MGR Online - ตำรวจกองปราบปรามรวบเฒ่าชาวลพบุรีตั้งแก๊งหลอกเอาเงินไถ่ถอนที่้ดิน ร่วมมือกับอดีตพระสร้างเรื่องพระเครื่องกรุแตก หลอกผู้เสียหายให้เช่าบูชาในราคาองค์ละ 5,000-10,000 บาท
วันนี้ (22 ก.พ.) ที่กองปราบปราบ เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.อรุณ วชิรศรีกัญยา รักษาการ ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป.แถลงข่าวจับกุม นายปิยะบุตร หรือฮวง ประสารกิจวัฒนา อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 ม.5 ต.บางลี่ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ตามหมายจับศาลแขวงนครปฐม ที่ จ.402/2553 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2553 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง พร้อมของกลางพระเครื่องกรุพระร่วงพิมพ์โบราณอายุ 200 ปี จำนวนกว่า 30 องค์ พระเครื่องอื่นๆ อีกหลายรายการ ได้ที่ลานจอดรถริมถนนพหลโยธิน อ.เมือง จ.ลพบุรี
พ.ต.อ.พันธนะกล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายปิยะบุตรได้ร่วมกับนายเจือ สิงโตแก้ว ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้หลอกลวงผู้เสียหายว่ามีเจ้าของที่ดินต้องการจะขายที่ดินแปลงหนึ่งแต่ที่ดินนั้นติดจำนองจึงขอให้ผู้เสียหายนำเงินมาช่วยไถ่ถอน เมื่อไถ่ถอนแล้วจะมีนายทุนมาซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวไปขายได้กำไรจำนวนมาก และจะมีส่วนแบ่งค่าตอบแทนให้แก่ผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้มอบเงินเป็นค่าไถ่ถอนที่ดินให้กับกลุ่มผู้ต้องหาและได้เงินไปแล้วไปแล้วก็พากันหลบหนีไป
พ.ต.อ.พันธนะกล่าวต่อว่า จากนั้นผู้ต้องหาได้ถูกศาลแขวงนครปฐม ออกหมายจับ ที่ จ.402/2553 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2553 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ ข.346/2553 ลงวันที่ 26 ต.ค.ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง รวมทั้งศาลจังหวัดชัยนาท ออกหมายจับที่ จ.46/2553 ลงวันที่ 12 เม.ย. ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบว่าหลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้มากบดานอยู่ที่บ้านพักใน จ.ลพบุรี จึงนำกำลังไปจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ภายหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังไปตรวจค้นที่บ้านพักของนายปิยะบุตรก็พบอดีตพระนิยม จิตตปัญโญ หรือนายนิยม เพียงมุม อยู่ภายในบ้านดังกล่าว จากการตรวจค้นก็พบพระเครื่องเป็นพระร่วงพิมพ์โบราณกว่า 30 องค์ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายปิยะบุตรรับสารภาพว่าได้ร่วมขบวนการตุ๋นที่ดินจริง โดยทำหน้าที่เป็นนายหน้าได้ส่วนแบ่ง 10 เปอร์เซ็นต์ ทำมาแล้ว 7-8 ครั้งในเวลา 2 ปี นำเงินที่ได้จะนำไปเล่นพนันชนไก่ สำหรับพระเครื่องนั้นได้ซื้อมาจากตลาดแผงเช่าพระที่ท่าพระจันทร์ โดยร่วมกับพระผู้ใหญ่ และฆราวาสภายในวัดโคกโพธิ์กุญชร ต.ตลุง อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี ก่อนนำมาฝังดินไว้ที่บริเวณภายในวัดดังกล่าว จากนั้นก็จะสร้างเรื่องว่าได้มีการขุดค้นพระโบราณ กรุพระร่วงพิมพ์โบราณอายุ 200 ปี เพื่อเป็นการสร้างมูลค่า รวมทั้งมีการประชาสัมพันธ์ออกข่าวในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา โดยปล่อยให้เช่าบูชาในราคาองค์ละ 5,000-10,000 บาท
พ.ต.อ.พันธนะกล่าวอีกว่า หลังจากนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน กก.2 บก.ป. ขยายผลเครือข่ายขบวนการหลอกลวงที่ดิน รวมทั้งขยายผลในเรื่องขบวนการหลอกขายพระดังกล่าวเนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชนได้รับความเสียหาย อีกทั้งเป็นภัยสังคม อย่างไรก็ตาม ขอประชาสัมพันธ์หากมีผู้เสียหายคนใดได้เช่าบูชาพระกรุแตกดังกล่าวไปให้มาติดต่อพนักงานสอบสวนที่ บก.ป.เพื่อดำเนินคดีต่อผู้ต้องหารายนี้ และขยายผลไปยังเครือข่ายดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายปิยะบุตรส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเลน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป