ละครซีรีส์ "หมอผี" ตอนที่ 2 - ปู่โสมเฝ้าทรัพย์
ตอนกลางคืน ภายในห้องคอนโดหรู
บอย ชายวัยกลางคน เดินเข้ามาในห้อง แล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ด้วยท่าทางเหนื่อย เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น บอยมองหน้าจอ ซึ่งโชว์ชื่อว่า ปิ๊ก
"ปิ๊ก มึงรู้ยัง...เฮียหมูตายแล้วนะ นี่กูเข้า กทม. มา ตั้งใจว่าจะไปงานศพแก เออ... เค้าว่าฆ่าตัวตาย กูไม่อยากจะเชื่อเลย มันจะเป็นไปได้ยังไง"
เสียงเหรียญกลิ้งตกพื้นอยู่ด้านนอกห้อง หลายเหรียญ
บอยแปลกใจลุกขึ้นไปดู แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
บอยเดินไปดูที่ตู้เก็บของ เขาเปิดตู้แล้วหยิบถุงผ้าดิบห่อเล็กๆออกมาดู ถุงยังห่ออยู่แน่น เขาแกะออกดู
ในถุงมีเหรียญทองโบราณอยู่จำนวนหนึ่ง บอยเก็บถุงไว้ที่เดิม ท่าทางเขาหวงแหนเหรียญทองเหล่านี้มาก
ที่ห้องน้ำ บอยเปิดน้ำเติมใส่อ่างอาบน้ำ หันมาหยิบที่ชาร์ตโทรศัพท์มือถือ เสียบเข้ากับปลั๊กตรงอ่างล้างหน้าที่อยู่ห่างจากอ่างอาบน้ำ
ขั้วสายชาร์ตมีร่องรายขาดเห็นเส้นทองแดง
บอยเดินไปแช่ตัวลงอ่าง สักพัก บอยก็รู้สึกว่าได้ยินเสียงเหรียญกลิ้งตกพื้น
บอยหันไปมองที่พื้น เขาเห็นเหรียญทองกลิ้งเข้ามาในห้องน้ำ แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งเมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น บอยหันไปมองโทรศัพท์
บอยลุกขึ้นจากอ่างเพื่อจะไปรับสาย แต่ไม่ทันคาดคิด มืออันเหี่ยวย่นของชายชราแปลกหน้า หรืออีกนัยหนึ่ง เขาคือ ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ คว้าขาของบอยไว้ ทำให้บอยเสียหลักลื่นล้มหัวฟาดกับขอบอ่างน้ำอย่างแรง บอยตายในทันที
มืออันเหี่ยวย่นของปู่โสมฯ ยื่นเข้ามาเก็บเหรียญทองซึ่งอยู่ที่พื้น
ภายในร้าน Spirit Seekers
มุมหนึ่งท่ามกลางกองหนังสือมากมาย อาคม นั่งเปิดหนังสือดู เป็นหนังสือเกี่ยวกับ จิต วิญญาณ
อาจารย์วิเศษหยิบหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อ "Life After Life คนเคยตายเล่าให้ฟัง" ยื่นให้อาคม
"อาคม เธอลองอ่านเล่มนี้ดูซิ"
"ขอบคุณครับ ผมไม่เคยรู้เลยว่าจะมีหนังสือเกี่ยวกับวิญญาณมากมายขนาดนี้"
รัตติกาลในเสื้อผ้าหรูหราแต่เรียบง่าย เดินเข้ามา เธอก้มลงเก็บหนังสือเล่มหนึ่งที่ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมาวางบนโต๊ะของอาคม
"ก็เพราะนายไม่ได้สนใจหน่ะซิ"
"โอว ... วันนี้ทำมแต่งตัวสวยจัง" วิเศษถาม
"วันนี้เศก เขาชวนซีไปดินเนอร์ค่ะเห็นว่าเป็นร้านหรู เลยต้องจัดเต็มสักหน่อย"
"หืม... มีอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า"
"เปล่าคะ อาจารย์ เรายังคงสถานะเพื่อนเหมือนเดิมค่ะ"
เสียงโทรศัพท์ของรัตติกาลดังขึ้น เธอรับสาย
"พร้อมนานแล้ว... โอเค แล้วเจอกันที่ร้าน"
รัตติกาลวางสายแล้วหัน มาพูดกับอาจารย์วิเศษ
"ซีไปก่อนนะคะ"
รัตติกาลเดินออกจากร้านไป อาจารย์วิเศษหันมาหาอาคม
"นี่อาคม คุณพอมีเวลามั้ยล่ะ"
"ครับ"
มุมหนึ่งของร้านกาแฟ อาจารย์วิเศษ ,อาคม และ พ.ต.ท.ศักดา นั่งพูดคุยกัน ศักดามีขอบตาคล้ำเหมือนคนอดนอน เขาหยิบห่อผ้าขาวขึ้นมาวางกลางโต๊ะ
"มึงจำเฮียหมูได้มั้ย"
"ที่เปิดร้านของเก่าอยู่แถวสี่พระยานะเหรอ" วิเศษว่า
"ใช่ๆ .... แกตายแล้วนะ"
"เป็นอะไรตายล่ะ แกออกจะแข็งแรงไม่ใช่เหรอเฮีย"
พ.ต.ท.ศักดา แกะห่อผ้าขาวที่วางอยู่บนโต๊ะออก ด้านในเป็นปิ่นทองโบราณ
"นี่แหล่ะ ตัวต้นเรื่อง"
ในห้องทำงานเฮียหมู ตอนกลางวัน
เสียงเหรียญทองกลิ้งตกพื้นใต้โต๊ะ เฮียหมูก้มลงดูใต้โต๊ะ เห็นเหรียญทอง จึงเอื้อมมือไปหยิบ
ที่ช่องว่างใต้โต๊ะ เฮียหมูเห็นเท้ายืนอยู่
เฮียหมูรีบออกจากใต้โต๊ะทันที เขามองไปรอบๆอย่างระวัง
"ใครวะ"
เงียบ ! ไม่มีเสียงตอบ เฮียหมูหันไปมองรอบๆ ไม่เห็นใคร
เฮียหมูคิดว่าเขาตาฝาดไป จึงนั่งลงที่เก้าอี้ ทันใดนั้นที่โต๊ะซึ่งวางปิ่นทองอยู่กลับมีเลือดซึมออกมาจากโต๊ะและค่อยๆนองไหลลงหยดใส่เฮียหมู เขารีบหยิบปิ่นทองขึ้นมาเช็ดเลือดที่เปื้อนออก
"เฮ้ย เกิดไรขึ้นวะเนี่ย"
มือที่กำปิ่นทองอยู่สั่นระริก เฮียหมูมองไปที่เบื้องหน้า จู่ๆ เขาก็หวาดกลัวสุดขีด เขามองเห็นบางสิ่ง มือของเฮียหมูเกิดควบคุมไม่ได้ เขากำปิ่นทองแน่น แล้วหันปลายแหลมเข้าที่ขมับของตัวเอง ก่อนจะปักลงไปอย่างแรง
ทั้งหมดยังคงสนทนาอยู่ที่ร้านกาแฟ
"ตำรวจเช็คดูหมดแล้ว ทั้งกล้องวงจรปิด แกอยู่คนเดียว แล้วจู่ๆก็มีท่าทีหวาดกลัวอะไรบางอย่าง จากนั้นก็ใช้ปิ่นนี่แหล่ะ แทงเข้าที่หัวตัวเอง"
อาคมถาม
"ท่าทีหวาดกลัว.... เฮียหมูเขาเห็นอะไร เป็นไปได้มั้ยครับ ที่มีใครซ่อนตัวอยู่ในห้อง"
"มันเป็นห้องปิดล็อคจากด้านใน ไม่มีใครเข้าออกห้องนั้นได้ นอกจากเฮียหมู"
อาจารย์วิเศษบอก
"เกิดจากความเครียดอะไรมั้ยเฮีย"
"ไม่น่านะ ..ครอบครัวสุขสันต์ หนี้สินก็ไม่มี ธุรกิจก็ไปได้สวย แต่เมียของเฮียหมูบอกว่ามีเรื่องแปลกๆ ตั้งแต่เฮียหมูได้ปิ่นทองนี้มา"
อาจารย์วิเศษหยิบปิ่นทองขึ้นมาดูใกล้ๆ เขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
"เฮีย ขอแว่นส่องพระหน่อยซิ"
ศักดาล้วงมือลงไปในกระเป๋า หยิบแว่นส่องพระขึ้นมายื่นให้วิเศษ
วิเศษเอาแว่นขยายส่องไปที่ปิ่นทอง มันมีอักขระโบราณสลักอยู่ตัวเล็กๆโดยรอบ
"เดี๋ยวผมจะลองเอากลับไปศึกษาดู"
"ดีๆ เอาไปเลย ตั้งแต่ได้มานะ เฮียนอนไม่ค่อยหลับเลย ได้ยินเสียงคนเดินในบ้านทั้งคืน"
อาคมแอบยิ้มในท่าทีของพ.ต.ท.ศักดา ซึ่งดูหวาดระแวง ศักดาเขยิบตัวเข้ามาใกล้ อาคมและวิเศษ แล้วพูดเสียงกระซิบ
"ไม่รู้ยังไง เวลาจะเคลิ้มๆหลับ เหมือนได้ยินเสียงกรุ้งกริ้งๆ เหมือน..."
เสียงโทรศัพท์มือถือของ พ.ต.ท.ศักดาดังขึ้น ทำเอาสะดุ้ง
พ.ต.ท.ศักดามองไปที่วิเศษและอาคมที่จ้องมองมา ก็รีบเก็กท่าปกติเหมือนไม่ได้กลัวอะไร หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมารับ
"ว่าไง หมวดทวี"
ศักดามีสีหน้าแปลกใจ เขานิ่งฟังเสียงจากปลายสาย จนกระทั่งปลายสายวางไป ศักดาจึงหันมาพูดกับวิเศษ
"ฆ่ากันตายอีกแล้ว ไอ้หมอผีไปกับเฮียหน่อยซิ"
หน้าร้านอาหารหรูซึ่งเพิ่งเปิดใหม่ เศกพารัตติกาลมากินข้าวด้วยกัน เขาบังเอิญได้พบกับ โดนัท หญิงสาวทันสมัย เธอมากับปิ๊ก สามีของเธอ ซึ่งดูรุ่นๆเดียวกัน และ อเนก เพื่อนของปิ๊ก ทั้งสามใส่ชุดสีดำ เพราะเพิ่งออกมาจากงานศพ
โดนัทรู้สึกดีใจที่ได้เจอเศก
"โดนัท"
เศกหันไปยิ้มให้โดนัท เขาเหลือบมองเห็นปิ๊กที่มองมายังเขาอย่างไม่พอใจ แต่เศกก็ยิ้มให้หันไปทักทายโดนัท
"สบายดีนะ"
ปิ๊กแย่งตอบ
"สบายดี"
"มาธุระแถวนี้เหรอ หรือว่าอยู่แถวนี้"
ปิ๊กแย่งตอบอีก
"มางานศพ"
เศกยิ้มพยักหน้าตอบรับ
"เราขอตัวก่อนนะ ไว้เจอกัน"
โดนัทหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เพื่อจะขอเบอร์โทรศัพท์
"เศก เราขอเบอร์เธอหน่อยสิ"
โดนัทจะเดินเข้าไปใกล้เศก แต่ปิ๊กดึงแขนไว้ เศกยิ้มให้โดนัทแล้ว พารัตติกาลเข้าไปในร้าน
โดนัทหงุดหงิด เธอสะบัดแขนปิ๊ก
"นี่ เธอ เก็บอาการหน่อยซิ ผัวยืนอยู่ทั้งคน"
"ก็เพื่อนกันไม่ได้เจอนานแล้ว อะไรหนักหนา"
"ไปกินร้านอื่นแล้วกัน"
ปิ๊กหันหลังจะเดินออกจากร้าน แต่โดนัทสะบัดหน้าแล้วเดินนำปิ๊กและอเนกเข้าไปในร้าน
ที่โต๊ะของเศกและรัตติกาล พนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะ เศกพยายามเอาใจรัตติกาลด้วยการตักอาหารแบ่งให้ลองชิม
"ลองชิมอันนี้ดูซิ อร่อย"
รัตติกาลเหลือบไปมองโต๊ะที่โดนัทนั่งอยู่ เห็นโดนัทมองมาทางเศกตลอดเวลา
"อืม ไม่ธรรมดา"
"ไม่ใช่อย่างนั้นเลย เลิกคิด"
รัตติกาลจ้องหน้า
"โอเค ... เคยคบกัน แต่นานแล้ว ตอนนี้โสด จบนะ"
"จะจบหรือไม่จบก็ไม่เกี่ยวกับชั้นสักหน่อย ดูซิ จ้องใหญ่เลย ชั้นจะโดนตบหรือเปล่าเนี่ย"
ที่โต๊ะ โดนัทแอบมองเศกและรัตติกาลด้วยความสงสัย จนปิ๊กต้องสะกิด
"นี่โดนัท ไว้หน้ากันบ้าง เนกมันก็นั่งอยู่ด้วยนะ"
"อะไร ไม่ได้อะไรสักหน่อย"
อเนก เพื่อนของปิ๊ก ใบหน้าหมองคล้ำ สีหน้าไม่สบายใจ
อเนกบอก
"ปิ๊ก แกว่าเป็นเพราะของนั่นหรือเปล่าวะ ที่ทำให้เฮียหมู กับบอยต้อง..."
"ชั้น... ชั้นว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ชั้นรีบเอาของมาคืนแกดีกว่าวะ"อเนกบอก
"เฮ้ยได้ไง ก็เราตกลงกันแล้ว"
"ไม่เป็นไรๆ ไม่ต้องห่วง เงินที่ชั้นจ่ายแกไป ไม่ต้องคืนชั้นหรอก ชั้นไม่สบายใจเลยปิ๊ก"
โดนัทลุกขึ้น
ปิ๊กถาม
"อ้าวจะไปไหน"
"ห้องน้ำ จะไปด้วยมั้ย"
ปิ๊กกวักมือไล่ให้โดนัทไป แล้วหันมาคุยกับอเนกต่อ
"เอางี้ ชั้นมีของดีจะแถมให้ไว้แล้วกัน พรุ่งนี้จะเอาไปให้ถึงบ้าน รับรองไม่ต้องกลัว"
รัตติกาลล้างมืออยู่ในห้องน้ำ เธอได้ยินเสียงคนกดชักโครก
โดนัทเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอเห็นรัตติกาลล้างมืออยู่ ก็เดินเข้าไปใกล้ๆ
"นี่เธอ เป็นแฟนเศกเหรอ"
รัตติกาลเงยหน้าจากอ่างล้างมือ มองโดนัท สีหน้าแสดงอาการตกใจ
"ปละ เปล่า"
โดนัทยิ้มๆแล้วเดินออกไป
รัตติกาลมีสีหน้าซีดเผือด
เศกขับรถไปส่ง รัตติกาลนั่งอยู่ข้างๆ ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ความเงียบทำให้เศกรู้สึกสงสัย
"ซี เป็นอะไร ปวดท้องเหรอ"
"เศก ผู้หญิงคนนั้น นะ"
"เขาชื่อโดนัท โดนัททำไมเหรอ"
"เมื่อกี้เราเจอเขาที่ห้องน้ำ"
รัตติกาลย้อนคิด
ขณะที่รัตติกาลล้างมืออยู่ โดนัทเดินเข้าไปใกล้ๆ
"นี่เธอ เป็นแฟนเศกเหรอ"
รัตติกาลเงยหน้าจากอ่างล้างมือ มองโดนัทผ่านกระจก เห็นโดนัทยืนอยู่ข้างๆ แต่โดนัทไม่มีหัว
"ปละ เปล่า"
เศกฟังรัตติกาลพูดจบ สีหน้าเขามีความกังวล
"เศก ต้องคอยเตือนโดนัทนะ ว่าช่วงนี้ทำอะไรให้ระวัง"
"อืม"
ตอนกลางคืน พ.ต.ท.ศักดา อาจารย์วิเศษและอาคมเดินทางมาถึง...
เบื้องหน้าของพวกเขาคือตึกโบราณเก่าแก่ บรรยากาศเงียบ วังเวง หมวดทวีและลุงเก็บของเก่ายืนอยู่หน้าตึก
หมวดทวีถาม
"หัวหน้าครับ ลุงคนนี้เป็นคนโทร.ไปแจ้ง"
"เกิดอะไรขึ้นครับ" ศักดาถาม
ลุงเก็บของเก่าบอก
"ชั้นได้ยินเสียงร้องโวยวายดังออกมาจากข้างใน แต่ไม่กล้าเข้าไปดูหรอก ต้องฆ่ากันแน่ๆ ร้องยังกับวัวถูกเชือด"
หมวดทวีเดินเข้ามาประชิด พ.ต.ท.ศักดาพลางกระซิบ
"ตามที่ผมรายงานไปเบื้องต้นเลยครับ เละจริงๆ"
"อืม ชั้นจะเข้าไปดู"
พ.ต.ท.ศักดา หันไปพยักหน้าชวนวิเศษและอาคมให้เข้าไปข้างในด้วย
ในตึกร้างโบราณ บรรยากาศเงียบ วังเวงและน่าขนลุก
มีรอยเลือดถูกลากเป็นทางยาวเข้าไปด้านใน สิ้นสุดปลายทางเลือด เป็นศพชายไร้หัว นอนอยู่
ลมพัดวูบใหญ่ พัดเอาผ้ายันต์ผืนหนึ่งปลิวมาตามพื้น
เศษฝุ่นพัดเข้านัยน์ตาของอาคม ทำให้ดวงตาพร่ามัว อาคมมองเห็นเงาชายร่างใหญ่ยืนอยู่ตรงเบื้องหน้าของเขา แต่เมื่อเขาเพ่งมองอีกครั้ง เงานั้นก็หายไป
วิเศษก้มลงเก็บผ้ายันต์ที่พื้น แล้วเดินเข้าไปด้านใน
หมวดทวีเดินตามเข้ามาสมทบ พ.ต.ท.ศักดา เห็นรอยเลือดหยดแยกไปทางด้านหลังตึก
"เดี๋ยวผมกับหมวดทวีจะไปดูทางด้านหลัง พวกคุณสองคนสำรวจด้านในแล้วกันนะ"
วิเศษพยักหน้า พ.ต.ท.ศักดาและหมวดทวีเดินไปด้านหลังตึก
อาคมเดินแยกนำขึ้นไปบนตึก อาจารย์วิเศษเดินสำรวจด้านล่าง
อาคมเดินเข้ามาในห้องๆ หนึ่งที่ดูเหมือนมีคนพักอาศัยอยู่ มีเสื่อ กระเป๋า และตู้เสื้อผ้าพลาสติกอยู่มุมห้อง
ตู้เสื้อผ้าพลาสติก สั่นไหว อาคมแปลกใจ เขาเดินไปเปิดออกดูก็พบชายคนหนึ่ง เขาชื่อ ตุ่น ซุกซ่อนตัวอยู่ เลือดท่วมกาย และมีแผลฉกรรจ์ลึกที่หัวไหล่ ในมือของนายตุ่นกำกระดาษที่จดคำสวดไว้อยู่แผ่นหนึ่ง อาคมพบว่าเขายังมีลมหายใจอยู่ เขารีบพาร่างของเขาออกมา แล้วประคองลงไปข้างล่าง
อาคมประคองร่างนายตุ่นออกมาด้านนอก วิเศษวิ่งมาดู
"คุณครับ คุณครับ เกิดอะไรขึ้น"
"ผ ผี ผี" ตุ่นบอก
"ผมเจอเขาหลบอยู่ในตู้ข้างบน"
รถร่วมกตัญญูมาถึง เจ้าหน้าที่มาช่วยกันพานายตุ่นไปส่งโรงพยาบาล
"ผมอยากให้คุณดูอะไรบางอย่างนะอาคม"
วิเศษพยักหน้าชวนอาคมเข้าไปสำรวจด้านในอีกครั้ง
วิเศษพาอาคมไปที่มุมหนึ่งของตึกร้าง ซึ่งมีสายสิญจน์ล้อมเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง ใกล้ๆกันมีธูป เทียน ดอกไม้ เหรียญบาทอย่างละ 5 คู่วางอยู่ใกล้ๆ
"เหมือนพวกเขากำลังทำพิธีกรรมอะไรบางอย่าง"
อาคมย่อตัวลงสำรวจ เขามองเห็นที่กลางวง พื้นมีร่องรอยความปกติ มันดูไม่เรียบเสมอกัน อาคมเอื้อมมือไปปัดเศษฝุ่น เศษขี้เถ้า ที่เหมือนมีคนจงใจปกปิดเอาไว้พรางตา แต่แล้วเสียงปืนก็ดังลั่นมาจากด้านนอก
พ.ต.ท.ศักดา และหมวดทวี เดินตามรอยเลือดมาด้านหลังตึก เขาพบรถกะบะคันหนึ่งชนเสยกับกำแพง ชายผอมคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บและสลบอยู่คารถ หมวดทวีรีบเข้าไปดึงร่างชายผอมคนนั้นออกมา
ชายผอมฟื้นขึ้นมา เขาเห็นปู่โสมในชุดไทยโบราณ ในมือถือดาบ กำลังยืนจ้องมองเขาด้วยความโกรธ จากนั้นชายแก่ก็กระชากหัวตัวเองออกมาถือไว้ด้วยมืออีกข้าง
ชายผอมตกใจสุดขีด เขาถีบหมวดทวีกระเด็น หัวกระแทกพื้นแล้วแย่งปืนมาได้ จากนั้นก็ยิงไปทางปู่โสม แต่กระสุนไม่สามารถทาอะไรปู่โสมได้เลย
พ.ต.ท.ศักดาตกใจที่เห็นชายผอมยิงปืนใส่อากาศ มีเพียงชายผอมคนเดียวที่เห็นปู่โสม
"เฮ้ย ... หยุด หยุด"
พ.ต.ท.ศักดาพยายามเข้าไปแย่งปืนจากชายผอม แต่ไม่ทันคาดคิด ชายผอมหันกระบอกปืนจ่อปาก
วิเศษและอาคมวิ่งตามมาสมทบ แต่ช้าไปเสียแล้ว ชายผอมเหนี่ยวไกปืน กระสุนวิ่งทะลุศีรษะออกไป
ภายในห้องนอน บ้านปิ๊ก
โดนัทผวาตื่นขึ้นกลางดึก เหงื่อท่วมกาย เธอหันไปมองปิ๊กที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างๆ เธอพยายามปลุก
"ปิ๊กๆๆ"
ปิ๊กมีท่าทีราคาญ แล้วเอาหมอนมาปิดหูไว้
โดนัทเดินเข้ามาในครัว เธอเห็นเงาวูบวาบผ่านหน้าของเธอไป เธอหันไปมองรอบๆ แต่ไม่มีใคร เธอเดินมาเปิดตู้เย็น แล้วก้มลงหยิบน้ำขวดออกมา เมื่อเธอปิดตู้เย็น เธอก็เห็นเงาดำเป็นปื้นของคน ซึ่งมองไม่เห็นรายละเอียดของใบหน้า ยืนอยู่ข้างๆ
โดนัทตกใจ กรีดร้อง ตกใจ
ไฟถูกเปิดสว่างทั่วทั้งบ้าน ปิ๊กวิ่งหน้าตาตื่นลงมาหาโดนัท
"อะไร ๆ เกิดอะไรขึ้นโดนัท"
"เมื่อกี้ๆ มีคนอยู่ตรงนี้"
ปิ๊กมองไปรอบๆ เขาไม่เห็นใคร
"คุณเมาขี้ตาหรือเปล่า ผมไม่เห็นใครเลย"
"ชั้นเห็นจริงๆ นะปิ๊ก เงาดำๆ ยืนอยู่ข้างตู้เย็น" โดนัทยืนยัน
ปิ๊กเดินกลับไปข้างตู้เย็น เขามองไปทั่วๆ
"ไม่มีใครเข้ามาได้หรอก ไป ขึ้นไปนอนได้แล้ว"
ปิ๊กดันไหล่โดนัทให้เดินกลับไป
ทันใดนั้นปิ๊กก็รู้สึกเหมือนเขาเหยียบอะไรบางอย่าง เขายกฝ่าเท้าขึ้นมา มันเป็นเศษดินทรายเลอะอยู่ตรงพื้น
ทีมหมอผี ยกเว้นเศก นั่งล้อมวงอยู่ที่โต๊ะประชุมกัน
"มีผู้รอดชีวิตหนึ่งคน เขากำกระดาษแผ่นนี้ไว้" วิเศษบอก
จ้อนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ วิเศษยื่นแผ่นกระดาษนั้นให้จ้อน จ้อนรับมาแล้วอ่าน ก่อนจะเปิดตาราเล่มหนึ่งออกอ่าน
"มันคืออะไรจ้อน"
"บทคาถาถอนคำสาปแช่งครับ" จ้อนบอก
มหาเนิร์ดย้ำถามำ
"คาถาถอนคำสาปแช่ง แบบนี้แสดงว่าพวกเค้ากำลังถูกคำสาปอะไรอยู่"
"คนที่รอดชีวิตเป็นยังไงบ้างอาคม" วิเศษถาม
"ตอนนี้สงบลงแล้วครับ เดี๋ยวบ่ายนี้ผมจะเข้าไปดูสักหน่อย"
"ดีเลย งั้น ซี คุณไปกับอาคมด้วยสิ เผื่อจะได้ช่วยกันดู... อ้าวแล้ว เศก ล่ะ"
"เศกบอกจะเข้ามาเย็นๆค่ะ" เศกบอก
วิเศษหันไปหยิบห่อผ้า ที่มีปิ่นทองข้างในยื่นให้มหาเนิร์ด
"มหาเนิร์ด เดี๋ยวคุณลองขยายอักขระบนปิ่นนี้ออกมาให้ทีนะ"
มหาเนิร์ดรับไว้อย่างทะนุถนอม
จ้อนถาม
"อาจารย์ได้มาจากไหนเหรอครับ"
"ท่านรองศักดา เขาอยากให้ช่วยตรวจสอบให้หน่อย เค้าเชื่อว่าเป็นของต้องสาป"
มหาเนิร์ดหน้าตากลัวๆ ขึ้นมาทันที แต่จ้อนดูสนใจเป็นพิเศษ มหาเนิร์ดเดินไปที่มุมทางานของตัวเอง โดยมีจ้อนเดินตามอย่างกระตือรือร้น
โดนัทนั่งจัดดอกไม้อยู่ที่มุมหนึ่งของร้าน เศกเดินเข้ามาในร้าน
"เศก... มาได้ไงอะ"
"พอดีเราผ่านมาแถวนี้ เห็นเพื่อนๆบอกเธอมาเปิดร้านดอกไม้"
"ใช่ เปิดมาได้ สามสี่เดือนแล้วล่ะ เอ๊ะ..แล้วแฟนล่ะวันนี้ไม่ได้มาด้วยเหรอ"
"เปล่ายังไม่ได้เป็นแฟน เราชอบเค้าข้างเดียวหน่ะ"
"เป็นไปได้ยังไง อย่างเศกเนี่ยนะ"
"เอ่อ โดนัท ช่วงนี้เธอโอเคมั้ย"
"หมายความว่ายังไง โอเคมั้ย"
"แบบ มีเรื่องแปลกๆ อะไรหรือเปล่า"
โดนัทเงียบ ไม่ตอบ ... เศกล้วงมือไปหยิบนามบัตร Paranormal research ขึ้นมา แล้วยื่นให้ โดนัทรับมาดู
"ถ้าเรื่องอะไรบอกเราได้นะ บางเรื่องเธออาจไม่เชื่อก็ได้ แต่เราอยากให้ช่วงนี้เธอระวังตัวเป็นพิเศษ"
โดนัทมองหน้าเศก เธอเห็นสีหน้าจริงจังของเขาแล้วอดกังวลตามไม่ได้
ตัดไป
ภายใน ห้องผู้ป่วย โรงพยาบาลตอน กลางวัน
รัตติกาล และอาคม เดินเข้ามาในห้องของนายตุ่น ชายผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว ซึ่งดูสติยังไม่ค่อยเข้าที่นัก นายตุ่นมีอาการหวาดผวา เมื่อเห็นอาคมและรัตติกาลเข้ามาก็ดีใจ โผเข้าหา
"ช่วยผมด้วย ผี ผีมันตามฆ่าผม"
รัตติกาลบอก
"ใจเย็นๆนะคะคุณตุ่น ที่นี่ไม่มีใครทำร้ายคุณได้"
รัตติกาลบีบมือของนายตุ่นเบาๆ นายตุ่นมองหน้า เขารู้สึกสงบลงอย่างประหลาด
อาคมนำกล้องวิดีโอออกมาแล้วตั้งกล้องบันทึกเทปไว้ที่มุมห้อง
รัตติกาลจัดท่าให้นายตุ่นนั่งอยู่ที่เตียงอย่างสงบแล้วเธอก็หยิบเก้าอี้มานั่งฝั่งตรงข้ามกับนายตุ่น
"คุณตุ่นนั่งให้สบายๆนะคะ"
รัตติกาลหยิบถุงผ้าเล็กๆขึ้นมา เปิดออก ด้านในเป็นลูกแก้วหลากสีอยู่สามลูก รัตติกาลหยิบมันขึ้นมาโดยให้ลูกแก้วกลิ้งอยู่ในมือ
"คุณว่าลูกแก้วในมือของฉันสีอะไรคะ"
นายตุ่นพยายามเพ่งสายตาจ้องมองไปที่ลูกแก้ว เธอขยับนิ้วมือไปมาให้ลูกแก้วหมุนกลิ้งไม่อยู่กับที่ นายตุ่นพยายามเพ่งสายตา เขาเห็นลูกแก้วสีขาวลอยเด่น
"สีขาว"
"วันนี้วันที่เท่าไหร่คะ"
"14 ตุลาคม"
"แล้วเมื่อวานล่ะคะ"
"13 ตุลาคม"
"เมื่อวานวันที่ 13 ตุลาคม คุณอยู่ที่ไหนคะ"
"ผมอยู่กับเพื่อนคนงานด้วยกันที่ตึกเก่า"
รัตติกาลจ้องมองไปที่ดวงตาของนายตุ่น
"วันที่ 13 ตุลาคม เวลา 20:15 คุณกำลังอยู่กับเพื่อนคนงานด้วยกันที่ตึกเก่า
หนึ่ง สอง สาม .... ดึงความทรงจำออกมา"
รัตติกาลพูดจบ เธอดีดนิ้ว นายตุ่นจ้องมองไปที่รัตติกาล เขารู้สึกล่องลอยออกไป
ภาพความทรงจำของนายตุ่น...
นายตุ่นเดินเข้าไปที่ตึกโบราณ โดยมีรัตติกาลเดินตามไปด้วย
เพื่อนคนงาน 5 คนต่างถืออุปกรณ์ขุดดิน บางคนก็มีไฟฉาย หนึ่งในนั้นยื่นเศษกระดาษให้นายตุ่น
นายตุ่น รับเศษกระดาษนั้นออกมากาง มันเป็นบทคาถา
"จะช่วยได้จริงๆ เหรอวะ"
เพื่อนบอก
"ช่วยได้สิวะ เนี่ยได้จากพระอาจารย์มือหนึ่งด้านการปราบผีเลยนะเว้ย"
นายตุ่นเดินตามเพื่อนๆ เข้าไปด้านใน รัตติกาลเดินตามเข้าไป
แต่แล้วเพื่อนคนที่นำไปคนแรก จู่ ๆ หัวหลุดออกจากบ่าแล้วกลิ้งมาถูกเท้าของนายตุ่น
นายตุ่นตกใจและหวาดกลัวสุดขีด
"เฮ้ย"
เท้าของปู่โสมค่อยๆ โผล่จากเงามืด จนเผยโฉมหน้าออกมาให้เห็น เป็นชายชราในชุดไทยใบหน้าเกรี้ยวกราด พวกนายตุ่นวิ่งหนีกระเจิง เหลือเพียงรัตติกาลที่ยืนตกใจอยู่กับที่
ภายใน ห้องผู้ป่วย โรงพยาบาล รัตติกาลตื่นขึ้น อาคมรีบเดินเข้ามาใกล้ด้วยความเป็นห่วง
เธอรีบหันไปหานายตุ่น เขายังนั่งอยู่ที่เตียงคนไข้ ตายังคงปิดอยู่ แต่เขามีอาการดิ้นรนและทุรนทุราย เหงื่อไหลซึมออกมา
"ไม่เป็นไรนะคุณตุ่น คุณตุ่น หนึ่ง สอง สาม ลืมตาขึ้นคะ"
นายตุ่นลืมตาขึ้น แต่ดวงตากลับกลายเป็นสีขาว เขาพุ่งตัวมาหารัตติกาล แล้วบีบคอเธอ
รัตติกาลเห็นกลุ่มควันสีดำลอยอยู่รอบๆ ตัวของนายตุ่น
อาคมที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ เขารีบเข้ามาช่วยดึงเอานายตุ่นให้ออกห่างจากรัตติกาล
เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายรีบเข้ามาในห้อง พลางล็อคตัวนายตุ่นไว้ ตอนนี้ดวงตาของนายตุ่นกลับมาเป็นปกติ แต่อาคมก็รีบพารัตติกาลออกจากห้องไป
รัตติกาลนั่งพักอยู่ที่ม้านั่ง อาคมเดินเอาน้ำมาให้ แล้วนั่งลงข้างๆ
"ซี .. เธอเห็นอะไรในนั้น"
"วิญญาณของคนแก่ เขาใส่ชุดไทยโบราณ แต่..เค้ามีพลังอาฆาตรุนแรงมากเลยนะ คนพวกนั้นต้องทำอะไรไม่ดีแน่ๆ เลย อาคม"
"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมไม่มีทางเชื่อแน่ๆ ว่าวิญญาณจะทำร้ายคนได้"
"มันมีอะไรอีกมากที่นายยังไม่รู้"
"เธอเห็นวิญญาณทุกดวงมั้ย ซี"
"ไม่นะ ถ้าเขาไม่อยากให้เห็น ฉันก็ไม่เห็นหรอก …..นายยังอยากจะเจอขวัญข้าวอยู่ใช่มั๊ย"
อาคมสีหน้าครุ่นคิด
ภายในดินแดนแห่งความมืดมิด มีเพียงแสงไฟจากสปอตไลท์ส่องไปยัง ขวัญข้าวที่กำลังนั่งร้องไห้
เธอเงยหน้าขึ้นมามอง
"อาคม ช่วยข้าวด้วย ข้าวอยากออกไป ข้าวไม่อยากอยู่ที่นี่"
อาคมบอกรัตติกาล
"เปล่าหรอก... ไปกันเถอะ"
อาคมลุกเดินนำรัตติกาลออกไป อาคมยังคงครุ่นคิด
ดวงตากลมโต กระพริบตาถี่ๆ ผ่านแว่นขยาย มันเป็นดวงตาของจ้อนซึ่งกำลังพินิจพิจารณาปิ่นทองอย่างขะมักเขม้น
เขาเห็นตัวอักษรไทยโบราณที่แกะสลักอยู่รอบๆ ปิ่น
ปิ่นทองหลากหลายมุม ถูกขยายออกมาแล้วสแกนเป็นภาพอยู่บนจอคอมพิวเตอร์ของมหาเนิร์ด เขาลากรูปมาวางต่อๆกันเป็นประโยค แล้วสั่งปริ๊นท์ออกมา
มหาเนิร์ด หยิบภาพที่พิมพ์ออกมาแล้วส่งให้ จ้อนรับไปดู แล้วหยิบหนังสือโบราณเล่มหนึ่งออกมาดู
ณ มุมทำงานของอาจารย์วิเศษ เขานำภาพของปิ่นทอง ไซส์ขนาดโปสการ์ด แปะลงไปในสมุดบันทึก ในสมุดเล่มนั้นมีรูปสิ่งของโบราณต่างๆ จากนั้นอาจารย์วิเศษก็เขียนข้อมูลลงไปในสมุด
เศกเดินผิวปากเข้ามาในสำนักงาน เขาหันไปมองจ้อนกับมหาเนิร์ด
"ทำอะไรกันอยู่"
"หายไปทั้งวันเลยนะพี่เศก" มหาเนิร์ดบอก
"อาจารย์ให้ไปธุระกับพี่อาคมครับ"
"สองคน?"
"ครับ"
รัตติกาลเดินเข้ามากับอาคมพอดี ทั้งคู่เดินผ่านเศกไปที่ห้องอาจารย์วิเศษ
"อาจารย์คะ"
"เป็นยังไงบ้าง ซี อาคม สีหน้าพวกคุณไม่ค่อยดีเลย"
"อาจารย์ลองดูนี่สิคะ"
รัตติกาลหันไปมองอาคม อาคมหยิบกล้องถ่ายวีดีโอส่งให้วิเศษ เศกเดินตามเข้ามาในห้อง
วิเศษเปิดออกดู เห็นภาพในกล้องวีดีโอที่อาคมบันทึกไว้ มีภาพแทรกรบกวน ภาพของนายตุ่นถูกภาพแทรกปิดบังส่วนหัวของนายตุ่นไว้ เหมือนกับเขาไม่มีหัว
วิเศษสีหน้าครุ่นคิด
ที่โต๊ะ จ้อนกำลังดูตำราแล้วก็ทำตาโต
"Oh my God! ... everyoneม่องเท่ง !"
จ้อนรีบลุกเดินเข้าไปในห้อง มหาเนิร์ดรีบตามเข้าไปเช่นกัน
"อาจารย์ครับ ได้เรื่องแล้วครับ อักขระที่อยู่บนปิ่น มันเป็นคำสาปแช่งครับ เขียนด้วยอักษรไทยโบราณ
แปลว่า หากไม่ใช่ลูกหลานเอาไปครอบครอง ต้องพินาศฉิบหาย ม้วยมรณาครับ" จ้อนบอก
วิเศษสีหน้าครุ่นคิด
"คำสาปแช่งกับคาถาถอนคาสาปแช่ง สองเหตุการณ์นี้มันจะเกี่ยวข้องกันมั้ยครับอาจารย์" มหาเนิร์ดตั้งข้อสังเกต
วิเศษครุ่นคิด ก่อนจะหันไปมองภาพในกล้องวีดีโอ ซึ่งเป็นตอนที่นายตุ่นกาลังคลุ้มคลั่งพอดี
กลางคืน รถปิ๊กจอดอยู่ที่มุมหนึ่ง
ภายในรถ ปิ๊กมีท่าทีหงุดหงิด เขาดูภาพในมือถือ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่ร้านดอกไม้ของโดนัท เห็นเศกเข้ามาคุยกับโดนัท
โดนัทเดินมาที่รถ ก่อนจะเปิดประตูรถลงไปนั่งข้างปิ๊ก ปิ๊กรีบปิดมือถือ
"เดี๋ยวนี้เลิกดึกนะ"
"ก็ลูกค้าเยอะ มีออเดอร์สั่งของเข้ามาเพิ่มขึ้น ก็เลยต้องอยู่ดึกหน่อย"
ปิ๊กมองโดนัท ด้วยสายตาระแวง
เสียงโทรศัพท์ของปิ๊กดังขึ้น ปิ๊กรับโทรศัพท์ด้วยความอารมณ์ร้อนรน
"ว่าไง พวกตำรวจออกไปหมดรึยัง ..... โอเค งั้นรีบเริ่มงานต่อได้ .... ว่าไงนะ ชั้นไม่สนหรอกนะ ว่าใครจะตาย แกอย่างมงายกับเรื่องคำสาปพวกนั้นเลย อย่าให้งานชั้นต้องหยุดชะงัก คนงานอื่นๆยังมีอีกตั้งเยอะแยะ
เพิ่มเงินไปอีกเท่านึงเลย แล้วให้พวกมันทำงานนี้ให้จบให้เร็วที่สุด"
"มีอะไรเหรอ"
"ก็ตึกของเรานะสิ พอมีข่าวคนงานตายรั่วออกไป ก็ไม่มีใครกล้ามาทำงานให้เราอีก"
"ปิ๊ก ... โดนัทว่าเราหยุดแล้วขายทิ้งดีมั้ย"
"เฮ้ย ได้ไงอะ ผมลงไปเยอะแล้วนะ"
"ปิ๊ก ... ไม่กลัวเหรอ มีคนตายหลายคนแล้วนะ"
"ตอนนี้ผมเป็นหนี้ธนาคารอยู่นะ โดนัท ถ้าเราไม่ทำต่อ อีกหน่อยเราจะไม่เหลืออะไรเลยนะ"
โดนัทน้ำตาคลอที่ปิ๊กตวาดใส่เธอ ปิ๊กเห็นน้ำตาโดนัท ก็เริ่มเย็นลง
"โดนัท...คุณไม่ต้องกลัวหรอก คำสาปนั่นมันไม่มีจริง เชื่อผมสิ"
"โดนัทเป็นห่วงปิ๊กนะ"
ปิ๊กดึงตัวโดนัทมาหอม
"ปิ๊กก็รักโดนัท ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย"
โดนัทยิ้มออกมาได้ ปิ๊กขับรถออกไป
ภายในโรงพยาบาล นายตุ่นหลับอยู่ที่เตียง แต่แล้วผ้าห่มเหมือนมีคนดึงออก
นายตุ่นลืมตาตื่นขึ้น เขาหันไปมองรอบๆ วิญญาณของชายแก่ในมือถือดาบ ยืนอยู่ปลายเตียงจ้องมาที่เขา ก่อนจะดึงหัวของตัวเองแล้วเขวี้ยงใส่มือของนายตุ่น
"เฮ้ย .... อย่าเข้ามา"
นายตุ่นเขวี้ยงหัวในมือทิ้งไป จากนั้นนายตุ่นก็ลุกขึ้นจากเตียง เขาดันหน้าต่างที่หนักอึ้งแล้วพยายามปีนออกไปข้างนอก แต่แล้วหน้าต่างกระจกก็เลื่อนไหลลงมาอย่างเร็วตัดหัวนายตุ่น กระเด็นออกไปด้านล่าง เขาตายอยู่ที่ขอบหน้าต่างนั่นเอง
อาจารย์วิเศษนั่งพิมพ์เอกสารงานวิจัยอยู่ที่โต๊ะ พ.ต.ท.ศักดาเดินถือแฟ้มเอกสารเข้ามาในสำนักงาน
"สวัสดีทุกคน"
พ.ต.ท.ศักดาทักทาย แล้วมายืนที่โต๊ะประชุม นำเอกสารออกมาวาง วิเศษเดินเข้ามาหา
"ผมได้ข้อมูลที่พวกคุณต้องการแล้วนะ"
ทีมหมอผีทุกคนเดินเข้ามาใกล้
"เจ้าของตึก คือนายศรัณย์ ศักดิ์สิทธิจรรยา"
พ.ต.ท.ศักดาหยิบรูปของปิ๊กออกมาวางที่โต๊ะ
รัตติกาลคุ้นหน้า
"ผู้ชายคนนี้..."
"รู้จักเหรอ ซี" วิเศษถาม
รัตติกาลมองหน้าเศก เห็นเศกกำลังทำหน้าอึ้ง
"สามีของเพื่อนผมเองครับ"
พ.ต.ท.ศักดามองหน้าเศก ก่อนจะหันไปคุยกับวิเศษ
"จริงๆแล้วตึกโบราณหลังนั้น น่าจะได้รับการบูรณะ และอนุรักษ์โดยภาครัฐ แต่ทำไมถึงตกไปอยู่ในกรรมสิทธิ์ของนายศรัณย์ได้ก็ไม่รู้ ต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลแน่ แล้วก็มีอีกเรื่องที่น่าแปลก....ผมว่าพวกคุณต้องอยากรู้แน่ๆ"
พ.ต.ท.ศักดา หยิบรูปถ่ายของเฮียหมู และ บอย และอเนกขึ้นมาวางที่โต๊ะ
"นี่เฮียหมู ฆ่าตัวตายอย่างไม่มีสาเหตุ เมียของเฮียหมูบอกว่าเป็นเพราะปิ่นทองที่ได้มาจากนายศรัณย์
นี่ นายบอย คนนี้เป็นเพื่อนสนิทของนายศรัณย์เช่นกัน หกล้มตายในห้องน้า และนี่ เมื่อคืนนี้ นายตุ่น คนงานที่พบในตึกของนายศรัณย์เสียชีวิตแล้วนะ"
รัตติกาลตกใจ
"ห๊ะ เกิดอะไรขึ้นคะ"
"สันนิษฐานว่าคลุ้มคลั่งแล้วปาดคอตัวเองตาย แต่เรายังหาวัตถุที่ใช้ฆ่าตัวตายไม่เจอนะ"
ศักดาหยิบรูปของ อเนก หุ้นส่วนอีกคนของปิ๊กขึ้นมา
"และนี่คือรายล่าสุด เมื่อเช้ามืดนี่เอง นายอเนก เพื่อนสนิทอีกคนของนายศรัณย์ แม่บ้านไปปลุกตอนเช้าแล้วพบว่าเป็นศพไปแล้ว ผลชันสูตรพบว่ากินยานอนหลับเกินขนาด"
วิเศษสีหน้าครุ่นคิด
พ.ต.ท.ศักดาพูดต่อไป
"พวกนายคิดว่ามันแปลกมั้ยล่ะ ทุกคนที่พูดมาทั้งหมด ตายในเวลาไล่เลี่ยกัน แล้วทุกคนเกี่ยวข้องกับนายศรัณย์ทั้งสิ้น"
จ้อนหน้าเสียรีบไปหยิบปิ่นทองออกมาวางที่โต๊ะ
"จอห์นนี่ว่า ท่านรองเอากลับไปเก็บเถอะครับ"
ศักดาหน้าเสียเหมือนกัน
"ไม่เอา เก็บไว้ที่นี่แหละ พวกนายจะได้เก็บไว้เป็นของที่ระลึกกันไง"
มหาเนิร์ดบอก
"ทั้งหมดเป็นเพราะคำสาปแช่งจริงๆเหรอเนี่ย"
"อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้ เรื่องของคดีคงต้องปล่อยเป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนคำตอบของพวกเราน่ะ อยู่ที่ตึกนั่น" วิเศษบอก
เศกมีสีหน้ากังวลอย่างมาก รัตติกาลมองเศก เหมือนจะเข้าใจความรู้สึกนั้น
ต่อมา เศกมาหาโดนัทที่ร้าน ขณะที่เธอกำลังเขียนการ์ดอวยพรให้ลูกค้าอยู่ เมื่อเธอเห็นเศกก็ดีใจ
"ว่าไงเศก วันนี้มาซื้อดอกไม้เหรอ"
"โดนัท เราขอคุยด้วยแปปนึงสิ"
มุมหลังร้าน
โดนัทและเศกนั่งคุยตามลำพัง
"เศก มีอะไรเหรอ ทำไมหน้าซีเรียสจัง"
"โดนัท เรามีบางอย่างอยากเตือนเธอนะ คือ..ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เธอและแฟนเธอทำอยู่
เราอยากให้หยุดนะ"
"หมายถึงอะไรเหรอเศก"
"เธออาจจะไม่เชื่อเรื่องที่เราทำอยู่ก็ได้ แต่บางสิ่งที่เธอมองไม่เห็น มันมีพลังรุนแรงและอันตรายได้นะ"
"เศก... มามุขไหนเนี่ย โดนัทไม่ได้ทำอะไรไม่ดีสักหน่อย เศกสบายใจได้เลย ร้านดอกไม้ของโดนัทก็กำลังไปได้ดีนะ ส่วนงานของปิ๊ก โดนัทไม่ได้ยุ่งอะไรด้วยหรอก แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ... เศกสบายใจได้"
พนักงานในร้าน เดินออกมาตามโดนัท
"พี่โดนัทคะ ลูกค้าเค้ามารับกระเช้าคะ"
"จ๊ะ"
โดนัทหันมาแตะไหล่เศกแล้วยิ้มหวาน
"ขอบคุณเศกมากเลยนะที่เป็นห่วง โดนัทสบายดี ... เดี๋ยวโดนัทขอตัวก่อนนะ ไว้ๆว่างเรานัดเจอกันข้างนอกบ้างก็ดีนะ ฮิฮิ"
โดนัทเดินไปหาลูกค้า เศกมองตามโดนัทไปด้วยความเป็นห่วง
ภายในร้านอาหาร ปิ๊กมีนัดกินข้าวกับชายร่างอ้วน ที่เป็นเจ้าหน้าที่ราชการระดับสูงคนหนึ่ง
"ขอบคุณท่านมากนะครับที่ช่วยเหลือผม"
"โอ๊ย อย่าพูดว่าช่วยเหลือเลย ผมสนิทกับคุณพ่อของคุณตั้งแต่ผมยังไม่เข้ารับราชการเลยด้วยซ้ำ
คราวหน้ามีอะไรให้บอกได้เลย ... แล้วนี่ได้ใบกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้วนะ"
"เรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณมากๆเลยครับท่าน"
ปิ๊กหันไปสั่งไวน์กับบริกร พวกเขาดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน
ปิ๊กเดินออกมาส่งข้าราชการร่างอ้วนที่รถ ในมือปิ๊กมีถุงขนมอยู่ด้วย
"ท่านครับ นี่ขนม ผมซื้อมาฝากครับ"
ข้าราชการอ้วนยิ้มกริ่ม
"ขอบคุณมากๆ ไว้เจอกัน"
ข้าราชการร่างอ้วนขับรถออกไป
ขณะที่ข้าราชการอ้วน กำลังขับรถกลับบ้าน เขาเปิดถุงขนมที่ได้จากปิ๊กออกดู ด้านในถุงมีธนบัตรปึกใหญ่ เขารู้สึกดีใจ
ทันใดนั้น ข้าราชการอ้วน ได้ยินเสียงเหรียญทองตกพื้นหลายเหรียญ
"ใส่เหรียญมาด้วยเหรอวะ"
ข้าราชการร่างอ้วนเอามือควานที่พื้นรถ ในขณะที่เขากำลังขับรถอยู่ด้วย แล้วเขาก็สัมผัสถึงเส้นผมของใครบางคนที่พื้นรถ ข้าราชการร่างอ้วนหยิบเส้นผมขึ้นมากลายเป็นศีรษะของปู่โสมกำลังแสยะยิ้มให้เขา ทำให้ข้าราชการร่างอ้วนตกใจ ทำอะไรไม่ถูกหันพวงมาลัยรถจนเสียหลัก รถพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ตายคาที่ เลือดของเขาไหลรดลงบนธนบัตรที่ได้มาจากปิ๊ก
บริเวณด้านหน้าตึกโบราณ มีชายฉกรรจ์ ร่างกำยำ 2 คนยืนเฝ้าไว้ ที่มุมเสาห่างออกไป อาคมและเศกยืนสังเกตการณ์อยู่
"พวกมันระวังกันน่าดู... เอายังไงล่ะที่นี้ จะเข้าไปได้ยังไง หรือจะบุกเข้าไปดี"
เศกพูดอยู่คนเดียวจนต้องหันมาดูว่าอาคมยังยืนอยู่กับเขาด้วยมั้ย อาคมเก๊กขรึม เขาไม่สนใจเศก
"ไม่รู้ทำไมผมต้องมากับคุณด้วยนะเนี่ย จะเก๊กเพื่อ?"
อาคมเดินหลบไปอีกมุมเพื่อจะดูให้ชัดเจนขึ้น เศกต้องรีบวิ่งตามไปอย่างระมัดระวัง
เศกกระซิบแนวประชด
"เฮ้ย คุณอาคมครับ จะทำอะไรให้สัญญาณกันบ้างนะครับ"
ด้านหน้าตึก มีผู้ชายอีกสามคนตามมาสมทบ เขาทักทายผู้ชายอีกสองคนที่ยืนเฝ้าไว้ ก่อนจะเดินเข้าไปในตึก
อาคมบอก
"พวกมันมีปืน แสดงว่าข้างในตึก ต้องมีอะไรที่พวกมันซ่อนไว้แน่"
อาคมครุ่นคิดหาวิธี เศกเองก็เช่นกัน
ภายในบ่อน บรรยากาศในวงไฮโล เต็มไปด้วยคนงานชาย นายหมึก ลูกน้องของปิ๊ก เดินเข้าไปหากลุ่มคนงานที่เล่นเสียเงินหมด
นายหมึกถาม
"อยากได้ทุนเอาคืนมั้ยวะ"
นาย เอบอก
"จริงหรือเปล่าพี่"
"แต่มึงต้องไปช่วยกูทำงานที่ตึกเก่านะ"
"โอ๊ะ งั้นไม่เอาอะ ลูกพี่ ... เค้าว่าตรงนั้นเจ้าที่แรง ใครไปขุดเอาของขึ้นมาตายเรียบ"
"โอ๊ยเรื่องโกหกทั้งเพ"
นายเอเดินหนี นายหมึกจึงหันไปชักชวนจ้อน ที่ปลอมตัวเข้ามาอยู่ในวง
"เฮ้ยมึง สนใจมั้ยวะ กูให้ค่าแรงสองเท่าเลยนะ"
"Oh so good"
"อ้าวเฮ้ย ฝรั่งนี่หว่า"
"พูดไทยได้ครับ มีเมียคนไทย"
"อ้าว เหรอ"
"พอดีเมียให้หางานทำครับ"
"เอ้อ ดีๆ อืม หน่วยก้านดีด้วย ท่าทางจะแข็งแรง มาๆ สนใจมาทำงานด้วยกันมั้ย แล้วมีเพื่อนหรือเปล่าล่ะ กำลังขาดคนอยู่เลย"
จ้อนยิ้มกริ่มที่แผนการลุล่วง
ภายในบ้านของปิ๊ก ตอนกลางคืน
ปิ๊กนอนกระสับกระส่าย จนสะดุ้งตื่นขึ้นมา โดนัทนอนอยู่ข้างๆ เขาพยายามปลุกโดนัทให้ตื่น แต่เธอหลับสนิท ปิ๊กหันไปมองรอบๆ เห็นปู่โสม ชายแก่ในชุดไทยโบราณยืนถือดาบอยู่ที่ปลายเตียง กำลังจ้องมองปิ๊กด้วยความโกรธ ปิ๊กกำสร้อยพระที่แขวนอยู่ที่คอของเขาแน่น
ปู่โสมหายไป
"กลัวล่ะซิ กูมีของดีโว้ย ทำอะไรกูไม่ได้หรอก"
เสียงหัวเราะอันน่าขนลุกของปู่โสมดังกึกก้อง
แต่แล้วปิ๊กก็สังเกตเห็นหยดเลือดที่ปรากฏอยู่บนที่นอน ปิ๊กหันไปมองโดนัท โดนัทไม่มีหัว ปิ๊กร้องตกใจ
ปิ๊กสะดุ้งตื่นอีกครั้ง ! เขาลุกขึ้นมานั่ง โดนัทนอนหลับสนิทอยู่ข้างๆตัวเขา ปิ๊กเริ่มกังวล
ต่อมา อาคม เศก และจ้อนปลอมตัวเป็นคนงาน และมาตามคำนัดของนายหมึก นอกจากอาคมและจ้อนยังมีคนงานอีกสามคนที่มาด้วยกัน
นายหมึกบอก
"อ้าว เพื่อนๆแกหน้าตาดี นี่หว่า"
"ถูกไล่ออกจากงานบริษัทนะครับพี่ เมียไล่ให้มาหางานทำเหมือนกัน หัวอกเดียวกัน"
"มนุษย์เมียนี่มันเหมือนกันจริง เมียข้าก็เหมือนกัน ดุยังกับหมา"
จ้อนพยักหน้า นายหมึกมองอาคมและเศกอย่างสำรวจ จ้อนลุ้น
"อืม ดูแข็งแรงดี ใช้ได้"
นายหมึกเดินนำเข้าไปในตึกโบราณ
นายหมึกเดินนำเข้าไปด้านในตึก ที่ตรงกลางที่เดียวกับที่อาคมเคยสังเกตว่า พื้นมีความผิดปรกติ นายหมึกเอามือปัดฝุ่นขี้เถ้าออก มันเป็นแผ่นกระดานไม้ปิดทับอยู่ จากนั้นนายหมึกก็เปิดแผ่นกระดานไม้ออก กลายเป็นโพรงหลุมลึกลงไป
พวกเขาทั้งหมดเดินลงเข้าไปในหลุม
ด้านในกลายเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ นายหมึกพาเดินลึกเข้าไปด้านในสุด และสั่งให้คนงานลงมือขุด
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะลึกลับ ดังขึ้น ทำให้คนงานหยุดชะงัก...
"เอ๊า หยุดทาไม ...กะอีแค่เสียงลม ขุดต่อไปเร็วเข้า" นายหมึกบอก
อาคมและจ้อนมองสำรวจไปรอบๆ พวกเขาเห็นแล้วว่า ในตึกโบราณแห่งนี้มีสมบัติซ่อนอยู่จริง
"เฮ้ย ไอ้ฝรั่ง ขุดสิวะ มัวตะลึงอะไรอยู่"
คนงานเร่งมือขุด
เสียงหัวเราะ ดังขึ้นอีกครั้ง
อาคมบอก
"ทุกคนหยุด เดี๋ยวนี้"
"เฮ้ยอะไรวะ มึงกลัว ก็ออกไปเลย ใครขุดต่อ กูให้ค่าแรงเพิ่มสามเท่า"
คนงานโลภคนหนึ่งคว้าจอบแล้วขุดต่อไป แต่แล้วหัวของเขาก็ขาดกระเด็นอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้คนงานคนอื่นๆ วิ่งหนีแตกกระเจิง
ปู่โสมปรากฏกาย เขาถือดาบขึ้นมา กวัดแกว่งฟันถูกคนงานอีกคนเลือดสาดกระเซ็นเปรอะผนัง นายหมึกวิ่งหนีออกไปทันที อาคมและจ้อนเผชิญหน้ากับปู่โสม จ้อนตัวสั่นหลบหลังอาคม กับเศก
ปู่โสมเดินตรงมายังอาคมและเศก และเดินผ่านเลยไป มุ่งตามนายหมึกออกไปข้างนอก
อาคม เศก จ้อน มองหน้ากันงงๆ
นายหมึกวิ่งหนีเต็มฝีเท้า แต่เขาก็ต้องร้องด้วยความเจ็บปวด เพราะปู่โสมถือดาบฟันเข้าที่หัวของนายหมึกหลุดกระเด็น
ต่อมาทีมหมอผีรวมตัวนั่งประชุมกันเอย่างครียดในสำนักงาน
"ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" จ้อนเอ่ยขึ้น
วิเศษบอกเล่า
"ตามตานานเขาว่ากันว่า คนที่เป็นจ้าวสมบัติ จะนำสมบัติของมีค่าไปฝัง หรือซุกซ่อนไว้ จากนั้นก็สั่งให้ ฆ่าบริวารของตนเพื่อให้เป็นผีตายโหงคอยเฝ้าสมบัติ ไว้ไม่ให้ใครมาเอาไป
จ้อนพยักหน้าคล้อยตาม
เศกถาม
"แล้วทำไมปู่โสมถึงไม่ทำร้ายพวกเราล่ะครับ"
"อาจจะเพราะพวกคุณไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้าไปขโมยสมบัติ ปู่โสมถึงไม่ได้ทำ"
จ้อนถอนหายใจ
"ถึงปู่โสมจะคอยเล่นงานเฉพาะคนที่คิดจะเข้าไปขโมยสมบัติ แต่เราก็ต้องหาวิธีหยุดปู่โสม ไม่ให้ทำร้ายใครได้อีก"
มหาเนิร์ดถาม
"อาจารย์มีวิธีเหรอครับ"
อาจารย์วิเศษสีหน้าครุ่นคิด
ภายในบ้านปิ๊ก
ปิ๊กกาลังคุยโทรศัพท์สีหน้าเครียด
"ครับ ผมทราบแล้วครับ ถ้ายังไงผมจะให้ทนายติดต่อไปนะครับ ว่าจะสะดวกไปให้ปากคำวันไหน ครับสวัสดีครับ"
ปิ๊กวางโทรศัพท์ สีหน้าเครียด โดนัทเดินเข้าบ้านมาพอดี
"โดนัทบอกแล้วใช่มั้ยปิ๊ก ว่าให้เลิกยุ่งกับสมบัติพวกนั้น นี่เห็นมั้ย มีคนตายเพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว"
ปิ๊กพยายามควบคุมอารมณ์
"โอเคโดนัท ปิ๊กจะเลิกยุ่ง พอใจมั้ย"
โดนัทพยายามใจเย็นลง
"โดนัท เดี๋ยวไปเป็นเพื่อนผมหน่อยซิ ตำรวจโทร.มาเชิญให้ผมไปให้ปากคำที่ สน."
"ปิ๊กรับปากนะว่าจะเลิกจริงๆ"
ปิ๊กพยักหน้า โดนัทยังคงมีสีหน้ากังวลอยู่
ปิ๊กกับโดนัทมาถึงที่ตึกโบราณ โดนัทแปลกใจหันไปมองปิ๊ก
"ปิ๊กมาที่นี่ทำไม ไหนบอกว่าจะไปสถานีตำรวจ"
ปิ๊กไม่ตอบ สีหน้านิ่ง เขาดึงแขนโดนัทให้เดินเข้าไปในตึก
ปิ๊กเดินมาที่บริเวณที่คนงานขุดค้างไว้ เขาเห็นว่ามีจอบและเครื่องมือขุดหลายอันวางทิ้งไว้แล้ว เขาก็ลงมือใช้จอบขุดอย่างทุลักทุเล โดนัทได้แต่อึ้ง
"ปิ๊ก ไหนคุณบอกว่าจะเลิกแล้วไง"
"อยู่เฉยๆน่าโดนัท ถ้าไม่คิดจะช่วยกันก็อยู่เงียบๆได้มั้ย"
"ก็ปิ๊กรับปากกับโดนัทว่าจะเลิกจริงๆ แต่ปิ๊กกลับมาทำแบบนี้ได้ยังไง"
ปิ๊กหันมาตวาด
"จะให้ผมเลิกได้ยังไง สมบัติพวกนี้มันเป็นของผม ผมจะให้ใครมาเอาไปได้ยังไง"
โดนัทเสียใจที่เหมือนปิ๊กเปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่ง
ปิ๊กยังคงลงมือขุดอย่างบ้าคลั่ง ในแววตาของเขามีแต่ความโลภ
โดนัทตัดสินใจหันหลังจะวิ่งกลับ ทันใดนั้น หัวของปู่โสมกลิ้งมาถูกที่เท้า โดนัทกรีดร้องเสียงหลง แล้วเป็นลมหมดสติไป ปิ๊กมองไปทางโดนัท เขาไม่เห็นปู่โสม ปิ๊กวิ่งไปเขย่าตัวเธอให้ตื่น
"โดนัท ๆ"
ทันใดนั้น เสียงหัวเราะของปู่โสมก็ดังก้องขึ้น ปิ๊กตกใจ เขาวางร่างโดนัทลงก่อนจะลุกขึ้นมองไปรอบๆ
"ออกมาสิวะ ชั้นไม่กลัวแกหรอก"
ปิ๊กคว้าเอาสร้อยพระที่คอออกมา เขายิ้มที่ปู่โสมทำอะไรเขาไม่ได้
ปิ๊กคว้าจอบขึ้นมาขุดต่ออย่างบ้าคลั่ง
ต่อมา ทีมหมอผีมาถึงที่ตึกโบราณ อาคมและจ้อนพาทีมเดินเข้าไป
มหาเนิร์ดใช้เครื่องมือวัดพลังแม่เหล็กไฟฟ้า ออกค้นหาร่างของปู่โสมที่ฝังไว้ที่ชั้นใต้ดิน บริเวณมุมหนึ่งค่าดัชนีตีค่าสูงมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงสัญญาณดังรัว
"ตรงนี้แหล่ะ"
จ้อนหยิบจอบขุดลงไปในดิน จนเขาเห็นโครงกระดูกที่ฝังอยู่
วิญญาณของปู่โสมก็ปรากฏตัวขึ้น อาคมคว้าเอากรงดักพลังงานออกมาเตรียมดูดวิญญาณของปู่โสม แต่แรงมหาศาลของปู่โสมก็ยื้อจนอาคมต้านไว้ไม่อยู่ เศกเข้ามาช่วยอีกแรงแต่ก็ไม่ไหวเช่นกัน จนกรงดักพลังงานตกและกระเด็นออกไป
เสียงหัวเราะของปู่โสมดังกึกก้อง
วิญญาณปู่โสมพุ่งตัวเข้ามาพร้อมกับเงื้อดาบจะฟันมาที่อาคมและเศกที่ยืนอยู่ด้วยกัน รัตติกาลพุ่งตัวไปขวางไว้
"อย่า...."
แต่แล้ววิญญาณของปู่โสมก็หยุดชะงัก วิเศษถือกะโหลกของปู่โสมไว้ในมือ โดยมีผ้ายันต์สีแดงพันรอบกะโหลก
"หยุดก่อนเถอะ สิ่งที่ท่านทำเป็นเพราะท่านทำตามหน้าที่ แต่ผมขอสัญญาว่า สมบัติทั้งหมดจะตกเป็นของแผ่นดิน ตามที่เจ้าของเดิมปรารถนา"
ปู่โสมยืนนิ่ง อาคมรีบคว้ากรงดักพลังงานขึ้นมาดูดวิญญาณของปู่โสมเข้าไป
มุมของปิ๊ก เขาเร่งมือขุดหาสมบัติ โดยที่โดนัทยังนอนสลบอยู่ที่เดิม
ทีมหมอผีปรากฏตัวขึ้น สร้างความไม่พอใจให้กับปิ๊ก
"เฮ้ย พวกแกเป็นใครวะ เข้ามาได้ยังไง ออกไปให้หมดนะ"
เศกเห็นโดนัทสลบอยู่ เขารีบวิ่งไปดู เศกจ้องมองปิ๊กแบบโกรธแค้น
"ไอ้เศก มึงอย่ามายุ่งกับเมียกูนะ"
ปิ๊กจะเดินไปหาเศก
ทันใดนั้นพื้นดินที่ปิ๊กยืนอยู่ก็ยุบตัวลงไป สูบเอาร่างของปิ๊กจมหายไปต่อหน้าต่อตาทีมหมอผี ...
ต่อมา โดนัทในชุดไว้ทุกข์ ดวงตาของเธอแดงก่ำ เศกนั่งอยู่เป็นเพื่อน
"ถ้าโดนัทเชื่อเศกแต่แรก ก็คงไม่เป็นแบบนี้"
เศกบีบมือโดนัทเบาๆ
"ตึกและของที่ขุดได้ทั้งหมด โดนัทยกให้กรมศิลป์หมดเลย โดนัทไม่อยากได้แล้ว....โดนัทคิดถึงปิ๊ก"
โดนัทสะอื้น เศกลูบหลังของโดนัทเป็นการปลอบโยน
เรือลอยลำอยู่กลางแม่น้ำ ทีมหมอผี นำโครงกระดูกของปู่โสมออกมาทำพิธี และลอยอังคาร วิญญาณของปู่โสมไปสู่สุคติ เพราะหมดหน้าที่ของเขาแล้ว...
เศกลอบมองรัตติกาลแล้วยิ้ม เขาย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่รัตติกาลเอาตัวเข้าขวางจากเงื้อมือของปู่โสม
ทว่ารัตติกาลกลับมองไปที่อาคม เธอเริ่มไม่แน่ใจตัวเองว่าคิดยังไงกับอาคมกันแน่ !?
อ่านต่อตอนที่ 3