แม่นาก ตอนที่ 2
ที่หัวสะพาน นากโผล่ขึ้นจากน้ำพร้อมกุ้งในมือ นากชะงัก เห็นป้าเงินมีผ้าคลุมหัวยืนมองอยู่
"มาอาบน้ำหรือ ไม่หนาวบ้างหรือยังไง"
"ไม่เลยจ๊ะป้า เห็นกุ้งหนวดเขียวๆ ฉันเลยลงไปงม ประเดี๋ยวฉันจะทำกุ้งเผาให้ป้ากินกับน้ำปลาหวานสะเดา"
"ก็ดีเหมือนกัน กำลังนึกอยากกินอยู่เชีย"
นากขึ้นจากน้ำ มานั่งที่หัวสะพาน
"ประเดี๋ยวฉันไปเอาข้องมาใส่กุ้งก่อนนะจ๊ะป้า"
"ไปเถอะ ข้าจะดูให้"
นากไป ป้าเงินมองตาม แล้วถอนหายใจ เอาผ้าขึ้นคลุมหัว กันหนาว หันไปชะโงกหน้าก้มดูที่หัว สะพาน
นากวิ่งกลับมาพร้อมตะข้องสำหรับใส่กุ้งในมือ
"มาแล้วจ๊ะ"
นากชะงัก หัวสะพานไม่มีป้าเงิน เห็นแต่กุ้งซึ่งกระจัดกระจายอยู่ที่พื้น
"ป้าเงิน!"
เช้าต่อเนื่องมา มากเดินลงมาจากเรือน พร้อมกับเครื่องไม้เครื่องมือ สำหรับทำนา
ครู่หนึ่งก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งกรูเข้ามาเสียงตะโกนของจำปี และลำจวน
“ พี่มาก...พี่มาก.... เกิดเรื่องใหญ่แล้วพี่มาก.....”
มากหันไปมองเห็น จำปี ลำจวนที่เหนื่อยหอบและมีสีหน้าตกใจ
" เกิดอะไรขึ้น"
จำปีเหนื่อยหอบ
"พี่มาก....มีคนร้าย"
" มันฉุดคนไปจ๊ะ"
มากตกใจหนัก
"นาก เอ็งสองคนรีบไปตามคนมาช่วย ข้าจะไปช่วยนากก่อน"
มากรีบวิ่งออกไปอย่างร้อนรน จำปี ลำจวนรีบกวักมือตะโกนไล่หลัง แต่ก็ไม่ทัน
"เดี๋ยว!" จำปีเรียก
"ทิดมาก!"
จำปี ลำจวนพยักหน้าแล้วรีบวิ่งตามมากไป
บริเวณกลางทุ่ง นากวิ่งหน้าตั้งมาแต่ไกล เห็นมากแต่ไกล นากตะโกนเรียก
"พี่มาก!"
มากตะลึงด้วยความดีใจ มากวิ่งเข้าไปกอดนากไว้แน่น
"นาก นากไม่เป็นอะไรใช่มั๊ย"
นากยืนส่ายหน้า มากแปลกใจ
"จำปี กับลำจวนมาบอกพี่ว่ามีพวกโจรมาฉุดคนที่บ้าน พี่ตกใจมากคิดว่านากถูกโจรฉุดไปเสียอีก"
นากส่ายหน้า
"ไม่ใช่ฉันหรอกจ๊ะ"
"ถ้าไม่ใช่นาก ไม่ใช่จำปี ลำจวน แล้วโจรมันฉุดใคร"
มากยืนจ้องหน้านาก นากหอบจนพูดไม่ออก
บริเวณท่าน้ำ เพลิงซึ่งมีผ้าคลุมปิดหน้าโพกหัว ชะเง้อคออยู่ในเรือที่ผูกโยงไว้กับท่า เพลิงเห็นเก่ง และหมึก ซึ่งมีผ้าคลุมปิดหน้าโพกหัวเช่นกัน ช่วยกันอุ้มกระสอบที่มีคนอยู่ภายใน คนในกระสอบดิ้นร้องเสียงอู้อี้
บนเรือ เพลิงรีบกระโดดออกมาหาเก่งและหมึก พลางหัวเราะชอบใจ
"เอ็งสองคนทำได้ดีมาก ถูกใจข้าจริงๆ"
"เรารีบไปกันเถอะพี่ เดี๋ยวพวกมันจะตามมาทวงคนจะยุ่ง" เก่งว่า
"เออไป!"
เก่งกับหมึกอุ้มกระสอบจะขึ้นเรือ คนในกระสอบดิ้นรน
เพลิงบอกกับลูกน้อง
"เฮ้ยเดี๋ยว!"
หมึก และเก่งวางกระสอบลง
"มีอะไรหรือพี่" หมึกถาม
เพลิงยิ้มในแววตา
"ขอข้าเชยชมหน้านางฟ้าของข้าให้ชื่นใจหน่อยซิวะ"
เพลิงเดินเข้าไปดึงกระสอบออก ตกใจร้องลั่น “เฮ้ย!!” ทั้งสามคนกระโดดออกห่างจากผู้หญิงในกระสอบ
ป้าเงินโมโหตัวสั่นชี้หน้าตะโกนด่าลั่นคลอง
"ไอ้ฉิบหาย!! ไอ้นรก กูน่ะแก่คราวแม่คราวยายมึงแล้วนะ จะฉุดกูมาทำไม"
เพลิงตกใจโมโห หันไปด่าลูกน้อง
"ฉิบหายแล้ว ไหงกลายเป็นอีแก่ไปได้ เผ่นสิมึง"
สามคนเผ่นหนีไม่คิดชีวิต
ป้าเงินหัวหูยุ่งไปหมด โมโห ด่า ชี้หน้า
"หนอย....เรียกข้าอีกแก่ พวกมึงรู้ฤทธิ์อีเงินน้อยไปซะแล้ว"
ป้าเงินมองหาของที่พื้น เห็นท่อนไม้ จะขว้างตามทั้งสามไป
"ไอ้พวกพ่อแม่ไม่สั่งสอน วันๆเอาแต่ทำชั่ว"
เพลิงและลูกน้องรีบพายเรือจ้ำอ้าวกันไปอย่างไม่คิดชีวิต ป้าเงินยืนด่าสาปส่ง
"ไอ้พวกชั่ว ไอ้พวกระยำ ไอ้ฉิบหาย แน่จริงอย่าหนีสิวะ โธ่!!ไม่รู้จักอีเงินซะแล้ว"
ป้าเงินยืนหอบหายใจเหนื่อย ป้าเงินทิ้งไม้และทิ้งตัวลงนั่งกับพื้น เอิ๊กอ๊าก ลมขึ้น จะเป็นลม
ฝ่ายมาก นาก จำปี และลำจวนเดินตามหาป้าเงินอย่างร้อนใจ
"ไม่รู้มันจะพาป้าไปถึงไหน โธ่ป้าเงิน มาโดนฉุดตอนแก่ เฮ้อ..." จำปีว่า
"อย่างน้อยก็ยังโดนฉุดแหละวะ ถ้าเป็นเอ็งมีหวัง" ลำจวนบอก
สองคนงอนใส่กัน
"อย่ามัวแต่พูดเล่นกันเลย ตามหาป้าก่อนเถอะ ฉันร้อนใจจะแย่อยู่แล้ว" นากว่า
อีกมุมหนึ่ง ป้าเงินเดินล้มลุกคลุกคลานอยู่อย่างอ่อนแรง พอได้ยินเสียงนาก จำปี และลำจวนก็รีบตะโกนตอบ
"ข้าอยู่นี่!! อยู่ตรงนี่"
นาก จำปี ลำจวนได้ยินเสียงป้าเงินก็รีบวิ่งไป
"ป้าเงิน!"
ทุกคนรีบวิ่งเข้าไปหา ต่างเข้าไปรีบพยุงป้าเงิน
นากถาม
"เป็นยังไงบ้างจ๊ะป้า"
ป้าเงินพูดเสียงอ่อนแรง
"ไม่เป็นไรๆ"
จำปีรีบถาม
"พวกโจรมันฉุดป้าไปทำอะไร แล้วนี่ป้ารอดมาได้ยังไง"
"ข้าก็ไล่มันไปน่ะสินังจำปี อย่าเพิ่งถามอะไรเลย ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว"
รีบพาป้าเงินกลับเรือนกันก่อนเถอะ" มากบอก
นากพยักหน้ารับคำ มากเข้าไปอุ้มป้าเงิน นากเดินตามมากไป จำปี ลำจวนเดินรั้งท้ายบ่นกันตามหลัง
"พวกโจรมันนึกยังไงนะมาฉุดป้าเงิน" จำปีว่า
"สงสัยมันจะแอบชอบป้าเงินน่ะสิ"
จำปี ลำจวนหันหน้ามามองกันแล้วขำ
บนเรือนป้าเงินเช้าต่อเนื่อง ป้าเงินนั่งพัก นากเอาขันน้ำมาให้ป้าเงิน
"น้ำจ๊ะป้า"
ป้าเงินยกขันน้ำขึ้นดื่ม
ลำจวนถาม
"หายตกใจรึยังจ๊ะป้า"
"ข้ายังขวัญเสียไม่หายเลย ร้อยวันพันปีไม่เคยมีเรื่องแบบนี้"
"พวกฉันก็ขวัญเสียนึกว่าโจรมันฉุดป้าไปฆ่าทิ้งซะแล้ว" จำปีว่า
" อีบ้า!! ปากเสีย คนอย่างข้าไม่ตายง่ายๆหรอกโว๊ย"
"แล้วนี่เรื่องไปไงมาไงจ๊ะป้าเงิน ทำไมมันถึงฉุดป้าไปล่ะ" มากถาม
ป้าเงินคิดๆ ทุกคนจ้องหน้าป้าเงิน อยากฟังเรื่องราว
ทุกคนฟังเรื่องราวที่ป้าเงินเล่า
"ดีนะที่ข้าหนีเอาตัวรอดมาได้"
"แล้วพวกโจรมันเป็นใครกันล่ะป้าๆเห็นหน้าพวกมันมั๊ย" จำปีถาม
"ข้าจะไปเห็นหน้าไอ้พวกโจรได้ยังไงพวกมันคลุมหน้าคลุมตากันมิดชิด"
"แหมเสียดายจริง เลยไม่รู้ว่าใครกันที่มันฉุดป้าเงิน" ลำจวนบอก
"ป้าลองคิดดูดีๆสิ มีไอ้หนุ่มบ้านไหนมันหมายตาป้าไว้หรือเปล่า มันคงอยากได้ป้าไปเป็นเมียมันแน่" จำปีบอก
"อีปากตำแย พูดน่ะคิดบ้างมั๊ยนังจำปี ข้าน่ะแก่เหนียงยานปูนนี้แล้ว ข้าว่าไอ้พวกโจรมันคงไม่ได้ตั้งใจจะฉุดข้าหรอก"
ป้าเงินหันไปมองหน้าสาวๆ ทุกคน มาหยุดที่นาก
ณ หัวสะพานบ้านขุนเพชร เพลิงกับสมุนกลับมาถึงเรือนสภาพอิดโรย เพลิงยังคงโมโหหมึกกับเก่งที่ทำงานพลาด
"เอ็งสองตัวนี่มันโง่เง่าจริงๆ"
เพลิงหันไปตบหัว สองสมุนยืนหงอ
"นี่แน่ะ เลี้ยงเสียข้าวสุก ต่อไปข้าจะให้พวกเอ็งกินแต่ข้าวเปลือก"
"โธ่พี่เพลิงจ๋า ฉันไม่ใช่ไก่ใช่เป็ดนะพี่" เก่งบอก
หมึกบอก
"พวกฉันทำเต็มที่แล้วนะ ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมในกระสอบนั่นกลายเป็นป้าแก่ไปได้"
"หรือว่า ตอนฉุดมันไม่ใช่ฤกษ์โจรพี่" เก่งว่า
"เอ็งไม่ต้องมาทำเป็นรู้ดี" เพลิงทำท่าขนลุก) "บรื้อ.....นึกแล้วยังขนลุกไม่หาย ดีน่ะที่ยังไม่ได้พาตัวมาที่หัวตะเข้ไม่งั้นยุ่งตายโหง แทนที่ข้าจะได้เมีย จะได้ยายมาเลี้ยงแทนน่ะสิ เพราะเอ็งสองคนทีเดียวทำให้ข้าเสียเส้นจนได้"
"ฉันสัญญาเลยจ๊ะ คราวหน้าจะไม่ให้พลาดอีก"
"หืม....ยังจะมีครั้งหน้าอีกเหรอวะ"
เพลิงโมโหเอาขายันเก่งกับหมึกหงายหลังไป
เพลิงโวยวาย
"ป่านนี้พวกมันคงระวังตัวกันแล้ว ไอ้โง่!"
เพลิงโมโหเดินขึ้นเรือนไป หมึก กับเก่งเถียงกัน
"เพราะมึงทีเดียวไม่ดูให้ดีก่อน"
"ก็มึงนั่นแหละ"
สองคนเถียงกัน
เพลิงเดินขึ้นเรือนมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ พวงจันทร์รีบเข้าไปหาเพลิง
"เป็นยังไงบ้างลูก ทำไมกลับมาป่านนี้"
เพลิงยังไม่ทันจะเอ่ยปากพูด พิมก็เดินมาพูดกวนสวนขึ้นทันที
"กลับมาได้แล้วเหรอไอ้พี่เพลิง นึกว่ามุดหัวจมดินหายไปแล้วซะอีก เป็นไงล่ะไปก่อเรื่องอะไรมาอีกล่ะ"
"แม่ดูมันนะ ฉันกลับมาเหนื่อยๆมันก็มาหาเรื่องฉันเลย" เพลิงชี้หน้าพิม "ให้มันน้อยๆหน่อยนะเว้ยนังพิม"
"พอๆๆ เอ็งสองคนนี่มันเป็นยังไงกันนะวันๆเอาแต่กัดกันอย่างกับหมา เอ็งเป็นน้องจะพูดจะจาอะไรกับพี่ก็ให้มีดีหน่อยนะนังพิม"
พิมเถียง
"แล้วคนอย่างมันเคยเห็นฉันเป็นน้องมั๊ยล่ะแม่ ถ้ามันเห็นฉันเป็นน้องมันคงไม่ทิ้งฉันไว้ที่พระโขนง จนฉันต้องให้คนอื่นพายเรือมาส่ง"
พวงจันทร์งงมองหน้าเพลิง
"อ้าว ไหนเอ็งว่า มีคนมาส่งไง ใครพายเรือมาส่งเอ็งพิม"
พิมอึกอัก
"ว่าไงใครมาส่งเอ็งที่เรือน" พวงจันทร์ถาม
พิมโกหก
"จะใครล่ะแม่ก็คนที่หัวตะเข้าบ้านเรานี่แหละ พอดีเจอกันที่พระโขนง ฉันหาพี่เพลิงไม่เจอฉันเลยอาศัยเรือคนอื่นกลับมานี่แหละแม่"
พวงจันทร์พยักหน้าหันไปดุเพลิง
"ทีหน้าทีหลังจะไปไหนมาไหนก็ช่วยดูน้องมันด้วยนะพ่อเพลิง น้องมันเป็นผู้หญิง จะให้ไปไหนมาไหนกับคนอื่นเดี๋ยวคนเค้าเอาไปลือจะเป็นขี้ปากกันเปล่าๆ"
"พูดไปก็เหมือนกับสีซอนั่นแหละแม่....อี้ออ อี้ออ พี่เพลิงไม่เข้าใจหรอก"
เพลิงนิ่งคิด
"นังพิม นี่เอ็งว่าข้าเป็นควายหรือ หนอยแน่ะปากดีเหลือเกินนะเอ็ง"
"แม่ได้ยินฉันพูดถึงไอ้ทุยซักคำมั๊ย หาเรื่อง"
"ระวังไว้เถอะ ....ปากแบบนี้ แถมข้าวเปลือกเต็มเกวียน แถมนาอีกสองแปลง ก็ไม่มีใครอยากได้เอ็งทำเมีย"
พิม กับเพลิงมองหน้ากันแล้วเชิด พวงจันทร์ส่ายหน้า
ต่อมา นากเดินไปส่งมากที่หน้าเรือน
"ขอบใจพี่มากที่ช่วยตามหา ป้าเงิน ถ้าไม่ได้พี่ฉันก็คงแย่"
"พี่เป็นห่วงนากจริงๆเลย"
"ไม่ต้องห่วงหรอกจ๊ะ ฉันอยู่แต่บนเรือนไม่ได้ไปไหน คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก"
"ให้พี่มาเฝ้าเรือนให้ดีมั๊ย"
"โธ่พี่มาก ทำอย่างนั้นชาวบ้านเขาจะนินทาเอาได้น่ะสิ พี่กลับบ้านเถอะ ตอนนี้คงไม่มีอะไรแล้วล่ะ"นากยิ้มให้มากแล้วหันหลังขึ้นเรือน มากมองตามอย่างอาลัย
บนเรือน จำปี ลำจวนแอบดูนากและมาก จำปี ลำจวนดูไปยิ้มไป ป้าเงินเดินมาสะกิด จำปีเอามือปัดมือป้าเงิน
"รำคาญน่า อย่ามายุ่ง"
"ข้าไม่ได้อยากยุ่งกับเอ็ง ข้าก็จะดูเหมือนกัน"
จำปีกับลำจวนนึกได้หันไปมองหน้ากัน แล้วส่ายหน้า หันไปอีกทาง ป้าเงินยืนท้าวเอวมอง สองคนทำหน้าจ๋อย
"เอ็งสองคนไม่มีอะไรทำรึไง ถึงได้มายืนแอบดูนังนากมัน"
จำปีบอก
"แหม...พวกฉันก็อยากรู้ว่าคนรักกันเค้าคุยกันยังไงบ้างน่ะสิป้า หรือป้าไม่อยากรู้"
"โอ๊ย...ไอ้เรื่องรักๆใคร่ๆเนี่ยเอ็งอย่าได้ไปสู่รู้เชียวนะนังจำปี นังลำจวน"
"ทำไมล่ะป้า" ลำจวนถาม
"ไม่ต้องถามมาก มีงานมีการอะไรก็ไปทำกันสิ ไป๊"
จำปี ลำจวนถอนใจยอมตัดใจเดินเข้าห้องไป ป้าเงินถอนหายใจอย่างหนักอก
กลางวันต่อเนื่องมา บนเรือนป้าเงินนั่งเคี้ยวหมากนิ่งคิด ลำจวนนวดเฟ้นป้าเงินแบบเอาใจ จำปีนั่งเจียนหมากเจียนพลูอยู่ข้างๆ นากเดินขึ้นเรือนมาเจอกับป้าเงิน ลำจวนกับจำปีส่งสัญญาณพยักเพยิดให้นากรู้ว่าป้าเงินรออยู่
"ป้ารอฉันหรือจ๊ะ มีอะไรจะสั่งฉันหรือ"
"ไม่มีหรอก แค่อยากคุยด้วยสักหน่อย"
ป้าเงินหันไปมอง ลำจวนกับจำปี สองคนทำไม่รู้ไม่ชี้ ทำหน้าที่ของตัวเอง อย่างตั้งใจเกิน
"เอ็งสองตัวด้วย ไม่ต้องทำเป็นขยัน หูงี้โบกเป็นใบพายเชียวนะ"
ลำจวนกับจำปีมองหน้ากันหัวเราะคิกคัก
"ค่อยยังชั่วหน่อย ไม่อย่างนั้นฉันนวดไม่เป็นสุขแน่" ลำจวนบอก
"ฉันก็เหมือนกัน เจียนหมากแทบจะตัดนิ้วตัวเอง"
ป้าเงินมองสามสาวตรงหน้าแล้วยิ้มอ่อนใจ
"ใจคอเอ็งจะตกลงปลงใจกับไอ้มากแล้วรึนาก เอ็งแน่ใจหรือว่า จะอยู่กันได้ ไปกันรอด ชีวิตครอบครัวน่ะมันไม่ใช่เรื่องเล่นขายของนะ นากเอ๊ย"
นากก้มหน้านิ่ง ป้าเงินถอนหายใจ
"เอ็งเป็นคนสวย มีหนุ่มๆฐานะดีมาชอบพอก็มากมาย ข้าอยากให้เอ็งคิดให้ดี ไอ้มากน่ะมันจน ผู้หญิงเราน่ะ หวังพึ่งก็แต่ผัว เป็นฉัตรแก้วกั้นเกตุ จะได้ดี ได้ชั่ว ผัวจะเป็นคนลิขิตนะ ถ้าเลือกไม่ดี ชีวิตเอ็งจะลำบาก"
นากยิ้ม
" จะยากดีมีจนฉันไม่หวั่นหรอกจ๊ะป้าเงิน ฉันเชื่อว่า พี่มากเป็นคนดี เป็นคนขยัน ฉันไม่กลัวลำบากหรอกจ๊ะ และที่สำคัญ ฉันกับพี่มากรักกัน"
จำปีกับลำจวนมองหน้ากันซึ้งมาก
ป้าเงินได้แต่ถอนใจ
"ความรักน่ะมันเป็นดาบสองคมนะนากเอ๊ย ความรักทำให้สุขได้ มันก็ทำให้ทุกข์ได้นะลูกนะ"
"ขอแค่นากได้อยู่กับคนที่รักไม่ว่าจะสุขจะทุกข์นากก็ยอม"
นากสีหน้าดื้อดึง จำปีกับลำจวนมองหน้ากันปลื้มในความรัก
"ไม่ได้ ข้าไม่ให้เอ็งแต่งกับไอ้มากเด็ดขาด ต่อแต่นี้ ห้ามลงจากเรือนไปพบมันอีก เข้าใจมั๊ย"
สามสาวชะงักมองหน้ากัน
"ถ้าเอ็งเลือกมัน เอ็งก็อย่ามาเรียกข้าอีก"
ป้าเงินลุกเข้าห้องไป
นากตะลึง
เช้าวันใหม่ที่เรือนกำนันเพชร ในครัวพวงจันทร์ยืนกำกับบ่าวไพร่ในการทำอาหาร เพลิงถือขันน้ำเข้ามาหาพวงจันทร์
"เหนื่อยมั๊ยจ๊ะแม่ กินน้ำเย็นๆก่อนจ๊ะจะได้ชื่นใจ"
พวงจันทร์มองหน้าเพลิงแล้วยิ้ม
"มาเอาใจแม่แบบนี้จะมาขออะไรอีกล่ะพ่อเพลิง"
พวงจันทร์หยิบขันน้ำจากเพลิงมากินแล้ววางไว้
" แม่เนี่ยรู้ใจฉันที่สุดเลย สมแล้วที่เป็นแม่ฉันจ๊ะ"
"ไหนว่ามาสิมีอะไร"
"คืออย่างนี้จ๊ะแม่ คือฉันอยากได้เมียจ๊ะ"
บ่าวไพร่ในครัวแอบหัวเราะกันขำ พวงจันทร์หันไปมองบ่าวไพร่แล้วเอ็ด
"พวกเอ็งขำอะไรกัน งานการมีทำไมไม่ทำ มาแอบฟังข้าคุยกับลูกประเดี๋ยวเถอะ"
บ่าวไพร่รีบก้มหน้าก้มตาทำครัวกันไป พวงจันทร์หันไปคุยกับเพลิง
"ไปคุยกันบนเรือนดีกว่าลูก ไปลูกไป"
พวงจันทร์พาเพลิงเดินออกไป บ่าวไพร่พอเห็นพวงจันทร์เดินออกไปก็รีบสุมหัวนินทากันทันที
อ่านต่อหน้า 2
แม่นาก ตอนที่ 2 (ต่อ)
บนเรือน เพลิงนั่งบีบนวดเอาใจแม่
"ไหนว่ามาสิผู้หญิงที่ไหนที่พ่อเพลิงไปหมายตาไว้"
"ชื่อนากจ๊ะแม่ บ้านอยู่ทุ่งพระโขนง เป็นผู้หญิงที่สวยมากจ๊ะแม่ สวยที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย"
"พ่อเพลิงเอ๊ย....ผู้หญิงที่หัวตะเข้มีออกถมไปไม่คว้า จะไปคว้าผู้หญิงทุ่งพระโขนงมาเป็นเมีย ไปมาหาสู่กันรึก็ไม่เคย แล้วแบบนี้จะให้แม่ทำยังไงล่ะพ่อเพลิง"
เพลิงหงุดหงิด
"ไม่รู้ล่ะแม่ต้องไปขอนากมาให้ฉัน"
"เป็นผู้หญิงที่หัวตะเข้ไม่ได้รึพ่อเพลิง"
"ไม่!! ถ้าไม่ได้คนนี้คนไหนฉันก็ไม่เอา ฉันรักแม่นาก ถ้าแม่ไม่ไปขอให้ ฉันจะไม่กินไม่นอน ฉันจะตรอมใจตายให้แม่ดู"
" เอาล่ะๆไม่ต้องมาขู่แม่ ขอแม่คิดก่อน"
"ยังจะต้องคิดอะไรอีกล่ะแม่ ไปขอนากให้ฉันวันนี้เลยนะ"
พวงจันทร์อ่อนใจกับเพลิง
"ให้แม่ไปขอวันนี้" พวงจันทร์พูดประชด "แหม....พูดแบบนี้เอ็งไม่ไปฉุดมาเลยล่ะ จะได้สิ้นเรื่องสิ้นราว"
เพลิงหลุดปาก "ก็ฉันฉุดไม่สำเร็จนี่แม่"
พวงจันทร์ตกใจ) "ว่ายังไงนะพ่อเพลิง"
เพลิงนึกขึ้นได้ตกใจ อึ้ง
พิมหลบมุมเข้ามาแอบฟังเพลิงกับพวงจันทร์คุยกันอยู่
"ตายจริง นี่ถึงขั้นฉุดผู้หญิงกันเลยเชียวรึพี่เพลิง" พิมพึมพำ
พิมถอยหลังหันกลับมาชนเข้ากับขุนเพชร พิมตกใจ
"พ่อ!"
ขุนเพชรหน้าเคร่งจ้องหน้าพิม
"เมื่อกี้เอ็งพูดว่าพี่เอ็งไปฉุดใคร"
พิมตกใจนิ่งอึ้ง
ต่อมา ขุนเพชรถือไม้ตะพด หน้าขรึมจ้องมองเพลิง ลูกทั้งสองนั่งก้มหน้า พวงจันทร์สีหน้ากังวลใจ
"เอ็งไปก่อเรื่องอะไรมาไอ้เพลิงบอกพ่อมาเดี๋ยวนี้"
เพลิงอึกอักไม่กล้าพูด หันไปมองแม่ขอความช่วยเหลือ พวงจันทร์รีบพูดขึ้นแทนเพลิง
"โถ่....คุณพี่ ลูกเราไม่ได้ไปก่อเรื่องที่ไหนสักหน่อย จะมีก็แค่ออกไปเที่ยวเล่นตามประสาคนหนุ่มก็เท่านั้น"
ขุนเพชรเสียงดังบอก
"ก็ฉันได้ยินกับหูว่าไอ้เพลิงไปฉุดผู้หญิงมา" ขุนเพชรเอาตะพดชี้หน้า "บอกความจริงพ่อมาเดี๋ยวนี้นะไอ้เพลิง"
เพลิงอึกอัก ยอมรับความจริง
"เออ....จริงจ๊ะพ่อ"
ขุนเพชรถามใกล้ๆ "แล้วนี่มีใครรู้รึป่าว"
"ไม่มีใครรู้หรอกจ๊ะพ่อ พวกฉันคลุมหน้ากันไว้ อีกอย่างพวกฉันก็ทำไม่สำเร็จด้วย"
"พวกเอ็งมันไม่ได้เรื่อง ฉุดผู้หญิงทั้งทีก็ฉุดไม่สำเร็จ พ่อบอกเอ็งแล้วใช่มั๊ยจะทำอะไรให้มาปรึกษาพ่อก่อน เอ็งนี่มันมุทะลุไม่ได้เรื่องจริงๆ"
เพลิงได้โอกาสรีบพูดกับขุนเพชรเรื่องนาก
"งั้นฉันปรึกษา
"ใครกัน เอ็งไปติดพันผู้หญิงบ้านไหน"
"ผู้หญิงที่ทุ่งพระโขนงจ๊ะพ่อ ชื่อนาก พ่อไปขอให้ฉันนะ"
ขุนเพชรจ้องหน้าเพลิงเขม็ง
"ฝันไปเถอะ ไอ้ลูกไม่รักดี"
เพลิงตะลึง พิมแอบยิ้มเยาะ
เช้าเดียวกัน ณ เรือนป้าเงิน ป้าเงินนั่งกึ่งนอนให้ลำจวนกับจำปีประคบสมุนไพร
"โอ๊ย.....อู๊ย.... ทำไมมันปวดมันร้าวไปทั้งตัวแบบนี้"
"ทนหน่อยนะจ๊ะป้า เอาสมุนไพรประคบสักพักก็คงจะดีขึ้นจ๊ะ" ลำจวนบอก
จำปีกระฟัดกระเฟียด
"ป้าทำไมถึงได้ใจร้ายแบบนี้ ห้ามนากกับทิดมากมันทำไม"
ป้าเงินเสียงเครียด
"เอ็งมันจะไปรู้อะไรนังจำปี คิดว่าข้าอยากทำหรือ"
"ถ้าไม่อยากแล้วทำๆไมล่ะจ๊ะ แต่ก่อนป้าก็ไม่เคยว่า แถมยังชมอีกว่าทิดมากน่ะคนดี แล้วตอนนี้" ลำจวนว่า
"เอ็งสองคนคิดว่าข้าใจร้ายใจดำใช่ไหม เฮ้อ ลองเอาหัวทึบๆของพวกเอ็งตรองดูที โจรที่ไหนมันถึงจะกล้าฉุดคร่าผู้หญิง ตอนรุ่ง มันใช่เวลาไหม มันต้องใจกล้าขนาดไหนจึงทำได้ แล้วพวกเอ็งคิดว่า ไอ้โจรมันคิดจะฉุดข้าหรือ นังพวกโง่ มันต้องคิดจะฉุดพวกเอ็งนั่นแหละ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนังนาก"
สองคนนั่งมองหน้ากันงงๆ
"ข้าอาบน้ำร้อนมาก่อนพวกเอ็ง คนที่มันกล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแบบนี้คงไม่ใช่ธรรมดา คิดดู ขืนปล่อยให้นากมันแต่งไปกับไอ้มาก มันจะคุ้มครองนากได้หรือ ข้าเลี้ยงนังนากมาตั้งกะแบเบาะ ไม่ใช่ลูกก็เหมือนลูก ถ้ารู้ว่ามีคนปองร้ายเช่นนี้ ข้าจะยอมนากมันไปได้ยังไง เคราะห์หามยามร้ายไอ้มากจะพลอยรับเคราะห์ไปก่อนด้วยซ้ำ"
ป้าเงินเศร้า จำปีกับลำจวนมองหน้าจ๋อย
"แล้วทำไมป้าไม่บอกนากมันล่ะ ปล่อยให้มันอกไหม้ไส้ขมอยู่แบบนี้"
"เอ็งจะให้ข้าทำอย่างไร ตีเกราะป่าวร้องบอกชาวบ้านหรือ ว่าไอ้มากกับนังนากมันรักกัน นังนากมันเป็นผู้หญิง ผิดพลาดไป รังแต่จะเสื่อมเสีย เฮ้อ ผู้หญิงน่ะยังไงก็เสียเปรียบวันยันค่ำนั่นแหละ ถนอมรักษาตัวไว้ไม่ให้เหม็นเน่า ก็ยากเย็นแล้ว"
"แต่ว่า"
"ไม่ต้องมาแต่... นากมันเป็นคนของข้า ข้าต้องรักษามันไว้ให้ดีที่สุด ถ้ามันสองคนเกิดมเป็นคู่กันจริง ใครก็คงห้ามไม่ได้หรอก"
ป้าเงินนิ่งคิดสีหน้าเครียด ลำจวนหน้าเครียด จำปีเอาชายผ้าแถบซับน้ำตา
เวลาเดียวกัน นากนั่งเหม่อในครัว จ้องผักที่วางตรงหน้า จำปีกับลำจวนเดินเข้ามามองหน้าแล้วถอนหายใจ จำปีหันไปซ่อนน้ำตา
นากฝืนยิ้ม
"จำปี ลำจวน ป้าหลับแล้วหรือจ๊ะ"
"เออ เอนหลังไปแล้ว แล้วเอ็งจะทำอะไรล่ะนี่"
"ฉันตั้งใจจะทำกับข้าวไปส่งที่นา แต่ว่า ..."
ลำจวนมองนาก ก็เมินหน้า
"อย่าโกรธป้าแกเลย แกทำเพราะหวังดี แกรักนากมากกว่าใคร เอ็งก็รู้"
"แต่ว่าป้าแกก็ทำไมถูก แค่กลัว..." จำปีว่า
ลำจวนรีบตะครุบปากลำจวน นากมองสงสัย
"มีเรื่องอะไรกันแน่บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะพี่จำปี"
นากมองจำปีคาดคั้น จำปีมองหน้าลำจวนหนักใจ
"ป้าเงินแกกลัวว่า ไอ้พวกที่มันมาฉุดป้าเงินน่ะมันตั้งใจทำร้ายนากกับทิดมากต่างหาก เคราะห์หามยามร้าย ที่มันมาจับตัวคนผิด แกกลัวมันจะทำร้ายเอ็งกับทิดมากน่ะสิ"
นากตะลึง "พี่มาก"
นากตกใจ
ตอนเย็น ที่บ้านมากบรรยากาศลมแรงครึ้มฝน มากและมั่นนั่งกินข้าวกันอยู่บนเรือน
"ไม่รู้ว่าปีนี้ข้าวในนาจะได้กี่มากน้อยนะไอ้มาก" มั่นว่า
"ฉันว่าก็คงได้มากโขอยู่หรอก ฝนฟ้าก็ดูจะตกต้องตามฤดู พี่มั่นฉันว่าหมดหน้านาปีนี้ ฉันจะไปสู่ขอแม่นากกับป้าเงินแกมั่นพี่เห็นว่ายังไง"
"ข้าจะไปว่าอะไรได้ล่ะ มันขึ้นอยู่กับเอ็งกับนากนั่นแหละ สำคัญป้าเงินแกจะยกนากให้เป็นเมียเอ็งรึเปล่า ข้าว่าดูแกอยากได้หลานเขยรวยอยู่นะ"
"นั่นสิ ฉันก็หนักใจ"
ทุ้ย โพล้ง เค้ง ถือเหล้ายาปลาปิ้งขึ้นเรือนมา
"อ้าวพวกพี่ไปไหนกันมา กินข้าวกินปลากันมาหรือยัง" มากถาม
"พวกข้าก็มาหาเอ็งนี่แหละ" โพล้งบอก
"พวกข้ามีเหล้ายาปลาปิ้งมาพร้อมเลยนะ" ทุ้ยว่า
"กะว่าจะมาตั้งวงเหล้ากันที่นี่" เค้งบอก
"ไม่เอาหรอก เข้าพรรษากินเหล้ามันไม่ควร" มากบอก
"เอางี้" ทุ้ยถอดผ้าขาวม้าคลุมหัว "ทำอย่างงี้ เทวดาฟ้าดินก็ไม่เห็น ถึงเห็นก็จำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร ทีนี้เราก็กินได้ จริงมั๊ยพวกเรา"
ทุกคนเฮฮากัน มากส่ายหน้า
กลางคืนต่อเนื่องมา ที่เรือนป้าเงิน ฝนตกหนัก ลำจวน จำปีช่วยกันปิดประตูขัดไม้ นากกำลังจะปิดหน้าต่างเข้ามาก็เห็นมากวิ่งลิ่วๆตากฝนมา
นากพึมพำเรียก "พี่มาก"
นากลุกลี้ลุกลน จำปี ลำจวนสงสัยชะเง้อคอมองไปที่หน้าต่างบานที่นากกำลังจะปิด จำปี ลำจวนมองหน้ากัน นากจำใจปิดหน้าต่างไม่อยากให้ป้าเงินสงสัยนากร้อนใจ
"นั่นทิดมากนี่นา เอ็งไม่เห็นหรือนาก" จำปีบอก
"เห็น แต่ว่า ..."
"จะต่งจะแต่อะไร ไปบอกให้ทิดมากมันรู้เรื่องไปเลย ไปสิ"
"แล้วป้าล่ะ ฉันไม่อยากทำให้ป้าไม่สบายใจ"
ลำจวน มองหน้าจำปี
"เรื่องป้าเงินไว้เป็นธุระข้ากับนังจำปีเถอะ เอ็งไปคุยกันให้รู้เรื่อง ให้เร็วด้วย ไปจำปี"
ลำจวน จำปีพยักหน้าให้กันแล้วไป นากรีบเลี่ยงไปอีกทางหนึ่ง
ใต้ถุนเรือน มากเปียกฝน นากลงมายืนรอ มากวิ่งมาจับมือนากไว้แบบคิดถึงมาก
"ฝนตกหนักอย่างนี้พี่มากจะตากฝนมาทำไมกัน เดี๋ยวก็ได้ไข้กันพอดี"
"พี่ห่วงกลัวไอ้พวกโจรมันกลับมาที่เรือนนี้อีก กะอีฝนแค่นี้ขวางพี่ไม่ได้หรอก"
"โธ่พี่มาก" นากอึกอัก "พี่มาก คือว่า...ฉัน..."
มากมองนากอย่างแปลกใจ นากเศร้าและอึดอัดใจ
"มีอะไรหรือ นากทำไมถึงได้ทำหน้าแบบนั้น"
"คือว่า ป้าเงินไม่อยากให้ฉันกับพี่พบกันอีก"
มากงง
"ไม่ได้สิ พี่จะไปหาป้าเงิน จะไปบอกป้าเงินว่าเรารักกันแค่ไหน ป้าเงินต้องเข้าใจเราสองคน จริงมั๊ย"
"แต่ว่า ถ้าทำแบบนั้นฉันก็จะกลายเป็นคนอกตัญญู ป้าเงินมีบุญคุณเลี้ยงฉันมาตั้งแต่เล็ก ป้าแกเป็นทั้งพ่อและแม่ ฉันไม่อยากให้ป้าเสียใจ"
"พี่ไม่ยอมหรอก เราสองคนไม่ได้ทำอะไรผิด เราแค่รักกัน" มากเชยคางนากขึ้นมองสบตา ใครมาพรากเราสองคนจากกันไม่ได้เด็ดขาด พี่ไม่มีวันยอม สัญญากับพี่นะ นาก"
ทั้งคู่จ้องหน้ากัน
"ฉันสัญญาจ๊ะพี่มาก ถ้าป้าเงินบังคับให้ฉันแต่งกับคนอื่น ฉันจะยอมตาย แต่พี่ต้องสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรรุนแรงให้ป้าเงินทุกข์ใจนะจ๊ะ ฉันขอร้อง"
สีหน้านากจริงจังมาก
"พี่สัญญา เพื่อนากพี่ทำได้ทุกอย่าง"
นากกับมากกอดกันซาบซึ้ง
มุมหนึ่ง...ป้าเงินยืนมองอยู่
"นากเอ๊ย เอ็งมันยังอ่อนต่อโลกเหลือเกิน"
ป้าเงินหน้าเครียด
เช้าวันใหม่ ป้าเงินใส่บาตรที่หัวสะพานมี 3 สาวคอยอยู่ด้านหลัง หลวงตา ให้ศีลให้พร แล้วหันไปมองสามสาวแล้วยิ้มอย่างเมตตา
"โยมเงินสบายดีนะ"
"เจ้าค่ะ ปีนี้ ปวดเมื่อยเนื้อตัว ก็ตามสังขารนั่นแหละค่ะ"
"เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา โยมเงินเอ๊ย โชคดีมีลูกหลานคอยดูแล"
ป้าเงินหันไปมองสาวๆ มองจิกนาก
"เจ้าค่ะ แต่อย่างว่า คนเรามันก็เลี้ยงได้แต่ตัว "
"ไม่มีใคร ไม่มีสิ่งใดเป็นของเราไปตลอดหลอกโยม แม้แต่ร่างกายเรา จิตใจของเรายังบังคับไม่ได้ แล้วเราจะไปบังคับจิตใจใครได้ ปล่อยไปตามบุญธรรมกรรมแต่งเถอะนะ ปล่อยวางบ้าง" หลวงตาเตอนสติ
มัคนายกที่มาด้วยบอก "นั่นสิ ปล่อยวางบ้างนะ ยายเงิน อายุเรามันก็มากโข ถือไว้มันหนัก"
"จ๊ะ พ่อมัคนายก รักษาความอ่อนวัยของพ่อไว้ให้ดีเถอะนะ"
มัคนายกทำคอย่น ป้าเงินค้อน แล้วยกมือไหว้ หลวงพ่อ
"เจริญพรนะโยม"
มัคนายกพายเรือไป ป้าเงินหันมามอง นากก้มหน้า ป้าเงินถอนหายใจแล้วเมินหน้าเดินไป
ป้าเงิน นาก จำปี ลำจวนเดินกันมาถึงเรือน ป้าเงินก็นึกได้หันไปพูดกับนาก
"จริงสิ ข้าลืมเอาน้ำมันเหลืองถวายหลวงพ่อ ประเดี๋ยวเอ็งไปเอาไปถวายที ท่านจะได้นวดข้อนวดเข่า"
"ป้าไม่ไปด้วยหรือจ๊ะ ถวายยาเป็นบุญใหญ่นะป้า" ลำจวนบอก
"เอ็งไม่ต้องมาสอนข้า สั่งอะไรก็ทำเถอะ ไม่ต้องถามให้มากความ"
จำปีกับลำจวนทำท่าถอนสายบัว ป้าเงินถอนหายใจ
"อีพวกลิงหลอกเจ้า ข้าเหนื่อยกับพวกเอ็งจริง จริ๊ง"
จำปี ลำจวนพูดพร้อมกัน “จริงจ๊ะ”
จำปีแกล้งพูดยั่วป้าเงิน
"ป้าเงินนี่ขยันทำบุญจริงๆเลยนะจ๊ะ"
"ทำบุญไว้เยอะเกิดชาติหน้าจะได้เสวยบุญที่ทำไว้ พวกเอ็งจำไว้นะ"
"ฉันนึกว่าป้าทำบุญเยอะๆเพื่อชาติหน้าจะได้ไม่ขึ้นคานซะอีก" จำปีบอก
ป้าเงินเงื้อมือจะเขกหัว จำปีรีบวิ่งหนีขึ้นเรือน
"อีนี่!"
ป้าเงินหันไปมองนาก นากเหม่อ ป้าเงินแอบถอนหายใจ
บนเรือ จำปี ลำจวนพายเรือกันมา นากนั่งอยู่ที่หัวเรือ ในเรือมีเถาปิ่นโตอาหารสองเถา
ลำจวนบอกนาก
"เดี๋ยวฉันกับจำปีจะเอากับข้าวไปถวายหลวงตาให้เอง นากเอากับข้าวกับปลาไปส่งให้พี่มากเถอะ"
"ขอบใจมากนะลำจวน จำปี"
"ไม่ต้องขอบใจฉันหรอกนาก ช่วยให้คนรักกันได้บุญออก เผื่อบุญกุศลจะส่งผลให้ฉันสมหวังอย่างนากบ้าง"
เรือของนากเทียบเข้าริมท่าใกล้ทุ่งนา
"เดี๋ยวเสร็จจากวัดฉันจะกลับมารับนะ อย่าไปไหนไกลล่ะนาก" จำปีบอก
นากพยักหน้ารับ เตรียมตัวลุกออกจากเรือก้าวขึ้นฝั่งไปพร้อมกับปิ่นโตในมือ
ในวัดมัคนายก และสัปเหร่อนั่งคุยกัน
สัปเหร่อหน้าตาจริงจังบอก
"ผีตาเรือนนี่มันเฮี้ยนจริงๆนะ"
"ทำไมวะ"
"ก็มีคนเค้าเห็นวิญญาณตาเรือนน่ะสิ สงสัยมันจะห่วงเมียสาวของมันถึงไม่ยอมไปไหน จริงๆแล้ว ตายก็คือจบ แยกย้ายทางใครทางมัน คนส่วนคน ผีส่วนผี จะหวงจะห่วงยังไงก็ต้องแยกจาก"
"แบบนี้เขาถึงได้ว่า รักมากก็ทุกข์มาก"
อีกทางหนึ่ง พวงจันทร์ และพิมเดินเข้ามาในวัด
"ลุงจ๊ะ ถ้าฉันจะตามหาคนบางพระโขนงเนี่ย ฉันจะต้องถามใครถึงจะรู้จ๊ะ"
มัคนายกยืดตัวขึ้นทันที
"ถามฉันนี่แหละแม่หนู ฉันเป็นมัคนายกของที่นี่ รู้ทุกเรื่อง ถามมาตอบได้"
พิมหันไปมองแม่แล้วยิ้ม
"นี่ไงแม่ ฉันบอกแล้ว หาไม่ยาก"
พวงจันทร์ยิ้มมองมัคนายกอย่างไว้ตัว สัปเหร่อมองพวงจันทร์กับพิมอย่างแปลกใจ
จำปี และลำจวนเดินออกมาจากศาลาในวัด
พวงจันทร์ พิมพูดคุยกับมัคนายกและสัปเหร่ออยู่
จำปีถาม
"ลำจวนแกช่วยฉันมองที นั่นลุงปลอดคุยอยู่กับใคร หน้าไม่คุ้นเลย"
ลำจวนมองไป
"คงเป็นคนจากบางอื่นล่ะมั้ง คงจะมาทำบุญที่วัดนี่แหละ"
"ทำบุญก็ต้องทำกับพระสิ ไม่เข้าวัดหรอกหรือ"
"ช่างเหอะ เรื่องชาวบ้าน ไม่ใช่งานของฉัน ไม่เห็นอยากรู้เลย"
"แต่ฉันอยากรู้นี่นา"
จำปี ลำจวนไปทันที
ต่อมา จำปี ลำจวนเข้ามาหามัคนายก และสัปเหร่อ
"ลุงสองคนคุยอยู่กับใคร ฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย" จำปีถาม
"อ๋อ...คนบ้านหัวตะเข้น่ะ" มัคนายกบอก
จำปี ลำจวนมองหน้ากัน โพล่งพร้อมกัน
"หัวตะเข้หรือ!"
"เค้ามาทำไมน่ะ"
สัปเหร่อถาม
"เอ็งจะอยากรู้ไปทำไม นังจำปี"
"เค้ามาถามหานังนากเพื่อนเอ็งนั่นแหละ" มัคนายกบอก
ลำจวน/จำปีร็ทันที "นาก!"
ทั้งคู่ต่างมองหน้ากัน
ทางด้านมากกับนากนั่งกินข้าวกัน จำปีกับลำจวนรีบเดินมาหานาก
"รีบกลับเรือนเถอะนาก" จำปีบอก
นากรู้สึกแปลกใจ
"มีอะไรหรือเปล่าจำปี"
"อย่าเพิ่งถามอะไรมากเลยกลับเรือนก่อน"
นากหันไปหามาก
"ฉันกลับเรือนก่อนนะพี่มาก"
มากยิ้มพยักหน้า
"สองคนนั้นมีอะไร หรือว่า ป้าเงิน"
มากแปลกใจ
นากวิ่งนำหน้าจำปี ลำจวนมาที่หน้าบันไดเรือนป้าเงิน นากตักน้ำจากตุ่มที่หน้าบันไดเรือนล้างเท้าก่อนขึ้นเรือนอย่างรีบร้อน นากกำลังจะก้าวขึ้นบันไดก็ชะงัก เมื่อพวงจันทร์ และพิมก้าวเดินลงบันไดมา
พวงจันทร์หยุดยืนมอง นากยืนสงบเสงี่ยม พวงจันทร์ยิ้มมุมปาก พิมมองนากอย่างสังเกต
นากยกมือไหว้พวงจันทร์ จำปี ลำจวนไหว้ตาม พวงจันทร์รับไหว้แบบหยิ่งๆ
"คนไหนกันที่ชื่อนาก"
"ฉันเองจ๊ะ ป้ามีอะไรหรือจ๊ะ"
พวงจันทร์มองนากจากหัวจรดเท้า พิมเข้าไปกระซิบพวงจันทร์
" สวยอย่างที่พี่เพลิงว่าไว้จริงๆด้วยนะแม่"
พวงจันทร์มองนากอย่างพินิจพิเคราะห์ แล้วยิ้มร้าย
"สวยอย่างนี้นี่เล่า มิน่าล่ะ"
พวงจันทร์ไม่พูด ยิ้มเชิดหน้าสะบัดไป พิมรีบเดินตามแม่ไปแต่ก็ยังแอบหันมามองนาก นากยืนมอง
อย่างสงสัย พูดกับจำปี ลำจวน
"แปลกคนจริง พูดกันไม่ทันจะรู้ความเลยอยู่ๆก็เดินไป"
"ช่างเถอะๆๆ ฉันอยากรู้ว่า ป้านั่นมาพูดอะไรกับป้าเงิน" จำปีบอก
ลำจวนพูดขัดขึ้น "รีบขึ้นเรือนกันเถอะ อยากรู้เต็มทีแล้ว"
นากแปลกใจ จำปี กับ ลำจวนลากนากเดินขึ้นเรือนไป
อ่านต่อหน้า 3
แม่นาก ตอนที่ 2 (ต่อ)
บนเรือน ป้าเงินนั่งเคี้ยวหมากครุ่นคิด สามสาวรีบคลานเข่าเข้ามานั่งพับเพียบตรงหน้าป้าเงิน นากรีบถามด้วยความข้องใจ
"ใครมาหาป้าเงินหรือจ๊ะ ฉันเดินสวนกันที่หน้าเรือนเมื่อสักครู่"
ป้าเงินยิ้ม
"แม่พวงจันทร์ เมียกำนันเพชรที่หัวตะเข้ จริงสิ ปีนี้เอ็งอายุเท่าไหร่แล้วนาก"
"ยี่สิบแล้วจ๊ะป้า ป้าถามทำไมเหรอจ๊ะ"
"ไม่มีอะไร ที่จริงข้าก็จำได้อยู่หรอกนะ แต่ที่ถามก็เพื่อจะได้แน่ใจ"
ป้าเงินยิ้มมองนาก
"จะว่าไปอายุอานามขนาดเอ็งก็สมควรออกเรือนแล้วล่ะนะนากเอ๊ย"
"แต่ว่าฉันไม่..."
"เอ็งอย่าขัดใจข้า แม่พวงจันทร์เขามาทาบทามเอ็งให้พ่อเพลิงลูกชายเขา อีกเจ็ดวันเขาจะมาฟังคำตอบ "
นากตะลึง จำปีกับลำจวนมองหน้ากัน ป้าเงินยิ้ม
ต่อมา เพลิงกับลูกน้องเดินมาหาแม่พวงจันทร์ที่ท่าน้ำ
"อ้าวนั่นพ่อเพลิงนี่ เอ๊ะมาทำไมกัน แม่สั่งให้รออยู่ที่เรือน"
"ก็คงร้อนใจจนอยู่เรือนไม่ได้น่ะสิแม่" พิมบอก
พวงจันทร์ถอนใจ
"แหมไอ้ลูกคนนี้"
เพลิงเดินมาถึง
เพลิงยิ้มรีบพูดขึ้น
"เป็นไงบ้างจ๊ะแม่ ป้าเงินแกยอมยกนากให้ฉันหรือเปล่า"
พวงจันทร์ต่อว่าเพลิง
"แม่บอกให้เอ็งรออยู่ที่เรือน แล้วนี่เอ็งกับพวกมาที่นี่ทำไมกัน"
"โถ่แม่....ก็ฉันร้อนใจนี่นา ฉันอยู่เรือนไม่ติดหรอก"
"ผิดจากที่ฉันพูดมั๊ยล่ะแม่ บอกแล้วพี่เพลิงน่ะมันอยากได้เมียจนเนื้อเต้น"
เพลิงสีหน้ามีหวัง
"ว่าไงล่ะแม่ ป้าเงินแกเรียกสินสอดเท่าไหร่ แกยอมยกนากให้ฉันแล้วใช่มั๊ย เรียกสินสอดเท่าไหร่แม่ให้ไปเลยนะจ๊ะ"
"ไอ้ความใจร้อนเอ็งนี่มันได้พ่อมาจริงๆเลยนะ เอาล่ะไม่ต้องมาถามอะไรกันให้มากความ มีอะไรกลับไปพูดกันที่เรือน"
"แม่กลับเรือนไปก่อนนะ ฉันอยากไปหานากที่เรือน"
"ไม่ได้!"
เพลิงหน้าบึ้งจ้องหน้าแม่ พวงจันทร์ถอนใจมองหน้าลูกชาย พิมยิ้มเยาะ
ทางด้านนาก ได้แต่นิ่งน้ำตาซึม จำปี ลำจวนจ้องป้าเงินๆนั่งเคี้ยวหมากวางท่า
"ข้าคิดว่าจะตอบตกลง โอกาสดีๆแบบนี้ไม่ได้มีเข้ามาเรื่อยๆนะนากเอ๊ย"
"แต่ฉันไม่ได้รักไม่ได้ชอบพ่อเพลิงอะไรนี่ ฉันรักพี่มาก พี่มากคนเดียวเท่านั้น"
"ความรักมันกินเข้าไปได้หรือ เอ็งอย่าโง่นักเลย เตรียมตัวให้ดี อีก7 วัน ข้าจะยกเอ็งให้พ่อเพลิง"
"ป้าจ๋า ฉันไม่..."
"เอ็งต้องทำตามที่ข้าสั่ง ไม่อย่างนั้น เอ็งกับข้าก็ขาดกัน"
จำปีกับลำจวนตกใจ
"ป้าจ๋า นากกับทิดมากมันรักกัน คนเขารู้กันทั่วบางพระโขนง" จำปีบอก
"ป้าจะข่มเขาโคขืนให้กินหญ้ามันถูกต้องแล้วหรือ" จำจวนว่า
"ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ต้องตามใจผู้นอน แต่ป้า..."
"เอ็งสองคนหุบปาก แล้วฟังข้าให้ดี 7 วันนี้เอ็งต้องคอยดูแลไม่ให้นังนากลงเรือนไปพบไอ้มากอีก ไม่อย่างนั้น เอ็งไม่ต้องมานับถือข้า"
นากน้ำตาไหล จำปีกับลำจวนมองอย่างเห็นใจ
เสียงมากดังเรียกเข้ามา "นากจ๊ะนาก..."
ทุกคนมองหน้ากัน นากทำท่าเหมือนจะลุกขึ้นไป
"ถ้าเอ็งก้าวลงจากเรือนไป ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าป้า คอยดูสิ"
นากชะงักนิ่งไม่กล้าไป จำปีกับลำจวนมองหน้ากัน
ป้าเงินนิ่งเครียด
มากยืนตะโกนเรียกนากอยู่ที่หน้าเรือน ในมือมากถือปลาตัวใหญ่สองตัวมาด้วย
"นากจ๊ะ....นาก..."
มากยืนชะเง้อคอมองที่หน้าเรือน
ป้าเงินโผล่หน้าออกมาจากเรือน มากเห็น ยกมือไหว้
"นากอยู่มั๊ยจ๊ะป้า"
"นากมันไม่ค่อยสบายข้าเลยให้มันนอนพักอยู่บนเรือน ไม่อยากให้ลงมาโดนลมเดี๋ยวจะจับไข้หนัก"มากสงสัย
"อ้าวนี่นากไม่สบายเหรอจ๊ะป้า งั้นขอฉันขึ้นไปเยี่ยมนากสักหน่อยได้มั๊ยจ๊ะ"
ป้าเงินรีบยืนขวางหน้าเรือน
"เห็นจะไม่เหมาะกระมัง ที่เรือนก็มีแต่ผู้หญิง เอ็งเป็นผู้ชายจะขึ้นมาบนเรือนชาวบ้านเห็นเข้าจะเอาไปนินทากันประไร เอ็งมีอะไรกับนากมันก็ฝากบอกข้ามา ข้าจะบอกมันให้"
มากหน้าเศร้า
"ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะป้า ฉันแค่อยากมาคุยกับนากจ๊ะ อ๋อฉันเอาปลามาฝากด้วยนะจ๊ะ"
"โอ๊ย....ปลาข้าก็มีเยอะแยะไปเอ็งเอากลับไปกินเองเถอะไอ้มาก"
"แต่ฉันตั้งใจเอามาฝากป้าเงินนะจ๊ะ"
ป้าเงินสีหน้าระอา
"ก็บอกแล้วไงว่าปลาข้ามีเยอะแยะ"
มากยืนอึ้งไม่เข้าใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของป้าเงิน
นากนั่งกระสับกระส่ายอยู่ในห้องนอน จำปี ลำจวนไม่รู้จะช่วยนากได้อย่างไร ทั้งสองคนได้แต่มองหน้ากันอย่างกังวล
"ทำไมป้าเงินถึงทำกับฉันแบบนี้ จำปี ลำจวนฉันจะทำอย่างไรดี"
"เอ็งอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้เลยนาก แม่พวงจันทร์อะไรนั่นก็แค่มาทาบทามสู่ขอ ขันหมากก็ยังไม่ได้ยกมาสักหน่อย" จำปีบอก
"ฉันว่านากกับทิดมากลองค่อยๆพูดกับป้าเงินแกดูอีกที บางทีป้าเงินแกอาจเห็นใจก็ได้นะ" ลำจวนว่า
"ฉันหวั่นใจกลัวว่าป้าเงินจะตบปากรับคำทางโน้นเค้าไปแล้วน่ะสิ"
"ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็มีทางเดียวที่เอ็งจะสมหวังกับทิดมากนะนาก" จำปีบอก
"ทางไหนรึจำปี" ลำจวนถาม
"หนีตามกันไป!"
ลำจวนตกใจ แต่นากนิ่งคิด ก่อนส่ายหน้า
"ฉันทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก ถ้าฉันหนีไปกับพี่มาก ป้าเงินคงโกรธฉันมาก แล้วชาวบ้านก็คงนินทาว่าร้ายจนป้าเงินต้องอาย ป้าเงินเลี้ยงฉันมาตั้งแต่เล็กๆ ฉันทำแบบนั้นก็เท่ากับเนรคุณน่ะสิจำปี"
"แล้วถ้าไม่หนีตามกันเอ็งจะทำยังไง หรือว่าเอ็งจะยอมแต่งเป็นเมียไอ้เพลิงลูกกำนันเพชรที่หัวตะเข้"
" ถ้าฉันต้องแต่งกับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่มาก ฉันยอมตายเสียดีกว่า"
จำปี ลำจวนมองหน้ากันอย่างกังวล
ป้าเงินนั่งเครียด มือเจียนหมากไปด้วย คิดไปด้วย ลำจวน จำปีเปิดประตูห้องออกมาหา จำปีทำท่าจะพูด ป้าเงินยกมือห้าม
"เอ็งไม่ต้องมาพูด ข้าไม่อยากฟัง"
จำปีเงียบ ลำจวนทนไม่ไหว โพล่งออกมา
"โถป้า....ป้าก็รู้ว่านากมันรักกับทิดมาก อยู่ๆป้าจะมาหักด้ามพร้าด้วยเข่าแบบนี้ ป้าคิดถึงใจมันสองคนบ้างสิ"
"พวกเอ็งยังเด็กไม่รู้อะไรควรไม่ควร ข้าอาบน้ำร้อนมาก่อนข้ารู้ว่าอะไรดีอะไรเหมาะ อะไรควร ข้าทำไปทั้งหมดก็เพราะหวังดีกับนากมัน "
"พรากคนรักกันมันบาปนะจ๊ะป้า" จำปีบอก
"ไม่ต้องเอาบุญเอาบาปมาขู่ข้า ข้าทำบุญใส่บาตรทุกวัน บุญข้ามีโขอยู่หรอก หุบปากแล้วทำตามที่ข้าสั่ง"
จำปี ลำจวนมองหน้ากัน
ประตูห้องนากค่อยๆแง้มประตูออกมาแอบฟังป้าเงินคุยกับจำปีและลำจวน
จำปีถาม
"ฉันถามป้าสักข้อนะ ทางโน้นเค้าให้สินสอดเท่าไหร่ป้าถึงยอมยกนากให้เค้า"
ป้าเงินโมโห
"นี่เอ็งหาว่าข้าขายนังนากกินงั้นหรือ"
"ฉันก็ไม่ได้หมายความอย่างนั้นหรอกป้า ฉันแค่อยากรู้ คนไม่รู้จักมักคุ้นอยู่ๆป้าก็เห็นดีเห็นงามจะยอมยกนากให้เค้า ฉันก็สงสัย" จำปีรุกไม่ยอมอ่อนข้อ
"ที่ข้ายอมยกนังนากให้ทางโน้นเค้าก็เพราะอยากให้นังนากมันอยู่ดีมีสุขหรอกนะ ต่อไปภายหน้านังนากมันจะได้มั่งมีเหมือนแม่พวงจันทร์ เอ็งก็เห็นทองหยองบนตัวแม่พวงจันทร์มั๊ย แดงครืดไปทั้งตัว"
"แล้วนี่ป้าจะบังคับนากมันจริงๆหรือจ๊ะ" ลำจวนว่า
"เออสิวะ!! ขืนให้มันอยู่กับไอ้มากมีหวังได้ก้มหน้าทำนากันทั้งชาติ"
"ป้าถามใจนากมันหรือยังล่ะว่ามันอยากเป็นแบบไหน"
ป้าเงินนิ่งคิด
หน้าประตูห้องนาก นากถอยเข้าไปในห้องปิดประตู ก้มหน้านิ่งคิดหนัก
บนเรือนขุนเพชร พวงจันทร์นั่งหยิบจับเลือกดูเครื่องทองในกำปั่น เพลิงเข้ามาหาพวงจันทร์
"แม่กำลังเลือกสินสอดจะไปขอแม่นากให้ฉันใช่มั๊ยจ๊ะ"
"จะว่าไปแม่ก็เสียดายนะทองหยองพวกนี้นะ สมบัติเก่าทั้งนั้น"
"อย่าไปเสียดายเลยแม่ ไว้ฉันจะหามาคืนแม่ให้มากกว่าเป็นหลายเท่า"
พวงจันทร์ยิ้มมองเพลิงอย่างไม่เชื่อ
"แล้วเมื่อไหร่แม่จะยกขันหมากไปขอแม่นากให้ฉันสักทีล่ะจ๊ะ"
"ของแบบนี้รีบร้อนไม่ได้ ฤกษ์ยามก็ยังไม่ได้หา เอ็งไม่ต้องร้อนใจไปหรอกพ่อเพลิง แม่ดูท่าป้าของนังนากมันก็อยากได้เอ็งเป็นหลานเขยเนื้อตัวสั่นอยู่หรอก"
"จริงเหรอจ๊ะแม่"
"ว่าแต่เอ็งอย่าเพิ่งกระโตกกระตากไปก็แล้วกันทำนิ่งๆไว้ก่อน ถ้าทางนั้นมันรู้ว่าเอ็งอยากได้นังนากซะเต็มประดา พอดีพอร้ายนังป้ามันจะเรียกสินสอดโก่งค่าตัว เราจะเสียท่า"
เพลิงไม่ค่อยพอใจ
"แม่ก็มัวแต่ช้ากลัวจะเสียสมบัติ ไม่คิดถึงใจฉันเลย ฉันอกร้อนเป็นไฟแล้วนะแม่"
" ใจเย็นๆก่อนสิลูก....ช้าๆได้พร้าเล่มงาม"
"แต่ฉันว่าขืนช้า ด้ามพร้าก็จะไม่เหลือนะแม่ ไม่รู้ล่ะถ้าฉันไม่ได้นากมาครอง ฉันจะไปบวชๆไม่สึกด้วย"
พวงจันทร์รีบปลอบ
"โอ๋ๆๆๆ ไม่พูดอย่างนั้นนะพ่อเพลิง"
เสียงพิมดังเข้ามา
"โอ๊ย....ฉันอยากจะหัวเราะให้ฟันโยก"
เพลิงกับพวงหันไปมองอีกทาง เพลิงทำหน้าเซ็ง
พิมเดินเข้ามาหาพวงจันทร์
"อย่างพี่เพลิงเนี้ยนะจะไปบวชไม่สึก ลำพัง ศีลห้าก็ยังครองไม่ได้เลยนะแม่"
เพลิงหน้าหงิกหันมาจ้องพิมทันที พิมไม่กลัว
พิมมองในหีบ
"อุ๊ยตาย แหม กรุแตกหรือจ๊ะแม่ แหม สร้อยแหวน....สวยๆทั้งนั้นเลย แม่อย่าลำเอียงยกให้พี่เพลิงคนเดียวนะจ๊ะ ต้องแบ่งให้ฉันบ้างนะจ๊ะ"
พวงจันทร์ปิดหีบทันที ด้วยความหวง
"อย่ามายุ่งกับของข้า นังลูกคนนี้"
เพลิงแขวะพิม
"เอ็งนี่มันขี้อิจฉาจริงๆเลยนะนังพิม"
"ไม่ได้อิจฉา ฉันขอในสิ่งที่สมควรจะได้ ฉันช่วยงานแม่นะ เก็บดอกเบี้ยดอกหอย แล้วพี่ล่ะทำอะไรบ้าง ดีแต่หายใจทิ้งไปวันๆ"
เพลิงชี้หน้า)
"เอ็งอย่ามาปากดีนะนังพิม ข้าเป็นพี่"
"แล้วไง ก็แค่เกิดก่อน ใครเกิดก่อนก็ได้เป็นพี่ทั้งนั้นแหละ"
"พอๆๆ เอ็งสองคนนี้เป็นอะไรกัน เจอหน้ากันไม่ได้กัดกันทุกที"
"ฉันอยู่ของฉันดีๆ นังพิมมันก็มาปากเสียใส่ฉัน ไม่รู้ล่ะแม่ต้องรีบไปขอนากให้ฉันไม่งั้นฉันหนีไปบวชจริงๆด้วย"
"เอาล่ะๆแม่รู้แล้ว เอ็งจะไปไหนก็ไปไป๊"
เพลิงหงุดหงิดโวยวาย)
"แม่พูดแบบนี้แล้วแม่ก็ปล่อยให้ฉันรอ แม่ไม่เข้าใจหัวอกฉันเลย"
เพลิงงอนเดินไป พวงจันทร์มองตามไม่สบายใจ
"โธ่พ่อเพลิง จะใจร้อนไปถึงไหน ขืนไปทำท่าอยากได้ มันจะได้โก่งราคาน่ะสิ เฮ้อ"
พิมส่ายหน้ากับความคิดของแม่
"แหมทำยังกะ ซื้อข้าวซื้อเกลือ"
พวงจันทร์ค้อน
"เอ็งมันจะไปรู้อะไร นังพิม วันๆดีแต่หาเรื่องพี่อยู่นั่นแหละ"
"เฮ้อ....แหม แม่จ๋าฉันรู้ว่าแม่น่ะ ทูนหัวทูลเกล้าพี่เพลิง อยากรู้นักเชียว ถ้าฉันอยากออกเรือนกับเค้าบ้าง แม่จะออกหน้าขอผู้ชายให้ฉันบ้างรึเปล่าจ๊ะ"
พวงจันทร์เงื้อมือ พิมรีบกระโดดหลบ
"แหมนังลูกคนนี้ วอนหาเรื่องให้ข้าอารมณ์เสียได้ทุกทีสิเอ๊า"
พิมหัวเราะแล้วเดินหนีไป
ตอนเย็น มากสีหน้าไม่สบายใจ นั่งซ่อมแหอยู่ที่หน้าบ้าน มั่นถือคันเบ็ดที่เตรียมจะเอาไปธงปลาไว้เดินเข้ามา
"อ้าว ... ไอ้มาก ทำไมทำหน้าแบบนั้นเล่า ไปหาแม่นาก น่าจะเบิกบานนี่นา"
มากถอนใจ มั่นมองมากแล้วรู้สึกแปลกใจ
"มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าไอ้มาก ข้าเห็นเอ็งถอนใจเป็นกระบุงโกยไม่ไหวแล้วนะ"
"ฉันรู้สึกทุกข์ใจ ... ป้าเงินดูท่าทีแปลกๆกับข้า เหมือนไม่อยากให้ข้าเจอกับนาก มิหนำซ้ำข้าเอาปลาไปฝากก็ยังไม่รับอีก พี่ว่ามันแปลกมั๊ย"
"ป้าเงินแกก็ไม่ชอบขี้หน้าเอ็งแต่ไหนแต่ไรอย่าไปคิดมากเลย ไว้เอ็งมั่งมีเมื่อไหร่ ป้าเงินแกก็ชอบเอ็งเองแหละ"
"พี่ว่าฉันไปสู่ขอนากกับป้าเงินเลยดีมั๊ยพี่มั่น"
มั่นตกใจสำลักไอทันที มากรีบหยิบขันน้ำส่งให้มั่น
"เอ็งจะเอาจริงหรือ"
มากสีหน้ามุ่งมั่นมาก พยักหน้า
เวลาเดียวกัน ที่เรือนป้าเงิน ในห้องของนาก ทั้งสามสาวนั่งคุยกัน
"ฉันจะทำยังไงดีจำปี ลำจวน ป้าเงินไม่ยอมให้ฉันเจอหน้าพี่มากเลย" นากบอกเล่าสีหน้าอมทุกข์
"ไม่ให้เจอเอ็งก็แอบหนีไปเจอสินาก" จำปียุ
"ทำแบบนั้นถ้าป้าเงินรู้ได้หลังลายกันแน่" ลำจวนบอก
"ฉันอยากส่งข่าวให้พี่มากรู้จะได้ช่วยกันคิดช่วยกันแก้ไข"
จำปีคิดๆ
"ถ้าเอ็งไปเจอทิดมากไม่ได้ ก็ให้ลำจวนมันไปบอกทิดมากแทนเอ็งก็แล้วกัน"
นาก จำปีหันไปมองหน้า ลำจวนอึกอัก
"แล้วถ้าป้าเงินจับได้ว่าฉันแอบไปส่งข่าวให้ทิดมากรู้ฉันไม่หลังลายรึ"
"เอาน่า!! ป้าเงินไม่สงสัยเอ็งหรอกลำจวน ประเดี๋ยวข้าจะคอยดูป้าเงินไว้ ถ้าเรียกหาเอ็งข้าจะปดว่าเอ็งไปเก็บผักที่ทุ่ง"
ลำจวนนิ่งคิดหนัก
"เอางั้นก็ได้ ไปก็ไปสิวะ"
"ขอบใจนะลำจวน"
ลำจวนจะลุกขึ้นนากจับมือลำจวนไว้
"ฝากบอกพี่มากด้วยว่าไม่ต้องแคลงใจในตัวฉัน ไม่ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ฉันก็จะไม่มีวันเป็นเมียใครนอกจากพี่มาก"
เวลาต่อเนื่องมา มากนั่งซ่อมแหอยู่ที่หน้าเรือน ลำจวนวิ่งหน้าตั้งกระหืดกระหอบตะโกนเรียกมากมาแต่ไกล
" ทิดมาก.....ทิดมาก"
มากได้ยินเสียงลำจวนร้องเรียกมากก็ลุกพรวดขึ้นมา ลำจวนวิ่งมาหยุดตรงหน้า หอบเหนื่อย มากสีหน้าเครียด
"มีอะไรลำจวน เกิดอะไรขึ้นกับนากรึเปล่า"
ลำจวนหายใจเหนื่อยพยักหน้าหงึกๆ
มากร้อนใจ
"มีอะไรว่ามาสิลำจวน"
ลำจวนรีบพูด
"ป้าเงินจะยกนากให้ไอ้เพลิงลูกกำนันเพชรบ้านหัวตะเข้"
มากตกใจ "อะไรนะ!"
"แม่พวงจันทร์เมียกำนันเพชรมาสู่ขอนากให้ลูกชายเค้า แล้วป้าเงินก็เห็นดีด้วย ตอนนี้นากมันทุกข์ใจหนัก มันฝากฉันมาบอกพี่นี่แหละ จะหาทางแก้ไขยังไงก็รีบเข้านะทิดมาก"
มากเครียดและเสียใจ
"ทำไมป้าเงินทำแบบนี้ ทำไมป้าเงินไม่เห็นใจข้าบ้าง"
"อย่ามัวโอดกาเหว่าอยู่เลย รีบคิดอ่านหาทางแก้เถอะทิดมาก นากมันก็ร้อนใจจะเป็นจะตายอยู่แล้ว"
"แล้วตอนนี้นากเป็นอย่างไรบ้างลำจวน"
"จะเป็นอย่างไร ป้าเงินก็กักตัวไว้แต่บนเรือนให้ฉันกับจำปีเฝ้าไว้ คงกลัวว่านากมันจะหนีตามทิดมากไปน่ะสิ นากมันว่า ไม่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร นากมันก็ไม่ยอมเป็นเมียใครนอกจากทิดมาก"
" นากของพี่"
มากนิ่งเครียด
"ข้าจะทำยังไงดีล่ะลำจวน"
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันก็จนปัญญาแล้วทิดมาก จะทำอะไรก็รีบๆเข้าเถอะก่อนที่ข้าวสารจะกลายเป็นข้าวสุก แต่อย่าให้ถึงกับแตกหักกับป้าเงินเลยนะ ไม่งั้นนากมันคงลำบากใจ เพราะอย่างไรเสียป้าเงินก็เป็นเหมือนพ่อแม่ของพวกฉัน"
"ข้อนี่เอ็งไม่ต้องห่วงหรอก ข้าเองก็นับถือป้าเงินเหมือนญาติผู้ใหญ่ของข้าเหมือนกัน"
"เสร็จเรื่องของฉันแล้วฉันกลับเรือนก่อนนะ เดี๋ยวป้าเงินเรียกหาฉันจะเป็นเรื่อง"
ลำจวนพูดจบก็รีบวิ่งไป มากยืนนิ่งคิด ครู่หนึ่งมากก็รีบวิ่งขึ้นเรือนไป
อ่านต่อหน้า 4
แม่นาก ตอนที่ 2 (ต่อ)
ลำจวนเปิดประตูห้องเข้ามาหานาก และจำปี นากรีบเข้าไปหา ถามลำจวน
"พี่มากว่าอย่างไรบ้าง"
"ไม่เห็นได้ว่าอะไรนะ บอกแต่ว่าจะไม่ยอมให้นากแต่งไปกับคนอื่น นอกจากแต่งกับทิดมาก"
นากกังวล
"พี่มากจะเปลี่ยนใจป้าเงินได้มั๊ยจำปี ลำจวน"
จำปีบอก
"อย่าเพิ่งกังวลไปเลย ให้เวลาทิดมากก่อน ทิดมากต้องหาทางแก้ไขเรื่องนี้ได้แน่ ฉันเชื่อ"
"ฉันก็เชื่อ" ลำจวนบอก
นากพยักหน้ารู้สึกมีหวัง
เย็นต่อเรื่องมา ป้าเงินเดินมาเปิดตุ่มน้ำ แล้วบ่นบ่นๆ
"นังสองคนนี้ขี้เกียจตัวเป็นขนจริงๆน้ำในตุ่มก็ไม่รู้จักตักมาเติม นังจำปี นังลำจวน เอ็งมาดูน้ำในตุ่มบ้างนะ แห้งขอดหมดแล้ว"
เสียงตะโกนจำปี ลำจวนตอบจากบนเรือน “จ๊ะป้า.....”
ป้าเงินไปหยิบขันข้าวเปลือกขึ้นมาโปรยให้อาหารไก่
มากเรียกป้าเงิน “ป้าเงินจ๊ะ”
ป้าเงินหันไปตามเสียง เห็นมากมากับพวก มากแต่งตัวสะอาดสะอ้านในมือถือพานข้าวตอกดอกไม้
ป้าเงินขมวดคิ้วสงสัย
"พวกเอ็งยกโขยงมาทำไมไอ้มาก"
"ฉันมีเรื่องจะมาคุยกับป้าเงินจ๊ะ"
"เรื่องอะไรที่เอ็งจะมาพูดกับข้า"
มากยิ้ม ป้าเงินขมวดคิ้วมองมาก มากก้มลงวางพานดอกไม้ไว้กับพื้นแล้วก้มลงกราบเท้า ป้าเงินชะงัก
"เอ็งทำอะไรของเอ็งไอ้มาก"
มากยิ้ม
"ฉันจะมาสู่ขอนากจ๊ะป้าเงิน"
ป้าเงินสะดุ้งตัวผงะ จำปี ลำจวนโผล่หัวจากบนเรือนมามองดู
จำปี ลำจวนวิ่งเข้ามาเปิดประตูอย่างเร็ว มาหานากในห้อง
จำปีบอกเล่าตื่นเต้น
"ทิดมากมาแล้วนาก"
"มาสู่ขอเอ็งด้วยนะนาก" ลำจวนบอก
นากยิ้มดีใจ "จริงเหรอ"
"จริงน่ะสิ เอ็งรีบไปดูเถอะนาก"
"ไปช่วยทิดมากพูดกับป้าเงินให้เห็นใจ ฉันกับจำปี จะช่วยด้วยอีกแรง"
นากยิ้มรีบวิ่งออกไป ลำจวน จำปีรีบตามนากออกไป
ทุกคนวิ่งกรูกันลงมาที่หน้าบันไดเรือน นากตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า ป้าเงินโยนพานข้าวตอกดอกไม้ของมากลงพื้น ไก่ที่กินข้าวเปลือกอยู่หน้าเรือนตกใจบินกระเจิดกระเจิง
ป้าเงินโมโห มาก ทุ้ย เค้ง โพล้ง มั่น
"ข้าไม่ยกนังนากให้เอ็งไอ้มาก"
"ทำไมล่ะป้าเงิน ไอ้มากมันไม่ดีตรงไหน" ทุ้ยถาม
"นั่นสิ พี่มากอาจจะจน แต่ก็ป็นคนขยัน มือมันสากซะยิ่งกว่า โม่หินซะอีก" เค้งว่า
โพล้งบอก
"มันบวชเรียนแล้วนะป้า เป็นคนสุก ไม่ได้ดิบห่ามเหมือนคนอื่น"
"กูไม่สนใจเรื่องนั้น พวกมึงหุบปากเดี๋ยวนี้"
"ป้าทำแบบนี้ไม่ใจดำไปหน่อยรึ ป้าก็รู้ว่าไอ้มากกับนากรักกันมาก" มั่นบอก
"พวกเอ็งไม่ต้องมาพูด ข้าไม่ฟัง"
"ป้า!" มั่นโพล่ง
มากรีบห้ามมั่นและพวก
"พวกพี่หยุดไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เรื่องนี้ฉันจะคุยกับป้าเงินเอง"
มากขยับตัวเดินเข้าไปหาป้าเงิน
มากเสียงเศร้า
"ป้าเงิน ฉันมันไม่ดีตรงไหน ป้าบอกสิ ฉันจะแก้ไข ฉันจะทำตัวใหม่"
"เอ็งยังไม่รู้ตัวอีกเหรอไอ้มาก คนอย่างเอ็งจะมีปัญญาอะไรมาเลี้ยงดูนังนากหลานข้าให้ได้ดี ลำพังตัวเอ็งเองก็ยังจะเอาตัวไม่รอดเลย"
"แต่ฉันกับนากรักกันนะจ๊ะป้า"
"ความรักมันกินไม่ได้หรอกไอ้มาก ถ้าเอ็งรักนากมันจริงเอ็งต้องปล่อยให้มันไปได้ดี" ป้าเงินชี้มือไปทางข้างหน้า "โน้นลูกกำนันเพชรโน้นเค้าถึงจะเหมาะกับนังนากหลานข้า ไม่ใช่เอ็ง"
มากชะงักนิ่ง พูดไม่ออก นากร้องไห้วิ่งลงบันไดมาหามาก นากเข้ามานั่งพนมมือไหว้ป้าเงิน
"ขอให้ฉันได้ครองคู่กับพี่มากเถอะนะป้าเงิน ยากดีมีจนยังไงฉันก็ทนได้จ๊ะ"
มากก็ยกพนมมือขึ้นไหว้เช่นกัน
"ฉันสัญญาและสาบานฉันจะดูแลนากอย่างดี จะไม่ให้นากต้องลำบาก"
"มันก็แค่คำพูด ไหนล่ะเงินทองของเอ็ง จะมาขอนังนากเงินทองไม่มีสักสลึง"
"เกี่ยวข้าวเมื่อไหร่ฉันจะยกข้าวให้ป้าเงินหมดเลยจ๊ะ"
"พื้นนาเท่าแมวดิ้นตายมันจะได้ข้าวสักกี่เกวียนกันเชียว ไอ้มาก เอ็งจะเลี้ยงดูให้นังนากมันสุขสบายได้หรือ ผ้าซิ่นสักผืน สไบสักชิ้น เอ็งหาให้มันได้ไหม"
มากก้มหน้า หันไปมองนาก
"ฉันยอมรับว่าฉันจน แต่ฉันสัญญานะป้า ทุกปีฉันจะหาเงินหาทองมาเพิ่มให้ป้า มีเท่าไหร่ฉันให้หมด ขอแค่ ..ฉันได้อยู่กับนาก ป้าอย่าพรากเราสองคนจากกันเลย นะป้า ได้โปรดเถิด"
"ตั้งแต่เล็กจนโตฉันไม่เคยขัดใจป้าแม้แต่ครั้ง แต่ครั้งนี้ขอให้ฉันได้สมหวังกับพี่มากเถอะจ๊ะ ป้า"
นากก้มลงกราบเท้าป้าเงิน มากน้ำตาไหลก้มกราบป้าเงิน
"ชีวิตนี้ฉันยอมเป็นวัวเป็นควายรับใช้ป้าไปทั้งชาติ ขอให้ฉันกับนากได้สมหวังเถอะนะ"
ป้าเงินน้ำตาซึมด้วยความเห็นใจ แต่ก็ฝืนไว้ จำปี ลำจวนร้องไห้ช่วยกันขอร้อง
"ยกนากให้ทิดมากเถอะนะป้าเงิน"
"เห็นใจนากมันเถอะจ๊ะป้าเงิน"
ป้าเงินกำมือแน่น พยายามทำใจแข็ง
"ข้าตั้งใจยกนากให้พ่อเพลิงลูกกำนันเพชรไปแล้ว เอ็งตัดใจซะเถอะไอ้มาก คิดซะว่าเอ็งกับนากไม่มีวาสนาต่อกัน"
นากร้องไห้
"ไม่นะจ๊ะป้า ฉันไม่ยอมไปแต่งกับใครทั้งนั้นนอกจากพี่มาก"
"เอ็งไม่ต้องพูดมากนังนากเอ็งกลับขึ้นเรือนไป เรืองนี้ข้าตัดสินใจแล้ว"
"ถ้าป้าบังคับฉันๆจะตายให้ป้าดู"
ป้าเงินโมโห "นี่เอ็งขู่ข้าเหรอนังนาก"
"ฉันไม่ได้ขู่นะป้า แต่ถ้าป้าจะยกฉันให้คนอื่นฉันยอมตายเสียดีกว่า"
มากขอร้องป้าเงิน
"คิดซะว่าทำบุญเถอะนะป้าเงิน ขอให้ฉันได้สมหวังสักครั้งเถอะป้า"
ป้าเงินเสียงดุ
"เอ็งขึ้นเรือนไปเดี๋ยวนี้นังนาก"
นากกอดมากร้องไห้ ป้าเงินเข้ามากกระชากนากออกจากมากทันที
"ข้าบอกให้ขึ้นเรือนไป ไปสิ"
ป้าเงินฉุดนากขึ้นเรือนไป นากได้แต่ร้องไห้มองมากอย่างอาลัย มากน้ำตาไหลมองนากตาละห้อย
"นาก!"
ในห้องของนากเวลาต่อมา ป้าเงินยืนมอง นากก้มหน้าร้องไห้
"ตัดใจซะนังนาก ยังไงข้าก็ไม่ยกเอ็งให้ไอ้มาก"
นากนั่งกอดเข่าร้องไห้โฮ
" ถ้าข้าไม่สั่งเอ็งอย่าออกจากห้องนี้มาเด็ดขาด"
ป้าเงินปิดประตูออกไป แล้วพึมพำกับตัวเอง
" สักวันเอ็งจะรู้ว่าที่ข้าทำไปล้วนแต่หวังดีกับเอ็งนาก"
นากก้มหน้าร้องไห้ครู่หนึ่ง ก่อนเงยหน้า ปาดน้ำตาบนแก้ม ตัดสินใจเด็ดขาด
"ฉันจะไม่ยอมเป็นของใคร นอกจากพี่มากคนเดียวเท่านั้น"
นากปาดน้ำตา เปิดหีบผ้าออก หยิบผ้าสไบมาไว้ในมือ สีหน้าเคร่งเครียด
ฝ่ายมั่น ทุ้ย โพล้ง เค้ง เดินคอตกกลับมา มากเดินไปถึงเรือนก็ทรุดตัวลงนั่ง ทอดอาลัย ทุกคนมองมากอย่างเห็นใจ
มั่นบอก"เราจะทำยังไงกันดี อะไรที่จะเปลี่ยนใจป้าเงินได้"
"ข้าไม่คิดเลยนะว่าป้าเงินแกจะเป็นคนแบบนี้" ทุ้ยบอก
"อย่าไปว่าป้าเงินแกเลย ถ้าจะโทษต้องโทษที่ฉันเกิดมาจน ไม่มีพ่อเป็นขุนอย่างไอ้เพลิงมัน"
"แล้วป้าเงินแกรู้จักมักจี่กับคนบ้านนั้นหรือไร แกถึงวางใจยกนากให้ทางนั้น" เค้งสงสัยทุ้ยบอก
"เป็นถึงลูกขุนใครก็อยากจะดองด้วยทั้งนั้นแหละวะไอ้เค้ง"
โพล้งบอก
"แต่ฉันได้ยินมาว่าไอ้เพลิงนี่มันเป็นนักเลงหัวไม้อยู่นะ"
"ไม่แน่นะไอ้มาก ถ้าป้าเงินแกรู้ว่าไอ้เพลิงมันเป็นนักเลงหัวไม้ บางทีป้าแกอาจเปลี่ยนใจไม่ยกนากให้ทางนั้นก็ได้" มั่นบอก
"ดีไม่ดี ไอ้เพลิงมันอาจมีเมียเป็นโขลงอยูที่หัวตะเข้ก็ไม่รู้" เค้งบอก
"เอาแบบนี้สิไอ้มาก เดี๋ยวพวกฉันจะไปที่หัวตะเข้ จะไปสอดส่องดูให้รู้ว่าไอ้เพลิงมันดีหรือชั่วอย่างไร เผื่อถ้าเป็นอย่างที่ฉันคิด ป้าเงินแกอาจยอมเปลี่ยนใจก็ได้" มั่นบอก
มั่นมองหน้าทุ้ย เค้ง โพล้ง ทุกคนพยักหน้าแต่มากนั่งหมดอาลัยตายอยาก
วันใหม่ ที่หัวตะเข้ ผู้คนคึกคัก เพลิงเดินกร่างอย่างไม่กลัวใครคุยกันมากับลูกน้อง
มั่น ทุ้ย โพล้ง เค้งเดินผ่านมาที่มุมหนึ่งเห็นเพลิง... ทุ้ย สะกิดมั่นให้ดูเพลิง
"นั่นพวกนั้นมันพวกนักเลงหัวไม้ที่เจอกันในวัดนี่หว่า"
ทุกคนมองไปที่เพลิงและลูกน้อง
"เออไอ้พวกนี้แหละ ฉันจำมันได้" เค้งว่า
"ที่แท้มันก็เป็นคนที่หัวตะเข้นี่เอง ข้าว่าเราลองตามพวกมันไปดีกว่า" มั่นบอก
มั่น และพวกเดินตามเพลิงไป
บริเวณร้านเหล้า เพลิง และพวกนั่งกินเหล้ากันอยู่ที่หน้าร้าน
"วันนี้เอ็งสองคนกินให้เต็มที่ไปเลย วันนี้ข้าเลี้ยงไม่อั้น"
เก่งประจบ
"พี่เพลิงนี่ใจดีกับพวกฉันจริงๆ แบบนี้พวกฉันรับใช้ถวายหัวเลยจ๊ะพี่เพลิง"
เพลิงยิ้มพยักหน้าพอใจ
มุมด้านหลังของร้าน มั่น และพวกนั่งหลบมุมแอบจ้องอยู่
"เฮ้ย เอ็งได้ยินเหมือนข้ารึเปล่าวะ ไอ้นักเลงหัวไม้นั่นมันชื่อเพลิง" ทุ้ยว่า
โพล้งบอก "ข้าว่าไอ้นี่แหละไอ้เพลิงลูกกำนันเพชร"
"โลกมันกลมดีแท้เชียว" เค้งบอก
มั่นจ้องมองไปที่เพลิง
ภายในเรือนขุนเพชร พวงจันทร์แต่งตัวสวยเตรียมจะไปวัด พิมเข้ามาเห็น ก็คุยกับแม่
"จะไปไหนเหรอจ๊ะแม่"
"เอ็งจะอยากรู้ไปทำไมว่าแม่จะไปไหน"
"อ้าว เผื่อมีใครมาหาแม่ฉันได้ตอบถูก"
"ใคร ใครจะมาหาแม่"
พิมยิ้ม
"ก็ลูกสวนสิแม่ แม่ลืมแล้วเหรอ วันนี้เค้าจะมาจ่ายค่าเช่าสวน"
"เออจริง แม่ลืมเสียสนิทเลย เดี๋ยวแม่อยู่รอก่อนดีกว่าวันหลังค่อยเอาดวงพ่อเพลิงกับแม่นากไปให้หลวงพ่อพี่วัดดู เอาเงินไว้ก่อน"
พิมยิ้มเจ้าเล่ห์
"ที่แท้แม่ก็จะไปดูดวงให้พี่เพลิงนี่เอง"
"ก็ใช่น่ะสิ แม่จะไปขอฤกษ์แต่งให้พ่อเพลิงจะได้แล้วๆเรื่องไปสักที"
พิมเข้ามาเกาะแขนพวงจันทร์
"ขอฉันไปวัดกับแม่ด้วยนะจ๊ะ ฉันอยากดูดวง"
"จะไปได้ยังไงกัน แม่ต้องรอลูกสวนมาจ่ายค่าเช่า"
พิมยิ้ม
"ไม่ต้องรอหรอกจ๊ะแม่ ฉันเก็บค่าเช่ามาให้แล้ว"
พิมหยิบเงินที่ซ่อนไว้ด้านหลังออกมา พวงจันทร์ทำตาดุรีบคว้าหมับทันที
ณ ร้านเหล้าเพลิง เก่ง หมึก เริ่มเมาๆ บนโต๊ะมีไหเหล้าแก้วเหล้าวางเกลื่อน เพลิงโวยวาย
"แม่นะแม่ไม่เห็นใจไอ้เพลิงบ้างเลย จนป่านนี้ยังไม่ยกขันหมากไปขอนากให้ฉันสักที"
หมึกในสภาพเมาเหมือนกัน
"ฉันว่าพี่เพลิงน่าจะใช้ชีวิตโฉดๆ เอ๊ยโสดๆให้คุ้มก่อนนะพี่ จะรีบแต่งไปถึงไหน"
"นั่นสิพี่เพลิง.... ผู้หญิงที่หัวตะเข้สวยๆมีตั้งมาก ทำไมต้องไปสนใจแม่นากทุ่งพระโขนงด้วยล่ะ" เก่งว่า
เพลิงฉุน
"เอ็งสองคนไม่ต้องมาพูด ถ้าไม่ใช่เพราะเอ็งสองคนที่ทำพลาดฉุดนังแก่นั่นมา ป่านนี้ข้ากับแม่นากก็ได้ครองคู่กันแล้ว"
ที่โต๊ะของมั่นและพวก มั่นได้ยินสิ่งที่เพลิงพูดก็โกรธจัด จะลุกขึ้นไปลุยกับเพลิง แต่เพื่อนๆดึงเอาไว้
"อดใจไว้ก่อน" ทุ้ยว่า
"ที่นี่ถิ่นของมันนะพี่มั่น" เค้งย้ำ
โพล้งกำชับ "อย่าให้เสียเรื่องสิวะ นึกถึงไอ้มากกับนากเข้าไว้"
"ก็เพราะข้านึกถึงนากไงเล่า ฉันถึงทนไม่ได้ที่พวกมันคิดหยามนากแบบนี้"
ทุ้ยบอก
"แต่ถ้าเอ็งบุ่มบ่ามทำอะไรลงไปตอนนี้ ทุกอย่างที่เราทำมันจะเสียมากกว่าได้นะไอ้มั่น"
มั่นจำใจยอมนั่งนิ่งคอยจ้องมองเพลิง
ในเวลาเดียวกัน ภายในโบสถ์ พวงจันทร์ และพิมนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่กับพื้น พวงจันทร์รอฟังคำตอบจากหลวงพ่อที่นั่งผูกดวง เขียนรายละเอียดบนกระดาษในมือ
"เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ดวงพ่อเพลิงลูกอิฉัน"
หลวงพ่อถอนใจ
"ชะตาเจ้าของดวงมีเคราะห์นะโยม เป็นเคราะห์หนักเสียด้วย"
พวงจันทร์ตกใจ
พิมรีบพูดขึ้น
"เป็นเคราะห์มาจากเรื่องผู้หญิงหรือเปล่าเจ้าคะหลวงพ่อ"
พวงจันทร์หันไปทำตาดุใส่ลูกสาว พิมทำไม่รู้ไม่ชี้
"แล้วมีทางแก้หรือไม่เจ้าคะ"
"ทางแก้ก็พอจะมีอยู่"
"ต้องทำยังไงบ้างเจ้าคะ"
"ต้องให้เจ้าชะตารักษาศีล ถ้าบวชเป็นพระได้ก็ยิ่งดีนะ"
พวงจันทร์หนักใจ
พิมรีบพูดกับแม่
"ฉันเห็นดีด้วยนะแม่ ให้พี่เพลิงมาบวชเป็นพระจะได้ทำตัวเป็นคนดีกับเค้าบ้าง"
พวงจันทร์เอามือตีและดุพิมเบาๆ
"ในวัดในวา เอ็งยังจะปากยื่นปากยาวอีกนะนังพิม"
พิมถอนใจเซ็ง พวงจันทร์คิดๆแล้วยื่นกระดาษอีกใบให้พระ
"แล้วดวงนี้ล่ะเจ้าคะเหมาะจะเป็นคู่ครองเรือนกับลูกชายอิฉันหรือไม่"
พระหยิบกระดาษที่พวงจันทร์ส่งให้ขึ้นมาดูแล้วเขียนกระดาษเพื่อผูกดวง
พวงจันทร์ พิมนั่งชะเง้อคอมองกระดาษในมือหลวงพ่ออย่างใจจดใจจ่อ ครู่หนึ่งหลวงพ่อก็วางกระดาษลงข้างตัว
"ดวงสองดวงนี้ เป็นอริกัน
พวงจันทร์ชะงักอึ้ง พิมทำหน้าสยองขวัญ
สองแม่ลูกกลับเรือน พวงจันทร์นั่งหงุดหงิดอารมณ์เสียอยู่เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด
"แม่เป็นอะไรของแม่ หงุดหงิดตั้งแต่ออกมาจากวัดแล้วนะ"
"ก็จะไม่ให้แม่โมโหได้อย่างไร อยู่ๆมาบอกว่าพ่อเพลิงของแม่มีเคราะห์ พ่อเพลิงออกจะทำบุญทำกุศลไม่เคยว่างเว้น"
พิมทำท่าเคาะหู
"หูฉันเฟื่อนไปรึป่าวจ๊ะแม่ ไอ้พี่เพลิงนี่นะทำบุญทำกุศลไม่ว่างเว้น เพิ่งรู้ประเดี๋ยวนี้เองว่า เข้าบ่อนตีไก่ กัดปลา มันเป็นการทำบุญ ฮึ สร้างบาปต่อกรรมล่ะไม่ว่า"
พวงจันทร์ฉุน
"นังพิมเอ็งอย่ามาใส่ร้ายพ่อเพลิงนะ เอ็งนี่มันลูกอิจฉาจริงๆ"
"โอ๊ย...แม่ ประคับประคองพี่เพลิงไปถึงไหน ใครแตะพี่เพลิงเป็นไม่ได้ ตามใจแม่ก็แล้วกัน ฉันไม่อยากพูดด้วยแล้ว"
พิมเดินปึงปังออกไป
"อีลูกนอกคอก พูดไปไม่เข้าหู ไปให้พ้นหน้ากูเลยเชียว"
พวงจันทร์คว้าอะไรใกล้มือได้ก็ปาออกไป แล้วนั่งหงุดหงิด
ต่อมา มั่น ทุ้ย โพล้ง เค้งซุ่มอยู่ที่มุมท้ายเรือนใกล้ท่าน้ำเรือนขุนเพชร
โพล้งพูดเบาๆ)
"นี่เหรอวะเรือนขุนเพชร"
"ขุนเพชรนี่รวยเอาเรื่องอยู่นะไอ้มั่น"ทุ้ยว่า
"เรือนนี่เห็นจะไม้สักทั้งหลังเชียวนะพี่ ว่าแต่พี่รู้ได้ไง ว่าที่นี่เรือนขุนเพชร ห๊า พี่มั่น" เค้งว่า
มั่นไม่ได้สนใจคำพูด ทุ้ทุกคนมัวแต่มองพิมที่ยืนมองพระจันทร์อยู่ที่ท่าน้ำ
โพล้งบอกกับเพื่อนๆ
"ข้าว่าเรากลับกันก่อนดีกว่า นี่ก็มืดค่ำแล้ว"
"เอ็งสามคนไปรอข้าที่เรือก่อนนะ เดี๋ยวข้ามา" มั่นบอก
มั่นรีบแยกตัวออกไปทันที ทุ้ย เค้ง โพล้งมองตามแปลกใจ
"มันจะไปไหนของมันวะ" เค้งว่า
โพล้งบอก "เอ็งคิดว่าข้าจะรู้หรือไอ้เค้ง " พลางตีหัวเค้ง "ไอ้โง่"
พิมยืนอยู่ที่ท่าน้ำ มั่นค่อยๆย่องเดินเข้าไปใกล้ พิมหันมาเจอกันมั่นตกใจจะร้อง มั่นรีบเข้ามากอดพิมไว้เอามือปิดปากพิม
"ฉันเองแม่พิม"
พิมหันมาตะลึง ร้องอู้อี้
"ถ้าแม่ไม่ร้องฉันจะปล่อย รับรองไม่ทำร้ายเด็ดขาด"
พิมพยักหน้า มั่นปล่อย พิมร้องทันที มั่นรวบตัวพิมมา พิมสะบัดร้องโวยวาย
"ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ เจ้าข้าเอ๊ย"
มั่นดึงตัวพิมเข้ามาปิดปากไว้ หน้าต่อหน้า ตาต่อตากัน มั่นสีหน้าเอาจริง เคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ๆ
"เอ็งจะทำอะไรข้า"
มั่นไม่ตอบค่อยๆ เคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ๆ พิมตะลึง
อ่านต่อตอนที่ 3