xs
xsm
sm
md
lg

DIAMOND EYES ตา-สัมผัส-ผี ตอนที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


DIAMOND EYES ตา-สัมผัส-ผี
ตอนที่ 3 - ซาเอโกะ

เวลากลางคืน ร.ต.อ.เพชร ภูมิไทเปิดประตูบ้าน เอมิยืนสะพายเป้อยู่หน้าประตู
“สวัสดีค่ะ”
“เธอมาขายอะไร”
“หนูไม่ได้มาขายของ แต่จะมาหาพ่อค่ะ”
“พ่อ ใครเป็นพ่อเธอ”
“ถ้าคุณชื่อเพชร ภูมิไท คุณก็คือพ่อของหนู”
เอมิชี้ไปที่ผู้กองเพชร
“ฉัน เฮ้ย ล้อเล่นรึเปล่า”
เอมิยื่นซองเอกสารส่งให้เพชร
“ดูเอกสารนี่ก่อนค่ะ”

ต่อมาที่ห้องรับแขก ผู้กองเพชรอ่านเอกสารสูจิบัตรแล้ววางลง มองกองเอกสารตรงหน้าและภาพถ่ายของซาเอโกะกับเอมิในวัยเด็ก
ผู้กองเพชรเงยหน้ามองเอมิ
“เอางี้นะ เธอก็โตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว เพราะงั้น…”
เพชรหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ออกมายื่นให้
“เอาเงินนี่เก็บไว้ใช้ก่อน ฉันต้องรีบไปทำงาน”
ผู้กองเพชรพูดจบก็รีบลุกขึ้น
“เดี๋ยวค่ะ…หนูไม่ได้ต้องการเงินจากคุณ หนูทำตามความต้องการของแม่ทีต้องการให้หนูได้เจอกับพ่อ แต่ถ้ารู้ว่าเจอกันแล้วรู้สึกแบบนี้ ไม่ต้องเจอจะดีกว่า”
เอมิยื่นกระดาษใบเล็กๆมาให้
“นี่เบอร์มือถือหนู ถ้าพ่อสำนึกได้ว่าควรทำยังไงกับหนู ก็โทร.มาแล้วกัน และคราวหน้าก็ช่วยต้อนรับหนูให้ดีกว่านี้ด้วย”
เอมิพูดจบก็เดินออกไปเอง ผู้กองเพชรมองตาม

วันใหม่ ณ กองพิสูจน์หลักฐานหน่วย “DEI” หรือ Diamond Eyes Investigation ผู้กองเพชร
เดินหน้าเครียดเข้ามาในออฟฟิศไปคุยกับแอบบี้
“คุณช่วยค้นข้อมูลแก็งค์ค้ามนุษย์ที่สระแก้วให้ผมที”
“ไหนบอกว่าจะลาพักร้อนไงคะ”
“ผมเปลี่ยนใจแล้ว”
“ยัยก้อยบอกว่าผู้กองมีสิทธิ์จะตาบอด ถ้าไม่ดูแลตัวเองนะคะ”
ผู้กองเพชรเดินเลี่ยงออกไป

ผู้กองเพชรเดินเข้ามาในห้องทำงาน กดเปิดคอมพิวเตอร์ ก่อนจะรู้สึกว่า ดวงตาซ้ายพร่ามัว จึงหลับตาตั้งสติ
หน้าจอตอมพ์ ผู้กองเพชรกำลังจะกดเปิดเข้ารหัสหน่วย ก็เห็นที่มุมซ้ายล่างมีข้อความแชททักขึ้น
เขากดเปิดก่อนถอนหายใจออกมาอย่างแรง
ผู้กองเพชรค้นหากระดาษจดเบอร์โทร. ของเอมิออกมา แล้วหยิบโทรศัพท์กดโทร. ออก
“ฮัลโหล เธออยู่ที่ไหน”

ต่อมา ... เพชรขับรถมาจอดในที่จอดรถ เขาเห็นเอมิยืนรออยู่ ผู้กองเพชรบีบแตรเรียกเอมิเข้ามนั่งในรถ
เอมิเปิดประตูรถ นั่งนิ่งในรถ
เชานั่งมองพฤติกรรมของเอมิอย่างพิจารณา
“เธอรู้มั้ยว่าการแฮกข้อมูลของคนอื่นมันผิดกฎหมาย ฉันจับเธอเข้าคุกได้นะ”
“อุตส่าห์มาหาพ่อแท้ๆที่เมืองไทย กลับจะโดนจับเข้าคุกซะงั้น”
“ถามจริงๆ ทำแบบนี้ทำไม”
“หนูแค่จะส่องดูประวัติคุณนิดๆหน่อยๆ”
“ฉันไม่เคยเล่นโซเชี่ยลอะไรพวกนี้”
“ถึงคุณไม่เล่นแต่คนในหน่วยคุณเขาก็เล่นกัน คุณมีกิ๊กกี่คนหนูก็รู้”
“เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว เออ ถามหน่อยสิ ชาเอโกะเป็นอะไรตาย”
“แม่ป่วยเป็นโรค SLE รักษาตัวอยู่นานแล้ว แต่อยู่ๆอาการก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว หมอบอกว่าติดเชื้อในกระแสเลือด”
“ทำไมไม่มีใครบอกฉันเลย”
“ทำไมต้องบอกล่ะ”

ผู้กองเพชรรู้สึกผิด

เวลาต่อมา รถเข้ามาจอดในบ้าน มีแม่บ้านชื่อน้อยเปิดประตูให้

ผู้กองเพชรเปิดประตู เข้ามาในบ้าน เอมิเดินตามเชาเข้ามา
เพชรสั่งน้อย ผู้เป็นแม่บ้าน
“น้อย จัดห้องนอนแขกให้ด้วยนะ เธอจะมาอยู่ที่นี่ชั่วคราว”
“ค่ะ”
แม่บ้านเดินไปแบบงงๆ
เอมิวางของก่อน แล้วถือวิสาสะเดินชมทั่วบ้าน
ผู้กองเพชรเดินตามอย่างไม่ค่อยไว้ใจ
เอมิเดินดูซักพักก็เดินมานั่งลงโซฟา
“หนูขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย”
“ถามอะไร”
ผู้กองเพชรพูด แล้วนั่งลงตาม
“พ่อกับแม่เลิกกันทำไม”
เขาเหมือนจะพูดต่อแต่ก็ไม่พูด
“เรื่องส่วนตัวของฉัน ไม่ขอตอบได้มั๊ย”
“แต่หนูเป็นลูก หนูมีสิทธิจะรู้ได้สิ”
“ถ้าอยากได้อะไรก็บอกแม่บ้านเค้านะ”
ผู้กองเพชรตัดบทเดินออกไปเลย ทิ้งความสงสัยเรื่องความรักของพ่อแม่ไว้ให้เอมิคิดตาม

คืนนั้น ผู้กองเพชรยืนอยู่ที่หน้าตู้เก็บของ เขาเปิดตู้หยิบกล่องใบเก่าๆออกมาจากส่วนที่ลึกสุด
เขาเปิดฝากล่องใบนั้นออก แล้วหยิบสิ่งของในกล่องออกมา
เพชรมองดูภาพถ่าย จดหมายเก่าๆ และไดอารี่ด้วยความรู้สึกระลึกถึงเรื่องราวเก่าๆ
เขาเปิดดูไดอารี่ เจอรูปถ่าย เขากับซาเอโกะถ่ายคู่กันที่ภูเขาฟูจิ ด้านหลังภาพเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น
เขาเอารูปถ่ายใส่ไว้ที่เดิมก่อนปิดไดอารี่ลงและพยายามไม่นึกถึงความทรงจำเก่าๆ
เขาเก็บกล่องปิดประตูห้องออกเดินออกไป ด้านหลังประตูห้อง ... ผีซาเอโกะยืนอยู่

ผู้กองเพชรออกมาจากห้องเดินไปที่ครัว
จังหวะที่เพชรเปิดประตูตู้เย็นกำลังจะก้มลง มีเงาคนผ่านไปแว่บๆที่กลางบ้าน เขาหันไปไม่เจออะไร
ผู้กองเพชรหยิบน้ำมาเทใส่แก้ว ยกขึ้นดื่ม เพชรวางแก้วก่อนตัดสินใจหันกลับไปดู
เอมิมากส์หน้าขาว ยืนอยู่ตรงหน้า
“เฮ้ย!” ผู้กองเพชรตกใจ
“หนูเอง”
เขามองเอมิที่มากส์หน้าอยู่
“ขวัญอ่อนไปได้”
เอมิพูดจบก็หยิบขวดน้ำที่เพชรถืออยู่มาเทกินบ้าง
เพชรมองตามเอมิเดินเข้าห้องไป เขาบีบระหว่างตาก่อนเดินไป ก็ได้ยินเสียงอะไรตกพื้นที่ด้านหลัง
เพชรหันไปมอง เห็นซาเอโกะกำลังนอนดิ้นทรมานอยู่ที่พื้น เขาตกใจมาก ! ทำอะไรไม่ถูก
ซาเอโกะนอนดิ้นๆ อยู่ที่พื้น ที่ปากก็มีเลือดและน้ำลายไหลออกมาไม่หยุด
เพชรเดินเข้าไปหาเธอ ...
สายตาเพชรที่มองซาเอโกะ มีแสงสีขาวสว่างวาบเข้ามา

วันใหม่ ที่โรงพยาบาล จักษุแพทย์เนตรดาว พิทักษ์วงศ์ ฉายไฟฉายส่องตาของร.ต.อ.เพชร ภูมิไทซึ่งนั่งที่เก้าอี้ตรวจ
หมอก้อยหยอดยาหยอดตาให้เขาแล้วหยิบผ้าก๊อชมาปิดตา
“ช่วงนี้คุณคงต้องปิดตาแบบนี้ไปก่อนจนกว่าการอักเสบจะลดลง”
“หมอจะให้ผมเป็นโจรสลัดตาเดียวแบบนี้นะ”
“ก็คุณไม่ยอมอยู่บ้าน ก็ต้องปิดตาไว้ ดวงตาจะได้ไม่โดนฝุ่น และอย่าให้น้ำหรือสิ่งสกปรกเข้าตาเด็ดขาด”
“จะไม่ให้ผมล้างหน้าล้างตาเลยเหรอครับหมอ”
“คุณก็ใช้สำลีชุบน้ำสะอาดค่อยๆเช็ดหน้าสิค่ะ”
“โห เสียเวลาตาย”
หมอก้อยทำหน้าดุ
“ก็ได้ๆ ผมจะพยายามทำตามคำแนะนำของหมอครับ”
“ไม่ใช่พยายามค่ะ แต่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดคะ”

ผู้กองเพชรมองหน้าหมอก้อยที่ดูจริงจังมาก

ผู้กองเพชรปิดตาซ้าย

เขาเดินผ่านพนักงานในหน่วย Diamond eyes ที่ทำความเคารพมาตามทาง แอบบี้เดินมาเจอก็ยืนขวางไว้
“ทำหน้าอย่างกับไปโกรธใครมา” ผู้กองเพชรบอก
“กฎของหน่วยห้ามนัดผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับคดีความต่างๆ มาที่หน่วยงาน ผู้กองจำไม่ได้เหรอ”
“พูดอะไรของเธอ ฉันไม่เคยทำอย่างนั้นอยู่แล้ว”
แอบบี้ขมวดคิ้วมากขึ้น
“จะควงใครหัดดูซะบ้าง เด็กจนจะเป็นลูกได้อยู่แล้ว”
ผู้กองเพชรมองไปเห็นเอมิยืนหันหลังให้
“เอมิ!”
เอมิหันหน้ามา
เพชรเดินไปหาเอมิ
“ตาคุณเป็นอะไรอ่ะ”
“ฉันไม่อนุญาตให้เธอมาที่นี่”
“หนูแค่อยากรู้ว่าพ่อทำงานอะไร”
แอ๊บบี้ที่ยืนสังเกตการณ์ได้ยินคำว่าพ่อแล้วหูผึ่ง
“พ่อ!”
เพชรเข้าไปพูดกับเอมิ
“กลับบ้านไปซะ แล้วห้ามมาที่นี่อีก เข้าใจมั๊ย”
เพชรเดินเข้าไปในห้องทำงาน
เอมิมองเพชรแล้วเดินออกไป

ผู้กองเพชรนั่งทำงานอยู่ในห้อง แอ๊บบี้เอาเอกสารเกี่ยวกับการค้ามนุษย์มาให้
“ข้อมูลแก๊งค้ามนุษย์ค่ะ”
ผู้กองเพชรรับข้อมูลมาเปิดอ่าน
“เด็กคนนั้นเป็นลูกของผู้กองจริงๆเหรอค่ะ”
“ผมก็เพิ่งรู้เมื่อไม่กี่วันมาเนี้ย”
“แม่เธอเป็นใครคะ”
“ซาเอโกะเป็นคนญี่ปุ่น คบกันตอนทำงานที่โตเกียว”
“หมายความว่าผู้กองไปทำเค้าท้องแล้วหนีมาใช่ม่ะ” “ผมไม่เคยรู้เลยนะว่าเธอท้อง”
“แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหนคะ”
“ยืนอยู่ข้างหลังเธอ”
แอ๊บบี้หันไปมอง ไม่เห็นใคร
“เล่นมุกอะไรผู้กอง”
“ไม่ได้เล่นมุก เธออยู่ที่นี่จริงๆ” ผู้กองเพชรยืนยัน
แอ๊บบี้รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที
“ซาเอโกะเธอตายไปแล้ว”
“แอ๊บบี้ขอตัวก่อนนะ”

แอ๊บบี้เดินออกไปจากห้อง

เวลากลางคืน ผู้กองเพชรขับรถเข้ามาจอดในบ้าน น้อยเดินเข้ามา

“เอมิล่ะ” เขาถาม
“ยังไม่กลับมาเลยค่ะ”
เพชรรู้สึกเป็นห่วง หยิบโทรศัพท์โทร. ออก
“เป็นพ่อคนก็ลำบากแบบนี้แหละ”
เพชรค่อยๆวางสาย ก่อนหันมาเจอซาโตชิและลูกน้องยืนอยู่เพียบ
“แถมเป็นลูกสาวคนเดียวซะด้วย”
“คุณมาทำไม”
“ฉันมาตามหลานกลับบ้าน”
ผู้กองเพชรลอบมองลูกน้องพ่อของซาเอโกะที่ดูเตรียมตัวมีเรื่อง
“ดูเหมือนเขาอยากจะอยู่ที่นี่มากกว่า ไม่งั้นคงไม่หนีจากญี่ปุ่นมาหาผมถึงเมืองไทยหรอก”
“ถ้าเอมิอยากอยู่ที่นี่จริง ตอนนี้เธออยู่ไหน”
ผู้กองเพชรเงียบ พูดไม่ออก
“พรุ่งนี้ฉันจะกลับมาใหม่ หวังว่าแกคงไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยนะ”
ซาโตชิเดินนำลูกน้องไปขึ้นรถ
เพชรมองเห็นว่า ในรถมีผู้หญิงวัย 30 ต้นๆชื่อ พิม เธอนั่งอยู่ข้างซาโตชิก่อนรถแล่นไป
เสียงสัญญาณข้อความไลน์ดังขึ้น
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความ
“วันนี้หนูไม่กลับบ้าน เอมิ”

กลางคืนต่อมา เอมิยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ริมถนน มีวัยรุ่นชายสองคนเข้ามาแซวล้อมหน้าล้อมหลัง
วัยรุ่น1บอก “รถเมล์หมดแล้วน้อง ให้พี่ไปส่งมั๊ย”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
วัยรุ่น 2 คนมองซ้ายขวาแล้วหาจังหวะล็อคตัวเอมิจะลากไป
จังหวะนั้น ... เพชรขับรถเข้ามาจอดเห็นเอมิกำลังถูกลากไปที่รถคันหนึ่ง
เชาลงจากรถวิ่งไปหาวัยรุ่นทั้งสองคน กระชากตัววัยรุ่น1 ออกมาแล้วชกไปที่หน้า
วัยรุ่น 2 หันมาชักมีดพกจะแทงเพชร เพชรชักปืนเล็งไปที่วัยรุ่นสองคน
วัยรุ่นสองคนเห็นท่าไม่ดีรีบวิ่งหนีไป
ผู้กองเพชรเข้าไปประคองเอมิที่ยืนตัวสั่นตกใจ

ดึกต่อเนื่องมา ผู้กองเพชรและเอมิเดินเข้ามาในบ้าน เพชรเดินไปที่ตู้เย็นเปิดตู้หยิบขวดน้ำออกมาดื่ม เอมิเดินตามมา
“หิวอะไรมั้ย”
“ไม่ค่ะ”
เอมิตอบโดยไม่มองหน้า
“ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ”
“หนูคิดว่าจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว”
“ทำไม”
“ไม่มีหนู คุณจะได้สบายใจ”
“เธอเองก็ต้องเข้าใจฉันด้วย ที่อยู่ๆก็มีใครไม่รู้โผล่มาบอกว่าเป็นลูก ให้เวลาฉันปรับตัวหน่อยได้มั้ย”
เอมิเงียบ … ผู้กองเพชรไม่รู้จะทำยังไง
“คุณทอดไข่ดาวเป็นมั้ย หนูอยากกินไข่ดาว แบบไม่สุก พลิกทีเดียวพอ”

เพชรยิ้มเล็กน้อย

ครู่ต่อมา ผู้กองเพชรเดินมาที่โต๊ะอาหาร พร้อมกับกระทะ เอาไข่ดาววางลงในจานให้เอมิ

“คุณนี่เป็นเชฟได้เลยนะเนี่ย”
เพชรเดินมานั่งฝั่งตรงข้าม
“นานๆทีฉันถึงจะทำอะไรกินเอง”
“งานคุณคงยุ่งน่าดูเลยนะ”
“ใช่”
“แล้วคุณไม่มีแฟนใหม่หรอคะ”
“เคยมี แต่ไปกันไม่รอด เพราะฉันไม่มีเวลาให้ใคร”
เสียงโทรศัพท์เอมิดัง เอมิหยิบออกมา กดวางสาย
“ทำไมไม่รับหละ ได้ยินมาตั้งนั่งรถกลับมาแล้ว”
“คุณตาหนะค่ะ หนูไม่อยากคุย”
เพชรนิ่งไป
“ฉันถามหน่อย ถ้าไม่ใช่เพราะซาเอโกะบอกให้เธอมาหาฉัน ตอนนี้เธอจะทำอะไรอยู่”
“ก็คงอยู่บ้าน อาจจะใช้เงินเก็บของแม่กลับไปเรียนต่อ และก็คงหางานพิเศษทำส่งตัวเองเรียน”
ผู้กองเพชร ตัดสินใจบอก
“วันนี้ตาของเธอมาหาฉัน บอกว่าจะรับเธอกลับญี่ปุ่น”
เอมิวางช้อนส้อม
“คุณจะส่งหนูกลับไปมั๊ยคะ”
ผู้กองเพชรนิ่งคิดเพราะตอนนี้เริ่มลังเล

ในห้องนอน ต่อมา ... ผู้กองเพชรเตรียมตัวเข้านอน หยิบถุงยาออกมา เอายามาหยอดตาตัวเองระหว่างที่หยอดตาอยู่ มีสิ่งของบางอย่างเคลื่อนไหวเองอย่างหลอนๆ กระดาษเอกสารปลิวว่อน
เพชรหันมองไปรอบๆ
“คุณอยู่ที่นี่รึเปล่า ซาเอโกะ”
เพชรพยายามเพ่งมอง แต่ไม่เห็นใคร

ในเวลาเดียวกัน เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่หัวเตียงดังขึ้น แอ๊บบี้กดปิด เสียงโทรศัพท์ก็ดังอีก เธอหยิบ รับสายโดยไม่มองจอ
“ฮัลโหล ใครอ่ะ โทร. มาทำไม คนจะนอน ไม่รู้จักเวลาเลย”
“ผมเอง”
เสียงผู้กองเพชร ทำให้แอ๊บบี้ตาสว่าง
“ผู้กอง! มีอะไรคะ”
ผู้กองเพชรกำลังโทรศัพท์อยู่ที่ห้องนอนในบ้าน
“ช่วยหาข้อมูลผู้หญิงคนหนึ่งให้ผมหน่อย ตอนนี้เลยนะ”
แอ็บบี้มองจอโทรศัพท์ !
“ตี 3 เนี่ยนะคะ ไม่ใช่เวลางานด้วยซ้ำอ่ะ รอเช้าก่อนไม่ได้หรอคะ”
“เดี๋ยวนี้” ผู้กองเพชรยืนยัน
แอ็บบี้วางสายก่อนคลุมโปงแล้วเอาแต่ดิ้นๆๆๆๆ

เช้าวันใหม่ แอ็บบี้วางแฟ้มเอกสารใสๆตรงหน้าผู้กองเพชรที่นั่งจิบกาแฟอยู่
“ตามรายงานแพทย์ระบุว่าซาเอโกะเป็นSLE แต่ด้วยร่างกายที่อ่อนแอมากเลยทำให้มีโรคแทรกซ้อน จนติดเชื้อในกระแสเลือดแล้วก็เสียชีวิตลงในที่สุด”
แอ็บบี้หน้าโรย เพราะนอนไม่พอ
“เรื่องนี้ผมรู้แล้ว”
“รู้แล้วให้หาข้อมูลทำไม”
“คุณดูรูปผู้ตายสิ เหมือนคนป่วยตายปกติที่ไหนกัน”
“ที่ญี่ปุ่นช่วงนี้อากาศติดลบนะคะ สภาพศพจะซีดเร็วก็ไม่แปลก”
“เราสามารถขอดูสภาพศพได้มั้ย”
“ผู้กองก็บินไปญี่ปุ่นสิ”
“ผมซีเรียสนะ”
“ถ้าอย่างนั้นผู้กองคงต้องถามทางครอบครัวเขาแทนแล้วค่ะ”

เพชรพยักหน้าพลางนึกอะไรตามไปด้วย

เวลาต่อมา รถซาโตชิขับเข้ามาจอดหน้าบ้านผู้กองเพชร

ซาโตชิ กับลูกน้องสี่คนลงจากรถ ส่วนพิมนั่งรอในรถ
เพชรเดินมาขวางไว้
ซาโตชิถาม “เอมิล่ะ”
“ผมยังให้คุณเจอเธอไม่ได้ ถ้าคุณไม่ตอบคำถามเรื่องลูกสาวคุณก่อน”
“แกอยากรู้อะไรอีก”
“เอมิบอกผมว่าซาเอโกะเสียชีวิตจากอาการป่วย จริงรึเปล่าครับ?”
“ใช่ ทำไม?”
“ผมแค่อยากยืนยันให้แน่ใจว่าเอมิพูดจริง”
“เธอเล่าอะไรให้ฟังอีก”
“ไม่มากหรอกครับ ส่วนใหญ่ก็เล่าแต่เรื่องตัวเอง หรือว่าคุณมีอะไรปิดบังเอมิอยู่”
“หลานฉันอยู่ไหน ฉันจะพากลับบ้าน”
“ไม่ได้ เธอตัดสินใจจะอยู่กับผมที่นี่”
“ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง อย่าหาว่าฉันใจร้ายล่ะกัน” ซาโตชิบอก
ลูกน้องหลายคนเข้ามาไปในบ้าน เพชรยืนขวางไว้
ลูกน้องมาประชิดตัวเพชร ชักปืนเล็งมาที่เพชร
ผู้กองเพชรอาศัยความเร็วแย่งปืนลูกน้องเล็งปืนไปที่ซาโตชิ
“คุณกลับไปซะ ผมจะดูแลลูกของผมเอง”
พิมนั่งในรถแอบมองไปที่เพชร สีหน้าเรียบเฉย

ฝ่ายเอมิยืนหลบอยู่ที่ริมหน้าต่างชั้นบน แอบมองเหตุการณ์ รู้สึกปลื้มใจที่เพชรปกป้องเธอ

ต่อมาที่โรงพยาบาล แผนกจักษุขณะที่หมอก้อยนั่งตรวจเอกสารไปพลางๆ
เพชรเปิดประตูห้องพักเข้ามา
“มีอะไรรึเปล่าคะ”
“ผ่าตัดตาให้ผมวันนี้เลยได้มั้ย”
หมอก้อยแปลกใจก่อนลุกขึ้นไปดู
“ขอฉันตรวจดูก่อนนะ”
หมอทำท่าจะแกะผ้าปิดตา
“ผมจำเป็นต้องใช้ตาทั้ง 2 ข้างทำงานนะ”
“แต่ฉันบอกให้คุณพัก”
“ผมพักไม่ได้” ผู้กองเพชรยืนยัน
“ที่หน่วยคุณมีคุณทำงานอยู่คนเดียวรึไง แค่ให้คนอื่นแทนไปก่อน อาทิตย์หน้าคุณก็กลับไปทำงานปกติได้แล้ว”
“ผมรอไม่ได้จริงๆ มันสำคัญมาก”
“ยังไงฉันก็ผ่าตัดให้ไม่ได้” จักษุแพทย์เนตรดาว พิทักษ์วงศ์ยืนยัน

เพชรสุดจะทน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี

ต่อมา ... ผู้กองเพชรเดินออกมาจากโรงพยาบาลอย่างหัวเสีย ก่อนตัดสินใจอะไรบางอย่าง ...

เขาแกะผ้าปิดตาออก แล้วค่อยๆมองปรับสภาพสายตา เห็นเป็นภาพปกติ เขาพยายามมองหาซาเอโกะ
ทางด้านผีซาเอโกะยืนอยู่ไกลๆที่ฝั่งตรงข้าม เขารู้สึกเจ็บตา แต่ก็พยายามฝืนเดินไปหาซาเอโกะ

เมื่อผู้กองเพชรวิ่งมาก็ไม่เห็นซาเอโกะแล้ว เขาเดินวนๆดูแถวหน้าห้องดับจิตแล้วเดินเข้าไปภายใน
เจ้าหน้าที่กำลังเข็นศพคนไข้เพิ่งตายมาที่ห้องดับจิต เขารีบหาที่ซ่อนตัว
เจ้าหน้าที่ส่งเอกสารให้คนดูแลห้องดับจิตอ่าน
คนเฝ้าห้องบอก“สาเหตุตายเพราะกินยาพิษ เฮ้อ เด็กสมัยนี้มันคิดสั้นกันจัง”
เจ้าหน้าที่เปิดผ้าปิดหน้าศพออกเห็นผู้ตายนอนตาเหลือก น้ำลายฟูมปาก ทันใดนั้น ศพหันหน้ามามองเพชร

ณ กองพิสูจน์หลักฐานหน่วย DEI แอ๊บบี้วางเอกสารของซาเอโกะลงตรงหน้าเพชร
“ดูจากประวัติคนไข้มีการใช้ยาหลายชนิดรักษาตัว” แอ๊บบี้บอก
“เป็นไปได้มั้ยว่าเกิดจากการแพ้ยาหรือสารปนเปื้อน”
“Oleander สารตัวนี้มันอยู่ในดอกไม้ชนิดหนึ่ง เป็นสารพิษที่ทำให้คนตายได้”

ณ โรงแรมแห่งหนหึ่ง ซาโตชิรับโทรศัพท์จากผู้กองเพชร
“โทร. มาทำไม”
ที่หน่วย DEI เพชรกำลังคุยโทรศัพท์
“ผมบางสิ่งบางอย่างจะบอกเกี่ยวกับซาเอโกะ”
ซาโตชิชักสีหน้า
“ซาเอโกะ มีอะไร”
“ลูกสาวคุณไม่ได้ตายตามปกติ เธอโดนวางยาพิษ”
ซาโตชิตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่เพชรบอก

คืนนั้น ที่ห้องนั่งเล่น บ้านผู้กองเพชร เอมินั่งกินขนมดูทีวีไปเรื่อยๆ
เอมิหยิบขนมในจานพลาดจนขนมหล่นไป
เอมิก้มลงหยิบเห็นเท้าของพิมก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้า
เอมิเงยหน้าขึ้นมามองเห็นพิม สีหน้าตกใจมาก

ซาโตชิในโรงแรมที่พัก คิดกับคำพูดของผู้กองเพชร
“ลูกสาวคุณไม่ได้ตายปกติ เธอโดนวางยาพิษ”
ซาโตชินึกอะไรออกก่อนหยิบแท็บเลตออกมา
ที่แท็บเลตปรากฏภาพจากกล้องวงจรปิดในตัวบ้านที่ญี่ปุ่น
ซาโตชิกดไป... เพื่อเลือกวันที่บันทึกย้อนหลัง

ภายในห้องนอนซาเอโกะ ประเทศญี่ปุ่นเวลากลางคืน ภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นซาเอโกะนอนป่วยอยู่ในห้องนอน
พิมเอาแก้วน้ำใส่ยาพิษมาวางเปลี่ยนกับแก้วของซาเอโกะ

ในห้องเก็บของ เอมินั่งอยู่บนเก้าอี้ถูกมัดมือมัดเท้าไว้กับขาเก้าอี้
“แกจะทำอะไร”
พิมยิ้มมุมปากก่อนเดินเข้ามา
“ฉันจะช่วยส่งแกไปอยู่กับแม่แกไง”
เอมิมองพิมที่เดินไปเดินมาอย่างระแวง
“แกนี่มันเจ้าเล่ห์เหมือนแม่เธอไม่มีผิด ขโมยทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน แม้กระทั่งความรัก”
“เธอเข้าใจอะไรผิดป่ะ” เอมิถาม
เอมิยังคงมองด้วยความหวาดกลัว
“ไม่ผิด..แทนที่ซาโตชิกับฉันจะได้อยู่ด้วยกันแบบมีความสุข กลับต้องมารับภาระดูแลคนป่วยอย่างแม่เธอ ฉันเบื่อเต็มที ก็เลยช่วยทำให้แม่แกตายเร็วๆไง”
เอมิแววตาโมโห
“แกฆ่าแม่ฉัน แกต้องชดใช้!”
“จะตายอยู่แล้วยังจะปากดี”
“ถ้าแกทำอะไรฉัน พ่อฉันไม่เอาแกไว้แน่”
“แต่คดีของแกมันจะไม่เป็นแบบนั้น พรุ่งนี้หนังสือพิมพ์จะพาดหัวข่าวว่า ลูกสาวนายตำรวจกินยาฆ่าตัวตายเพราะน้อยใจพ่อที่ไม่ยอมรับเธอเป็นลูก หึหึ”
พิมพูดจบก็ไปหยิบซองยาพิษเทใส่ลงไปในแก้วน้ำ
พิมถือแก้วใส่ยาพิษมาเทกรอกปากเอมิ
จังหวะนั้น ผู้กองเพชรและซาโตชิเข้ามา
“เอมิ”
พิมวิ่งหนี แต่ถูกลูกน้องซาโตชิรวบตัวไว้
ผู้กองเพชรและซาโตชิไปแก้มัดให้เอมิ

เอมิเริ่มมีอาการทุรนทุรายจากยาพิษทรุดตัวลงหมดสติไป

ต่อมา เอมินอนบนเตียงและถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน แพทย์และพยาบาลวุ่นกับทำการล้างท้องเอมิ

เพชรและซาโตชินั่งเศร้าอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน พยาบาลเดินออกมาแจ้งอาการ
“คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วค่ะ”
ผู้กองเพชรกับซาโตชิดีใจ

เช้าวันใหม่ เพชรและซาโตชิเดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย
เอมินอนหลับ มีสายให้น้ำเกลืออยู่บนเตียงผู้ป่วย
“ตาขอโทษนะเอมิ”
ซาโตชิร้องไห้ออกมา

ต่อมา ผู้กองเพชรเดินมาส่งซาโตชิที่รถหรูหน้าโรงพยาบาล
“ฉันฝากเอมิด้วยนะ เธอเป็นคนเข้มแข็งมาก แต่ก็อ่อนไหวมากเช่นกัน เหมือนกับแม่ของเธอ”
เขามองหน้าพ่อตาชาวญี่ปุ่นที่เพิ่งคุยกันดีเป็นครั้งแรก
“ซาเอโกะอยากให้เอมิเจอพ่อของเธอมานานแล้ว แต่ฉันคอยกีดกันมาตลอด จนกระทั่งเธอจากไป”
เพชรยิ้มด้วยความขอบคุณ
“หมดหน้าที่ของฉันแล้วหละ ตอนนี้เอมิเลือกที่จะอยู่กับพ่อ ฉันขออย่างเดียว…ทำให้เธอมีความสุข เหมือนตอนที่ลูกสาวฉันมีความสุขเวลาที่อยู่กับนาย”
“ผมรับปากครับ”
ทั้งคู่ยิ้มให้กันและกันอย่างลูกผู้ชาย
ซาโตชิก้าวขึ้นรถ คนขับเคลื่อนรถออกไป

เอมินอนหลับอยู่บนเตียงพยาบาลในห้องผู้ป่วย มือของซาเอโกะลูบหัวลูกสาวอย่างแผ่วเบา
เพชรเปิดประตูเดินเข้ามามองเห็นซาเอโกะ
เธอหันมายิ้มให้เพชรเป็นการขอบคุณ
“ไม่ต้องห่วงนะซาเอโกะ ผมจะเป็นคนดูแลลูกของเราเอง”
เพชรเดินเข้ามาข้างเตียงมองเอมิ
เอมิค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา
“เอมิ เอมิลูกพ่อ”
“พ่อ....”

ซาเอโกะยิ้มมีความสุข หมดห่วง ที่ลูกสาวได้มาอยู่กับพ่อ

อ่านต่อตอนที่ 4
กำลังโหลดความคิดเห็น