xs
xsm
sm
md
lg

รู้ตัวอยู่ไม่ถึงครึ่งปี “ยอดรัก” เผยอยากไปตายที่บ้าน พร้อมประกาศขายสมบัติล้างหนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปลงสังขารไม่เที่ยง “ยอดรัก” บอกทำใจได้กับอาการป่วยเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย ลั่นตนอาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน พูดติดตลกไม่ขอทำคีโมเกรงผมร่วงหมดหัวแล้วตอนตายจะไม่หล่อ เจ้าตัวประกาศขายบ้าน 15 ล้านเพื่อใช้จ่ายค่ายาเดือนละหลายแสนและต้องการใช้หนี้ให้หมด วอนเศรษฐีใจดีให้ช่วยซื้อ

ใจสู้จริงๆสำหรับศิลปินลูกทุ่งพันล้าน “ยอดรัก สลักใจ” หลังรู้ว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้ายได้ไม่นาน ร่างกายของนักร้องชื่อดังก็ทรุดลงถึงขนาดลุกไม่ไหวถึง 2 วันเนื่องจากตับไม่ยอมผลิตเลือด ล่าสุดเจ้าตัวได้จัดงานครบรอบวันเกิด 52 ปีในวันนี้ (6 ก.พ.) ที่บ้านย่านพุทธมณฑล สาย 3 พร้อมเปิดตัวอัลบั้มชุดใหม่ “ยอดรัก...ยอดลูกทุ่งไทย” ของค่าย “อนุรักษ์วัฒนธรรมไทย” และได้ยอมรับว่าตนอาจมีชีวิตได้ไม่เกิน 6 เดือนเท่านั้น

“มะเร็งตับถ้ารู้ว่าเป็นปุ๊บก็คือระยะสุดท้าย เพราะไม่มีอาการแสดงออกให้คนรู้ล่วงหน้า ถ้าแสดงออกปุ๊บคือระยะสุดท้าย อาการก็คือปวดท้อง ปวดมากปวดทั้งตัวเลย เราก็ไปหาหมอก็ตรวจเจอ ก็นั่นล่ะคงอยู่ได้ไม่เกิน 2-6 เดือนเต็มที่ ถามว่าหวังว่าจะหายป่วยมั้ยหวังกับไม่หวัง คือ 50-50 เท่ากันเพราะตอนนี้เรารู้อยู่ว่าโรคมะเร็งล้านคนมีแจ็กพอตสักคนที่รอด”

“ผมทำใจตั้งแต่เรารู้ จริงๆ หมอไม่ได้ระบุครับว่าอยู่ได้อีกแค่ 6 เดือนแต่ผมอ่านในหนังสือจะบอกละเอียดหมดและมาเปรียบเทียบกับตัวเราเองมันก็จริง เพราะมะเร็งที่ตับไม่เหมือนที่อื่น และไปหาหมอหมอก็ไม่ได้ให้ยาอะไรกลับมาคือมันเปล่าประโยชน์ไง ก็วันที่ไปโรงพยาบาลวันที่ปวดน่ะแล้วกลับบ้านมา ลุกไม่ได้เพราะตับไม่ทำงานแล้ว ตับไม่ผลิตเลือดแล้ว ขาไม่มีเลือดแล้ว มือไม้เย็นหมด เดินต้องเกาะ”

เมื่อถามต่อถึงอาการป่วยในตอนนี้เจ้าของเพลง “เด็กมันยั่ว” ได้กล่าวว่าอาการคงที่โดยตนรักษาด้วยการกินยาสมุนไพรจากญี่ปุ่นซึ่งต้องใช้เงินเดือนละหลายแสนบาท

“ตอนนี้ไม่ปวดแล้ว สุขภาพตอนนี้คงเดิม คงที่ไปเรื่อยๆ ดูแลตัวเองทุกวันนี้ก็พักผ่อนให้มากๆและทานอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ หนักไปทางผักและน้ำผลไม้บ้าง โปรตีนได้จากเนื้อปลาอย่างเดียวและเป็นปลาบางชนิดเท่านั้น ก็ทานยาควบคุมอาการอยู่ เป็นยาที่มาจากญี่ปุ่น จริงๆ แล้วเป็นยาไทยที่ทำจากสมุนไพรไทย แต่บังเอิญญี่ปุ่นมาค้นคว้าเอาไปและมาซื้อลิขสิทธิ์เอาไปเราเลยต้องไปซื้อลิขสิทธิ์ญี่ปุ่นกลับมา ทานไปก็รู้สึกดี ทานยาสมุนไพรอาจหายก็ได้ก็มีคนหายมาเยอะแต่ยาก็แพงมาก”

“แต่ถ้าเราทานยาก็จะประคองอยู่ได้แค่นี้เราก็ไม่รู้ว่าจะหายหรือไม่หาย แต่จะมียาฉีดเข็มหนึ่งก็เป็นแสนแต่ยังไม่ได้ฉีดเลย วันที่ 11 นี้ต้องไป รพ.ศิริราช ปรึกษากับหมออีกทีว่าจะต้องฉีดอย่างไร ผมก็ต้องดูก่อนว่าถ้าฉีดแล้วมันเดือนละกี่เข็ม และเข็มหนึ่งอยู่ได้สักกี่เดือนเพราะถ้าเดือนละเข็มหรือ 2 เข็มผมคิดว่าผมอยู่แค่ 5-6 เดือนนี้พอแล้ว”

“เฉพาะตอนนี้ค่ายาก็ตกหลายแสนเหมือนกันต่อเดือน เพราะว่าโรคมะเร็งเหมือนโรคพาณิชย์ โรคธุรกิจ มีร้อยล้านก็หมดร้อยล้าน มีพันล้านก็หมดพันล้าน แล้วแต่ใครมีมากมีน้อยแค่ไหน มีมากหมดมากมีน้อยหมดน้อย”




เจ้าตัวยังมีอารมณ์ขัน บอกไม่อยากเข้าเป็นผู้ป่วยในโครงการของ รพ.ศิริราช เหตุกลัวตอนตายไม่หล่อ

“คือถ้าเราเข้าไปปุ๊บเราจะไม่รู้เลยว่าเราจะเป็นอะไรหรือไม่เป็นอะไร เราจะต้องอุทิศร่างกายให้เขาเลย ถ้าหายก็โชคดีแต่ไม่หายก็เรื่องของเขาเลยแต่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายอยู่ดี แต่ผมยังไม่ได้เข้าโครงการเพียงแต่ว่าโรงพยาบาลแนะนำมา ผมก็มาตัดสินใจแล้วถ้าเราออกมารักษาตัวเอง เราจะมีสิทธิ์รอดมากกว่าล่ะมั้ง”

“ถ้าอยู่ในนั้นเราจะเป็นคนไข้ของเขาเลย เราจะไปกินยาอย่างอื่นก็ไม่ได้ ต้องกินยาที่เขาจัดให้เราและต้องฉีดรังสีด้วย ทำครีโม ผมเห็นแล้วคนที่ฉีดหัวโกร๋นหมด ผมเลยคิดว่าถ้าผมจะตายผมตายหล่อๆแต่อย่าไปตายแบบหัวโกร๋นแบบนั้น ไม่เอาน่ะ น่ากลัวและคนที่ฉีด 100 คนจะรอดสักคนมั้ง อย่าให้ผมตายอย่างนั้นเลย ขอหล่อๆ ตายอย่างนี้ดีกว่า”

เอ่ยปากรอปาฏิหาริย์พร้อมลั่นได้แรงใจเยอะจากเพื่อนๆ ในวงการและแฟนเพลง

“ร่างกายเราเท่าไหนก็เท่านั้นครับ การรักษาก็เอาแค่กำลังเราไหว ไม่ไหวเมื่อไหร่เราก็ตายที่บ้านเราดีกว่า มีความสุขกว่า หล่อกว่าด้วย ชีวิตคนเราไม่แน่นอนนะครับเรื่องความตาย ถึงเราไม่เป็นมะเร็งตาย เราก็อาจจะไปกินเหล้าเสียงดังเขาอาจจะยิงเราตาย วันนี้ พรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ เราเป็นมะเร็งเราอยู่ 6 เดือน เราไม่เป็นมะเร็งเราอาจอยู่ได้วันเดียว พรุ่งนี้รถชนเราตายก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าไปสนใจมัน แต่ว่าตอนนี้ขอเวลาที่เหลืออยู่เราจะทำอะไรให้กับสังคมได้บ้างเท่านั้นเอง ตอนนี้ผมก็รอแต่ปาฏิหาริย์”

“ส่วนแรงใจดีมาก เพราะว่าโทรศัพท์ไม่ขาดสายมาจากทั้งในและต่างประเทศ แฟนๆ เก่าๆ จากอเมริกา ที่เดนเวอร์ กับแอลเอ ก็รวมตัวกันเป็นกลุ่มรักยอดรักจัดคอนเสิร์ตแล้วก็นำรายได้ส่งมาช่วย ที่ประเทศอังกฤษจากลูกน้องเก่าๆ ที่อยู่ที่นั่นก็รวบรวมเพื่อนฝูงจัดคอนเสิร์ตหารายได้ส่งมาช่วยค่ายาครับ ก็ขอบคุณแฟนๆ ทุกท่านที่ให้กำลังใจ ไม่ตายเสียคงมีโอกาสไปร้องเพลงให้พวกท่านได้ฟัง”

นักร้องชื่อดังแจงเพื่อนในวงการต่างช่วยทำเพลงให้เพื่อตนจะได้มีเงินจ่ายค่ายา เพราะตอนนี้ตนต้องหยุดทัวร์คอนเสิร์ตทั้งหมดแล้ว

“เพื่อนฝูงในวงการช่วยเหลือเยอะมากครับ แต่อย่างว่าแหละครับ ศิลปินไม่ได้ร่ำรวยอย่างที่เราคิดกันหรอก หาเช้ากินค่ำเหมือนกัน การช่วยเหลือพันครึ่งพัน ร้อยครึ่งร้อย หมื่นครึ่งหมื่น เข็มเดียวก็หมดแล้วครับ”

“อัลบั้มเพลงก็มีเยอะที่มาช่วย อย่างที่เสรี รุ่งสว่าง ทำ หรือย่างที่พี่พยัพยกมาสเตอร์มาให้ทั้งชุดเลย ซึ่งกี่ล้านเราก็ทำไม่ได้ ชุดนี้มีทั้งแอ๊ด คาราบาว ร้อง มีนักร้องเยอะมาก อีกชุดพี่พยัพแต่งเองทั้งหมด อีกชุดก็ผมทำทิ้งเอาไว้ เขามอบให้ลิขสิทธิ์แก่ผมหมดเลย คือเขาอยากช่วยเรา อยากให้เป็นทรัพย์สมบัติของเรา แต่ที่ทำไว้แล้วเป็นของบริษัทอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย อ.ชลธี ทำไว้ ทุกชุดที่ทำก็เพื่อจุดประสงค์คือช่วยผม”

“ถามว่ากลัวว่าจะมีค่ายเพลงมาหวังกระแสผมป่วยแล้วให้ไปทำเพลงเพื่อจะได้โปรโมตอัลบั้มได้ง่ายขึ้นมั้ย จริงๆ มีมาติดต่อเยอะแต่ผมก็ไม่อัด ผมบอกว่าถ้าจะอัดก็ช่วยๆ กันแล้วกัน ไม่ใช่อัดปุ๊บมาแช่งผมว่าเมื่อไหร่จะตายสักทีกูจะได้ออกเทป”

“แต่ถ้าใครจะมองว่าว่าผมทำเพลงเพื่อหาเงินรักษาตัวเองก็ดีนะ เพราะเราต้องการอย่างนั้นอยู่แล้ว ถ้าเราไม่มีโอกาสตรงนี้เราก็ไม่รู้จะไปนั่งขอทานใคร บริษัทเทปก็ไม่มีมาช่วยเราเต็มที่หรอก ก็แค่ส่วนหนึ่งแต่ถ้าส่วนไหนเราช่วยตัวเองได้เราก็อยากทำเพราะตอนนี้คอนเสิร์ตทั้งหมดต้องหยุดพักก่อน ขอดูแลตัวเองก่อนซึ่งถ้าเจ้าภาพคนไหนจะเอามัดจำคืนก็บอกได้แต่ถ้าเจ้าภาพคนไหนอยากจะช่วยค่ายา มัดจำไม่เอาก็ขอขอบพระคุณนะครับ มีหลวงพ่อบอกว่างั้นอาตมาขอเอามัดจำคืนละกัน ก็ไม่เป็นไรครับ ผมก็ทำบุญให้หลวงพ่อละกันครับ”

ส่วนข่าวที่ว่านักร้องชื่อดังมีหนี้สินเยอะมากจนต้องขายบ้านนั้น เจ้าตัวยอมรับพร้อมวอนเศรษฐีใจดีให้ช่วยซื้อด้วย

“หนี้สินผมเยอะมากครับ บริษัทเทปผมเจ๊งไป 30 กว่าล้าน ก็เอาบ้านเข้าธนาคาร 32 ล้าน ที่ใช้หนี้เขามาตอนนี้ก็เหลือประมาณ 5.6-5.7 ล้าน ตีสัก 6 ล้านน่ะ ก็คิดว่าคงจะต้องขายบ้านหลังนี้ถ้าขายบ้านได้เงินพอเหลือบ้างก็กะว่าจะกลับไปอยู่บ้านนอก ใจอยากกลับไปอยู่พิจิตรเพราะอยากอยู่ใกล้พี่น้อง เพราะว่าถ้าไม่ขายพอเราตายปุ๊บครอบครัวเราแย่แน่ เขาไม่มีอะไรที่จะทำงานมีรายได้ 2-3 แสนแบบผมเอามาผ่อนชำระทั้งบ้าน-รถแน่นอน และเพื่อรักษาตัวเองด้วย”

“ตอนนี้อย่าว่าแต่คนติดต่อซื้อบ้านเลย เงาก็ยังไม่มี เพราะเรารู้อยู่แล้วว่ายุคนี้ไม่มีคนมาซื้อหรอก บ้านราคาเป็นสิบๆ ล้าน เพียงแต่วิงวอนว่าอาจจะมีเศรษฐีใจดีสักคนที่ไม่ได้ชอบบ้านหลังนี้หรอกแต่ซื้อเพราะช่วยมัน ก็ขาย 15 ล้านครับ เนื้อที่ประมาณ 300 ตารางวาครับ”



กำลังโหลดความคิดเห็น