ลูกไม้... ไกลต้น
บทประพันธ์ : โสภี พรรณราย
บทโทรทัศน์ : ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
กำกับการแสดง : ปัญญา ชุ่มฤทธิ์
ผลิต : บ. มีเดีย สตูดิโอ จำกัด
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 สี
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรก วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม 2559
เรื่องย่อ
รสาหญิงสาวที่เกิดมาในครอบครัวหาเช้ากินค่ำ ลูกสาวของนางสุภา หญิงม่ายสามีตาย หลังจากที่นายสานสามีของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ความเป็นอยู่ก็แย่ลงแต่ด้วยความที่ รสา เป็นคนสู้งาน ขยันขันแข็ง จึงทำให้ครอบครัวผ่านวิกฤตไปได้ ผิดกับมนัสพี่ชายที่มีความต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งรูปร่างหน้าตา และ นิสัยใจคอ มนัสเป็นพี่ชายที่ไม่เอาไหน เกียจคร้าน หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ตัวของมนัสเองก็แอบมีปมในใจ ถึงความต่างของเขากับน้องสาว ที่เหมือนฟ้ากับเหว รสาสวยสง่านิสัยดี แต่มนัสขี้ริ้วเกเร มนัสจึงแอบสงสัยมาตลอดว่ารสาไม่ใช่น้องแท้ๆ เขาพยายามคาดคั้นแม่ให้บอกความจริงเรื่องนี้ แต่ไม่เคยได้รับคำตอบที่ต้องการ
มนัสติดหนี้พนันบอลจึงไปหลอกแม่ว่ารสากำลังจะถูกเจ้าหนี้นอกระบบอุ้ม เนื่องจากไปลงทุนทำร้านเสื้อกับบงกชและมธุรสเพื่อนสนิทแล้วขาดทุน แต่ขอร้องไม่ให้แม่อย่าบอกเรื่องนี้กับรสา เพราะเกรงว่าน้องจะกลัว เขาจะเป็นคนช่วยน้องเอง สุภาเชื่อมนัสสนิทใจแม้จะห่วงรสา แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากถาม จนทำให้ตัวของเธอล้มป่วย สุภาจึงพยายามรวบรวมเงินเพื่อเอาไปให้มนัสใช้หนี้แทนรสา เหตุการณ์วันนั้นจึงทำให้เธอได้พบแหวนวงหนึ่งที่เคยซุกอยู่ซอกลึกสุดในตู้ แหวนที่กลับมาตอกย้ำอดีตอันแสนเจ็บปวดของเธออีกครั้ง
ในอดีต เมื่อยังสาว สุภาเคยทำงานเป็นคนรับใช้บ้านเฉลิมและเปรมจิตเจ้าของกิจการอัญมณีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศด้วยความที่สุภาเป็นหญิงสาวที่หน้าตาสะสวย จึงเป็นที่ถูกตาต้องใจ เฉลิมมาก เขาจึงออกอุบายหลอกลวงจนสุภาเชื่อและเสียท่ายอมตกเป็นของเขาเพื่อช่วยชีวิตนายสานสามี แต่สุภากลับมารู้ความจริงภายหลังว่าเรื่องทั้งหมดที่เฉลิมบอกล้วนเป็นเรื่องโกหก เธอทั้งอับอายและเสียใจน้ำตาแทบเป็นสายเลือด แต่เฉลิมกลับมองเป็นเรื่องเล็กน้อย ขอสุภาอย่าคิดมาก และจบปัญหาด้วยการให้แหวนที่ใส่ติดนิ้วมาเป็นค่าทำขวัญ สุภาไม่อาจทนต่อไปได้ จึงตัดสินใจหนี และโชคช่างเล่นตลกกับเธอ เมื่อมารู้ภายหลังว่าตัวเองตั้งท้อง จึงตัดสินใจว่าเก็บความลับเรื่องเฉลิมนี้ไว้จนวันตาย
ด้วยความเป็นห่วงลูกจึงทำให้สุภาป่วยหนัก ความหวังสุดท้ายที่เธอนึกถึงคือ เฉลิม เขาคือคนที่จะช่วยรสาให้พ้นภัยได้ ก่อนที่จะสิ้นใจจึงได้เรียกรสาไปสั่งความสุดท้ายพร้อมทั้งบอกความลับที่ตั้งใจปิดมาทั้งชีวิตว่า รสาเป็นลูกของคุณเฉลิมและต้องหาแหวนวงนั้นไปแสดงตัวให้ได้ รสาได้ยินแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเธอไม่ใช่ลูกจริงๆของพ่อสาน การเป็นลูกของเฉลิมหรือไม่ ไม่ได้เป็นสิ่งที่เธอคาดหวัง แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นคือ เธอต้องการกอบกู้ศักดิ์ศรีให้แม่ จึงไปหาแหวนตามที่แม่บอก เพื่อเอาไปแสดงว่าคุณเฉลิมทำผิดต่อแม่จริง แต่ก็พบว่าแหวนหายไปแล้ว เพราะมนัสเอาไปเสียก่อน
ชานนท์ เป็นบุตรชายของคุณพาณิช เจ้าของกิจการอัญมณีแถวหน้าของประเทศไทย ชานนท์มีความหลังที่ฝังใจมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ คือ ภาพที่กัลยา แม่บังเกิดเกล้าหนีไปกับอรุณ นายช่างผู้ควบคุมการผลิตอัญมณีในโรงงานของบิดา โดยไม่ใยดีกับเสียงร้องไห้เรียกหาแม่ของอภิรักษ์ น้องชายวัย 7 ขวบเลยแม้แต่น้อย
หลังจากนั้นพ่อกลายเป็นคนเงียบเหงาเศร้าซึม ภาพอภิรักษ์ร้องไห้โหยหาอกแม่ทุกวันคืน ทำให้ชานนท์ต้องเป็นคนเข้มแข็งกลายมาเป็นที่พึ่งให้ทั้งพ่อและน้องชายที่อ่อนแอ เขาบ่มเพาะความเกลียดชังแม่ตลอดมาจนโต และให้สัญญากับตัวเองว่า หลังจากนี้ไปชีวิตของเขาจะต้องอยู่โดยไม่มีแม่ จึงพยายามพูดฝังหัวอภิรักษ์ว่าแม่โหดร้ายที่ทิ้งลูกเล็กๆ ไปได้ลงคอ สองคนพี่น้องเติบโตขึ้นมา โดยมีแต่พ่อคนเดียว พ่อผู้ซึ่งครองความเป็นม่ายโดยไม่หาหญิงใหม่มาดามใจ พ่อที่เลี้ยงดูสองพี่น้องมาจนโต ชานนท์พร่ำบอกอภิรักษ์ว่าหากวันใดวันหนึ่งแม่เกิดกลับมาหาเราสองคนพี่น้องก็ต้องไม่ให้อภัยและไม่ยอมรับแม่ เรื่องนี้กลายเป็นปมฝังใจที่ทำให้เค้ามองโลกในแง่ร้ายและมีอคติโดยไม่รู้ตัวโดยเฉพาะกับผู้หญิง
วันหนึ่งขณะที่ชานนท์อยู่ที่บ้าน แม่บ้านมาแจ้งว่ามีหญิงกลางคนมาขอพบอภิรักษ์ ชื่อ “กัลยา” ชานนท์ออกอาการฉุนเฉียวไม่ให้พบและห้ามคนในบ้านบอกเรื่องนี้กับพาณิชและอภิรักษ์ พร้อมทั้งออกคำสั่งห้ามเปิดประตูให้กัลยาเด็ดขาด ชานนท์รีบบึ่งรถออกจากบ้าน เขาขับรถผ่านกัลยาที่ยังแกร่วรออยู่หน้าบ้าน แม้กัลยาจะวิ่งตามเคาะกระจกรถ ชานนท์ก็ไม่ยอมจอด กัลยาเสียใจมาก ส่วนชานนท์ พอพ้นกัลยามา เขาเองก็ต้องจอดรถเพราะต่อสู้กับความรู้สึกตัวเองไม่ไหวที่ผสมปนเปทั้งตกใจ แค้นใจ เสียใจ จนแทบจะระเบิดออกมาจากอก
กัลยากลับมาบ้านเจออรุณ ชายชู้ของเธอ ทั้งคู่วางแผนกันเรื่องที่ต้องพยายามเข้าหาอภิรักษ์ให้ได้จุดประสงค์ของทั้งคู่คือ เบื่อการทำงาน เกลียดความลำบาก จึงต้องการเอาเงินมาเสวยสุข และทำชีวิตที่ให้สุขสบายขึ้น ชานนท์แอบตามกัลยามาจึงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดว่าแท้จริงแล้วกัลยาไม่ได้มาหาเพราะคิดถึงลูกแต่อย่างใด ก็ยิ่งชิงชังกัลยาอย่างเต็มที่
รสาตัดสินใจเข้าไปหาคุณเฉลิมที่บริษัทตามคำแนะนำของบงกชและมธุรสไม่ใช่เพื่อจะแสดงตัวเป็นลูกและเรียกร้องสิทธิต่างๆที่เธอควรจะได้ รสาไม่เคยต้องการข้องเกี่ยวกับชีวิตแบบเศรษฐีที่เธอไม่คุ้นเคย จุดประสงค์เดียวของรสาคือต้องการให้เฉลิมไปขออโหสิเป็นครั้งสุดท้ายต่อหน้าศพแม่ของเธอแต่ผิดคาด...คุณเฉลิมกลับไม่ใส่ใจในสิ่งที่เธอร้องขอสักนิด แต่กลับเห็นรสาเป็นแค่ใครก็ไม่รู้คนนึงที่เข้ามาสร้างเรื่อง เพื่อเรียกร้องผลประโยชน์จากเศรษฐีอย่างเค้า จริงอยู่เขาจำสุภาได้ แต่รสาไม่มีหลักฐานใดๆมาแสดง นอกจากคำพูดกล่าวอ้างลอยๆ ประกอบกับเฉลิมเป็นคนมีลูกยาก เพราะมีภาวะเกือบเป็นหมันเป็นทุนเดิม ยิ่งทำให้เขาปฏิเสธรสาได้อย่างไม่แยแส รสาจำต้องออกจากบริษัทอัญมณีทองมาด้วยความผิดหวังที่คนเป็นพ่อแสดงท่าทีไม่ยอมรับเธอถึงขนาดนี้
ชานนท์ผู้ซึ่งเป็นคนรักของศศิกานต์ ลูกสาวคนเล็กของคุณเฉลิมเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ชานนท์ระแวงว่ารสาอาจเป็นหนึ่งในขบวนการสิบแปดมงกุฎที่คิดจะมาหลอกเอาเงินเศรษฐีอย่างเฉลิม ไม่ต่างอะไรกับกัลยาแม่ของเขา ด้วยอคติที่มีในใจบวกกับบังเอิญได้ยินรสาคุยโทรศัพท์กับมนัสใจความเหมือนพวกมาตุ้มตุ๋น จึงยิ่งเข้าใจผิดมากขึ้น ชานนท์ตั้งใจว่าจะทำทุกวิถีทางไม่ให้รสามาหลอกหลวงครอบครัวของศศิกานต์แฟนตัวเองได้
เปรมจิตเฉลียวใจ เมื่อได้รู้จากวรรณฤดีลูกสาวคนโต ว่ามีคนมาแอบอ้างหลอกว่าเป็นลูกเฉลิม แถมศศิกานต์ยังเปรยว่าหน้าเหมือนคุณพ่อด้วย ทำให้เปรมจิตต์นึกย้อนไปถึงวันที่เธอแอบเห็นเฉลิมออกมาจากห้องของสุภาสาวใช้หน้าตาสะสวยโดยบังเอิญ จึงไปปรึกษาแม่จัน ญาติผู้ใหญ่ที่เปรมจิตให้มาช่วยดูแลความเรียบร้อยในบ้าน แม่จันปลอบจนเปรมจิตสบายใจขึ้นว่าเป็นไปไม่ได้เพราะเฉลิมมีลูกยาก กว่าจะมีวรรณฤดีกับศศิกานต์ก็พยายามแทบแย่
แต่ศศิกานต์สังหรณ์ว่า รสาอาจเป็นลูกคุณเฉลิมจริง ๆ เพราะเธอรู้สึกถูกชะตาและผูกพันอย่างประหลาดกับรสา ชานนท์ตัดบทไม่ให้คิดและยืนยันว่ารสาต้องเป็นพวก18มงกุฏ ส่วนวรรณฤดีก็เริ่มคิดหนัก ด้วยความกลัวว่าจะต้องถูกแบ่งสมบัติของพ่อไปให้คนอื่น ลึกๆ ในใจ..วรรณฤดีต้องการครอบครองสมบัติทั้งหมดของพ่อแม่แต่เพียงผู้เดียว แม้กระทั่งน้องสาวแท้ๆ อย่างศศิกานต์ เธอก็ไม่คิดที่จะแบ่งให้
ด้วยความที่เครียดมาก ทำให้เธอกินไม่ได้ นอนไม่หลับ รสาจึงเป็นลมระหว่างข้ามถนน จนเกือบโดนรถของอภิรักษ์ชน อภิรักษ์รีบลงมาช่วย และรู้สึกตกหลุมรักรสาในทันที ชานนท์จำรสาได้ จึงพยายามบอกอภิรักษ์ว่ารสาไม่ใช่คนดี มีเจตนาจะหลอกลวง แต่อภิรักษ์และคุณพานิชกลับไม่ได้คิดอย่างนั้น และไม่เชื่อในสิ่งที่ชานนท์บอก ชานนท์ใช้อำนาจความเป็นพี่สั่งอภิรักษ์ห้ามยุ่งเกี่ยวกับรสาเด็ดขาดเป็นเหตุให้มีปากเสียงกัน ทำให้ชานนท์ยิ่งไม่ชอบรสามากขึ้นไปอีก เขาจะไม่ยอมให้รสามาหลอกคนในครอบครัวเค้าเพิ่มเด็ดขาด
ชานนท์พยายามสืบเรื่องของรสา ไปเลียบเคียงถามจากบงกช ซึ่งเป็นเลขาของเขา บงกชยืนยันรสาเป็นคนดี แต่ชานนท์กลับคิดว่าบงกชเข้าข้างเพื่อน ตั้งแต่นั้นบงกชพยายามคอยเป็นตัวเชื่อมไม่ให้ชานนท์เข้าใจรสาผิดไปมากกว่านี้
เฉลิมนั่งรถกลับจากงานเลี้ยง บังเอิญรถดับตรงหน้าวัดสตาร์ทไม่ติด เฉลิมจึงเดินเข้าไปในวัด เห็นรูปหน้าศพของสุภา เมื่อกลับถึงบ้านเฉลิมเดินเข้าบ้านไม่พูดจากับใคร เปรมจิตสงสัยจึงไปถามคนขับรถ ทำให้ยิ่งสงสัยว่ารสาต้องเป็นลูกเฉลิมแน่ๆ
เปรมจิตยิ่งกระวนกระวายใจเรื่องรสา จึงไปสืบประวัติรสาตามอินเตอร์เนต แต่ไม่พบข้อมูลที่อยากรู้มากนัก เมื่อสบโอกาสจึงแอบนำของเฉลิมและรสาไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อความแน่ใจ ผลการตรวจปรากฎว่ารสาเป็นลูกเฉลิมจริง เปรมจิตกลุ้มใจมาก ตัดสินใจเก็บความลับนี้ไว้คนเดียว และกันทุกคนที่เสนอให้พิสูจน์ดีเอ็นเอของรสา ด้วยการบอกว่าคนระดับเฉลิมไม่จำเป็นต้องลดเกียรติลงไปให้ทำอะไรแบบนั้นให้เสื่อมเสีย เพราะยังไงรสาก็ไม่ใช่ลูกเฉลิมแน่นอน
เปรมจิตหาทางหยุดยั้งเรื่องของรสา ด้วยการเสนอให้เงินหนึ่งล้านบาท ชานนท์เฝ้าคอยดูว่าในที่สุด รสาจะยอมรับเงินหรือไม่ เมื่อรสาไม่รับ เขากลับเชื่อว่าเป็นเพราะรสาหวังสมบัติที่มากกว่านั้นของคุณเฉลิม รสาพยายามชี้แจงถึงความตั้งใจของตน แต่ชานนท์ไม่เชื่อ
กัลยามาหาชานนท์อีก รสาเห็นเหตุการณ์โดยบังเอิญ ว่าชานนท์ปฏิเสธไม่ยอมรับว่ากัลยาเป็นแม่ ชานนท์โกรธมาก ห้ามรสาไม่ให้ยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้ และออกคำสั่งให้เธอปิดปากให้สนิท ห้ามบอกใครเด็ดขาดโดยเฉพาะอภิรักษ์ แต่รสาแอบคิดว่าอภิรักษ์ควรมีสิทธิตัดสินใจเองเพราะกัลยาก็เป็นแม่ของอภิรักษ์เหมือนกัน เธอต่อว่าว่าชานนท์มองคนแต่ในแง่ร้าย เหตุการณ์นี้ทำให้รสาได้รู้จักชานนท์มากขึ้นว่าเขามีบาดแผลคล้ายๆกับเธอเขาไม่ยอมรับแม่ แต่รสา มีพ่อที่ไม่ยอมรับลูก
กัลยาหลอกใช้ความเป็นคนดีของ รสา เป็นตัวช่วยของเธอ กัลยาเล่นละครทำตัวเป็นคนที่น่าสงสารให้รสาเห็นใจและขอร้องให้รสารับปากว่าจะช่วยพูดกล่อมชานนท์ให้ รสาจำใจรับปากด้วยความสงสาร
การที่รสาได้รู้เห็นในเรื่องส่วนตัวล้ำลึกของชานนท์ เป็นสิ่งที่ทำให้ชานนท์เข้ามาใกล้ชิดกับรสามากขึ้น เพราะเธอเป็นคนนอกคนเดียวที่รู้ แม้แต่ศศิกานต์ผู้หญิงพิเศษของเขายังไม่รู้ จึงเป็นเหตุที่ทำให้ทั้งชานนท์และรสาขัดแย้งกันยิ่งขึ้น รสายืนยันที่ว่าลูกจะต้องกตัญญูและให้อภัยแม่ ชานนท์ว่ารสาไม่รู้หรอกว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหน ชานนท์กับรสาขัดแย้งกันจนเขาใช้กำลังปล้ำจูบเธอ แต่รสาก็มิได้ขัดขืน ทั้งชานนท์และรสารู้สึกพอใจในจูบนั้นทั้งคู่ โดยไม่อยากนึกถึงสาเหตุว่าพอใจเพราะอะไร
แล้วจากนั้น ทั้งคู่ก็วิ่งหนีหัวใจตัวเองตลอด โดยอาศัยความขัดแย้งระหว่างกันเป็นเครื่องขวางกั้น
ลึกๆศศิกานต์เองรับรู้ได้ว่า ระหว่างชานนท์กับรสาต้องมีอะไรที่ปิดบังเธอและคนอื่นไว้ เพราะหลายครั้งที่เธอจับได้โดยบังเอิญว่าชานนท์ออกไปกับรสา แต่เมื่อเธอแกล้งลองถาม ชานนท์ก็ปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นไม่มีอะไร ถึงแม้เธอจะพูดกับทุกคนว่าเธอเชื่อใจเขา และถ้าชานนท์จะเปลี่ยนใจ เธอก็ตามใจ ไม่อยากได้เขามาแค่ตัว แต่ไม่ได้หัวใจ แต่ลึกๆศศิกานต์แอบหวั่นใจไม่น้อย จนเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับแม่จัน ธัชชัยเห็นแบบนี้ก็แอบดีใจ เพราะความจริงธัชชัยไม่ได้รักวรรณฤดี เขาแอบรักศศิกานต์มาโดยตลอด แต่ที่ต้องแต่งงานกับวรรณฤดีเพราะรู้ว่าเป็นลูกเขยคุณเฉลิมย่อมก้าวหน้าเร็วกว่าการเป็นพนักงานกินเงินเดือนในบริษัท อย่างที่เค้าเคยเป็นมาก่อนแน่นอน
กัลยามาทำบีบน้ำตาอ้อนรสาให้นัดอภิรักษ์ให้ รสาไม่รู้จะทำยังไง แต่ยอมนัดให้เพราะสงสาร เมื่ออภิรักษ์ได้เจอกัลยา ทีแรกอภิรักษ์จำไม่ได้ แต่พอรู้ว่ากัลยาเป็นใคร เขาก็ขับรถพุ่งหนีไปทันทีตามที่ชานนท์เคยสั่งไว้ แล้วสุดท้ายก็แพ้ใจตัวเอง เขาตัดสินใจขับรถกลับมาหาแม่ กัลยาบอกอภิรักษ์ว่าเธอรู้สึกสำนึกผิดแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยไปเจอชานนท์ แต่ชานนท์ใจแข็งมากไม่ยอมรับแม่ อภิรักษ์สงสารแม่จึงให้เงินและชวนไปบ้าน กัลยาไม่กล้าไปอ้างว่าชานนท์เกลียดแม่ คงไม่อยากให้กลับไปเหยียบกลับบ้านอีกแต่อภิรักษ์กลับบอกว่าช่างพี่นนท์ แต่สำหรับเขายินดีให้แม่เข้าบ้านเสมอกัลยาอึ้งไปพูดอะไรไม่ออกเลยวิ่งหนีไป อภิรักษ์น้ำตาซึม รสาจึงปลอบใจ อภิรักษ์ขอบคุณรสา ไม่งั้นคงไม่มีวันได้เจอและคุยกับแม่อีก อภิรักษ์กลับไปบอกพ่อว่าอยากขออนุญาตให้แม่เข้ามาในบ้าน พาณิชยอม แต่ชานนท์ขัดขวาง จนเกิดเรื่องทะเลาะกับอภิรักษ์ใหญ่โต
อภิรักษ์สารภาพรักกับรสา รสาขอให้เป็นเพื่อนกัน อภิรักษ์ผิดหวังมากจนทำงานไม่ได้ ชานนท์โทษว่าเป็นความผิดของรสา รสาเหลืออดตอกหน้าชานนท์กลับไปบ้างว่าถ้าชานนท์เป็นคนใจกว้างเรื่องยุ่งๆในครอบครัวเขาก็จะไม่เกิดและให้เขาเคารพความคิดของอภิรักษ์บ้าง อย่าถือว่าตัวเองถูกไปเสียทุกอย่าง เพราะอภิรักษ์พร้อมที่จะอภัยให้แม่ แต่ชานนท์ไม่ยินยอม
กัลยาได้เงินมาก็เอาไปใช้จ่ายซื้อของอย่างสุขสบายกับอรุณการได้เงินมาง่ายๆ ทำให้ทั้งคู่ไม่คิดที่จะออกไปทำงาน วันๆ จึงคิดแต่วางแผนเรื่องรีดไถเงิน
คุณเฉลิมไม่สบายมาก แพทย์ตรวจพบว่าเป็นโรคไตพิการ แพทย์ลงความเห็นว่าคุณเฉลิมต้องเปลี่ยนไต แต่ลูกสาวสองคนคือ วรรณฤดีกับศศิกานต์ไม่อาจให้ไตแก่พ่อได้ เพราะเลือดไม่เข้ากัน ศศิกานต์สงสารพ่อจับใจ จึงเสนอหนทางสุดท้ายคือ ให้รสาไปตรวจเลือดดูว่า สามารถให้ไตแก่คุณเฉลิมได้หรือไม่ วรรณฤดีไม่ห็นด้วยและต่อต้านเต็มที่ ในขณะที่คุณเปรมจิตลังเล แต่ด้วยความรักที่มีต่อสามีอย่างมาก ในที่สุดคุณเปรมจิตก็ตัดสินใจยอมขอร้องให้รสามาตรวจเลือด ศศิกานต์ดีใจ ผิดกันกับวรรณฤดีที่ออกตัวคัดค้านเต็มที่แต่เสียงคัดค้านของวรรณฤดีก็ไม่สำเร็จ
ตั้งแต่คุณเฉลิมป่วย รสาไปเยี่ยมคุณเฉลิมบ่อยครั้ง เห็นสภาพของคุณเฉลิมที่ทรุดโทรมลงผิดตา ตอนนี้เธอไม่ต้องการอะไรจากคุณเฉลิมอีกแล้ว ไม่ต้องการให้คุณเฉลิมไปขอโทษแม่ก็ได้ ขอเพียงแต่ให้คุณเฉลิมหายดีก็พอ
วรรณฤดี เริ่มหาทางออกให้กับตัวเองด้วยการบังคับให้ธัชชัยไปตรวจว่าเป็นหมันรึเปล่า เพราะเค้ากับเธอไม่มีหลานให้พ่อเสียที เฉลิมเคยบอกว่าถ้าวรรณฤดีมีหลายชายให้พ่อ พ่อจะแบ่งมรดกให้หลานมากกว่าใครแน่นอน วรรณฤดีขู่ว่าถ้าธัชชัยเป็นหมันเธอจะเลิกกับเขา ธัชชัยอึ้งที่รู้ว่าวรรณฤดีเห็นเขาเป็นแค่เครื่องมือที่จะทำให้ได้ครอบครองมรดกทั้งหมดเท่านั้น
มนัส มาสมัครงานเป็นยามที่บริษัทของชานนท์ ต่อมามนัสเอาแหวนที่ขโมยไปมาขายชานนท์เพื่อหาทางรอดจากเจ้าหนี้ ชานนท์จึงรู้ว่านี่คือหลักฐานที่รสาเคยบอกว่ามี แต่ไม่รู้ทำไมไม่เคยนำมาแสดง ชานนท์เอาแหวนให้คุณเฉลิมดู เฉลิมเห็นแหวนก็จำได้ เขากล้ายอมรับกับชานนท์ว่าเคยหลอกลวงสุภาจริง มาถึงตอนนี้เฉลิมละอายใจมาก แต่แม้รสามีแหวนก็ไม่ได้พิสูจน์ว่าเป็นลูกของเฉลิมรึเปล่า แต่อย่างน้อยทั้งสองคนเริ่มมองรสาในแง่ดีขึ้นว่าเธอไม่ได้พูดลอยๆเรื่องเฉลิมทำผิดต่อสุภา
เมื่อรสารู้ว่ามนัสเอาแหวนไปขายชานนท์ รสาไปขอซื้อแหวนคืน แต่เธอบอกว่ายังไม่มีเงินก้อนครบแสนตอนนี้ ชานนท์ให้แหวนมาก่อน และบอกรสาว่าคุณเฉลิมเห็นแหวนแล้ว รสาจึงเข้าใจว่าเพราะเหตุใดที่เธอไปเยี่ยมท่านระยะหลัง ๆ ท่านจึงดีกับเธอขึ้นมาก รสามองเพชรที่แหวนแล้วคิดถึงแม่มาก คิดถึงสภาพจิตใจแม่ที่ต้องทนทุกข์ทรมานที่ต้องอุ้มท้องลูกของชายอื่นโดยบอกสามีไม่ได้ ความกดดันในใจทำให้รสาหน้ามืดวูบ ชานนท์เข้าประคองเธอไว้ทันก่อนที่จะล้ม ศศิกานต์ซึ่งจะเข้ามาในห้องเห็นเข้าพอดี เธอรีบปิดประตูไปอย่างเงียบเชียบ บัดนี้ ศศิกานต์แน่ใจแล้วว่าชานนท์รักรสาแน่นอน
อภิรักษ์ทำใจได้เรื่องรสาไม่รับรักและขอเป็นเพื่อนที่ดีของรสา เขานัดเธอไปทานข้าวกับคุณกัลยา และพาคุณพาณิชไปด้วย คุณกัลยากับคุณพาณิชได้เจอกัน โดยคุณกัลยาไม่รู้ตัวล่วงหน้า เธออึ้งไปเหมือนกันเมื่อเจอสามีเก่า ความผูกพันใดอื่นของคุณพาณิชต่อคุณกัลยาไม่มีแล้ว นอกจากความห่วงใยว่าเธอจะลำบาก เมื่อทานอาหารเสร็จ พาณิชเซ็นเช็คจ่ายเงินให้คุณกัลยาไปหนึ่งแสนบาท ชานนท์รู้ดีทุกอย่างว่าแม่ของตนต้องการอะไร และเขาก็พิสูจน์ให้รสาเห็นความจริงด้วยการพารสาไปบ้านแม่ ทำให้รสาก็ได้รู้ความจริงด้วยตนเองว่า แท้ที่จริงแล้วคุณกัลยามิได้อาลัยอาวรณ์กับลูก ๆ หรือสามีเก่าเลย เธอต้องการเพียงเงินจุนเจือตัวเองและนายอรุณที่เธอรักมากเท่านั้น รสาเข้าใจชานนท์มากขึ้น แต่เธอก็ยังยืนยันว่าลูกควรกตัญญูต่อแม่บังเกิดเกล้า ชานนท์ว่ารสาคงอยากเห็นเขาเป็นคนโง่ เขาทำไม่ได้ รสาพยายามพูดโน้มน้าวจิตใจชานนท์ ในขณะเดียวกัน รสาและชานนท์ต่างเปิดใจตนเองต่อกัน และรู้ว่าต่างฝ่ายต่างรักกันโดยไม่ต้องเอ่ยคำรัก ชานนท์รู้สึกผิดต่อศศิกานต์อย่างมาก
อภิรักษ์บอกชานนท์ว่าเขาจะรับคุณกัลยามาที่บ้าน และคาดว่าชานนท์ต้องต่อต้านแน่ แต่ผิดคาด ชานนท์ยินยอม อภิรักษ์แน่ใจทันทีว่าเป็นเพราะรสาที่ทำให้ชานนท์เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
อภิรักษ์เจอกับศศิกานต์โดยบังเอิญ จึงได้รู้จากศศิกานต์ว่าชานนท์กับรสารักกัน ศศิกานต์แม้จะเจ็บปวด แต่เห็นด้วยกับอภิรักษ์ว่าควรยินดีกับทั้งสอง ทั้งคู่ตั้งใจว่าจะร่วมมือกันทำให้รสากับชานนท์สมหวัง
ธัชชัยเป็นหมันจริง แต่ไม่กล้าบอกวรรณฤดี นุกูลเลยวางแผนสลับเชื้อของเขากับธัชชัยในวันที่วรรณฤดีกับธัชชัยไปทำกิ้ฟ เพราะหวังจะได้ส่วนแบ่งมรดก วรรณฤดีตั้งท้องดั่งหวัง จึงคาดคั้นเฉลิมให้เซ็นพินัยกรรมยกสมบัติให้หลานมากกว่าใคร
ผลตรวจเลือดของรสาออกมาแล้ว เธอเป็นลูกของคุณเฉลิมจริง และยังสามารถเปลี่ยนไตให้คุณเฉลิมได้ด้วย ตอนแรกคุณเฉลิมไม่ยอมเปลี่ยนไต เพราะไม่ต้องการเอาเปรียบรสาไปมากกว่านี้แต่รสากลับพูดจนคุณเฉลิมยอม ศศิกานต์ดีใจต่อน้องสาว ส่วนวรรณฤดีอาละวาดกับคุณเปรมจิตราวบ้าคลั่ง
มนัสเมื่อรู้ว่ารสาเป็นลูกของคุณเฉลิมจริงก็ไปหาคุณเฉลิมที่โรงพยาบาล บอกว่าเขาเป็นคนเสียสละไม่ได้เรียนเพื่อให้รสามีอนาคต คุณเฉลิมใจอ่อนเซ็นเช็คไปให้ รสารู้เข้าไปต่อว่ามนัสให้เอาเงินมาคืน แต่มนัสใช้ไปหมดแล้ว รสาจึงมาขอร้องไม่ให้คุณเฉลิมทำแบบนี้ แต่คุณเฉลิมบอกว่าจะออกทุนให้มนัสกับอรทัยเปิดร้านขายของชำจะได้พึ่งตัวเองได้
วันเผาสุภา คุณเฉลิมมาขออโหสิและขอให้สุภายกโทษให้ สัญญาว่าจะดูแลรสาต่อไปอย่างดีที่สุดแล้วให้รสาเรียกเขาว่าพ่อ รสาปลื้มใจจนต้องร้องไห้ออกมา ในที่สุดเธอก็กู้ศักดิ์ศรีให้แม่สำเร็จ
วรรณฤดีรับไม่ได้กลัวพ่อเปลี่ยนใจแบ่งสมบัติให้รสา จึงคิดกำจัดรสาก่อนผ่าตัดเปลี่ยนไตให้คุณเฉลิม นุกูลส่งลูกน้องไปวางระเบิดร้านรสา วันที่ร้านระเบิดชานนท์มารับรสาไปข้างนอก รสาจึงรอดหวุดหวิด แต่มธุรสอยู่ร้านจึงโดนระเบิดบาดเจ็บสาหัส ตำรวจสาวมาถึงตัวนุกูล เขาซัดทอดต่อมาถึง ธัชชัยและวรรณฤดี และแฉเรื่องธัชชัยเป็นหมัน วรรณฤดีถึงกับช็อค ผิดหวังทุกเรื่อง จนคุ้มคลั่งทำร้ายตัวเองจนเสียลูกต้องเข้าโรงพยาบาลโรคจิต ธัชชัยและนุกูลเองต่างก็ต้องรับกรรมในคุก
รสาผ่าตัดเปลี่ยนไตให้คุณเฉลิม เมื่อฟื้นขึ้นคนแรกที่รสาเห็นหน้าคือชานนท์ ซึ่งนั่งเฝ้าเธอตลอดเวลา เขาขอเธอแต่งงาน
รสาบงกช มธุรสซ่อมร้านแล้วเปิดใหม่ ชานนท์ให้อภัยกัลยาได้ เขายอมพารสา อภิรักษ์และพาณิช ไปกินข้าวกับกัลยาบ่อยๆ และให้เงินเดือนกัลยาใช้จ่าย โดยกัลยาก็ยังอยู่กินกับอรุณเหมือนเดิม ชานนท์ขอบคุณรสา เขาเข้าใจแล้วว่าโลกนี้ไม่ได้มีแต่ด้านที่โหดร้าย เขาจะไม่ยอมให้อคติใดๆมาบังตาจนเกือบทำให้ชีวิตต้องจมอยู่แต่ในความทุกข์อีกต่อไปแล้ว.....
คาแร็กเตอร์ตัวละคร
ชานนท์: "อ๋อม" อรรคพันธ์ นะมาตร์
ชายหนุ่มวัย 27 ปี ลูกชายคนโตของเจ้าของบริษัทจิวเวลรี่แถวหน้าของประเทศ บุคลิกสง่าน่าเกรงขาม รูปหล่อ เป็นคนเคร่งขรึม มีอคติต่อผู้หญิงเพราะปมในใจที่ฝังมาตั้งแต่เล็กๆเมื่อผู้เป็นมารดาหนีไปกับชายชู้ที่เป็นคนงานช่างเจียระไนเพชรพลอยในโรงงานของพ่อ ทิ้งให้เค้าและน้องชายเติบโตมากับพ่อที่ระทมทุกข์จนอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ ชานนท์ดูจะเป็นคนใจแข็ง ไม่เชื่อใจใครง่ายๆจนบางครั้งดูกระด้าง ทั้งที่ความจริงเป็นคนใจดี ใจถึง ยุติธรรม และเป็นสุภาพบุรุษ จึงเป็นที่รักและเคารพของลูกน้องทุกคนในบริษัท
รสา : "มิน" พีชญา วัฒนามนตรี
สาวสวยวัย 22 ปี รูปร่างสูงระหง ผิวขาวละเอียด บุคลิกขรึม เป็นคนตรง ฉลาด มุ่งมั่นและอดทนทำอะไรทำจริงจนบางครั้งดูดื้อดึง ชอบทำงานที่เกี่ยวกับเสื้อผ้าจึงร่วมลงทุนกับเพื่อนรักที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ เปิดร้านขายเสื้อสำเร็จรูปในห้างสรรพสินค้าใหญ่ ชีวิตต้องพลิกผันเมื่อความจริงปรากฏว่า พ่อของเธอไม่ใช่คนขับรถเมล์ แต่เป็นมหาเศรษฐีเจ้าของบริษัท"อัญมณีทอง“
อภิรักษ์: "ไต้ฝุ่น" ตากเพชร เลขาวิจิตร
วัย 24 ปี น้องชายชานนท์ บุคลิกเป็นคนง่ายๆสบายๆมองโลกในแง่ดี อภิรักษ์เป็นที่รักของทุกคนที่ได้รู้จักเพราะความสุภาพจิตใจอ่อนโยน อภิรักษ์มีความทรงจำเกี่ยวกับแม่ค่อนข้างลางเลือนเพราะตอนที่แม่ทิ้งพวกเค้าไปอภิรักษ์มีอายุแค่ 7 ขวบ ดังนั้นความรู้สึกในด้านลบเกี่ยวกับแม่จึงไม่รุนแรงเท่าพี่ชาย
ศศิกานต์ : "เพลง" กวิตา รอดเกิด
วัย 23 ปี ลูกสาวคนเล็กของตระกูล "บดินทรวัชระ" สาวไฮโซร่างเล็กบุคลิกดี เป็นที่รู้กันทั่วไปในวงสังคมว่าเธอเป็นคู่รักคู่หมายของชานนท์ ศศิกานต์เป็นคนจิตใจดี โอบอ้อมอารี เปิดเผย ทำงานเก่ง มีพรสวรรค์ด้านอัญมณี ด้วยความที่เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีจึงทำให้ไม่เคยรู้ตัวเองว่าเป็นคู่แข่งของพี่สาว
วรรณฤดี : "ส้ม" ธัญสินี พรมสุทธิ์
วัย 25 ปี พี่สาวของศศิกานต์ นิสัยตรงกันข้ามกับน้องสาว เป็นคนโลภมาก ฉลาดเจ้าเล่ห์ ใจดำ เจ้าอารมณ์ชอบใช้อำนาจข่มคน แม้กระทั่งน้องสาวแท้ๆก็ยังอิจฉาจนเกลียด เพราะกลัวน้องจะมาแย่งสมบัติ จึงทำทุกอย่างเอาหน้าเพื่อหวังได้มรดกของบิดาเอาไว้คนเดียว
คุณเฉลิม : "หนุ่ม" สันติสุข พรหมสิริ
วัย 60 ปี คหบดีผู้ร่ำรวยระดับมหาเศรษฐี เจ้าของบริษัท "อัญมณีทอง" พ่อของวรรณฤดี และศศิกานต์ นอกจากนี้ยังมีศูนย์อัญมณีที่มีมูลค่ามหาศาล เป็นคนรูปร่างสูงสง่าดูภูมิฐาน มีทุกอย่างเพียบพร้อมนอกจากลูกชายที่หวังให้สืบสกุล หนุ่มๆเป็นคนเจ้าชู้แพ้คนสวย จึงทำให้ได้เคยสร้างตราบาปให้แก่คนใช้สาวแสนสวย จนทำให้มีรสาเป็นลูกอีกคนโดยไม่รู้ตัว และคาดไม่ถึง
คุณเปรมจิต : "ฮันนี่" ภัสสร บุญยเกียรติ
สาวใหญ่วัย 50 ปีต้นๆที่ยังสวยทั้งที่มีลูกมาแล้วสองคน เป็นคนเงียบๆขี้หึง ต่อหน้าสามีจะวางตนนิ่งๆเพื่อให้สามีเกรงใจ แต่เบื้องหลังถ้าตีสาวๆกระจุยได้เธอก็จะตี เพราะไม่ต้องการให้สามียกตำแหน่ง"เมียหลวง"ให้กับตน และสิ่งที่กลัวที่สุดคือกลัวสามีจะเที่ยว"ไข่"ไว้ที่อื่น เธอไม่เคยลืมภาพติดตาที่เห็นสามีออกมาจากห้องสาวใช้ นับแต่นั้นมาคนใช้บ้านคุณเปรมจิตขี้เหร่ทุกคน
คุณพาณิช : "เล็ก" วิวัฒน์ ผสมทรัพย์
พ่อของชานนท์และอภิรักษ์วัย 60 ปีแต่ดูแก่เกินอายุไปไกลเพราะเมียมีชู้ ทิ้งเขาและลูกไปกับลูกจ้างในโรงงานของตัวเอง จึงทำให้จากคนที่เคยแข็งแรงกลายเป็นคนอ่อนแอ หมดความมั่นใจในตัวเอง เงียบขรึม ชอบอยู่คนเดียว ไม่เคยมีภรรยาใหม่เพราะรักฝังใจอยู่กับเมียเดิม และด้วยขาที่เคยหักทำให้เดินไม่ปกติต้องอาศัยไม้เท้าช่วยพยุง คุณพาณิชเป็นพ่อค้าคนดังในวงการอัญมณี
กัลยา : "ปู" มัณฑนา หิมะทองคำ
หญิงวัยกลางคนอายุประมาณ 45 ปี แม่ของชานนท์และอภิรักษ์ นิสัยรักสนุก มองความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้ง ทำวันนี้ตามความพอใจสุดๆโดยไม่คิดถึงวันข้างหน้า จากคนที่เคยสวย คมเข้มกลายเป็นผอม โทรม หน้าตาหมองคล้ำเพราะความลำบากที่เลือกเดินทางผิด ทิ้งสามีผู้ร่ำรวยและลูกทั้งสองไปกับชู้รัก เพราะคุณพาณิชอายุมากกว่ากัลยาหลายปี จึงเกิดช่องว่างระหว่างวัย คุณพาณิชทำงานหนักมาก กัลยาอยากให้สามีพาไปเที่ยวบ่อยๆแต่เขาไม่มีเวลาให้ นางไม่พอใจชีวิตแบบนี้
บงกช : "ใบเฟิร์น" พัสกร พลบูรณ์
วัย 23 ปี เพื่อนรักของรสาที่คบกันตั้งแต่เรียนคณะอักษรศาสตร์ด้วยกันมา ทำงานเป็นเลขานุการของชานนท์ เป็นกำพร้าบิดามารดา จึงไม่มีภาระหน้าที่ที่ต้องห่วง นิสัยเป็นคนช่างสังเกต ใจกว้าง บุคลิกร่าเริง สนุกสนาน เฮฮา โก๊ะๆ คล่องแคล่ว มั่นใจ รักเพื่อน ร่วมทุกข์รวมสุขมากับรสาและมธุรส ชอบทำอาหารจึงมักจะรับหน้าที่ทำอาหารให้เพื่อนกินด้วยความเต็มใจเสมอ
มธุรส: "กวาง" ช้องมาศ บางชะวงษ์
วัย 22 ปี ดีไซเนอร์ชื่อดังเพื่อนรักร่วมรุ่นอีกคนของรสาและบงกช ที่ไต่เต้าจากการเป็นดีไซเนอร์สมัครเล่นจนมีชื่อเสียง เป็นกำพร้าเหมือนบงกช นิสัยจริงใจ รักเพื่อน รักงาน มีความรับผิดชอบ ทั้งรสา บงกช และมธุรสเป็นเพื่อนรักชนิดที่เรียกว่าเพื่อนตาย ลงทุนทำร้านเสื้อผ้าด้วยกัน เช่าบ้านอยู่ด้วยกัน และไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ทั้งสามสามารถเปิดอกคุยกันได้เสมอ
ธัชชัย : "จิม" เจจินตรัย แวนดิว
วัย 26 ปี อดีตพนักงานบัญชีของ "อัญมณีทอง" โชคดีได้แต่งงานกับวรรณฤดีจึงเลื่อนฐานะ ขึ้นมาเป็นเขย แถมได้เป็นเขยขวัญเพราะทำงานเก่ง ขยัน เป็นคนทะเยอทะยาน อาศัยความเป็นคนเก่ง รูปหล่อ ปากหวานจึงเอาชนะใจวรรณฤดีได้ทั้งที่ใจจริง เขาแอบหลงรักศศิกานต์ตลอดมา และด้วยหวังในทรัพย์สมบัติของเมีย ธัชชัยจึงต้องยอมทนให้วรรณฤดีข่มทั้งต่อหน้าและลับหลังคนอื่น จนดูเป็นคนหงอกลัวเมีย
มนัส : "พอตตี้" ณัฎฐพล อิศรางกูร ณ อยุธยา
วัย 25 ปี พี่ชายของรสา รูปร่างหน้าตาต่างจากรสาจนทำให้ตนสงสัยในชาติกำเนิดของรสา เพราะมีรูปร่าง เตี้ย ทรุดโทรม ผิวหยาบกร้าน นิสัยโมโหฉุนเฉียวง่าย อารมณ์ร้อน ขี้โอ่ ขี้เหล้า ใจใหญ่ทั้งๆที่ไม่มีจะกิน เปลี่ยนงานบ่อยเพราะไม่อดทน จึงมักจะรีดไถทั้งแม่ น้อง และเมีย มนัสเกลียดรสากล่าวหาว่ารสาแย่งทุกอย่างไปจากเขาโดยไม่มองตัวเอง
อรทัย : "เปิ้ล" วิมลรัตน์ บาลี
เมียของมนัสวัย 24 ปี นิสัยต่างจากมนัสลิบลับ ใจเย็น พูดน้อย อดทน ต้องคอยรองรับอารมณ์ของสามี ไม่พอใจขึ้นมาก็ถูกทุบตี อรทัยช่วยแม่ผัวรับจ้างซักรีดหารายได้ที่ต้องเผื่อแผ่ให้มนัสผู้เป็นสามีเอาไปลงในขวดเหล้า
อรุณ : "โจ" ชลากฤต รอดสมบูรณ์
วัย 47 ปี ช่างเจียระไนเพชรพลอยฝีมือดีชายชู้ของกัลยา หน้าตาดี คุยเก่งปากหวาน ใจกล้า จนกัลยาหอบเงินสดก้อนโตและเพชรพลอยมากมายหนีมาอยู่ด้วย อรุณกลายเป็นคุณอรุณที่ทำงานไม่เป็น สบายเกินตัวจนกลายเป็นขี้เกียจพากันดื่มกินเที่ยวจนทั้งเงินและของมีค่าหมดลง กัลยาต้องเป็นฝ่ายหาเลี้ยงทั้งรับจ้างซักรีด ล้างจาน อรุณเป็นคนยุให้กัลยากลับไปหาลูกเพื่อขอเงินมาบำรุงบำเรอความสุขด้วยกัน
แม่จัน : "อี๊ด" ดวงใจ หทัยกาญจน์
อายุวัย 50 ปีกว่า เป็นญาติห่างๆของเปรมจิตร ที่เปรมจิตรขอให้มาอยู่ในบ้าน หวังให้เป็นหูเป็นตาแทนเวลาที่เปรมจิตรไม่อยู่ เป็นคนดี ใจเย็น สุภาพ เจียมตัว แต่เป็นคนยุติธรรม คอยให้สติเปรมจิตร และลูกๆทุกคน ศศิกานต์กานต์รักแม่จันมาก มักเอาปัญหาคาใจมาปรึกษาแม่จันอยู่บ่อยๆ คนอื่นในบ้านมักเกรงใจ
นุกูล : "ต้า" พศิน ศรีธรรม
เพื่อนสนิทธัชชัยวัย 26 ปี เป็นเพื่อนเรียนมาด้วยกัน เป็นคนยุให้ธัชชัยจับลูกสาวคนใดคนหนึ่งของเฉลิมให้ได้ เพื่อความสุขสบายของชีวิต เวลาธัชชัยมีปัญหากับวรรณฤดี จึงมักมาปรึกษานุกูลอยู่เสมอๆ
แตง : "ไอติม" ปัฐมาวดี ชัยประสิทธิ์
อายุ 19 ปี พนักงานในร้านขายเสื้อของรสาและมธุรส คล่องแคล่ว รู้งาน แต่ไม่ปากมาก
นักแสดงรับเชิญ
สุภา : "พิมพ์" พิมพรรณ ชลายนคุปต์
แม่ของรสาวัย 40 ปีกว่าๆ อดีตสาวใช้บ้าน "บดินทรวัชระ" ใบหน้าสวยหวาน ฐานะยากจนรับจ้างทำทุกอย่างที่จะทำให้ได้เงินมาทั้งที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ สุดท้ายต้องจบชีวิตลงเพราะโรคที่เป็นอยู่ ก่อนสิ้นใจสุภาได้บอกความลับกับรสาว่าพ่อของรสาคือใคร พร้อมทั้งบอกที่ซ่อนของแหวนที่เขาถอดจากนิ้วมอบให้เพื่อใช้เป็นหลักฐาน
นายสาน : จตุพล น้ำใจเที่ยงธรรม
วัย 45 ปี พนักงานขับรถเมล์สามีของสุภา รูปร่างหน้าตาขี้ริ้ว รูปร่างเตี้ยดำ ถึงจนแต่เป็นคนดี
นายสานจบชีวิตลงเพราะอุบัติเหตุ