การ์เดี้ยน หักเหลี่ยมมัจจุราช ตอน 5
ในอดีต เวลาตีสาม...บรรยากาศเงียบสงัด
ณ ลานจอดรถขนาดใหญ่ที่แทบจะไม่เหลือรถราจอดทิ้งไว้อีกแล้ว เสียงหมาค่อยๆเห่าระงมส่งเสียงต่อกันเป็นทอดๆ
ปื๊ด ชายร่างกำยำวิ่งหนีตายกระเซอะกระเซิงมาจากทางด้านหลังของอาคาร ทางด้านหลังของเขามีชายฉกรรจ์ 3 คนวิ่งตามอย่างไม่ลดละ
ปื๊ดวิ่งมาเจอทางตันจะวิ่งกลับทางเดิมคู่อริก็ตามมาเกือบทันแล้ว เขาตะโกนใจปีนข้ามรั้วกั้นลานจอดรถเข้าไปด้านใน
ชายทั้งสามก็ตามไปเช่นกัน
ปื๊ดกระโจนจากทางบันไดเล็กๆ วิ่งต่อไปอย่างคล่องแคล่ว
หนึ่งในสามเห็นว่าปื๊ดจะลับสายตาไปแล้วหยิบปืนขึ้นมาจะยิง คนที่เป็นหัวหน้า รีบตะปบปืนเอาไว้
"อย่า...เดี๋ยวยามแม่งได้ยิน มึงสองคนตามมันไป"
ลูกสมุนทั้งสองพยักหน้ารับแล้วรีบวิ่งตามไป ตัวหัวหน้าวิ่งไปอีกทาง
ปื๊ดกระโดดข้ามรั้วอีกหลัง แต่ลงผิดจังหวะ ขาพลิก
"อ๊ากส"
เขาพยายามลุก แต่ลูกสมุนทั้งสองคนตามทันพอดี ปื๊ดเหวี่ยงถังขยะจนหนึ่งในนั้นล้มลง อีกคนแค่เซแต่ลุกขึ้นมาใหม่ ปื๊ดคว้าไม้กวาดยาวๆฟาดเข้าใส่ ทั้งคู่สู้กันซักพัก ปื๊ดก็ฟาดมันล้มลงแล้วรีบหนีไป
ปื๊ดกัดฟันวิ่งหนีต่อจนเจอทางตัน เขาตัดสินใจคลานไปหลบซ่อนตัวหลังกองลังขนาดใหญ่แล้วหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมา
จากพลาสติกใสด้านหน้าเป็นรูปลูกเมียเก่าๆเหน็บอยู่
ปื๊ดน้ำตาซึมจ้องมองรูปอยู่ชั่วครู่...แล้วก็ตัดใจหยิบของที่อยู่หลังรูปออกมา....เป็นชิพการ์ดเล็กๆใบหนึ่ง
ลูกสมุนทั้งสองคนตามมาทันในลานจอดที่เป็นทางตัน พวกมันเริ่มออกหาว่าปื๊ดซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ?
ปื๊ดหยิบมือถือขึ้นมาโทร. ออก แต่ไม่มีคนรับ สักครู่ก็มีเสียงวอยส์เมล์อัตโนมัติดังขึ้น...
"ผมได้ของมาแล้ว...แต่ไม่แน่ใจว่าผมจะรอดเรอะเปล่า"
รหัสเข้าโฟลเดอร์ black sea 4479 ...
เสียงกุกกักมาจากกำแพงรั้วทำให้เขาต้องรีบวางสาย
ไม่ทันเสียแล้ว ลูกสมุน 1 ถีบกล่องล้มกระจัดกระจาย แต่ปื๊ดไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกแล้ว
ลูกสมุน 2 ถาม
"แม่งหายไปไหนวะ"
ลูกสมุน 1 บอก
"เฮ้ย...มันอยู่นั้น"
ปื๊ดวิ่งหลบ ตัวหัวหน้าโผล่ออกมาแล้วใช้มีดแทงที่ท้องปื๊ดอย่างรวดเร็ว
ปื๊ดสะอึกตัวล้มคว้าเศษไม้ที่มีตะปูขึ้นมาถือเตรียมตัว ลูกสมุนสองคนมาทันพอดี
หัวหน้าถาม "ของอยู่ไหน!"
"ไม่มีโว้ย"
"หึ...คืนของมาซะ กูจะช่วยให้มึงไม่ต้องทรมาน"
ปื๊ดไม่ตอบ ตาขวางเตรียมสู้
ลูกสมุนสองคนเข้ารุมทันที ปื๊ดสู้สุดฤทธิ์และใช้ไม้มีตะปูตอกเข้าที่แขนสมุนได้คนหนึ่ง
สมุน 2ร้อง "อ๊ากส"
หัวหน้าตรงเข้าไปถีบปื๊ดแล้วเข้าไปอัดลำตัว ใช้หมัดชกเข้าแผลที่ท้อง ปื๊ดร้องโหยหวน
ปื๊ดพยายามจะสู้แต่ก็โดนหัวหน้าอัดซะเละ เลือดท่วม
"ของอยู่ไหน"
ปื๊ดยิ้มเยาะเย้ย หัวหน้าหักกระดูกซ้ำ
ปื๊ดร้องโหยหวน หัวหน้าพยักหน้าให้ช่วยกันค้นหาของที่ซ่อนไว้ในตัวปื๊ด
ลูกสมุน 2 ยื่นมือถือให้หัวหน้าแล้วกับช่วยเพื่อนค้นหาต่อ รื้อเทกระเป๋าสตางค์หล่นกระจัดกระจาย
"ไม่มีครับ"
หัวหน้าถามย้ำอีก "ของอยู่ไหน"
ปื๊ดขบกรามแน่น...ข่มความเจ็บปวด แต่ไม่ยอมพูด หัวหน้าเงื้อหมัดจะต่อยซ้ำ
เสียงยามดังเข้ามา
"เฮ้ย....ทางนี้โว้ย คนฆ่ากันโว้ย"
ทั้งสามหันไปมองก็เห็นยามสี่ห้าคนวิ่งถือไฟฉาย ตะโกนโหวกเหวกมาที่พวกตน หัวหน้าหยิบมีดขึ้นมามองที่ปื๊ดแล้วปาดคออย่างรวดเร็ว
กลุ่มยามวิ่งมาถึงคนร้ายก็หายไปซะแล้ว เหลือแต่ร่างของปื๊ดที่เบิ่งตาค้าง...สำลักอากาศเฮือกสุดท้าย ในมือกำรูปถ่ายของเมียและลูกไว้แน่น!
ภายในห้องคนไข้ เสียงเครื่องวัดชีพจรร้องเตือนดังลั่น ร่างปลายฟ้ากระตุกตัวเหมือนฝันร้าย
พยาบาลสองคนวิ่งเข้ามา หน้าตาตื่น
หัวหน้าพยาบาลบอก "รีบแจ้งหมอใหญ่...เร็ว"
แป้งกระหืดกระหอบวิ่งมาตามทางในโรงพยาบาล ทีมการ์เดี้ยนประกอยด้วย ชาโดว์ ,หอยแครง,น้าสมาน ยืนรอกันอยู่หน้าห้องปลายฟ้า
"อ้าว เธอไม่ต้องอยู่ออฟฟิศเรอะ" ชาโดว์ถาม
"ก็เคลียร์เงินที่ต้องโอนให้จิมมี่เสร็จ ฉันก็ต้องรีบมาเนี่ยแหละ" แป้งบอก
น้าสมานบอก "ไม่เข้าใจ"
"ก็ค่าสแกน ค่าโน้น ค่านี่ตั้งสามแสน ก็ต้องมาทำเรื่องออกใบกำกับภาษีน่ะซิ พวกนายไว้ใจได้ที่ไหน"
หอยแครงบอก
"โห ดูถูก เรื่องแค่เนี่ย ใครๆก็ทำได้ใช่ไหมพวกเรา"
"เหรอ .....งั้นพวกนายลองบอกที่อยู่จดทะเบียนของบริษัทสิ"
ทั้งสาม"อ่า...เอ่ออ....อ่า" กันไป
"งั้นเป็นเลขทะเบียนผู้เสียภาษีของบริษัทก็ได้"
ทั้งสามยิ่งเอ๋อไปกันใหญ่
น้าสมานบอก
"เออ ว่ะ...แม่งยากเกินความสามารถจริงๆด้วย"
แป้งยิ้มถาม
"จิมมี่อยู่ในห้องใช่ไหม ฉันจะเอาเอกสารไปให้เขาเซ็น"
ทั้งสามรีบห้ามไว้ แต่ไม่ทันแป้งซะแล้ว
ผู้พันพยัคฆ์เปิดประตูสวนออกมา
"อ้าว...ยังไงเนี่ยพวกเธอ ไม่มีอะไรทำเหรอไง"
ชาโดว์รีบยืนตัวตรงทำอะไรไม่ถูก ยกมือขึ้นตะเบะโดยอัตโนมัติ
"ถ้าอยากตะเบะฉันล่ะก้อ นายจะต้องกลับมาเข้าหน่วยของฉัน"
ชาโดว์ยกมือลง
"เออ...อ่า....คือ...ดิฉันขอตัวก่อนค่ะ"
ชาโดว์ยิ้มแหยๆแล้วรีบจากไป หอยแครงรีบวิ่งตามไปทันที
"งั้นผมขอตัวไปรับลูกที่โรงเรียนก่อนนะครับ" น้าสมานบอก
ผู้พันพยัคฆ์คว้าแขนไว้ "เดี๋ยว!"
น้าสมานชะงักกึก หน้าเสีย
"ไปรับลูก!...มีตังค์เรอะเปล่า"
"อ่า...เออ...แหะๆๆ"
ผู้พันพยัคฆ์หยิบเงินจากกระเป๋ายัดใส่มือน้าสมาน
"ติดตัวไว้...เมียจะได้ไม่ด่า"
น้าสมานยกมือไหว้แล้วรีบชะแวบไปทันที แป้งจะมูฟบ้าง
"ส่วนเธอ !"
แป้งชะงัก
"ไปดื่มกัน!"
"อะ...หา"
ร้านกาแฟ ในโรงพยาบาล กาแฟร้อนหอมฉุยสองแก้วถูกยกเข้ามาเสิร์ฟ ผู้พันจ้องมองแป้งที่ยกกาแฟขึ้นดื่มตัวเกร็งเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี
"ตอนนี้เป็นไงกันบ้าง" ผู้พันเปิดประเด็น
"คะ...เออ เมื่อเช้ามีเวียนหัวนิดหน่อย แต่กินยาแล้วก็ดีขึ้น แหะๆ"
ผู้พันพยัคฆ์ยิ้ม
"ไม่ใช่...ฉันหมายถึงบริษัทเดอะการ์เดี้ยนของพวกเธอน่ะ"
"อ่ะ อ๋อ...ก็ดีค่ะ"
ผู้พันพยัคฆ์จ้องหน้าคาดคั้น
"ก็..เรื่อยๆ....พอได้...มั้ง"
ผู้พันพยัคฆ์จ้องหน้าคาดคั้น
"เอออ..ก็ มีบัญชีตัวแดงบ้าง แบบว่า สงสัย...เศรษฐกิจช่วงนี้ไม่ดี....มั้ง"
"อ้าว..เห็นมีจ๊อบกันตลอดไม่ใช่เหรอ?"
"คะ แต่ว่าจิมมี่เขา....ไม่ใช่ๆ..คือทุกคนนั่นแหละคะ ต้องกันเงินส่วนหนึ่งเป็นค่ารักษาคุณปลายฟ้า จริงๆแล้วก็เป็นส่วนใหญ่เลยล่ะคะ"
"เรื่องการจัดการ....ถ้าไม่มีหนูแป้งพวกเขาก็คงลำบาก"
แป้งยิ้ม
"มั้งคะ"
ผู้พันพยัคฆ์นิ่งไป
"เออ..ผู้พันคะ หนูไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับทุกคนและคุณปลายฟ้า คือไม่มีใครอยากเล่า...แต่บอกแค่ว่าต้องกันเงินเอาไว้ บางทีหนูก็รู้สึกว่าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม..เป็นได้แค่พนักงานบัญชีเท่านั้น"
ผู้พันพยัคฆ์ยิ้ม
"แต่รู้มั้ยในบริษัทของจิมมี่ เธอดูเป็นคนปกติที่สุด"
แป้งงง "ค่ะ"
"บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเธอไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นรกแตกวันนั้นมั้ง"
"เรื่องมันเป็นยังไงเหรอคะ"
ผู้พันพยัคฆ์ชั่งใจ
"หนูอยากรู้จริงๆค่ะ"
ผู้พันพยัคฆ์จ้องมองสายตาที่คาดคั้นของแป้งแล้วก็ใจอ่อนในที่สุด
"โอเค" ผู้พันพยัคฆ์สูดลมหายใจแล้วเริ่มเล่า "เมื่อปีที่แล้ว มีข่าวใหญ่เรื่องบริษัทต่างประเทศได้สัมปทานธุรกิจพลังงานในทะเลไทย เธอก็เคยได้ยินข่าวนี้ใช่ไหม"
"หนูเคยเห็นคนเขาแชร์โพสกันในโลกโซเชี่ยล"
"อือม์....มีข่าวรั่วไหลจากวงในว่างานนี้เป็นการคอรัปชั่นขนานใหญ่ มีคนบิ๊กๆนับสิบมีเอี่ยวด้วยแต่ยังไม่รู้ว่ามีใครบ้าง? แต่อย่างว่า...ความลับไม่มีในโลก หลักฐานการโอนเงิน สินทรัพย์และรายชื่อถูกเก็บไว้ในดาต้าที่เป็นความลับ นายทุนใหญ่อาจจะเพื่อใช้แบลคเมล์หรือป้องกันการทรยศในภายหลังฉันก็ไม่รู้"
"แสดงว่าข้อมูลเหล่านี้ไม่มีใครเอาออกมาได้ใช่ไหมค่ะ เพราะไม่เคยมีข่าวชื่อบุคคลที่คอรัปชั่นเลย"
"แค่เกือบจะ...การล้วงเอาข้อมูลอันตรายแบบนี้จะต้องใช้คนสองประเภทในการทำงานหนึ่งคือ ไส้ศึกสำหรับขโมยข้อมูล และ....สอง คนที่รักความถูกต้อง กล้าชนกับอิทธิพลมืดแบบไม่กลัวตาย แต่ก็อย่างที่คำโบราณเคยพูดไว้ ...ก่อนพายุใหญ่จะมา คลื่นลมมักจะเงียบสงบ"
อุโมงใต้ดินที่ทั้งชื้นและเหม็นอับ แสงไฟจากหลอดไส้ส่องสว่างเป็นจุดๆไปตามทางเดินดูลึกลับ
ไฟฉายติดลำกล้องสว่างวาบเข้ามา
หน่วยคอมมานโด 3 นาย เดินเรียงแถวต่อกันมาอย่างเงียบเชียบและระมัดระวัง
หัวหน้าทีม รู้สึกผิดสังเกตุยกมือขึ้นสั่งให้หยุดแล้วดับไฟ แล้วรอ... ดึงมีดออกมาดู เงาสะท้อนจากใบมีด เห็นผู้ก่อการร้ายเฝ้าระหว่างทาง 1 คนและหน้าประตูในสุดอีก 1 คน เขาสั่งให้ท้ายแถวเปลี่ยนตำแหน่ง พลสไนเปอร์ ขยับขึ้นมา...ฃ
หัวหน้าทำมือสัญญาณว่าเตรียมเก็บผู้ก่อการร้ายคนในสุด พลสไนเปอร์พยักหน้ารับแล้วต่อท่อเก็บเสียง เขาสูดลมหายใจแล้ววิ่งออกไป
หัวหน้าทีมตะปบต้นคอผู้ก่อการร้าย ซึ่งเฝ้าต้นทางอย่างรวดเร็ว แต่ยังมีผู้ก่อการร้าย 2 อีกหนึ่งคนซึ่งบังมุมอยู่โผล่เข้าช่วยเพื่อนทันที
ผู้ก่อการร้าย 3 ซึ่งอยู่ด้านในสุดหน้าประตู คว้าปืนขึ้นมาเล็งแต่ก็ไม่ทันซะแล้ว...กระสุนจากพลสไนเปอร์ยิงเข้าที่ลำตัวจนล้มลง พลสไนเปอร์กลับมาเล็งจะช่วยหัวหน้าทีมแต่ยิงไม่ได้
หัวหน้าทีมซัดกับผู้ก่อการร้ายจนกระเด็นไปหยิบปืนขึ้นมา หัวหน้าทีมตวัดมือตะปบปืนลั่นผ่านเข้าไปอย่างเฉียดฉิว...ปัง !
หัวหน้าโจรก่อการร้าย ชะงักที่ได้ยินเสียงปืน เขามองไปที่ ตัวประกัน ในชุดสูทและมีผ้าเน่าๆคลุมหัวเอาไว้
หัวหน้าทีมฟัดคนร้ายแล้วถีบ ผู้ก่อการร้าย 1กระเด็นไปเข้าทางหมัดของพลระวังหลัง ที่ตามมาช่วยจนล้มลง
หัวหน้าทีมพลิกแล้วฟาดฝ่ามือเข้าใส่ผู้ก่อการร้าย 2 จนสลบไป หัวหน้าทีมรีบกวักมือให้ลูกทีมตามมาและตรงไปยังประตู
พลระวังหลัง หยิบแท็ปเล็ตขึ้นมาเปิดแผนที่เป้าหมายและพยักหน้าว่าตำแหน่งถูกต้อง
หัวหน้าทีมขยับตัวออกด้านข้าง พลระวังหลังขยับประตูอย่างแผ่วเบาปรากฎว่ามันไม่ได้ล็อกจึงแง้มออกก็เห็นหัวหน้าโจรนั่งหันหลังให้ประตูพอดี พลระวังหลังกระชับปืนส่งสัญญาณเข้าชาร์จ
หัวหน้าทีมเอะใจจะคว้าตัวไว้แต่ไม่ทันเสียแล้ว
ประตูเปิดผลัวะออก พลระวังหลังยิงกระสุนปืนเข้าใส่ ร่างหัวหน้าโจรคว่ำไปแต่กลับกลายเป็นแค่หุ่นลองเสื้อ
พลระวังหลังรู้ว่าพลาดจะหันกลับก็โดนกระสุนคนร้ายยิงจนล้มไป
หัวหน้าทีมเข้าชาร์จหัวหน้าโจรจนมันล้มลง หัวหน้าโจรอัดเขาจนกระเด็นไปรีบคว้าปืนสั้นจะยิงแต่จุดแดงสไนเปอร์เล็งมาที่เขา
พลสไนเปอร์แอนนาบอก "ทิ้งปืน"
หัวหน้าโจรในชุดสูทยิ้มแล้วยกมือขึ้น แล้วจู่ๆกลับตวัดปืนเข้าใส่อย่างรวดเร็ว
แอนนายิงออกไปก่อน หัวหน้าโจรถึงจนหลบไม่ทันแต่ก็สวนได้คนละนัดจนล้มทั้งคู่
หัวหน้าโจรหมุนตัวเอาปืนจะหยิบขึ้นจ่อหัวแอนนา แต่หัวหน้าทีมคอมมานโดก็ไวไม่แพ้กันหยิบปืนจากซองเล็งมาที่หัวหน้าโจร
หัวหน้าทีมคือ จิม บอก "อย่าตุกติก"
แอนนาค่อยๆยันตัวขึ้น ท่าทางเจ็บไม่ใช่น้อย
"ถ้าไม่ได้คำสั่งให้จับเป็นล่ะก็..." จิมมี่บอก
แท็ก หัวหน้าโจรบอก "อยากจับเป็น มันก็ต้องใช้ฝีมือหน่อยนะ หมวด"
แล้วแท็กก็วางปืนลงแล้วเตะมันไปให้ไกล ส่งยิ้มยียวนให้จิมมี่
จิมมี่วางปืนลงแล้วยิ้มกลับให้มันเช่นกัน แล้วถอดหมวดและผ้าคลุมหน้าออก
"ถ้ากระดูกหักไป ก็อย่าหาว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุก็แล้วกัน !"
ชาโดว์กระเถิบตัวถอยห่างคนทั้งคู่
จิมมี่และแท็กตั้งท่าแล้วประเคนหมัด ศอก เท้าเข้าใส่กัน
แท็กสู้อย่างดุดัน แต่จิมมี่ก็ตั้งรับได้และพยายามล็อกจับให้ได้ แต่แท็กก็ใช้แรงและพละกำลังทุ่มจิมมี่จนกระแทกโต๊ะแตก ข้าวของล้มระเนระนาด
ชาโดว์หยิบปืนขึ้นมาเล็งแท็ก
จิมมี่ลุกขึ้นรีบส่งสัญญาณมือห้ามชาโดว์แล้วเช็ดเลือดที่ซึมตรงริมฝีปาก
"อย่า...ฉันเคลียร์เอง"
แท็กยิ้ม...แล้วพุ่งเข้าหา
จิมมี่พลิกตัวหลบแล้วเหวี่ยงแท็กเข้าชนข้าวของที่ผนังล้มกระจัดกระจาย
แท็กลุกขึ้นสะบัดหัวด้วยความมึน จิมมี่ยิ้มแล้วกวักมือเรียก...
แท็กวิ่งเข้าใส่ ทั้งคู่ผลัดกันโดนหมัด โดนเท้าคนละทีสองที แต่ในที่สุดก็โดนจิมมี่ซัดซะกระเด็นไป
แท็กมองเห็นปืนที่หล่นอยู่ รีบกลิ้งตัวไปคว้าขึ้นมา...
จิมมี่รีบคว้าปืนข้างตัวเช่นกัน !
ชาโดว์ตวัดปืนขึ้นเล็ง !
ทั้งสามเล็งปืนใส่กัน....ทุกอย่างหยุดนิ่ง จิมมี่ยิ้ม...
"แกไม่รอดแน่" แท็กบอก
"แกก็เหมือนกัน"
"ตำแหน่งยิงของฉันดีกว่า"
ชาโดว์บอก "งั้นก็ยิงเลยซิ..ฉันจะได้ใช้เป็นข้ออ้างวิสามัญแก"
"ให้ได้ยังงี้ซิ ลูกน้องกู"
"หึ...บางที ฉันอาจจะเก็บแกทั้งสองคนได้"
"เลือกซักคนเลยซิ...เพราะว่าพวกฉันอีกคนรับรองยิงไม่พลาดแน่" จิมมี่บอก
ทุกคนเล็งปืนใส่กัน....วัดใจ
แต่แล้วเสียงออดก็ดังขึ้น ไฟในห้องถูกเปิดสว่างจ้าทั่วเห็นกล้องวงจรปิดที่ทำการบันทึกปฏิการเอาไว้โดยตลอด
เสียงอินเตอร์คอมพ์ ยกเลิก...การซ้อมภารกิจ CTA 004 06 2015
เสียงออดและเสียงอินเตอร์ตอมพ์ย้ำอยู่อีกสองครั้งแล้วก็เงียบไป
คนทั้งสามลดอาวุธลง ทั้งเจ้าหน้าที่คอมมานโดและโจรก่อการร้ายต่างลุกขึ้นแล้วเข้ามาร่วมตัวกันในห้องด้วยความเหนื่อยอ่อนและเจ็บตัวไปตามๆกัน
แท็กยิ้ม "เลยไม่รู้แพ้ รู้ชนะ"
ชาโดว์บอก "สองต่อหนึ่ง....งานนี้นายแพ้เห็นๆ"
"หึ"
"แต่ถ้าผู้ก่อการร้ายตายอีก ก็ถือว่าภารกิจนี้ก็ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เพราะกริชยิงตัวประกันเสียชีวิต" จิมมี่บอก
กริชจ๋อย " ขอโทษครับ"
จิมมี่ชี้หน้า
"ขอโทษแล้วมันแก้ไขอะไรได้วะ"
กริชเงียบ
"มึงยังอยากอยู่ทีมเดียวกันเหรอเปล่าวะ"
"เอาน่า....หมวด"
เสียงอินเตอร์คอมพ์ ... "จิมมี่...คุณได้รับคำสั่งให้รายงานตัวต่อผู้พยัคฆ์โดยด่วน"
"นั่นไง...ซวยอีกแล้วกู" จิมมี่ว่า
"เอาไว้แก้มือใหม่...เพื่อน" แท็กว่า
จิมมี่ยกมือขึ้นว่าโอเคแล้วเดินจากไป
แท็กตบไหล่ปลอบใจกริช
บรรยากาศภายนอกของโรงพยาบาลที่ดูเก่าแก่
จิมมี่กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาตามทางเดินจนสุดทางเห็นเป็นห้องชันสูตร
ศพบนเตียงอลูมิเนียมถูกผ้าขาวคลุมเอาไว้ ที่ปลายเตียง ผู้พันพยัคฆ์ กำลังดูชาร์จของผู้ตาย
หมอพอใจ กำลังจัดเตรียมอุปกรณ์ เสียงเปิดประตูทำให้ทั้งคู่หันมามอง
ผู้พันพยัคฆ์ถาม "ไง จิม"
จิมมี่เดินเข้ามา "ครับ"
"ได้ข่าวว่าวันนี้ ทีมนายทำพลาด"
จิมมี่พยักหน้ารับผิด "ครับ"
"นายยังโชคดีที่ยังมีโอกาสแก้ตัว"
จิมมี่งง ผู้พันพยัคฆ์พยักหน้าให้เปิดผ้าคลุมได้
"แต่เพื่อนนายไม่ว่ะ"
ผ้าคลุมถูกเลิกออก เผยให้เห็นใบหน้าที่บวมช้ำไปทั่วจากการถูกซ้อม
"ไอ้ปื๊ด"
"อือม์...มีคนพบศพเมื่อเช้าตรู่แถวคลองเตย"
หมอพอใจ ลอบมองจิมมี่แล้วแอบจัดผมเบาๆ
"จากสภาพศพ ร่างกายถูกทำร้ายด้วยการกระแทกอย่างรุนแรงหลายจุดทั้งจากจากตี และรอยจ้ำที่สันนิษฐานว่าจากมือและเท้า แต่สาเหตุการตายที่แท้จริงมาจากมีด...ตรงนี้"
"มีด"
"ใช่ค่ะ การฆ่าคนที่ไม่ได้สลบด้วยการปาดคอ รอยบาดแผลเนี๊ยบขนาดนี้แสดงว่าคนร้ายมีความชำนาญในการใช้มีดมาก"
"นึกไม่ถึงว่า สายสืบที่มีฝีมือจะพลาดท่าได้"
"เหมือนจะถูกทรมานด้วย...ถ้าไม่ใช่แก้แค้นก็..."
"เค้นความลับ"
จิมมี่อึ้งไปแต่ก็เห็นผู้พันพยัคฆ์ลอบถอนหายใจ
จิมมี่คิดตาม
"ผู้พันใช้ให้มันไปสืบอะไร"
ผู้พันพยัคฆ์เหลือบมองหมอพอใจ
หมอพอใจนิ่งอึกอักกำลังจะขอตัว
ประตูห้องชันสูตรถูกเปิดออก ส.ส.ปลายฟ้า ในชุดสีเข้มและสวมแว่นดำพรางหน้าเดินตรงเข้ามาที่เตียงศพแล้วก็ต้องชะลอ เธอตัวสั่นเล็กน้อยเหมือนจะเป็นลม
"สายของเรา"
ผู้พันพยัคฆ์พยักหน้า
ปลายฟ้าเสียงสั่น
"รู้จักญาติเขาใช่ไหมคะ"
"จิมมี่รู้จักครับ เขาเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันสมัยเป็นนักเรียนนายร้อย"
"ผมยังรู้ด้วยว่า...เมียเขากำลังท้องลูกคนที่สอง"
ส.ส.ปลายฟ้ายกมือขึ้นปิดปากเหมือนจะร้องไห้ แต่พยายามกลั้นไว้
"มันยังไงกันเนี่ย? ไม่มีใครคิดจะบอกอะไรผมเลยเหรอไง"
ผู้พันพยัคฆ์ถอนหายใจ
"จิมมี่...นี่คุณปลายฟ้าเป็นส.ส.พรรคร่วม"
"เรื่องนั้นผมรู้ครับ...เธอเคยออกทีวีบ่อยๆ"
"งั้นจัดการให้ฉันหน่อย...คือ..ฉัน..ฉันยินดีที่จะช่วยเหลือครอบครัวของเขา"
จิมมี่มองผู้พัน
"เฮ้ย...ที่เรียกมานี่ เพราะเห็นผมเป็นแมสเสนเจอร์เรอะไง"
บรรยากาศเริ่มตึงเครียด ผู้พันพยัคฆ์มองหน้าหมอพอใจอีกครั้ง
"อ่า...เออ...เดี๋ยวฉันขอตัวไปตามผลฟิลม์เอ็กเรย์ก่อนนะคะ"
จิมมี่รีบคว้าแขนหมอพอใจเอาไว้ แล้วจดเบอร์โทร.ใช้กระดาษชาร์ตของหมอ
"ได้ผลยังไง รีบติดต่อผมโดยด่วนเลยนะครับ"
หมอพอใจหน้าแดง พยักหน้ารับแล้วรีบเดินจากไปทันที
ผู้พันพยัคฆ์รอจนหมอพอใจเดินออกไปจากห้อง
"คุณบอกว่า ปื๊ดพยายามติดต่อคุณเมื่อคืน"
ปลายฟ้าไม่ตอบมองหน้าจิมมี่ไม่ไว้ใจ
"ไม่ต้องห่วง จิมมี่ไว้ใจได้"
จิมมี่ยิ้ม
"ถึงแม้งานนี้ผมเป็นแค่แมสเสนเจอร์ก็เถอะ"
ผู้พันพยัคฆ์หันมาทำหน้าดุใส่
"โอเค...ปื๊ดมิสคอลเข้าหาฉันประมาณตีสามหลายสาย"
"แต่คุณก็ไม่ได้รับ"
"เมื่อวานฉันยุ่งมากกับการติดต่อประสานงานเพื่อประชุมสรุปงบประมาณของวันนี้ จนแบตหมดแล้วก็ลืมชาร์ตก่อนเข้านอน"
"งั้นก็แปลว่าคุณไม่รู้ว่าปื๊ดติดต่อมาเรื่องอะไร" ผู้พันว่า
"ไม่หรอก แต่ครั้งสุดท้ายเขาฝากข้อความว่าได้ของมาแล้ว"
"ของ "
ปลายฟ้าไม่สนใจอธิบาย
"แต่สายถูกตัดไปขณะเขากำลังบอกพาสเวิร์ด"
ผู้พันพยัคฆ์บอก
"ในที่เกิดเหตุและตัวปื๊ดก็ไม่มี...ของที่ว่า"
"แปลว่า คนร้ายได้ของไปแล้ว"
"ไม่แน่....แต่ที่สำคัญมือถือของปื๊ดก็หายไปด้วย"
"ถ้าคนร้ายเก็บมือถือของปื๊ดไป ป่านนี้พวกมันก็จะรู้ว่าสายสุดท้ายที่ปื๊ดติดต่อเป็นคุณปลายฟ้า" จิมมี่บอก
"ใช่...และมันเป็นเหตุผลที่ฉันเรียกแกมาที่นี่ จิม...นายพาคุณปลายฟ้าไปที่เซฟเฮ้าส์เดี๋ยวนี้ แล้วเซททีมคุ้มกันชุดเล็กฝีมือดีคอยคุ้มครองจนกว่าเรื่องทั้งหมดจะเคลียร์" ผู้พันบอก
"เดี๋ยวนี้เลยเรอะ...แต่บ่ายนี้ฉันมีประชุม" ปลายฟ้าว่า
ผู้พันพยัคฆ์ย้ำ จริงจัง " เรื่องนี้อันตรายมาก ต้องเดี๋ยวนี้ครับ" ผู้พันบอกจิมมี่ "อย่าเสือกทำพลาดแบบเมื่อเช้าล่ะ"
รถเก๋งของปลายฟ้าแล่นเข้าถนนเส้นหนึ่งที่วิ่งตรงไปออกชานเมือง
ภายในรถ จิมมี่เพิ่งวางสายจาการสั่งงานในทีม ปลายฟ้านั่งหน้าเครียด
"แล้วคุณจะบอกผมได้เหรอยัง ว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นมายังไง"
ปลายฟ้ามองหน้าจิมมี่แวบนึง
"ระดับนายรู้เรื่องพวกนี้น้อยเท่าไรก็ยิ่งดี"
จิมมี่ยิ้มแล้วก็ยักไหล่
"ลืมไป...ผมก็แค่แมสเสนเจอร์"
"ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นซะหน่อย"
"แต่น้ำเสียงเหมือนมันจะใช่"
ปลายฟ้าถอนหายใจ
"เรื่องนี้มันอันตรายมาก...ฉันไม่อยากให้ใครต้องเป็นแบบปื๊ดอีก"
"ไม่ทันแล้วล่ะ"
ปลายฟ้าเงียบ
"โอเค...ถึงยังไงเราก็ต้องอยู่ด้วยกันซักพัก...ผมรอได้"
ปลายฟ้าเซ็งไม่อยากต่อล้อต่อเถียง เธอหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
"นั่นคุณจะทำอะไร"
"ก็จะโทร.หาลุงของฉันน่ะซิ บ่ายนี้มีประชุมงบประมาณสำคัญด้วย"
"คุณโทร.ไม่ได้"
"ทำไมฉันจะโทร. ไม่ได้ มันมือถือของฉัน"
"ก็ใช่...แต่คนร้ายมันจะอาจจะดักฟังอยู่"
"แล้วไง"
"แล้วมันก็จะแกะรอยตามหาคุณจนเจอน่ะสิ"
"แล้ว"
"แล้วคุณก็จะตกอยู่ในอันตราย"
"นายมีหน้าที่คุ้มครองฉันใช่ไหม" ปลายฟ้าถาม
"ใช่"
"งั้นนายก็ทำหน้าที่ของนาย ส่วนฉันก็ต้องทำหน้าที่ของฉันเหมือนกัน" ปลายฟ้าดื้อดึง
"เอามือถือมานี่" จิมมี่บังคับ
"ไม่"
จิมมี่พยายามยื้อแต่ปลายฟ้าก็ไม่ยอม จิมมี่ใช้แรงคว้ามือถือมาได้สำเร็จ
"โอ้ย...อะไรของนายนี่"
"ผมก็กำลังจะทำหน้าที่คุ้มครองคุณไง"
"เอามือถือฉันคืนมา"
จิมมี่เปิดกระจกรถแล้วโยนมือถือทิ้งไป
"อ้าวเฮ้ย...ทำไมทำงี้ แล้วฉันจะติดต่อใครได้ยังไง"
"มือถือของคุณน่ะตัวอันตราย....ใช้ของผมแทนก็แล้วกัน" จิมมี่บอก
จิมมี่ล้วงมือถือถูกๆ มาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้
"รับรองปลอดภัย !"
ปลายฟ้ามองทำหน้าหยะแหยง
"มือถือแบบนี้มันจะส่งไลน์ได้ยังไง"
จิมมี่ยิ้มกวนๆ
"คนเดี๋ยวนี้เป็นอะไรกันหว่า ไม่ชอบคุยกัน ...มีอะไรก็โทรคุยกันเลยซิ จะไลน์ทำไม"
ปลายฟ้ามองหน้าจิมมี่แล้ววางมือถือลงทำหน้างอนๆ
เซฟเฮ้าส์เป็นบ้านปูนเรียบๆหลังหนึ่งที่แยกตัวออกมาจากถนนใหญ่และชุมชน
รถเก๋งของปลายฟ้าวิ่งเข้ามาจอดเทียบหน้าประตูบ้าน
ปลายฟ้าปิดประตูรถอย่างโมโหแล้วเดินเข้าไปในบ้านทันที โดยมีจิมมี่ยิ้มกวนๆเดินตามหลัง
ปลายฟ้าเดินงอนเข้ามา ทำเอาผู้พันพยัคฆ์ที่กำลังสรุปสถานการณ์และภารกิจให้ชาโดว์ แท็กและกริชฟังต้องหยุดแล้วหันมอง
"ฉันอยากจะขอเปลี่ยนคน" ปลายฟ้าบอก
"เปลี่ยนคน ? คุณจะเปลี่ยนใคร"
"ก็นายคนนี้ไง"
ปลายฟ้าชี้และพูดอย่างออกคำสั่ง จิมมี่ยิ้มแหยๆให้ผู้พันพยัคฆ์
"ผมแค่โยนมือถือของคุณปลายฟ้าออกไปนอกรถ ...ก็เธอพยายามติดต่อคนอื่น ผมห้ามแล้วก็ไม่ฟัง"
เพื่อนร่วมทีมยิ้ม...ไอ้จิมมี่เอาอีกแล้ว
ผู้พันพยัคฆ์บุ้ยใบ้ให้จิมมี่ขอโทษปลายฟ้า
"โอเคๆ...เดี๋ยวเสร็จงานผมซื้อให้คุณใหม่"
"มันไม่เกี่ยวกับมือถือ...งานของฉันที่ต้องเข้าที่ประชุมต่างหาก แล้วตอนนี้ลุงของฉันจะรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่ไหน"
ปลายฟ้ายังโกรธอยู่ ผู้พันพยัคฆ์โบกมือให้จิมมี่ถอยไปแล้วหยิบมือถือเก่าๆ ประมาณรุ่นเดียวกับจิมมี่ จากกระเป๋ากางเกงยื่นให้ปลายฟ้า
"ใช้ของผมแทนก็ได้ครับ"
ปลายฟ้าหันมาก็เห็นจิมมี่และเพื่อนๆยิ้มกลั้นขำแทนไม่อยู่ เธอเซ็ง...ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องด้านใน
ผู้พันพยัคฆ์งง พึมพำ
"กูทำอะไรผิดวะเนี่ย"
ปลายฟ้ามองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นผู้พันพยัคฆ์กอดคอจิมมี่และลูกทีมเดินตรงไปที่รถ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ชาโดว์เดินเข้ามาเอาผ้าเช็คตัวมาให้
"ขาดเหลืออะไรบอกฉันได้นะค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ"
"คุณ"
"ชาโดว์ค่ะ"
"ชื่อแปลกจังนะค่ะ"
"มันเป็นชื่อโค้ดในหน่วยค่ะ...พอเรียกไปเรื่อยๆก็ติดปากจนไม่มีใครเรียกชื่อจริงกันแล้ว"
ชาโดว์หันหลังจะเดินออกไป
"เดี๋ยวก่อนค่ะ...ไม่มีคนอื่นมาแทนอีตาจิมมี่ได้เลยเรอะ"
ชาโดว์ยิ้มตอบ
"จิมมี่ ฝีมือดีที่สุดในหน่วยของเราแล้วค่ะ"
ปลายฟ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่
ทั้งหมดเดินมาถึงรถของผู้พัน ผู้พันพยัตฆ์ตบไหล่จิมมี่แน่นๆ
"เฮ้ย...กูขอล่ะ อย่าไปกวนตีนคุณเขาให้มาก เดี๋ยวงานเราจะยิ่งลำบาก"
"ครับพ่อ"
" แล้วก็ห้ามเด็ดขาดเลยนะไอ้จิม...เรื่องเจ้าชู้ใส่"
"โอเคๆ...ผมรู้แล้วน่า"
ผู้พันพยัคฆ์พูดกับทุก
"เดี๋ยวฉันไปรายงานท่านรัฐมนตรีเรื่องคุณปลายฟ้า...เสร็จแล้วจะรีบกลับ อย่าให้เธอออกไปไหนโดยไม่จำเป็น...เข้าใจ๋"
จิมมี่/แท็ก/กริชรับคำ "ครับผม"
ผู้พันพยัคฆ์เดินขึ้นรถ แล้วขับออกไป
จิมมี่หันไปบอกแท็กและกริช
"เฝ้าคุณปลายฟ้าไว้ เดี๋ยวกูมา"
จิมมี่ชี้หน้ากริชสำทับ กริชหน้าเจื่อน ในขณะที่แท็กมองตามจิมมี่อย่างสงสัย
หมอพอใจหยิบฟิลม์สไลด์มาเปิดดูบนกล่องไฟก็สังเกตุเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่าง เธอรีบกดมือถือโทร.ออก
"ฮัลโหล"
"คุณจิมมี่...หมอพอใจนะคะ ผลฟิลม์เอ็กเรย์ออกมาแล้ว มีวัตถุเล็กๆอยู่ในช่องท้องผู้ตายคะ"
"มันคืออะไรเหรอครับ"
ภาพฟิลม์เอ็กเรย์เห็นการ์ดขนาดเล็กในช่องท้อง
"เออ...เหมือนมันจะคล้ายๆ...การ์ดไมโครชิพค่ะ !"
แท็กกับกริชนั่งคุยกันเงียบๆอยู่หน้าบ้าน ปลายฟ้ากับชาโดว์กำลังเรียงข้าวของเข้าตู้เย็น ชาโดว์รู้สึกตัวจึงตวัดปืนสั้นจากซองเล็งไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
จิมมี่ชะงักกึกทำหน้าเหรอหรา เนื้อตัวมอมแมมไปด้วยขี้ดิน ในมือถือดอกไม้กำใหญ่
"เฮ้ยๆ...ฉันเอง"
ชาโดว์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แท็กกับกริชวิ่งเข้ามาสมทบ
"เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ...เข้ามาไม่ให้ซุ่มให้สียง"
มมี่ยิ้มแหะๆแล้วยื่นดอกไม้ให้ปลายฟ้า
"ผมเก็บมากับมือเลยนะเนี่ย รับรองว่าคุณต้องชอบมันแน่ๆ"
ปลายฟ้าจะรับมา " ขอบใจ!"
จิมมี่ดึงกลับ
"แต่คุณต้องบอกผมก่อน ว่าไอ้ไมโครชิพนั่นคืออะไร"
"นายรู้เรื่องนี้ได้ยังไง"
"ผลเอ็กซเรย์ออกมาแล้ว...หมอพอใจบอกว่าในช่องท้องของปื๊ดมีการ์ดไมโครชิพ ผมคิดว่าปื๊ดคงกลืนมันเพื่อไม่ให้ถูกค้นเจอ...มาถึงขนาดนี้คุณจะบอกผมได้หรือยังว่าข้อมูลในการ์ดไมโครชพิพนั่นคืออะไร"
ปลายฟ้าตัดสินใจคว้ากุญแจรถแล้วพรวดพราดลุกขึ้น
"ชาโดว์ เธอไปกับฉัน"
"เดี๋ยว" ชาโดว์ว่า.
แท็กกับกริชรีบยืนขวางหน้าปลายฟ้าเอาไว้
"คุณไปไหนไม่ได้ !" แท็กบอก
"ทำไมฉันจะไปไม่ได้ นายมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉัน"
"เสียใจด้วยครับ ผู้พันพยัคฆ์สั่งไว้ไม่ให้คุณไปไหน ใช่ไหมหมวดจิมมี่"
"ฉันไม่ใช่นักโทษของพวกนาย พวกนายเป็นบอดี้การ์ดของฉันก็แค่ต้องคุ้มครองฉัน ไม่ใช่ทำตัวเป็นผู้คุมแบบนี้"
จิมมี่ยืนยัน
"แท็กพูดถูก คุณไปไหนไม่ได้"
ปลายฟ้าโมโห "นี่...พวกนาย"
"แต่ผมจะส่งชาโดว์ไปเอาไมโครชิพที่หมอพอใจแทน"
ปลายฟ้ายังลังเล
"ถ้าเผื่อคุณปลายฟ้าไม่แน่ใจว่าถ้าเกิดเรื่องชาโดว์จะรับมือไม่ไหว ผมจะไปกับเธอเอง"
ชาโดว์มองหน้าแท็กอย่างไม่พอใจ
ปลายฟ้าจำใจทรุดตัวลงนั่งไม่พูดตอบโต้อีก
จิมมีพยักหน้าให้ชาโดว์และแท็กไปได้...กริชมองตามคนทั้งคู่
ณ ห้องทำงานที่กว้างขวางดูหรูหรา ประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ราคาแพง
เอกพล ท่านรัฐมนตรีช่วยที่มีศักดิ์เป็นลุงแท้ๆของปลายฟ้ากำลังเช็คเอกสารท่าทางเคร่งเครียดกับทีมผู้ช่วยอยู่ เลขาฯ เคาะประตูแล้วเปิดออกนำผู้พันพยัคฆ์เข้ามา
"มาได้รู้จักเวล่ำเวลามากเลยนะ ผู้พัน"
"งานของผมมันยี่สิบชั่วโมงครับท่าน"
"หึ....แต่ตอนนี้ผมมีให้แค่ห้านาที เพราะผมกับทีมต้องรื้อเอกสารที่ไอ้หลานสาวตัวแสบไม่ยอมมาจัดการให้เสร็จ"
"ตอนนี้คุณปลายฟ้าอยู่ในการอารักขาของผมครับ"
"อะไรนะ"
ผู้พันพยัคฆ์นิ่งไม่ยอมพูดอะไร จนเอกพลต้องไล่ทีมผู้ช่วยออกไป
"มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ผู้พัน"
"ท่านได้ยินข่าวเรื่อง เครือข่ายการคอรัปชั่นขนานใหญ่ในสัมปทานพลังงานในทะเลไทยใช่ไหมครับ"
"อือม์...ข่าวใหญ่ที่ไร้หลักฐาน"
"คุณปลายฟ้าได้ขอให้ผมช่วยสืบและล้วงข้อมูลลับของข่าวนี้"
"ทำไม ? ปลายฟ้าไม่เคยบอกผม"
"คุณปลายฟ้าเป็นห่วงท่านมาก เลยไม่อยากให้ท่านข้องเกี่ยวจนกว่าเธอจะได้หลักฐานที่ชัดเจนครับ"
เอกพลเข่าอ่อนทรุดตัวลงนั่ง
"ผมให้คุณปลายฟ้ายืมตัวสายลับคนหนึ่งแฝงตัวเข้าไปในบริษัทเอกชนที่ได้สัมปทาน"
"แล้วได้เรื่องไหม"
"สายของผมเอาข้อมูลการคอรัปชั่นออกมาได้ แต่ก็ต้องแลกด้วยชีวิต"
"แปลว่าคุณได้ข้อมูลนั่นมาแล้ว"
เสียงมือถือของผู้พันพยัคฆ์ดังขึ้น เขารับสายแต่ไม่พูดอะไร
"เข้าใจแล้ว" ผู้พันกดวางสาย พูดกับเอกพลต่อ "หน่วยของผมกำลังไปรับข้อมูล อีกไม่เกินสองชั่วโมงเราคงได้รู้ว่ามีใครบ้าง ผมขอตัวก่อนถ้ามีอะไรเพิ่มเติมผมจะรีบแจ้งท่านครับW
"เดี๋ยวก่อน ผมจะให้คนของผมไปกับคุณด้วย"
"ไม่จำเป็นหรอกครับ"
"ปลายฟ้าเป็นหลานสาวที่ผมรักที่สุด ผมต้องแน่ใจว่าเธอจะต้องไม่เป็นอะไร"
ผู้พันพยัคฆ์จ้องหน้าเชิงปฏิเสธ
"ผมสัญญากับพ่อแม่ของปลายฟ้าไว้ก่อนตาย...คุณเข้าใจใช่ไหม"
"ผมเข้าใจ"
"ขอบคุณ"
ผู้พันพยัคฆ์ถอนหายใจแล้วเดินจากไป
ชาโดว์และแท็ก เดินทางมาถึงโรงพยาบาล ...มีคนท่าทางแปลกๆจ้องมองแล้วเดินตามห่าง
แท็กและชาโดว์เดินไม่เร่งรีบ พยายามทำตัวให้เป็นปกติ
"เห็นใช่ไหม" แท็กถาม
"หนึ่งคนทางซ้าย สองคนทางขวา"
"อือม์..." แท็กยิ้มแล้วยกมือขึ้น "ต้องให้ช่วยไหม"
"นายเก็บไว้ช่วยตัวเองดีกว่า"
"หึ....งั้นฉันจะเข้าไปเอาไมโครชิพ เธอระวังหลังให้หน่อย"
"โอเค" ชาโดว์บอก
แท็กรีบเดินไปทางห้องชันสูตร ชาโดว์เดินช้าลงแล้วหยุดนิ่งขวางทางเดินไว้
ประตูถูกเปิดออก หมอพอใจและผู้ช่วยเพิ่งเอาผ้าคลุมร่างของปื๊ดที่เพิ่งผ่าตัดเสร็จพอดี
"คุณเป็นใคร"
"ผมเป็นลูกน้องของผู้พันพยัคฆ์ครับมารับของ จิมมี่แจ้งแล้วใช่ไหมครับ"
หมอพอใจพยักหน้าแล้วให้ผู้ช่วยส่งถ้วยแสตนเลสที่เปื้อนเลือดมาทำการล้างฆ่าเชื้อ
"ไม่นึกเลยนะคะ ว่าผู้ตายจะกลืนเอาไว้"
"นั่นสิครับ...มิน่าคนร้ายถึงหาไม่เจอ"
หมอพอใจใช้คีมจับค่อยๆหยิบไมโครชิพที่ห่อไว้ด้วยพลาสติกใสอย่างมีสมาธิ
"ผู้ตายน่าจะใช้พลาสติกจากกระเป๋าเงินห่อไว้ก่อนที่จะกลืนลงท้อง...ฉลาดมาก"
แท็กย่องเข้ามาเบื้องหลังคนทั้งคู่อย่างเงียบกริบแล้วใช้มือตะปบใบหน้าผู้ช่วยแล้วบิดจนคอหัก....กร๊อบ!
หมอพอใจชะงักมือแล้วหันมองไปแท็ก แท็กยิ้มให้เธอแล้วปล่อยศพผู้ช่วยร่วงลงกับพื้น
หมอพอใจรู้ว่าพลาดแล้ว รีบรวบการ์ดไมโครชิพไว้ในมือแล้วจะวิ่งไปที่ประตู แต่แท็กตามมาทันตบเธอกระเด็นไปชนข้าวของหล่นกระจาย
ชาโดว์ได้ยินเสียงข้าวของหล่นเสียงดังจากห้องชันสูตรจึงตัดสินใจจะเดินไปดู แต่ชายฉกรรจ์คนหนึ่งขวางหน้าเธอเอาไว้ ชาโดว์ชะงักจะหยิบปืนแต่จู่ๆก็โดนกระแทกจากทางด้านหลัง
เธอกระเด็นไปกระแทกผนังปืนร่วงจากมือ
ชายคนที่ขวางทางใช้เท้าเหยียบแล้วดีดมันกระเด็นไปไกลๆ
ชาโดว์ตั้งหลักได้ เธอกำมือตั้งการ์ดในขณะที่ชายทั้งสามต่างยิ้มให้อย่างอำมหิต....แล้วค่อยๆล้อมเธอเข้ามา
หมอพอใจพยายามหนี แต่ก็โดนแท็กคว้าตัวแล้วต่อยจนเธอกระเด็นไป หมอพอใจพยายามยันตัวมือคว้าถาดเหล็กใส่เครื่องมือแพทย์ล้มลง
"อย่าให้ผมต้องออกแรงมากกว่านี้" แท็กบอก
หมอพอใจพยายามคลานหนี แท็กเดินตามไปติดๆ
"ส่งไมโครชิพมา แล้วผมจะช่วยให้หมอไม่ต้องทรมาน"
หมอพอใจจ้องหน้าแท็กอย่างอาฆาต แท็กพุ่งตรงเข้ามาจะจับตัวเธอ
หมอพอใจง้างมีดผ่าตัดแล้วจิ้มบนมือแท็กสุดแรง
"อ๊ากส"
แท็กมองหมอพอใจด้วยความโกรธสุดขีดแล้วค่อยๆดึงมีดออกจากมือ
หมอพอใจได้โอกาสหนี แต่ก็ไม่พ้น แท็กตามมาทันเตะเข้าที่หน้าจนเธอสลบไป
แท็กควานหาจนเจอไมโครชิพที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อกราวน์ มันยิ้มแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นโทร. ออก
"ได้สินค้าแล้ว...ทำลายเป้าหมายได้ !"
ถนนสายเปลี่ยวเส้นหนึ่ง จู่ๆรถผู้พันพยัคฆ์ก็ชะงักกึก
ผู้พันพยัคฆ์งง มองหน้าบอดี้การ์ดทั้งสามของรัฐมนตรีเอกพล
"เฮ้ย พวกลื้อจอดรถทำไมว่ะ"
คนขับรถ กดปิดมือถือแล้วมองสบตากับเพื่อนการ์ดด้านหลัง
ผู้พันพยัคฆ์เดาปฏิกริยาของคนขับ
การ์ดด้านหลังมองหน้ากันแล้ว การ์ดฝั่งขวา ก็คว้าปืนขึ้นมายิง แต่ผู้พันก็ไวไม่แพ้กันปัดปืนออกได้
การ์ดฝั่งซ้าย ดึงสายเปียโนจากใต้แขนเสื้อจะรวบคอผู้พันพยัคฆ์ แต่ก็โดนผู้พันพยัคฆ์สวนกลับจนหน้าผงะไป
คนขับรถชักปืนออกมาแล้วเล็งที่ผู้พันพยัคฆ์ทันที
"สัตว์...ฤทธิ์มากนะมึง"
เสียงปืนดังขึ้นจากภายในรถหลายนัด แต่เพราะฟิลม์ติดรถที่ดำสนิทจึงไม่เห็นเหตุการณ์ภายใน มีแต่เพียงแสงไฟที่แลบจากปากกระบอกปืนเท่านั้น!
ปลายฟ้านั่งกระวนกระวายอยู่ที่ห้องรับแขก กริชเดินเข้ามาแล้วยิ้มให้เธอ
"ชาโดว์ติดต่อกลับมาเหรอยัง"
กริชบอก "ยังเลยครับ...แต่ไม่ต้องห่วงครับ พวกผมมืออาชีพ"
ปลายฟ้าฝืนยิ้ม
"แล้วหมวดจิมมี่ล่ะครับ"
"ไม่รู้เหมือนกัน...นายคนนั้นไม่อยู่ก็ดีเหมือนกัน"
"ดูท่า คุณปลายฟ้าจะไม่ชอบขี้หน้าหมวดจิมมี่มากเลยนะครับ"
"แหงล่ะ ไม่เห็นทำอะไร...ดีแต่กวนประสาท"
กริชยิ้มแปลกๆแล้ว....
ทันใดนั้นเอง กริชตัดสินใจพุ่งพรวดเข้าประชิดตัวปลายฟ้า ตวัดเชือกเอ็นในมือคล้องคอเธออย่างรวดเร็ว
ปลายฟ้าตกใจและพยายามดิ้นสู้ แต่ก็ถูกกริชกดไว้แล้วรัดให้แน่นขึ้น
"อ๊อกส...อ๊อกส"
กริชรัดให้แน่นขึ้น ปลายฟ้ายังพยายามฝืนสู้
กริชอ้อมตัวไว้หลังโซฟาแล้วออกแรงยิ่งขึ้น
อ๊อกสสส...อ๊อกส....ปลายฟ้าหน้าเขียวจะหมดลมหายใจ
ทันใดนั้นเอง จิมมี่โผล่ตัวด้านหลังกริชอย่างรวดเร็ว แล้วต่อยสุดแรงจนกริชกระเด็นไป
ปลายฟ้าก็ล้มลงเช่นกัน จิมมี่รีบเข้าไปคลายเส้นเอ็น เธอสำลักลมหายใจเข้าปอด
"ช่วยด้วย"
กริชลุกขึ้นดึงมีดสปาร์ต้าออกมาแล้วโถมเข้าใส่จิมมี่
จิมมี่ผลักปลายฟ้าให้พ้นทาง แต่เขาก็โดนคมมีดปาดจนเป็นแผลเหมือนกัน
"มึงทำแบบนี้ทำไม"
กริชเช็ดเลือดที่มุมปาก
"เพราะกูเบื่อเป็นลูกไล่มึงเต็มทีแล้วไง!"
หมอพอใจได้สติพยายามคลานหนี
แท็กเดินตามช้าๆ แล้วคร่อมร่างเธอเอาไว้
"โทษทีนะหมอ..นายจ้างผมเขาให้เช็คบิลทุกคนที่เกี่ยวข้อง"
"ไม่...ไม่"
แท็กยิ้มอำมหิตแล้วบิดใบหน้าเธออย่างแรงจนคอหัก...กร๊อบ!
ร่างหมอพอใจล้มลงแน่นิ่ง
แท็กลุกขึ้นยืน....ชาโดว์ที่บาดเจ็บไม่น้อยยืนอยู่ด้านหลังและกำลังเล็งปืนตรงมาที่เขา
"ยกมือขึ้น"
แท็กนิ่งไปไม่ยอมยกมือจนชาโดว์ต้องขึ้นไกปืน เสียงแก็กทำให้เขาค่อยๆยกมือขึ้น
"เอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย"
"ฉันรู้น่า ว่าต้องทำไง"
"เอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย..เดี๋ยวนี้"
แท็กทำตาม ชาโดว์ก้าวเข้ามาอย่างระวังตัวแล้วค่อยๆเอื้อมมือมาคว้าข้อมือแท็ก
แต่ทันทีที่จับ แท็กหมุนพลิกตัวบิดกลับจับข้อมือชาโดว์ไว้ ชาโดว์พยามแก้ล็อกแต่ไม่สำเร็จ
แท็กบิดข้อมือจนชาโดว์ต้องร้องด้วยความเจ็บปล่อยปืนหลุดมือ
เธอแก้ท่าบิดได้แต่แท็กก็ยังจับมือไว้ไม่ยอมปล่อย
ชาโดว์ดึงตัวแท็กเข้ามา แล้วเอาหัวโขกเต็มแรง
ทั้งคู่หลุดจากกัน ต่างสะบัดหัวไล่ความมึนงงแล้วตั้งการ์ดขึ้น
"พวกมันจ่ายเงินให้มึงเท่าไร"
"เธอคิดไม่ถึงหรอก"
ชาโดว์เปลี่ยนการ์ดระวังตัว
"แต่มันก็มากพอที่จะแบ่งให้เธอนะ...ถ้าเธอสนใจ"
"หึ"
"อย่าเสียเวลาเสี่ยงตายเพื่อหน่วย เพื่อคนอื่นเลยชาโดว์ มันไม่มีประโยชน์หรอก โลกใบใหม่....ทุกคนก็กอบโกยผลประโยชน์เพื่อตัวเองทั้งนั้น"
"อย่าเสียเวลา...ไม่ใช่กูแน่ๆ"
แท็กนิ่งมองอยู่ชั่วครู่ สายตาชาโดว์โกรธแค้นและมุ่งมั่น
"ถ้าไม่มีปืน...มึงก็อย่าเสี่ยงดีกว่า"
ชาโดว์บอก "ถ้าคิดว่าเอาชนะได้ ก็ลองดู"
" กูเตือนแล้วนะ"
แท็กง้างหมัดเข้าใส่ชาโดว์อย่างดุดัน
ส่วนกริชแทงมีดเข้าใส่อย่างคล่องแคล่ว จิมมี่หลบได้แล้วพยายามล็อกและเอาคืน
ทั้งคู่ผลัดกันรุกรับจนได้แผลกันทั้งสองฝ่าย แต่สุดท้ายก็เป็นจิมมี่ที่เล่นงานกลับจนกริชแทบกระอัก
"บอกกูมา...ใครจ้างมึง"
กริชปาดเลือดที่เปรอะหน้าคว้ามีดขึ้นมาอีกครั้ง
"นอกจากมึงในหน่วยยังมีใครอีก"
" มึงนึกไม่ถึงหรอก"
กริชเงื้อมีดอีกครั้งแต่หันไปกลับจะไปเล่นงานปลายฟ้า จิมมี่โดดเข้าช่วยปลายฟ้าได้ทันแล้วจัดชุดใหญ่จนมีดของกริชหลุดจากมือ กริชสู้ไม่ไหวจึงตัดสินหนีออกไปทางประตูด้านหน้า
จิมมี่คว้ามีดขว้างใส่ขากริชอย่างแม่นยำ กริชร้องเสียงหลงแล้วล้มลง
จิมมี่กระโจนตามไปแล้วกระชากตัวกริชขึ้นจะถาม...
ทันใดนั้นเอง....ร่างของกริชก็สะบัดตามแรงกระสุนที่ถูกระดมยิงมาจากด้านนอก เลือดสาดกระจายไปทั่ว
จิมมี่รีบหมุนตัวกลับเข้าไปภายในบ้าน
ร่างกริชสะอึกเพียงชั่วครู่แล้วขาดใจตาย
จิมมี่วิ่งตรงไปที่ปลายฟ้า
ประตูหลังบ้านเปิดผลัวะออก...คนร้ายสองคนบุกเข้ามา จิมมี่คว้าปืนที่พาดไว้ในแจ็คเก็ตยิงใส่...ปัง...ปัง
พวกมันผงะล้มลง
จิมมี่ฉุดมือปลายฟ้าให้วิ่งหลบไปอีกทางแล้วแอบมองผ่านหน้าต่าง ก็เห็นคนร้ายนับสิบที่ค่อยๆคืบคลานใกล้เข้ามา จิมมี่ควานไปที่ใต้โต๊ะเล็กๆแล้วหยิบปืนสั้นกระบอกหนึ่งให้ปลายฟ้า...ปลายฟ้าเหวอ
"งานนี้ต้องร่วมด้วยช่วยกันแล้วล่ะคุณ"
"แต่ฉันยิงปืนไม่เป็น"
"ทุกอย่างต้องมีครั้งแรกทั้งนั้นแหละ...จริงมั้ย"
แท็กต่อสู้กับชาโดว์ ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะอยู่หลายที แต่แท็กก็ก็พละกำลังที่เหนือกว่าเล่นงานชาโดว์ซะสะบักสะบอม
แท็กพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง ชาโดว์พลิกสถานการณ์ได้ และเตะผ่าหมากสวนเข้าไปเต็มแรง
แท็กสะดุ้งโหยงหน้าเขียวแล้วทรุดตัวลง
ชาโดว์จะเข้าซ้ำ แต่แท็กใช้ขางัดชาโดว์จนล้มลงไม่เป็นท่า
แท็กคว้าปืนที่ชาโดว์ทำหล่นขึ้นมาจะยิง
ชาโดว์พลิกตัวคว้ามือได้แล้วบิดสุดแรง แผลจากฝ่ามือของแท็กทำให้เลือดไหลทะลักไม่หยุด
แท็กร้องเจ็บปวด ชาโดว์คว้าถาดผ่าตัดฟาดสุดแรง แท็กหน้าสะบัดล้มทั้งยืน
แท็กนิ่งไปแล้ว
ชาโดว์ทรุดตัวนั่งอย่างหมดแรงแล้วหยิบมือถือขึ้นมา...
จิมมี่และปลายฟ้าที่ซ่อนตัวอยู่ในบ้าน จู่ๆเสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น
จิมมี่หยิบมือถือเก่าๆขึ้นมารับสาย
"เป็นไงมั่ง"
"จิมมี่...ฉันได้ไมโครชิพมาแล้ว แล้วก็ได้ตัวคนทรยศแล้วด้วย"
"ใคร"
"แท็ก"
"เชี่ยเอ๋ย"
"ฉันกำลังจะไปที่เซฟเฮ้าส์"
"ไม่..ไม่...ที่นี่ไม่ปลอดภัยแล้ว...เปลี่ยนที่...เดี๋ยวฉันส่งแผนที่ไปในไลน์"
แล้วจิมมี่ก็กดปุ่มด้านข้าง เพจหน้าจอที่ซ่อนไว้สไลด์ขึ้นมา
จิมมี่รีบส่งไลน์แผนที่ทันที
ปลายฟ้าเหวอ
"อ้าว..ไอ้มือถือนี่มันส่งไลน์ได้นี่"
" อ๋อ...ครับ ได้ทั้งส่ง ทั้งรับเลยล่ะ"
ปลายฟ้าเจ็บใจ
เสียงกระสุนแหวกหน้าต่างเข้ามาโดนข้าวของกระจุยกระจาย
จิมมี่รีบโอบตัวปลายฟ้าที่สั่นกลัวเอาไว้ เธอจับมือเขาแน่น
"เอาไงดี...พวกเราไม่รอดแน่ๆ"
"ไม่หรอกน่า"
ปลายฟ้าจ้องมองไม่ค่อยเชื่อเท่าไร
"ไม่ต้องกลัว...ผมสัญญาว่าพาคุณออกไปให้ได้"
"จะไปได้ยังไง...พวกมันล้อมบ้านหลังนี้ไว้แล้ว"
"ว่าแต่...คุณชอบดอกไม้ของผมไหม"
"หา"
ปลายฟ้ามองตามจิมมี่ไปยังดอกไม้ที่อยู่ในแจกัน ซึ่งเขาเก็บมาให้เมื่อกลางวัน
"อีกเดี๋ยวคุณก็จะเข้าใจ"
คนร้ายพร้อมอาวุธนับสิบเคลื่อนตัวจากทุกทางเข้าโอบล้อมตัวบ้าน…ไม่มีทางที่ใครจะเล็ดรอดออกมาได้ !
อ่านต่อตอนที่ 6