อาร์ตเลยไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะจริงๆ แล้วงานตรงนี้ก็เป็นของผู้ใหญ่ ไม่ใช่ว่าเราอยากจะทำนั่นทำนี่ เพราะแขกทั้งสองฝ่ายก็คงจะเป็นญาติผู้ใหญ่ทั้งหมด เพราะงานแต่งงานส่วนใหญ่ก็จะมีญาติคุณพ่อคุณแม่ มีเพื่อนของเราบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ใหญ่ทั้งหมด เราก็เลยให้พ่อจัดการ แต่ก็ต้องชวนคนที่รู้จัก ชวนคนที่นับถือมาด้วยอยู่แล้ว ส่วนเรื่องเพื่อนเจ้าสาวยังไม่ได้คิิดเลยค่ะ แต่ในส่วนของวันหมั้นคงเป็นงานส่วนตัว อาจจะไม่ได้เชิญสื่อ แต่จะมีรูปให้”
“ส่วนพิธีหมั้นก็จัดธรรมดาๆ ไม่ได้มีพิธีรีตองอะไร ไม่มีโห่ๆ ฮิ้วๆ จะมาที่บ้านก็จะเป็นญาติๆ กันทั้งหมด หลังจากหมั้นก็คงจะแล้วแต่คุณถกลเกียรติ(บอสเอ็กแซ็กท์)และคุณนิด อรพรรณ แต่คิดว่าหมั้นตอนเช้า ตอนบ่ายก็คงออกมาให้สัมภาษณ์มาพูดคุยกัน หลังจากหมั้นจะแถลงข่าวที่โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล ลาดพร้าว”
บอกตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร เพิ่งตื่นเต้นตอนออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนนี่แหละ
“แรกๆ ก็ไม่ค่อยตื่นเต้นเท้าไหร่นะ แต่มาสัมภาษณ์วันนี้แหละถึงได้ตื่นเต้น มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกมากกว่า ส่วนเรื่องงาน แต่งกันแล้วก็ยังทำเหมือนเดิม ไม่ได้คิดจะหนีไปไหนนะคะ ไม่ต้องเบรกงานยังรับตลอด ยังไม่ได้กะเกณฑ์อะไร เพราะเราสองคนก็ต่างทำงานกันอยู่ ก็เลยไม่ได้้คิดว่าพอแต่งแล้วจะต้องเลิกทำงาน”
พ่อเปี๊ยกเร่งให้มีลูกเร็วๆ แต่คงต้องแล้วแต่ “บอย ถกลเกียรติ” ว่าจะวางแผนชีวิตครอบครัวให้อย่างไร
“พ่อก็เร่งนะ เพราะพ่ออยากอุ้มหลาน แต่จะมีเลยหรือเปล่าก็แล้วแต่คุณถกลเกียรติ เป็นผู้วางแผนครอบครัว ก็รอดูกันต่อไปค่ะ เพราะยังไม่ได้เป็นเรื่องเป็นราวกัน ยังไม่ได้คิดเรื่องนั้น (กลัวเรื่องการให้ชีวิตคู่มั้ย?) เดี๋ยวคงต้องรอให้ใช้ชีวิตคู่ก่อนค่อยมาบอกอีกที ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะ แต่คิดว่าคงเหมือนเดิม ก็ไม่ได้กลัวอะไรนะคะ เพราะเป็นแค่อีกก้าวนึงของชีวิตคนมากกว่า”
เตรียมฮันนีมูนในเมืองไทย
“เรื่องฮันนีมูนพี่เบิร์ด(ธงชัย)ฝากมาบอกว่า เที่ยวไทยครึกครื้นเศรษฐกิจไทยคึกคัก เราก็จะเที่ยวเมืองไทยกัน แต่ยังไม่ได้คิดว่าที่ไหน แต่คงในประเทศนี่แหละ ภูเขาทะเลก็ว่ากันไป หรือไม่ก็อาจจะเป็นที่สมุยก็ได้”
ปัดสินสอด 100 ล้าน แจงพ่อไม่ได้เรียกร้องอะไร ส่วนจะเท่าไหร่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ตกลงกันเอง
“จริงเหรอ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เราก็เข้าใจว่าข่าวไปได้ตลอด จริงๆ แล้วก็ยังไม่ได้คิดว่าจะบอก แต่ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวออกมา เราก็ไม่รู้ว่าจะหมั้นด้วยซ้ำ หรือเราจะแต่งยังไงก็ยังไม่มีแพลนเลย แต่พอเรารู้เราก็บอก อย่างเรื่องสินสอดอ้อมก็เพิ่งทราบเดี๋ยวนี้เอง ซึ่งอ้อมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะเราก็แล้วแต่ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวอีกที แต่คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ไม่ทราบเหมือนกันนะคะ แล้วแต่ทางผู้ใหญ่ พ่อก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร พ่อบอกว่าถ้าจะให้ก็คือให้ลูกให้หลาน ก็คงแล้วแต่ทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เรื่องแหวนหมั้นพี่อาร์ตยังไม่ได้บอก ก็คงแล้วแต่ผู้ใหญ่เหมือนกันค่ะ”