“ยอดรัก” วอนเศรษฐี “แม้ว” บินกลับไทยซื้อบ้าน 15 ล้านด่วน เพื่อเป็นทุนค่ายารักษาโรคมะเร็ง เผยต้องฉีดยาเดือนละ 3 เข็ม เป็นเงินหลายแสนบาท แจงอาการตอนนี้เริ่มดีขึ้น เหตุได้กำลังใจดีจากครอบครัว และแฟนเพลง ย้ำยังตายไม่ได้ ขอสร้างรากฐานให้ครอบครัวอยู่สบายก่อน เปรยกำลังซุ่มทำเพลงขายเอง หวังหาเงินเป็นค่ารักษาอีกทาง
หลังจากที่สร้างความตกใจให้กับแฟนเพลงลูกทุ่งเป็นอย่างมาก สำหรับการตรวจพบเชื้อมะเร็งที่ตับของนักร้องชื่อดัง “แอ๊ว-ยอดรัก สลักใจ” ล่าสุด วันนี้ (11 ก.พ.) เวลา 14.00 น.นักร้องลูกทุ่งตลอดกาลพร้อมครอบครัวได้เดินทางมาพบแพทย์ตามนัด ที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อตรวจดูอาการอีกครั้ง แต่หลังรับการตรวจเสร็จ “แอ๊ว-ยอดรัก” ได้เปิดใจถึงผลการตรวจเช็กอาการในวันนี้ว่า
“วันนี้ทางแพทย์เขาบอกว่าอาการดีขึ้นแล้ว แต่ถ้าหากหลังมีอาการเจ็บหรือปวดอีก แสดงว่ามันเริ่มลามแน่นอน แต่ตอนนี้เรายังสบายใจอยู่ว่าเพราะเราไม่มีอาการดังกล่าวเลย แต่เพื่อให้แน่นอนคงต้องมาตรวจด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ดูอีกครั้งหนึ่ง ก็อีกประมาณ 2 อาทิตย์ ก็คงจะทราบผลแน่ชัด เพราะตอนนี้กับโรคที่ผมเป็นมันก็เป็นอาการที่น่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน”
ส่วนในเรื่องของการที่แพทย์จะให้ย้ายเข้าไปเป็นคนไข้ในโครงการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งของทางโรงพยาบาลนั้น นักร้องลูกทุ่งชื่อดังแจงว่ายังไม่พร้อมเพราะติดอยู่ที่ปัญหาเรื่องการเงิน...
“กับตัวยาที่คุณหมอบอกให้ผมทดลองใช้ดูนั้น ตอนนี้ผมก็ยังขอเอาไว้ก่อน เพราะว่าถ้าเกิดเราเข้าโครงการเขา และใช้ยาตามที่เขาเอามาให้นั้นมันก็แรงมากและแพงมากด้วย คือ ผมสอบถามกลับไปว่าถ้าหากผมรักษาด้วยตัวยาของโครงการนี้แล้วผมจะหายไหม เขาก็ยังไม่กล้าที่จะยืนยันอะไรเลย เราก็เลยคิดว่ามันก็มีค่าเท่ากันกับการที่เรากินยาสมุนไพร ตรงนี้ผมก็ว่ามันน่าจะพอๆ กัน แต่เพื่อความแน่นอนคงต้องรอแพทย์ตรวจอีกครั้งน่าจะดีกว่า”
“กับตอนนี้อาการป่วยก็ของผม ถ้าดูจากภายนอกมันก็เริ่มดีขึ้นแล้ว แต่ทางภายในมันก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย เพราะมันยังมีจุดที่แข็งอยู่เป็นจุดเล็กๆ มันมีส่วนที่ใหญ่ขึ้นมาประมาณนิ้วหนึ่งอยู่ด้านใน แต่ถึงอย่างไรผมก็ยังเชื่อมั่นว่าร่างกายของผม ผมเป็นคนกำหนดเอง ไม่ใช่มะเร็งจะเป็นคนกำหนดตัวผม เพราะฉะนั้นมะเร็งมาอาศัยร่างกายเราอยู่ ผมก็จะต้องสามารถกำหนดให้มันไปจากร่างกายของผมให้ได้ ผมเชื่อตรงนี้นะ”
“แต่ที่ผมไม่อยากเข้าโครงการนั้น เป็นเพราะว่ามันยังไม่มีอะไรที่แน่นอน กับการที่เขาจะยืดเวลาให้ออกไปอีกปีหรือปีครึ่งนั้น ผมว่าปีหนึ่งก็พอแล้ว กับการรักษาที่ผมทำอยู่ตอนนี้ผมว่ามันดีกว่าการที่เราต้องมาทรมานใช้ยาตามโครงการที่มันมีผลข้างเคียงที่เจ็บปวด ที่มันทำให้ตัวเราดูแล้วมีสภาพที่ไม่หล่อ (หัวเราะ) คือ ตอนนี้ทางแพทย์เขาก็แล้วแต่เราว่าจะเอาอย่างไร แต่ตอนนี้เราก็ทานยาสมุนไพรไปก่อน คือ ใครว่าอะไรดีผมก็กินหมดเลยตอนนี้”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าที่ไม่ยอมเข้ารักษาตัวตามโครงการที่แพทย์เสนอให้นั้น เนื่องมาจากมีปัญหาในเรื่องของเงินค่ารักษาหรือเปล่า นักร้องลูกทุ่งชื่อดังเผยว่า
“มันก็เป็นส่วนหนึ่ง เพราะว่าถ้าเราเอาของดีหน่อยเราก็ต้องจ่ายเอง แต่หากเราเอาของโครงการนั้นก็คงต้องรอไปก่อน แต่ผมก็ยังไม่รู้นะว่าเราจะต้องเสียค่ารักษาเท่าไหร่ในการรักษาครั้งนี้ คือผมจะต้องฉีดยา 3 เข็มต่อเดือน จากที่ผมทราบมาก็ตกอยู่ที่เข็มละประมาณเกือบแสนได้”
“ร่างกายตอนนี้ผมก็ปกตินะ คือ ผมพยายามลืมไปแล้วว่าผมเป็นโรคมะเร็ง ก็เลยไม่ได้คิดถึงจุดนั้น เพราะมันจะทำให้ร่างกายเราเหนื่อย และไม่มีแรง ถ้าเราทำลืมๆ มันไปก็จะปกติสุขดี อีกอย่างตอนนี้ผมก็ได้กำลังใจดีจากครอบครัวแล้ว ผมก็ยังมีจุดมุ่งหมายที่ผมอยากทำอีกอย่างหนึ่ง คือ เรายังไม่ได้ทำอะไรสำเร็จ เราก็คิดว่าผมก็ไม่ยอมตายหรอก คือ ถ้าหากยมบาลมาก็ได้ชกกันแน่ เพราะถ้าหากผมทำอะไรไม่สำเร็จผมก็จะไม่ยอมตาย”
“ตอนนี้ผมอยากสร้างอะไรสักอย่าง เพื่อให้เป็นรากฐานของครอบครัว เพราะเขาจะได้ไม่ต้องมาลำบากเมื่อสิ้นเราแล้ว คือ สิ่งที่ผมอยากจะทำนั้น คือ ตอนนี้ผมเคยเสียหายจากบริษัทที่ทำเทปมา ในช่วงนี้อาจจะเป็นโอกาสของผมก็ได้ เมื่อก่อนที่ผมเสียหายเยอะนั้นเป็นเพราะว่าผมทำเพลงแล้วไปจัดจำหน่ายตามบริษัทต่างๆ ทำให้คนปลอมเพลงของผมกันใหญ่เลย จำได้ว่าตอนนั้นผมเป็นหนี้ประมาณ 32 ล้าน แต่ตอนนี้เหลืออยู่อีกประมาณ 6 ล้านบาท”
“แต่ตอนนี้ผมก็พยายามทำเพลงที่บ้านและขายเอง เปิดบริษัทเทปขายเองอยู่ที่บ้าน คือใครอยากซื้อเพลงผมมาซื้อที่บ้านได้เลย ผมคิดว่าคงจะมีคนเมตตาไม่ปลอมของผมแล้ว เพราะเทปชุดนี้ผมทำออกมาเพื่อรักษาตัวผม ถ้าคิดจะปลอมก็ขอให้ผมหายก่อนดีกว่า แต่ตอนนี้มันก็เสร็จเรียบร้อยแล้วนะ แต่จะวางขายตอนไหนคงต้องรอดูกันอีกครั้ง”
ต่อข้อถามถึงเรื่องบ้านที่ก่อนหน้านี้เคยประกาศว่าจะขาย นักร้องลูกทุ่งชื่อดังเผยว่า
“มันคงจะยังไม่มีหรอกครับ เพราะชั่วโมงนี้ใครจะมาซื้อบ้านเก่าๆ ของผม ราคาเป็นสิบๆ ล้านอย่างนี้ อย่างที่ผมบอกว่ามันคงจะมีแต่เศรษฐีใจบุญที่เขาไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้ แต่เขาซื้อเพราะอยากจะให้ ตอนนี้ผมก็หวังอยู่คนเดียวแหละครับ ได้ข่าวว่าเขาใกล้จะกลับมาเมืองไทยแล้วไม่ใช่เหรอ (หัวเราะ)”
“ผมหวังอยู่แค่คนเดียว และถ้าหากผมขายบ้านได้เมื่อไหร่ ผมก็จะกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัดเลย ผมอยากจะกลับไปอยู่ใกล้ๆ ญาติพี่น้องและอีกอย่างผมก็ชอบธรรมชาติมาก ผมอยากกลับไปอยู่ที่บ้านที่ต่างจังหวัดแล้ว”
“แต่ที่ผมประกาศขายไปนั้น ผมจะขายแค่บ้านหลังเดียวที่ผมอยู่เท่านั้น ส่วนที่ดินอื่นๆ ที่ผมมีนั้นตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้ขายนะ เพราะว่าที่ดินพวกนั้นเป็นมรดกของพ่อแม่ของผมต้องเก็บไว้แน่นอน เพราะถ้าผมขายบ้านได้จริงๆ ผมว่ามันคงจะพอกับค่ารักษาตัวและมันก็คงจะเหลือเงินอีกสักก้อนหนึ่งเก็บไว้ใช้ได้”
เผยขอบคุณแฟนคลับที่เป็นกำลังใจให้กันมาตลอด พร้อมแนะเพื่อนในวงการอย่าหักโหมทำงานจนลืมรักษาสุขภาพตัวเอง...
“สุดท้ายนี้ก็อยากบอกกับแฟนคลับ และคนที่เป็นห่วงผมว่าผมรู้สึกซาบซึ้งมาก และก็ดีใจมาก เพราะนึกไม่ถึงเลยว่ายอดรักจะมีคนห่วงใยมากถึงขนาดนี้ ถ้ารู้อย่างนี้ผมคงป่วยตั้งนานแล้ว (หัวเราะ) มันมีกำลังใจมากๆ และผมจะเก็บกำลังใจนี้ให้อยู่ไปนานๆ ตอนนี้ยอมรับว่า อาการดีขึ้นมาก มีคนให้กำลังใจผมเยอะมาก และมันก็ทำให้ผมเชื่อว่าผมจะสามารถอยู่ได้กับทุกๆ คนไปอีกหลายสิบปีเลย ผมอยู่ได้เกิน 6 เดือนแน่นอน”
“อีกอย่างผมก็ขอฝากถึงเพื่อนนักร้องลูกทุ่ง และทุกคนในวงการด้วยว่า จงหาเวลาให้กับตัวเองบ้าง อย่าไปยุ่งกับการงานมากเกินไป เพราะถ้าเราเป็นอะไรไปแล้ว เราจะนึกถึงได้เลยว่าเราเสียดาย เราน่าจะดูแลตัวเราบ้าง พอเราเป็นอะไรไปแล้วมีเงินเท่าไหร่มันก็จะเปล่าประโยชน์ ก็อยากให้ดูแลตัวเองให้มากๆ”
“ส่วนตัวผมกำลังใจทั้งหลายเหมือนฟ้าประทานพรมาให้จริงๆ เพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่าเราป่วยก็เหมือนคนไม่ได้ป่วย เหนื่อยก็เหมือนคนไม่ได้เหนื่อย มันมีกำลังใจมาก ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจผมจริงๆ”
สำหรับใครที่อยากจะช่วยยอดรักติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 085-4446646 โดยโอนเงินผ่านบัญชี มาที่ธนาคารกรุงเทพ “เกรียงศักดิ์ ไพรวัลย์” 247-0-27243-2 สาขาพุทธมณฑล สะสมทรัพย์ หรือ www.aelyodrak.com หลังจากนั้นก็แฟกซ์ใบโอนเงินมาที่ 02-8881341 สินค้าจะถูกจัดส่งให้ทางไปรษณีย์
ส่วนถ้าจะอุดหนุนเทปชุด “ยอดรัก ยอดลูกทุ่งไทย” ที่ทำกับบริษัทอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ก็สามารถหาซื้อได้ที่ร้านเซเว่นฯ
