DIAMOND EYES ตา-สัมผัส-ผี ตอนที่ 1
ตอน "ฆาตกรรมโบกปูน1"
ท่ามกลางบรรยากาศของถนนข้าวสารยามค่ำคืนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
ร.ต.อ.เพชร ภูมิไท รองผู้บังคับบัญชากองพิสูจน์หลักฐานหน่วยDiamond eyes เดินผ่านผู้คนหลายคนบนถนนสายนั้น
“ในทุกท้องที่ย่อมมีทั้งคนดี คนเลวปะปนกันไป แต่มันยากที่เราจะรู้ว่า คนไหนเป็นคนดีหรือร้าย
เพราะคนร้ายส่วนมากมันจะอยู่ในคราบของคนดี ไม่มีพิษมีภัยซึ่งดูด้วยสองตาคงยากที่จะเห็นความเลวร้ายของพวกมัน” เสียงในใจของเพชรบอกตัวเองแบบนั้น
ผู้กองเพชรเดินเรื่อยๆมาหยุดที่หน้าตึกเก่าแห่งหนึ่ง
“ผมจึงมารับหน้าที่เป็นตาดวงที่สามเพื่อควานหาตัวคนร้ายจับมันมารับโทษที่ก่อกรรมไว้....”
ตำรวจนอกเครื่องแบบสี่นายก้าวเข้ามาสมทบ
“และทีมของผมมีชื่อที่เรียกกันลับๆว่า Diamond Eyes”
ผู้กองเพชรเดินนำทีมเข้าไปในตึกร้างแห่งหนึ่ง เขาชักปืนขึ้นมาเตรียมพร้อมจู่โจม
ผู้กองเพชร, ร้อยตำรวจเอกสาริน และตำรวจนอกเครื่องแบบสี่นายก้าวมาหยุดยืนหน้าตึกร้าง เพื่อไล่ล่าคนร้าย จังหวะนั้น เอเย่นต์ค้ายาเสพติดสามคนถือโอกาสวิ่งหนี
ผู้กองเพชรรีบวิ่งไล่ตามไป
ผู้กองเพชรวิ่งไล่กวดเอเย่นต์ค้ายาไปพร้อมกับเหนี่ยวไกยิงปืนใส่เอเย่นต์ทั้งสาม เอเย่นต์คนหนึ่งถูกยิงหน้าอกล้มลง จากนั้นผู้กองเล็งปืนไปที่คนร้ายคนที่สองที่กำลังวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต
คนร้ายคนที่สองถูกยิงเข้าที่หัวจนล้มลงไปนอนตาย !
ผู้กองเพชรกวาดสายตามองหาคนร้ายอีกคน … ทว่า เขาพบแต่ความว่างเปล่า
ครู่ต่อมา ... ผู้กองเพชรถูกคนร้ายอ้อมมาตลบหลัง พร้อมกับหันปลายกระบอกปืนเล็งมาที่เขา
เขามองเห็นคนร้ายจากกระจกเงา ก่อนตัดสินใจกระโดดหลบพร้อมกับหันมายิงสวนกับคนร้าย
แล้วคนร้ายถูกยิงเข้ากลางแสกหน้าล้มลงขาดใจตายทันที
ผู้กองเพชรลุกขึ้นยืนมองดูผลงานตัวเองด้วยความภาคภูมิใจ
ภาพข่าวผู้กองเพชรนำกำลังตำรวจบุกจับเอเย่นต์ค้ายาบ้าปรากฏเป็นข่าวในจอโทรทัศน์
ยามค่ำคืน ภายในผับแห่งหนึ่ง ท่ามกลางบรรยากาศอันสนุกสนาน แสงไฟวูบวาบตามจังหวะเพลงสนุกๆ
ผู้กองเพชรนั่งอยู่ที่เค้าน์เตอร์บาร์ กวาดสายตามองหาใครบางคน
ริต้า สาวสวยวัยรุ่นแต่งตัวเซ็กซี่เดินเข้ามานั่งที่ว่างข้างผู้กองเพชร
เขาหันไปมองสบตากับริต้า สีหน้าของเธอมีความกังวลใจ
“ขอบใจนะที่ให้เบาะแสพวกมัน” เพชรบอก
“มีใครรอดมั๊ย” ริต้าถาม
เพชรส่ายหน้า
“อยู่ตรงนี้คงไม่ปลอดภัย เราไปหาที่เงียบๆคุยกันดีกว่า”
ทั้งสองลุกขึ้นเดินออกไปจากผับไป
ประตูหลังผับเปิดออก เป็นซอยแคบๆ
ผู้กองเพชรโอบเอวริต้าออกมาจากผับ ฉับพลันทันใดก็มีมือใครคนหนึ่งฟาดค้อนเข้าที่ขมับซ้ายของเพชรจนสลบไป
¬ริต้าตกใจกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ...
เพชรนอนหมดสติจาการโดนทำร้าย มีเลือดไหลอาบทั่วใบหน้า เขาค่อยๆลืมตามอง แต่ภาพที่ปรากฏนั้นไม่ชัด ทั้งมืด ทั้งเบลอ !
สายตาของผู้กองเพชร เห็นคนร้ายกำลังฉุดกระชากหญิงสาวจะข่มขืน ... จนเห็นแค่ด้านหลังริต้า
“ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน”
ผู้กองเพชรขยับจะลุกจะเข้าไปช่วย !
คนร้ายอีกคนสวมเสื้อคลุมมีฮู๊ดปิดบังใบหน้า ยกปืนขึ้นยิงมาที่ผู้กองเพชร !
เพชรกัดฟันวิ่งหนี
คนร้ายวิ่งไล่กวดเพชรมาติดๆ จนผู้กองเพชรวิ่งไปจนมุมที่ปลายระเบียงตึก
เขาตัดสินใจกระโดดลงมาจากระเบียง
คนร้ายวิ่งไปชะโงกดู เหนี่ยวไกปืนยิงสะเปะสะปะไปที่พื้นเบื้องล่างจนหมดแม็ก …
รถแท็กซี่คันหนึ่งขับมาบนท้องถนนด้วยความเร็ว
ผ็กองเพชรโผล่พรวดออกมาโบกรถแท็กซี่กลางถนน
คนขับเหยียบเบรกตัวโก่งมองไปที่ผู้กองเพชรที่โชกไปด้วยเลือด ตาข้างซ้ายปิดสนิทจากการถูกของแข็งฟาดที่ขมับและเบ้าตา
ผู้กองเพชรฟุบลงไปบนฝากระโปรงรถแท็กซี่คันนั้น
ต่อมา ... ภายในห้อง ICU ในโรงพยาบาล เพชรนอนสลบอยู่ในห้องนั้น บริเวณดวงตาซ้ายของเขามีผ้าปิดไว้
ในความมืดมิดของดวงตา ...
หมอก้อย พูดขึ้น ...
“คุณเพชรค่อยๆลืมตานะคะ”
ผู้กองเพชรค่อยๆลืมตาอย่างช้าๆ ภาพจากเบลอๆเริ่มชัดขึ้น จนเห็นเป็นใบหน้าเบลอๆของหมอก้อย ที่เธอกำลังมองลุ้นๆกับการมองเห็นของ ร.ต.อ.เพชร ภูมิไท
ผู้กองเพชรปรับโฟกัสสายตา มองไปด้านหลังหมอก้อยที่มีพยาบาลชื่อจุง ยืนอยู่
ที่ดวงตาซ้ายของเพชรหยีตามองไปตรงไป มีแสงสว่างแว่บเข้ามา
“เฮ้ย!”
หมอก้อยบอก“ตอนนี้คุณอาจจะรู้สึกแสบๆตาบ้างนะคะ นั่นก็เพราะว่ายังไม่ชินกับแสง”
“คุณคือ...”
“ดิฉันเป็นหมอที่ผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาให้คุณค่ะ การมองเห็นเป็นยังไงบ้างคะ” หมอก้อยถาม
ร.ต.อ. เพชรจ้องไปที่หน้าของแพทย์หญิง แล้วมองไล่ลงมาที่ป้ายชื่อจักษุแพทย์เนตรดาว พิทักษ์วงศ์
ไล่ลงมาเห็นว่ากระดุมเสื้อบริเวณหน้าอกของก้อยหลุดออกจนเห็นเสื้อชั้นในโผล่
หมอก้อยรีบก้มดูที่เสื้อตัวเอง เห็นกระดุมหลุด รีบติดกระดุมให้เรียบร้อย
“คุณได้รับอุบัติเหตุจนกระจกตาของคุณฉีกขาด แต่ว่าโชคดีนะคะที่มีคนบริจาคกระจกตาให้”
“ใคร”
“ดิฉันบอกไม่ได้คะ วันนี้คุณพักผ่อนสายตาก่อนดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ ฉันจะเช็คให้อีกที”
ยามดึกสงัด ท่ามกลางบรรยากาศวังเวงของโรงพยาบาล ภายในห้องพักผู้ป่วยที่มีแสงสว่างจากด้านนอกสาดเข้ามาภายในห้องพักคนไข้ ดูวังเวงน่ากลัว
ผู้กองเพชรนอนบนเตียง ลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำ
เขาเปิดประตูห้องน้ำ เหมือนมีบางสิ่งเคลื่อนเข้าไปหาเพชรจากด้านหลัง
ผู้กองเพชรเปิดก๊อกน้ำล้างมือ มองหน้าตัวเองในกระจก เห็นเงาผ่านแว๊บด้านหลังไป เขาเริ่มสงสัย รีบออกมาจากห้องน้ำ
เขามองเห็นร่างของผู้หญิงที่อยู่ในเงาดำเดินเข้ามาหาเขา เขาจำได้แม่น มันเป็นใบหน้าของริต้าที่เต็มไปด้วยเลือด หัวข้างซ้ายมีรอยทุบจนยุบลงไป เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งเหมือนโดนฉีกขาด มีเลือดไหลลงมาตามขาทั้งสองข้าง
ภาพนั้น ... เพชรตกใจกลัว
ณ บริเวณเคาน์เตอร์โรงพยาบาล
จุงพูดกับนางพยาบาล
“นี่แกเดี๋ยวฉันไปดูคนไข้ก่อนนะ ....นี่อยู่ตรงนี้คนเดียวระวังผีมาหลอกนะ”
ต่อมา ภายในห้องทำงานจักษุแพทย์
“ขอวัดความดันหน่อยนะคะ” จุงบอก
ผู้กองเพชรถาม
“เมื้อกี้มีใครออกจากห้องหรือเปล่า”
จุงหันไปมองรอบๆห้องก่อนบอก
“ไม่มีนะคะ”
จุงวัดความดันให้ผู้กองเพชรอย่างหวาดระแวง ...
ต่อมา ... หมอก้อยกำลังส่องไฟไปที่ดวงตาซ้ายของผู้กองเพชรที่กำลังจ้องมองเครื่องตรวจสภาพดวงตา
“การมองเห็นภาพอะไรแปลกๆที่คุณพูดถึงอาจเป็นผลกระทบมาจากอุบัติเหตุที่คุณได้รับ”
ผู้กองยืนยัน “ผมถูกทำร้าย ไม่ใช่อุบัติเหตุ”
“ค่ะ สมองของคุณคงได้รับความกระทบกระเทือนจนเห็นภาพหลอนไปเอง”
“ภาพหลอนเหรอ”
ก้อยมองตาเพชรด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ผู้กองเพชรท่าทางกังวล เครียด มองไปที่ด้านหลังของหมอก้อย
ผู้กองเพชรมองเห็นผีอยู่ทุกๆมุมที่เขาหันมอง เพชรพยายามหลับตา ไม่อยากเห็น
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
เพชรรวบรวมสติ ตัดบท เหนื่อยที่จะอธิบายต่อ
“แล้วผมจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่”
“คุณกลับได้วันนี้เลยค่ะ ผลตรวจออกมาแล้วว่าร่างกายของคุณปกติดี”
“ขอบคุณนะครับ ที่ผ่าตัดดวงตาให้ผม”
“มันเป็นหน้าที่ของดิฉันอยู่แล้วค่ะ”
ร.ต.อ. เพชร ลุกจากเก้าอี้
“แต่ถ้าคุณอยากจะปรึกษาเรื่องทางจิตก็โทร.มาได้นะคะ ดิฉันจะแนะนำหมอแผนกจิตเวชให้”
เขาหันมามองหมอก้อยยิ้มเหนื่อยใจแล้วเดินออกไป
เวลาต่อมา ภายในบ้านของร.ต.อ.เพชร ภูมิไท
“ผู้กองครับ ถ้าจะไปไหนเรียกผมนะครับ” ตำรวจคนหนึ่งบอก
“ไม่เป็นไร เอากุญแจรถมา ขอบใจนะ”
เวลาต่อมา น้อยเดินเข้ามาถามผู้กอง
“คุณเพชรหายดีแล้วหรอคะ”
“หายแล้วจ๊ะ”
เพชรเห็นเงาคนอยู่ภายในบ้าน
“น้อยพาใครมาบ้าน”
“ไม่นี่คะ......มีอะไรหรอคะ”
“เปล่าไม่มีอะไร สงสัยผมคงต้องพักผ่อน ผมไปนอนก่อนนะ”
แอ๊บบี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเก็บข้อมูล ของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานหน่วย Diamond Eyes ยืนคุยโทรศัพท์กับหมอก้อยหน้าประตูทางเข้า
“แกว่าไงนะ ผู้กองเพชรบอกว่าเขาเห็นผีงั้นหรอ”
เจ้าหน้าที่คนอื่นๆมองตามเสียงสูงของแอ๊บบี้ เธอเห็นดังนั้นจึงเดินเลี่ยงไป พูดเสียงเบาลง
“แกเช็คดีแล้วใช่ปะ ว่าสมองเขาไม่ได้มีปัญหาอะไร” แอ๊บบี้ถามย้ำ
“สมองผมปกติดี”
แอ๊บบี้หันไปมอง ตกใจที่เห็นผู้กองเพชรเดินเข้ามา
“งั้นแค่นี้ก่อนนะก้อย”
แอ๊บบี้รีบวางโทรศัพท์ จะตัดสินใจถามเพชรทันที แต่ไม่ทันที่เธอจะถามให้รู้เรื่อง เพชรก็เดินหลุดหายไป
ร.ต.อ.เพชร ภูมิไท เดินเข้ามาในสำนักงานหน่วย Diamond Eyes เจ้าหน้าที่คนอื่นๆทักทายตามสมควร
เพชรเดินไปที่โต๊ะของร้อยตำรวจโทดนัย หรือเรียกกันว่า หมวดดอน
แอ๊บบี้ และ เจ้าหน้าที่คนอื่นๆเดินเข้ามาสมทบ
“แล้วตาผู้กองเป็นไงบ้างค่ะ เห็นอะไรผิดปกติรึเปล่า”
“เห็นสิ” ผู้กองเพชรจ้องมองหน้าแอ๊บบี้ “อย่าเขียนคิ้วหนาเป็นปลิงแบบนี้อีกนะ เหมือนจะไปเล่นงิ้วเลย”
แอ๊บบี้โดนเข้าไปหนึ่งดอกก็อายๆ “ผู้กองอ่ะ”
“เอ่อ ผู้กองคะ...” แอ๊บบี้กำลังจะเริ่มต้นถาม
“ว่าแต่คุณรู้จักหมอที่รักษาผมด้วยหรอ” ผู้กองเพชรชิงถามก่อน
“เพื่อนสมัยเรียนด้วยกันนะคะ ผู้กองสนใจยายก้อยหรอ”
“งั้น อีก 15 นาที ประชุมทีม”
ผู้กองเพชรตัดบท ก่อนจะเดินเข้าห้องไป
ภายในห้องประชุม … ประกอบด้วย ผู้กองเพชร หมวดสาริน หมวดดอน แอ๊บบี้ และจ้าหน้าที่คนอื่นๆ
ผู้กองเพชรกำลังเปิดดูแฟ้มเอกสารประกอบคดี ซึ่งมีทั้งรูปถ่ายในที่เกิดเหตุ สำนวนการให้ปากคำของผู้ที่นำเขาส่งโรงพยาบาล เอกสารผลตรวจเลือดจากห้องแล็ป และเอกสารอื่นๆ
แอ๊บบี้หยิบรองเท้าส้นสูงสีแดงซึ่งอยู่ในถุงพลาสติกมาวางตรงหน้าผู้กองเพชร
“เราเก็บได้จากที่เกิดเหตุค่ะ”
ผู้กองเพชรมองจ้องไปที่รองเท้าส้นสูง !
ภาพคืนนั้น ... ริต้าที่ยกขาขึ้นไขว่ห้าง เธอใส่รองเท้าส้นสูงสีแดง ผู้กองเพชรจำได้ติดตา
“ตอนนี้ได้หลักฐานอะไรเพิ่มเติมมาบ้างมั้ย ดอน” ผู้กองถาม
“ตอนนี้ยังไม่มีเบาะแสอะไร เดี๋ยวฉันว่าจะออกไปหาหลักฐานเพิ่มเติม” ร้อยตำรวจโท ดนัยบอก
หมวดดอนคายหมากฝรั่งที่เคี้ยวอยู่ออกมา ทิ้ง แล้วเดินออกไป
เสี้ยววินาทีนั้น ! ในสายตาของผู้กองเพชร ปรากฏร่างของริต้ายืนมองอยู่ข้างหลัง
เพชรตกใจ
ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมนั้น หันมองตามสายตาของเพชร แต่พบความว่างเปล่า !
แอ๊บบี้ถาม “ผู้กองเป็นอะไรคะ หรือว่า..”.
“ส้นสูงข้างนี้ น่าจะเป็นของริต้า” ผู้กองเพชรบอก
“ก็ยังยืนยันไม่ได้นะครับ เพราะตอนนี้เรายังหาตัวริต้าไม่พบ” ร้อยตำรวจเอกสาริน ฝ่ายป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมบอก
“ถ้างั้นก็เป็นไปได้ทั้งสองอย่าง เธออาจจะยังมีชีวิตอยู่ หรือไม่ก็ตายไปแล้ว”
“ข้อนี้เราก็สรุปไม่ได้เหมือนกัน เพราะจากกล้องวงจรปิดในผับที่เราไปตรวจสอบ ก็ดันเห็นเธอกับผู้กองแค่ในร้าน แล้วก็ไม่ชัดว่า มีใครตามออกไปด้วยหรือเปล่า แต่ที่ชัดคือ เธอกับผู้กอง...ไม่รู้ไปทำอะไรกันต่อ” หมวดสารินว่า
แอ๊บบี้ที่แอบชอบเพชรอยู่ แสดงท่าทางไม่พอใจที่เพชรแอบนัดเจอกับริต้า
“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ยืนคุยกันนิดหน่อย”
“แต่ว่าจุดที่ผู้กองออกมาแล้วโดนทำร้ายเนี่ยมันเป็นมุมอับ พ้นรัศมีของกล้องวงจรปิด เราก็เลยไม่เห็นตัวคนร้าย”
“เสียดายที่วันนั้นผมมองเห็นหน้าคนร้ายไม่ถนัด ไม่อย่างงั้น เรื่องคงง่ายกว่านี้”
ในห้องปฏิบัติการหน่วยนิติวิทยาศาสตร์ของแอ๊บบี้ เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ทดลองทางเคมี และคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง
บนโต๊ะทำงาน แอ๊บบี้กำลังรวบรวมเอกสารเกี่ยวกับริต้าอยู่
หน้าจอคอมพิวเตอร์ แสดงผลการตรวจสอบ พบเจ้าของเลือดคือ น.ส. สิรินตรา เกษมคีรี
หน้าจอแสดงผลการเทียบภาพเหมือน และใบหน้าในบัตรประชาชน ตรงกัน !
ตามด้วยจอคอมพิวเตอร์ที่ขึ้นรูปถ่ายของริต้า ประวัติ และข้อมูลอื่นๆ
ร.ต.อ.เพชร ภูมิไท เดินเข้ามาพอดี
"มีความคืบหน้าอะไรมั้ย"
แอ๊บบี้ยื่นแฟ้มเอกสารให้ผู้กอง
"เราทราบผลแล้ว ว่ารอยเลือดอีกรอยเป็นของใคร"
"ว่ามาเลย"
"จากผลการตรวจสอบของส่วนกลาง พบว่า รอยเลือดเป็นของ ริต้า ไม่ผิดแน่ค่ะ"
"ริต้า"
ผู้กองเพชรเหลือบมองไปที่จอคอมพิวเตอร์ เห็นเป็นหน้าริต้า
"ผมคงจะต้องประสานเรื่องการตรวจสอบประวัติอาชญากร แล้วก็ข้อมูลทุกอย่างของริต้าอย่างละเอียด คนร้ายต้องการทำร้ายผม และริต้า นั่นก็หมายความว่า อาจมาจากคดียาเสพติดที่ริต้าเป็นสายให้กับผม"
"แต่เราก็ยังตัดประเด็นชู้สาวออกไปไม่ได้นะคะ เพราะริต้าเองก็มีผู้ชายหลายคนมาติดพัน รวมทั้งผู้กองด้วย"
แอ๊บบี้มองผู้กองเพชรอย่างเคืองๆ
ผู้กองหน้านิ่ง คิดเรื่องคดี
บริเวณลานจอดรถหน้าตึกกำลังก่อสร้างในเวลาต่อมา
รถของผู้กองเพชรขับเข้ามาจอด และเปิดประตูลงจากรถ เดินเข้าไปในตึก
อีกมุมหนึ่งใกล้ๆ แผ่นหลังของวัยรุ่นชายคนหนึ่งยืนหลบมองเพชรอยู่
เขาพลิกหน้ากลับมาเผยให้เห็นเป็นวัยรุ่นชายชื่อซิน สีหน้า แววตาของเขาเต็มไปด้วยความแค้น
ฝ่ายผู้กองเพชรเริ่มรู้สึกเหมือนมีคนเดินตาม เขาหันกลับไปมอง ซินหลบทัน
ผู้กองเพชรเดินเลี้ยวหายเข้ามุมตึก
ซินรีบเดินตามจนมาถึงมุมตึก ผู้กองเพชรโผล่ออกมาล็อคตัวซินไว้ทันที
"ปล่อยกู"
"แกต้องการอะไร"
"กูจะเปิดโปงตำรวจชั่วๆอย่างมึงไง"
ผู้กองเพชรต่อยเข้าที่ปากซินอย่างจัง
"เก็บปากแกไว้กินข้าวดีกว่านะไอ้หนู"
"ไอ้ชั่ว บอกมานะว่ามึงพาแฟนกูไปซ่อนไว้ไหน"
ผู้กองเพชรสงสัยในคำพูดของซิน
"แฟน?"
"อย่าแกล้งทำเป็นโง่เลย ก็ผู้หญิงที่มึงนัดเจอกันไง"
"ริต้าเหรอ"
"ใช่"
ภายในตึกกำลังก่อสร้างผู้กองเพชรและชินนั่งคุยกัน
"ริต้าเป็นสายของฉัน เธอช่วยฉันหาเบาะแสพวกค้ายา"
"ถามจริงๆมีอะไรกันยัง"
"ฉันไม่ใช่เจมส์บอนด์ จะได้ฟันผู้หญิงที่ทำงานด้วยกัน นี่แกรู้จักริต้าได้ไง"
"เฟสบุ๊ก"
"แล้วแกเจอริต้าครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่"
"ตอนนี้"
ชินจ้องมองไปที่ผนังตึกที่กำลังก่อสร้าง
ผู้กองเพชรมองตามไปในทิศทางเดียวกัน เขาอึ้งๆ ที่ซินก็มองเห็นริต้าเหมือนกันกับเขา !
สายตาของทั้งคู่มองเห็นริต้ายืนอยู่ในมุมหนึ่งดูน่ากลัว
ผู้กองเพชรและชินหันหน้ามองกันแล้วหันกลับไปอีกครั้งแต่ร่างของริต้าหายไปแล้ว
สายตาทั้งคู่มองไปที่ผนังตึกเห็นเป็นร่องรอยของร่างกายคนถูกฝังอยู่ในผนัง มีเลือดค่อยๆไหลซึมออกมาจากผนัง
ต่อมา ... ค้อนปอนถูกเงื้อขึ้นทุบผนังปูนจนแตกกระจายออก
ทั้งสองกำลังช่วยกันกระเทาะปูนที่ฉาบเสาไว้อย่างลวกๆ
ปูนค่อยๆหลุดออก เผยให้เห็นร่างที่เน่าเปื่อยของริต้า ที่ถูกกลบด้วยปูนซีเมนต์
ผู้กองเพชร และซิน ค่อยๆ นำร่างของริต้าออกมา พร้อมรองเท้าส้นสูงสีแดงอีกข้างที่แข็งติดกับเท้าของริต้า
ซินช็อกกับสิ่งที่เห็น
"ริต้า!"
ซินค่อยๆไล่มองจนทั่ว เอามือจับไปที่หน้าของริต้า เขาทรุดตัวร้องไห้ เมื่อได้เห็นศพของคนรักอยู่ในสภาพน่าเวทนา
ผู้กองเพชรมองซินด้วยความเห็นใจ รู้สึกแค้นเมื่อนึกถึงความอำมหิตของคนร้าย
ต่อมา ภายในตึกกำลังก่อสร้าง ถูกปิดกั้นพื้นที่ มีนักข่าวรายล้อมเพื่อถ่ายภาพ ทำข่าว
ตำรวจในเครื่องแบบกำลังจดบันทึกเหตุการณ์
แอ๊บบี้ตรวจเช็คสภาพศพเอาถุงพลาสติกห่อมือศพไว้ พร้อมบันทึกข้อมูลและถ่ายรูปศพริต้า และบริเวณโดยรอบอย่างละเอียด
หมวดสารินเดินเข้ามาในสถานที่เกิดเหตุ และเข้าไปคุยกับผู้กองเพชร
"พวกมันต้องชดใช้กับสิ่งที่มันทำลงไป" ผู้กองบอก
"มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ ที่เราจะตามหาตัวคนร้าย เพราะสภาพศพก็ไม่สมบูรณ์ แถมหลักฐานที่จะเชื่อมโยงไปถึงฆาตกรเราก็มีไม่มาก"
ฝ่ายซินร้องตะโกน สติหลุด ด้วยความเสียใจ...
ผู้กองเพชรหันไปมองซินด้วยความเห็นใจ
ทางด้านนักข่าวอาชญากรรมชื่อแสนแสบ อาศัยช่วงที่ผู้กองเพชรเผลอ รีบมุดแถบเหลืองดำ เข้ามาถ่ายรูปศพใกล้ๆ ทำให้แอ๊บบี้มองไม่พอใจ
"นี่คุณนักข่าว คุณเข้ามาในนี้ไม่ได้นะคะ ออกไป!"
"โหย ดุจังครับ ขอผมถ่ายแค่อีกรูปเดียวนะครับ ถ่ายเสร็จจะรีบออกไปเลย จริงจริ๊ง" แสนแสบบอก
ผู้กองเพชรหันไปเห็นก็ส่ายหัว เบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของแสนแสบ
"จมูกไวจริงๆนะนายแสนแสบ" ผู้กองแดกดัน
แสนแสบยิ้มแหยๆ
"สวัสดีครับผู้กองเพชร ผมขอถ่ายรูปตรงนี้นะครับ ถ่ายแค่แป๊บเดียว แป๊บเดียวจริงๆครับ แล้วผมจะรีบออกไปนะครับ สัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือสำรองเลย"
"คุณกำลังรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่อยู่ เชิญออกไปได้แล้ว"
"อย่าเพิ่งรีบไล่กันขนาดนั้นสิคร๊าบ ได้ข่าวมาว่า ผู้กองเอง ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่เหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ เอ๊...เรื่องนี้มันชักจะยังไงๆอยู่นะครับเนี่ย"
"นายอยากจะได้ซักกระทงมั้ยล่ะ"
"no nono!! ออกไปก็ได้ครับ" แสนแสบพูดลอยๆ กวนๆ "ของมันมีกลิ่น ซักวันกลิ่นมันก็จะโชยออกมาให้คนได้รู้เอง จะพยายามปิดยังไงก็ปิดไม่มิดหรอกนะครับ"
แสนแสบเดินออกไปด้วยท่าทางกวนๆ
ผู้กองเพชรคิดตามคำพูดของแสนแสบ มองไปที่ศพ คิดว่ามันต้องมีทางออก
ภายในห้องปฏิบัติการ แอ๊บบี้กำลังใช้กล้องจุลทรรศน์ตรวจสอบคราบบางๆบนแผ่นกระจกใส ที่ถูกย้อมด้วยสีแดง เพื่อหาตัวอสุจิ
หน้าจอแสดงผลการตรวจรหัส DNA
"พอจะรู้อะไรบ้างมั้ยแอ๊บบี้"
"เราตรวจพบ เอซิดฟอสฟาเตส ในช่องคลอดของริต้าค่ะ"
หมวดสารินถาม "พบอะไรนะ พูดให้เข้าใจง่ายๆกว่านี้หน่อยได้มั้ย"
"คือ...มันเป็นเอนไซน์ที่อยู่ในต่อมลูกหมากของผู้ชายค่ะ ทำให้เรารู้ว่ามีคราบอสุจิติดอยู่ภายในช่องคลอด แอ๊บบี้ก็เลยเอามาตรวจสอบ คาดว่าคนร้ายน่าจะข่มขืนริต้าก่อนลงมือสังหาร เพราะมีร่องรอยการต่อสู้ และบาดแผลตามร่างกายหลายแห่งค่ะ น่าจะเป็นเรื่องชู้สาวหรือเปล่าคะ"
เพชรนึกอะไรขึ้นได้
ภายในห้องสอบสวน ผู้กองเพชรลากตัวซินเข้ามาในห้องสอบสวน
"คุณจับผมมาทำไม"
"นายเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย"
"ผมเหรอ"
"ใช่ นายซิน"
"ถ้าอย่างงั้น คุณเองก็เหมือนกัน คุณคือคนสุดท้ายที่อยู่กับริต้าในคืนนั้น"
"เราตรวจสอบพบว่า ริต้าก็โทร. หานายเป็นคนสุดท้ายก่อนตาย คืนที่เกิดเหตุ นายทำอะไร อยู่ที่ไหน" หมวดสารินบอก
ซินหยุดคิดก่อนจะยอมให้การ
ณ สถานที่ประลองความเร็วของรถมอเตอร์ไซค์
ซินกำลังลองรถมอเตอร์ไซด์กับเพื่อนในแก๊งค์ มีเสียงโทรศัพท์มือถือเข้ามา
"ฮัลโหล ตะเองอยู่ไหน" เขาหยุดฟังครู่หนึ่ง "อะเค ได้ๆ แป๊บเดียวถึง"
ชินกล่าว
ในคืนเกิดเหตุ มอเตอร์ไชค์ของซินวิ่งมาบนถนนสายหนึ่ง
"คืนนั้นริต้าโทร. มาบอกผมว่า ให้ผมไปรับเธอที่ผับแต่พอไปถึง ผมก็ไม่เจอริต้าแล้ว"
ซินเลี้ยวออกมาจากซอย มีรถคันหนึ่งพุ่งชนมอเตอร์ไซด์ของซินเข้าอย่างจัง
ซินล้มลงหัวฟาดกับพื้นถนนจนหมวกกันน็อคกระเด็นหลุดจากหัว เลือดท่วม
ซินมองตามรถคันนั้นที่ขับหนีไป ตาค่อยๆปิด ก่อนจะหมดสติไป
ภายในห้องจักษุแพทย์ ในโรงพยาบาล หมอก้อยเปิดผ้าปิดตาของซินออก
"ผมรู้สึกตัวอีกทีก็อยู่โรงพยาบาลแล้ว แก้วตาขวาฉีกขาด หมอต้องผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาใหม่ให้ผม"
ซินค่อยๆลืมตา ภาพที่เบลออยู่นั้นเริ่มชัดขึ้น ซินมองไปรอบๆ
"การมองเห็นเป็นยังไงบ้างคะ" หมอก้อยถาม
"ก็ปกติดีครับ แต่ผมยังแสบๆตาอยู่"
"พักสายตาซักครู่นะคะ แล้วจะค่อยๆดีขึ้นเองค่ะ"
"ขอบคุณนะหมอ"
ซินเหลือบไปเห็นวิญญานคนตายยืนอยู่ในมุมหนึ่ง !
ผู้กองเพชรยังนั่งสอบสวนซิน
"ถ้าไม่เชื่อเรื่องที่ผมพูดไปถามหมอที่เปลี่ยนกระจกตาให้ผมก็ได้นะ"
ผู้กองเพชรนั่งคุยกับหมอก้อยอยู่ในห้องทำงานในโรงพยาบาล
"ดิฉันบอกชื่อคนบริจาคดวงตาให้คุณไม่ได้จริงๆค่ะ"
"แต่มันสำคัญกับการใช้ชีวิตของผมเลยนะครับหมอ"
"ขอโทษจริงๆค่ะผู้กองเพชร"
"โอเคๆ ในเมื่อคุณไม่ให้ความร่วมมือ ผมก็คงต้องใช้วิธีของผม"
ก้อยนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ตัดสินใจถาม
"คุณจะอยากรู้ไปทำไม"
"ก็เพราะผมมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น"
"นี่คุณยังมองเห็นผีอยู่อีกเหรอ"
"ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว แต่เด็กอีกคนที่คุณผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตาให้ก็มองเห็นผีเหมือนกัน"
"คุณหมายถึงน้องผู้ชายที่ขับมอเตอร์ไซด์คว่ำเมื่อเดือนที่แล้วใช่มั๊ย"
"ใช่"
ก้อยรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ยังไม่เชื่อในสิ่งที่เพชรพูด
"แล้วจะยังไงดีค่ะ หรือจะให้ดิฉันเปลี่ยนอะไหล่ให้คุณใหม่" หมอก้อยว่า
หมอก้อยมองผู้กองเพชรอย่างกวนๆ เขามองตอบหงุดหงิด
จังหวะนั้น เสียงโทรศัพท์ผู้กองดังขึ้น เขารับสาย
"ว่าไงดอน อะไรนะ ! ได้ตัวคนร้ายได้แล้วอย่างงั้นเหรอ"
บริเวณแคมป์คนงานก่อสร้าง
ภายในห้องบ้านพักคนงานก่อสร้าง เห็นคนงานชายแขวนคอตายอยู่กับคานมีชาวบ้านมุงดูอยู่
หมวดดอน,แอ๊บบี้ และตำรวจอื่นๆ กำลังเก็บหลักฐาน ผู้กองเพชรเดินเข้ามาหาดอน
ตำรวจรายงาน"ผู้ตายชื่อนายดำรงค์ เป็นคนงานก่อสร้างที่นี่"
"พอมาถึงก็เจอมันก็แขวนคอตายไปแล้ว คงจะกลัวความผิด" หมวดดอนบอก
"เดี๋ยวจะเก็บหลักฐานเพื่อตรวจพิสูจน์ทางนิติเวชให้ละเอียดอีกครั้ง" ตำรวจว่า
"ถ้าเป็นอย่างงั้น คดีก็จะปิดลงอย่างสมบูรณ์" หมวดดอนว่า
นักข่าวแสนแสบสะพายกล้องเดินเข้ามา
"แต่ผมว่ามันจะจบง่ายไปนะครับผู้กอง"
ผู้กองเพชรไม่พอใจ
"ไอ้แสบ"
"ดูๆจากรูปคดีมันน่าจะมีเงื่อนงำอะไรมากกว่านี้ ว่ามั้ยครับผู้กอง"
"ถ้าไม่รีบไปไกลๆ ฉันจะเอาแกไปแขวนคอด้วยอีกคน"
แสนแสบหน้ากวนๆเดินเลี่ยงไป
ผู้กองเพชรไม่เชื่อว่าคดีจะปิดลงง่ายๆ เพราะยังมีสิ่งที่ค้างคาใจอยู่
ผับที่เกิดเหตุเดิม บรรยากาศภายในผับคืนนี้สนุกสนาน ผู้คนครึกครื้น
ผู้กองเพชรนั่งหน้าเครียดอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้น
ชินอยู่ที่ห้องของเขา มองดูจอโทรศัพท์มือถือ เป็นคลิปวิดีโอที่ซินถ่ายกับริต้า ทั้งคู่ดูมีความสุข
แต่ซินนั่งดูคลิปนั้นด้วยความเศร้า
มุมหนึ่ง ริต้ายืนมองซินด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
ซินค่อยๆหันไปเห็นริต้า กำลังจะเรียก เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ซินรับสาย "อะไรอีกอ่ะผู้กอง"
เพชรกับซินยืนคุยกันอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง
"ผมยังเห็นริต้าอยู่แล้วก็เชื่อด้วยว่าเธอยังไม่ไปไหน" ชินบอก
"ชั้นก็เหมือนกัน เหมือนกับว่า เธอพยายามจะบอกอะไรเรา"
"คุณจับคนร้ายได้หรือยังครับ"
"คนร้ายชิงฆ่าตัวตายหนีความผิดไปแล้ว"
"แน่ใจนะครับว่าไม่ได้จับแพะ"
"นายนี่มันจริงๆเลยนะ เรามีผลยืนยันว่า DNA ที่ตรวจพบ กับ DNA ของคนร้าย ตรงกัน ไม่ผิดตัวแน่นอน"
"คนร้ายลงมือแค่คนเดียวเหรอครับ"
ในคืนเกิดเหตุ ผู้กองเพชรโดนปืนจ่อ เพชรเห็นภาพคนร้ายเบลอๆ แต่เหมือนจะไม่ใช่คนงานที่ชื่อ ดำรงค์
"ใช่ คนร้ายไม่ได้มีแค่คนเดียว"
"ผมว่าคุณกับผม คงต้องร่วมมือกันตามหาความจริงแล้วล่ะ"
"นายกับชั้นเหรอ" ผู้กองเพชรถาม
"ใช่ ผมกับคุณ"
"เด็กอย่างงี้อ่ะเหรอ จะมาเป็นบั๊ดดี้ชั้น"
"นี่ผู้กอง ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ แยกแยะได้ อย่าตัดสินคนที่อายุดิ ไหนๆตอนนี้เราก็มีชะตาเหมือนกัน ก็คงต้องลงเรือลำเดียวกันแล้วหล่ะ"
"มีเหตุผลอะไรที่ชั้นต้องลงเรือลำเดียวกับนาย"
"คุณก็จะได้รู้ความจริง แล้วปิดคดีเพื่อความถูกต้อง ส่วนผมจะฆ่ามันเพื่อแก้แค้นให้ริต้า"
ผู้กองเพชรมองซินแบบลังเล ยังไม่มั่นใจในตัวซิน
ภายในห้องนอนคอนโดแห่งหนึ่ง
ชายวัยยี่สิบห้าชื่อ แจ๊ค นอนสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น แจ๊คหันรีหันขวางไปหยิบปืนออกมาจากลิ้นชักเตรียมพร้อม
แจ๊คค่อยๆเดินไปที่ประตู เปิดประตูห้อง
ผู้กองเพชรยืนอยู่หน้าห้องจับปืนแจ๊คไว้แล้วบิดข้อมือจนปืนตกลงพื้น
"โอ๊ยๆ ยอมแล้วครับผู้กอง" แจ๊คว่า
ผู้กองเพชรปล่อยมือแจ๊ค เดินเข้ามาในห้อง กวาดสายตามองไปรอบๆ
"แจ๊ค แกรู้เรื่องริต้าถูกฆ่าตายแล้วใช่มั๊ย"
"รู้แล้วครับ ข่าวออกจะดัง แต่ที่แน่ๆมันไม่ใช่ฆ่าข่มขืนธรรมดา มันมีเบื้องหลังมากกว่านั้น"
"แกรู้อะไรมา"
"ผมจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้อีก ผมไม่อยากโดนฆ่าแบบริต้า"
"ถ้าแกไม่อยากเป็นแบบริต้า แกก็ต้องรีบให้เบาะแสกับฉัน เพื่อความปลอดภัยของแกด้วย"
แจ๊คอึกอัก ก่อนตัดสินใจพูด
"วันที่ผู้กองไปบุกไปจับแก๊งค้ายา รู้มั้ย ผู้กองฆ่าใครตาย"
วันเกิดเหตุ ผู้กองเพชรยิงแดนตายบนดาดฟ้า
"ฉันยิงป้องกันตัว"
"คนที่ผู้กองยิงตาย มันชื่อแดน เป็นน้องชายของหัวหน้าแก๊ง"
"นี่แกจะบอกว่ามันเป็นแค่การล้างแค้นเหรอ"
"ใช่ แล้วริต้าก็เป็นสายให้คุณเลยโดนเก็บไปด้วย"
"แต่แกก็เป็นสายให้ฉัน"
"ใช่ไง ผมถึงต้องหลบๆซ่อนๆอยู่อย่างนี้"
"แกรู้มั้ย มันเป็นใคร"
"ผมก็ไม่รู้ ไม่มีใครเคยเห็นหน้าตาของมัน รู้แต่ว่ามันสั่งงานผ่านมาทางน้องชาย"
ผู้กองเพชรนึกถึงเหตุการณ์ตอนโดนยิง
ภาพของคนร้ายที่สวมฮู๊ดปิดบังใบหน้ายกปืนยิงมาที่ผู้กองเพชร
"ระหว่างนี้แกคงต้องหาที่ซ่อนตัวใหม่ จนกว่าฉันจะได้ตัวมัน"
"ก็คงต้องเป็นแบบนั้น" แจ๊คว่า
ผู้กองเพชรเดินมาที่รถ ใครคนหนึ่งสวมหมวกกันน็อกซุ่มอยู่บนรถมอเตอร์ไซด์
ขณะที่เขากำลังสตาร์ทรถ ผีริต้าโผล่มาที่กระจกข้างรถ
ทันใดนั้นคนขับรถมอเตอร์ไซด์ก้าวเดินมาชักปืนยิงผู้กองเพชร
กระสุนทะลุกระจกประตูแตกกระจาย
ผู้กองก้มหลบไปใต้คอนโซลรถ
มือปืนลงจากรถมอเตอร์ไซด์ตามมาจะยิงซ้ำ
ผู้กองเพชรยกปืนขึ้นมายิงใส่มือปืน
มือปืนเห็นท่าไม่ดี วิ่งหลบหนีไป ผู้กองเพชรเปิดประตูรถวิ่งไล่ตามไป
ผู้กองเพชรวิ่งไล่ตามมือปืนพร้อมยิงปืนต่อสู้ เขาหยุดวิ่ง กวาดสายตามองหามือปืน แค่ไม่พบ
ดวงตาด้านซ้ายของเพชรมีสีแดงเข้มเพราะในดวงตามีเลือดออกมา
ผู้กองเพชรรู้สึกแสบตาจนน้ำตาไหลจากตาซ้าย
อ่านต่อตอนที่ 2