มนต์รักอสูร ตอนที่ 16
รุ่งเช้า หอมกับมาร์คตื่นก่อนใคร ลุกออกมาจากเต็นท์ เจอแซมสลบอยู่หน้าเต็นท์ของนันท์ก็ตกใจสุดขีด รีบรุดเข้าไปดู
“ลุงแซม”
เทิด น้ำผึ้ง และ ชมพู่ ตามออกมาสมทบ
“เกิดอะไรขึ้น”
หอมสังหรณ์ใจรีบมุดเข้าไปดูในเต็นท์นันท์ ก่อนจะออกมาบอกเทิดด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
“นายครับ คุณนันท์หายตัวไป”
“นันท์”
เทิดเข้าไปดูที่เต็นท์ลูกอีกครั้ง จนแน่ใจว่าไม่เจอนันท์แน่แล้ว ก็ออกมาสั่งการ
“กระจายตัวตามหานันท์รอบๆ ก่อน นันท์อาจจะยังอยู่แถวนี้”
ทุกคนแยกย้ายกันไปตามหาตัวนันท์ตามคำสั่งของเทิด
สมุนพูนเป็นคนลักพาตัวนันท์มาจากเต็นท์พร้อมกระเป๋าสัมภาระประจำตัว ลูกน้อง 1 วางนันท์ลงบนเก้าอี้ นันท์ค่อยๆ ฟื้นแล้วลืมตาขึ้นมองรอบๆ เห็นพูนกับลูกน้องกำลังคุยกันอยู่มุมหนึ่งห่างออกไป
นันท์พบว่าตัวเองโดนมัดมือมัดเท้าก็กลัวสุดขีด เบ้หน้าเหมือนจะร้องไห้ เด็กชายพยายามแกะเชือกที่มัดมือออก เชือกค่อยๆ หลุด
ลูกน้องพูน ที่ใส่หมวกไหมพรมพรางหน้าหันมามอง นันท์รีบแกล้งหลับตา รอจนลูกน้องพูนหันกลับไปนันท์จึงลืมตา
จากนั้นก็เร่งแกะเชือกที่เท้าออก นันท์มองลูกน้องพูนไม่สนใจตน จึงย่องไปหยิบวอล์กกี้-ทอล์กกี้ ในกระเป๋าออกอย่างลุ้นระทึก
ทางด้าน พวกเทิด หอม อ้อย น้ำผึ้ง เดินตามหานันท์อยู่รอบๆ บริเวณที่กางเต็นท์ ก่อนเดินมารวมตัวกันอย่างร้อนใจ แซมฟื้นแล้ว นั่งพักมีชมพู่ดูแลอยู่
“เจอมั้ย”
“ไม่เจอเลยครับนาย”
น้ำผึ้ง หอม อ้อย ชมพู่ ส่ายหน้า เทิดหน้าเครียดๆ
“แยกกันหาต่อจนกว่าจะเจอคุณนันท์”
วอล์คกี้ ทอล์คกี้ของน้ำผึ้งมีเสียงเปิดใช้งานดังขึ้น และมีเสียงนันท์ลอดออกมา
“พ่อครับช่วยนันท์ด้วย”
เทิดดีใจ “คุณนันท์ อยู่ตรงไหน”
นันท์พูดใส่วอล์กกี้ทอล์กกี้เสียงแผ่วปนสะอื้นเล็กๆ เหมือนร้องไห้ แอบชะเง้อมองดูพูนกับลูกน้องพูนที่ดูดบุหรี่อยู่ห่างออกไป
น้ำผึ้งยกวอล์คกี้ ทอล์คกี้ขึ้นจะพูดถาม แต่เทิดแย่งมาพูดเองด้วยความเป็นห่วงลูกสุดจะประมาณ
“คุณนันท์เป็นไงบ้าง ปลอดภัยดีใช่มั้ย”
พอนันท์ได้ยินเสียงเทิดก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ สะอื้นไห้ออกมาพร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือ
“พ่อ...ช่วยนันท์ด้วย นันท์กลัว”
“คุณนันท์ไม่ต้องกลัวพ่อจะรีบไปช่วยคุณนันท์เร็วที่สุด...คุณนันท์ต้องเข้มแข็ง”
นันท์ถอนสะอื้นและหยุดร้องไห้
“ครับ”
“ดีมากคุณนันท์ ทีนี้ลองมองดูรอบๆ ดูนะ ว่าเห็นอะไรบ้าง”
นันท์ชะโงกหน้าออกมาจากพุ่มไม้ที่ซ่อนอยู่เพื่อสำรวจดูว่ามีอะไร เด็กชายแลเห็นต้นมะม่วงมากมายรอบๆ บริเวณ
“มีต้นมะม่วงเต็มไปหมดเลยครับ”
เทิดและทุกคนได้ยินที่นันท์บอก แซมซึ่งชำนาญทางละแวกนี้บอกเทิด
“ชาวบ้านแถวนี้ก็ปลูกมะม่วงกันทั้งนั้น แล้วเราจะตามไปทางไหนดีละครับ”
เทิดครุ่นคิด น้ำผึ้งคิดอะไรได้ดึงวอล์คกี้ทอล์คกี้ในมือเทิดมาพูดกับนันท์
“แล้วคุณนันท์เห็นแม่น้ำแถวนั้นมั้ยคะ”
“เห็นครับ นันท์อยู่ริมน้ำ”
ทันทีที่นันท์พูดจบลูกน้องพูนก็แย่งวอล์คกี้ ทอล์คกี้ปาทิ้งลงพื้น
“ไอ้เด็กเวร ทำอะไรวะ”
เทิดกับพวก ได้ยินเสียงดังซ่าๆ จากนั้นเสียงวอล์คกี้ ทอล์กกี้ ก็หายไปเลย เทิดคลั่งเป็นห่วงลูก
“คุณนันท์”
อีกฟากที่แท้วอล์คกี้ ทอล์คกี้ของนันท์โดนลูกน้องพูนกระทืบทิ้ง ส่วนนันท์โดนหิ้วตัวลอยออกไป
เทิดงุ่นง่านเดินวนไปมาด้วยความเป็นห่วงลูก ทุกคนมองเห็นถึงความกังวลนั้น น้ำผึ้งมองสงสาร
“น้ำผึ้งว่าเราแยกกันตามหาคุณนันท์ดีกว่าค่ะ เพราะว่าถ้าคุณนันท์ใช้วอล์กกี้ ทอล์กกี้ ติดต่อเรามาได้แสดงว่าคุณนันท์ต้องอยู่ห่างออกไปไม่เกิน 20 เมตรค่ะ”
“แล้วก็น่าจะอยู่เลียบกับแม่น้ำ ตามที่นันท์บอก” เทิดคิดตาม และเริ่มมีกำลังใจขึ้นมา “งั้นฉันจะรีบไปตามหานันท์”
เทิดกำลังจะเดินออกไป แซมลุกเดินมาหา
“นาย ให้ผมไปตามคุณนันท์กับนายนะครับ”
เทิดมองสภาพแซม “บาดเจ็บอย่างนี้จะไปได้ยังไง”
“ผมไม่เป็นไรจริงๆ ครับนาย”
เทิดมองประเมินอาการแซม ดูรู้ว่าไม่ไหวแน่ๆ เลยห้ามไว้
“อ้อย ชมพู่ มาร์ค กลับไปที่ไร่แล้วพาลุงแซมไปหาหมอเดี๋ยวนี้”
อ้อย กะ ชมพู่ ประสานเสียง “ได้ค่ะนาย”
เทิดกำชับ “รีบไปแจ้งความตำรวจไว้ด้วย เผื่อเกิดอะไรฉุกเฉิน”
มาร์คอาสา “ผมจัดการเรื่องนั้นให้เองครับ”
แซมห่วงคุณหนูทำท่าจะไม่ยอมไป จนหอมต้องช่วยพูดอีกแรง
“ฉันว่าลุงไปกับนังอ้อยมันเถอะ เดี๋ยวฉันอยู่ทางนี้ช่วยนายเอง”
แซมจำใจพยักหน้ารับ อ้อยโทรกลับไร่ทันที
เทิดหันมาทางน้ำผึ้ง กับ หอม “รีบไปกันเถอะ ตอนนี้คนร้ายคงพานันท์ไปได้ไม่ไกล”
น้ำผึ้งกับหอมแยกไปอีกฝั่งหนึ่ง เทิดไปอีกฝั่งหนึ่ง
เทิดเดินตามหานันท์ลึกเข้าไปในป่า หยุดหาเบาะแส หน้าตาเครียดเคร่ง ไม่รู้จะไปทางไหน
“นันท์อย่าเป็นอะไรไปนะ”
เทิดแหงนมองท้องฟ้า
“คุณพริม ช่วยลูกเราด้วยนะ”
ทางด้านนันท์โดนมัดมือไพล่หลัง แถมถูกผ้าปิดตาไว้ โดยมีลูกน้อง 1 เดินมาคุม
“ไอ้เด็กนี่ อย่าทำเป็นเก่งนัก หัดอยู่เฉยๆ ซะบ้างก็ดี” พูนด่า
นันท์พยายามดิ้นทั้งที่ถูกปิดตาอยู่ ปากตะโกนด่าพูนกับลูกน้อง
“ไอ้พวกชั่ว! คนเลว ปล่อยนันท์”
ลูกน้อง 1 เดินไปจับคางนันท์ไว้ พูดข่มขู่
“ทำปากเก่งไปเหอะ ยังไงก็ไม่มีใครหาแกเจอหรอก”
“ไม่จริง”
“จริง! ถ้าฉันไม่ได้สิ่งที่ต้องการจากพ่อแก ยังไงแกต้องอยู่ที่นี่ พ่อแกรักแกมากไม่ใช่เหรอ บอกให้พ่อแกทำตามที่ฉันบอกสิ แล้วแกก็จะรอด” พูนว่า
“พ่อนันท์จะไม่ให้อะไรใครทั้งนั้น เดี๋ยวพ่อต้องมาช่วยนันท์แน่ แล้วก็พวกแกก็จะโดนตำรวจจับ”
พูนยัวะตบหน้านันท์อย่างแรง เด็กชายเจ็บมาก เริ่มสะอึกสะอื้นร้องไห้ออกมา พูนจิกหัวนันท์ขึ้นมา พูดข่มขู่
“หุบปากแกไปซะไอ้เด็กเวร ถ้าไม่อยากตายเป็นผีเฝ้าป่า” พูนสั่งลูกน้อง “เอาอะไรก็ได้อุดปากมันที อย่าให้มาพูดมากกวนใจฉันอีก เร็ว”
ลูกน้องพูนจัดการเอาผ้ามาอุดปากนันท์ไว้ นันท์เลยทำได้เพียงส่งเสียงอู้อี้ๆ ร้องไห้จนน้ำตานองหน้า พยายามดิ้นแต่ดิ้นไม่หลุด
ขณะเดียวกัน น้ำผึ้งกับหอมรีบเร่งเดินมาในป่า หอมตะโกนเรียกหานันท์เสียงดังลั่น
“คุณนันท์ครับ...คุณนันท์”
“หอมอย่าเสียงดังไป เดี๋ยวพวกคนร้ายได้ยินมันจะไหวตัวทัน”
“ครับครู”
น้ำผึ้งรีบร้อนจนสะดุดขอนไม้ที่หักโค่นขวางทางอยู่ ครูสาวล้มคะมำลงอย่างแรง
“โอ๊ย”
หอมตกใจรีบไปช่วยพยุงขึ้นมา
“ครู เป็นไรรึเปล่าครับ”
น้ำผึ้งส่ายหน้า แม้จะมีอาการเจ็บจนหอมทักท้วง
“ครูพักก่อนมั้ยครับ”
หอมก้มลงมองที่หัวเข่า มีเลือดไหลซึมออกมาที่กางเกง น้ำผึ้งหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ามามัดขาไว้
“แผลนิดเดียว ไกลหัวใจตั้งเยอะ”
“เลือดไหลเยอะเลยนะครับครู”
“ครูไม่เป็นไรหรอก รีบไปตามหาคุณนันท์กันเถอะ”
น้ำผึ้งออกเดินนำหอมไป
มาร์คขับรถมาตามทาง มุ่งหน้าพาแซมไปส่งโรงพยาบาล อ้อยกะชมพู่นั่งไม่ติดที่ คอยเร่งอยู่ข้างๆ
“ขับให้มันเร็วๆ หน่อยได้ไหมพี่มาร์ค ฉันรีบ”
“นี่เหยียบสุดๆ แล้วอ้อย”
“ก็เหยียบอีก ฉันต้องพาลุงแซมไปหาหมออีกนะ”
มาร์คพยักหน้ารับคำ พอหันไปจะขับรถต่อ แต่ปรากฏว่ามีรถอีกคันวิ่งแซงมาอย่างเร็วและแรง
“ระวัง”
อ้อยร้องเสียงหลง มาร์คตกใจ หักเบรกรถเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
รถที่มาร์คขับจอดนิ่งอยู่ตรงไหล่ทาง ภูฤทธิ์กับพีทขับผ่านมาเห็นก็จำได้ สองคนลงรถข้ามฝั่งมาดูด้านคนขับ ภูฤทธิ์ เคาะกระจกร้องถาม
“คุณๆ เป็นอะไรมั้ยครับ”
กระจกรถเลื่อนลง ภูฤทธิ์เห็นพวกแซมก็แปลกใจ
“อ้าวลุงแซม อ้อย มาร์ค” ภูฤทธิ์มองสำรวจในรถ “แล้วคุณผึ้งกับคนอื่นๆ ล่ะครับ”
“คุณนันท์โดนคนร้ายจับตัวไปครับ คุณเทิดกับครูตามไปช่วยอยู่” แซมบอก
ภูฤทธิ์กับพีทได้ยินก็ตกใจและเป็นกังวล
“คุณน้ำผึ้ง”
อ่านต่อหน้า 2
มนต์รักอสูร ตอนที่ 16 (ต่อ)
ฝ่ายนันท์ยังคงส่งเสียงอู้อี้ไม่เลิก จนพูนชักรำคาญ
“โว้ย ทำไมเด็กนี่มันพูดยากแบบนี้วะ”
พูนหงุดหงิด กดนันท์ที่ถูกมัดอยู่ให้นั่งลง นันท์ไม่ยอมแถมเอาตัวกระแทกจนพูนเซนิดๆ พูนยัวะเลยผลักนันท์ไปกระแทกผนังจนจุกแทบร้องไม่ออก ลูกน้อง 2 คนเดินมาสมทบ
“เกิดมายังไม่เคยเจอเด็กที่ไหนฤทธิ์มากเท่านี้มาก่อนเลย” ลูกน้อง1 บ่น
“ร้ายเหมือนพ่อมันไม่มีผิด” พูนมองหมั่นไส้
ลูกน้อง2 เอ่ยขึ้นว่า “ฉันเห็น ไอ้เด็กนี่มันใช้ของเล่นมันส่งข้อความไปบอกใครสักคนเมื่อกี้นะพี่”
พูนมองประเมิน “มันส่งไปบอกพ่อมันนั่นแหละ ไอ้เทิดมันคงรู้ตัวแล้ว อีกไม่นานพวกมันคงแห่มาตามลูกมันกลับไปแน่”
ลูกน้อง 2 ถามว่า “เอาไงดีลูกพี่”
“ทำไง ก็ต้องเฝ้ามันไว้น่ะสิวะ”
ลูกน้องทั้ง 2 พยักหน้ารับ ขยับมาใกล้เด็กชาย มองจ้องทำหน้าดุใส่นันท์ เป็นการขู่
“ฉันโทร.รายงานนายก่อน เฝ้ามันไว้ อย่าให้คลาดสายตา”
พูนเดินออกไปโทรศัพท์หาทรงยศ ลูกน้องเดินมาคุมนันท์ไว้
อีกฟาก ทรงยศนั่งจิบกาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในบ้าน กระทั่งมือถือดัง ทรงยศหยิบมากดรับสาย
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม ระวังตัวด้วย อย่าให้มีอะไรผิดพลาดเด็ดขาด”
ฟ้าใสเดินตรงเข้ามาหาทรงยศพอดี ทรงยศเห็นจึงรีบตัดสายพูนทิ้งไป
“พี่ยศยุ่งอยู่รึเปล่าคะ ฟ้าขอคุยด้วยหน่อย”
“มีเรื่องด่วนอะไรนัก ไว้คุยพรุ่งนี้แล้วกัน พี่กำลังยุ่ง”
“ยุ่งอะไรคะ”
ฟ้าใสมองจ้องจับอาการ จนทรงยศรีบตัดบท
“เอ้า มีอะไรรีบว่ามา”
“ฟ้าว่าจะจัดอีเว้นต์ที่โรงแรม เป็นพวกงานมิวสิคเฟสติวัล ดึงแขกกลุ่มใหม่วัยทำงาน พี่ยศคิดว่าไงคะ”
“ฟ้าจะทำไปทำไมให้วุ่นวาย” ทรงยศไม่เห็นด้วย
“ฟ้าแค่คิดว่ามันน่าจะดีกับช่วงโลว์ซีซั่นที่โรงแรมของเรา”
“อยู่อย่างนี้ก็ดีอยู่แล้ว จะเดือดร้อนอะไรนักหนาเงินที่พี่หาได้ เราใช้ทั้งชาติยังไม่หมด”
“เงินที่พี่ยศหามาจากความยากลำบากของคนอื่นน่ะเหรอคะ” ฟ้าใสอดแดกดันไม่ได้
ทรงยศหงุดหงิด ไม่พอใจที่ถูกน้องสาวยอกย้อน จึงดุเข้าให้
“ก็ไม่ใช่เพราะเงินที่พี่หามาหรอกเหรอ ฟ้าถึงสุขสบายถึงทุกวันนี้ อย่าอวดเก่งเกินไปนัก”
ฟ้าใสมองค้อนงอนพี่ชาย จนมือถือของเธอดัง พอดูชื่อเห็นว่าเป็นภูฤทธิ์โทร.มาก็ยิ้มออกมา
“สวัสดีค่ะคุณภู”
ทรงยศได้ยินชื่อภูฤทธิ์ก็ขมวดคิ้วไม่ค่อยพอใจ ส่วนฟ้าใสได้ยินสิ่งที่ภูฤทธิ์บอกถึงเรื่องที่เกิดกับนันท์ก็ตกใจ
“คุณนันท์ถูกจับตัวไป”
ฟ้าใสเดินเร็วรี่ออกมานอกบ้าน ตรงไปขึ้นรถ ทรงยศรีบตามมาห้ามไว้กลัวน้องสาวรู้เรื่อง
“พี่บอกว่าไม่ให้ไปไงฟ้า”
“ฟ้าเป็นห่วงน้ำผึ้งค่ะ”
“อยู่รอฟังข่าวที่บ้านเราก็ได้ ที่ไร่นายเทิดก็ใช่ว่าจะปลอดภัย”
“พี่ยศไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ คุณภูแจ้งตำรวจไว้แล้ว ที่นั่นปลอดภัย”
ทรงยศชะงัก “นี่เรื่องถึงตำรวจแล้วเหรอ”
ฟ้าใสจ้องหน้าพี่ชาย
“ค่ะ คุณภูบอกว่าจะทำทุกอย่างให้ได้ตัวคนร้ายมา พี่ยศถามทำไมเหรอคะ”
“ไม่ทำไมหรอก แกไม่ต้องไปยุ่งเรื่องคนอื่นได้มั้ย”
ฟ้าใสไม่สนใจเดินขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างเร็ว ทรงยศตะโกนไล่หลังก็ไม่เป็นผล
“ยัยฟ้า...ยัยฟ้า”
ทรงยศโมโหภูฤทธิ์สุดขีดที่มายุ่งเรื่องนี้
“ไอ้ภูฤทธิ์ แกอยากเข้ามาแส่เรื่องนี้เองนะ”
น้ำผึ้งกับหอมเดินมองหาร่องรอยของนันท์มาตามแนวป่า น้ำผึ้งเริ่มเจ็บแผลที่ระบม แต่ไม่เอามาเป็นภาระในการตามหาลูกศิษย์ หอมมองเห็นความพยายามและตั้งใจของครูน้ำผึ้งก็ยิ่งทึ่ง
“ไหวมั้ยครับครู”
“ไหวจ้ะ”
“ครูดูเป็นห่วงคุณนันท์นะครับ ขนาดคุณนันท์เธอร้ายกับครูตั้งหลายอย่าง”
“คุณนันท์เธอยังเด็ก ครูไม่เคยโกรธเธอหรอกจ้ะ ครูรู้ว่าจริงๆ แล้วคุณนันท์เป็นเด็กดี”
น้ำผึ้งคิดๆ ก่อนก้มลงพื้น แล้วสายตามองเห็นก้นบุหรี่ ทิ้งเกลื่อนกล่น
“หอมดูนี่” น้ำผึ้งชี้ไปที่ก้นบุหรี่
หอมนึกได้ “ก้นบุหรี่ เหมือนที่หอมเจอเมื่อวานเลยครู”
หอมก้มลงดูก้นบุหรี่ใกล้ๆ ก่อนเงยหน้าขึ้น น้ำผึ้งมองฉงน
“ยังไงเหรอหอม”
“หอมเห็นว่ามีคนมาทิ้งก้นบุหรี่ไว้แถวแคมป์ คืนก่อนที่คุณนันท์จะหายตัวไป หอมคิดว่าอาจจะเป็นของโจร”
“งั้นแสดงว่าพวกโจร อาจจะอยู่แถวนี้”
น้ำผึ้งยิ้มมีความหวัง เหลียวหาไปรอบๆ จนหันไปเห็น ลูกน้องพูนคนหนึ่งเหมือนเดินออกมาหาที่ฉี่ เปิดหมวกให้เห็นหน้า
“หอมหลบเร็ว”
น้ำผึ้งดึงหอมเข้ามาหลบหลังต้นไม้โดยเร็ว หอมไม่ทันตั้งตัวแทบหัวชนต้นไม้
“เอาไงดีครับครู”
น้ำผึ้งนิ่งคิดแผนช่วยนันท์
ด้านเทิดเดินตามหานันท์อย่างกังวลใจ ก่อนสายตาจะมองไปเห็น วอล์คกี้ ทอล์คกี้ ที่โดนกระทืบทิ้งคาพื้น
“คุณนันท์”
เทิดมองประเมินทิศทาง ก่อนจะวิ่งเป็นพายุบุแคมออกไปตามหาลูกชายทางหนึ่ง
น้ำผึ้งกับหอมสะกดรอยเดินตามลูกน้องพูนมา จนเห็นนันท์โดนมัดมือ มัดเท้าตรึงกับเก้าอี้ แถมยังถูกผ้าปิดตาไว้ น้ำผึ้งกับหอมเห็นสภาพเป็นห่วงนันท์มาก หอมนึกอะไรได้กระซิบบอกน้ำผึ้ง
“ครู หอมว่าหอมคิดออกแล้วจ้ะ”
“หอมจะทำอะไร”
“ผมจะออกไปล่อพวกนั้นเอง แล้วครูไปช่วยคุณนันท์นะครับ”
น้ำผึ้งไม่เอาด้วย “ได้ยังไง หอม มันอันตราย”
“อย่างมากก็แค่โดนกระทืบละครับ หอมสบายมาก”
น้ำผึ้งทัดทานอีก “มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะหอม”
“หอมก็ไม่ได้พูดเล่นนะครู ช่วยนายช่วยคุณนันท์น่ะเรื่องเล็กน้อยมาก ถ้าเทียบกับบุญคุณที่นายช่วยหอมมาทั้งชีวิต ให้หอมตายแทนนายกับคุณนันท์ก็ทำได้”
เห็นหอมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ท่าทีขึงขัง น้ำผึ้งมองอย่างซาบซึ้งใจ
น้ำผึ้งเดินมาซุ่มอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่แถวบริเวณที่นันท์โดนจับ
“ระวังตัวด้วยนะหอม”
หอมยิ้มพยักหน้ารับ กอดสูดหายใจลึกเพราะก็กลัวๆ อยู่เหมือนกัน
พูดจบหอมมองเห็นท่อนไม้ที่วางอยู่ หอมเดินเข้าไป
ลูกน้อง 1 หันมองมาเห็นหอม หอมกระโดดออกไปแสดงตัว ถือไม้ชี้หน้าลูกน้องพูน ตะโกนเสียงดังลั่น
“พี่หอมมาช่วยแล้วคุณนันท์”
นันท์ดีใจจำเสียงได้ “พี่หอม”
ลูกน้องสองคน ร้องลั่น คาดไม่ถึง “เฮ้ย”
หอมพุ่งเข้าไปจะเอาไม้ฟาด แต่สองสมุนของพูนตั้งตัวได้ดีกว่า ลูกน้อง 2 ยกตีนถีบเข้าที่ท้องหอมจังๆ หอมลงไปกองกับพื้น ไม้ในมือกระเด็นไปไกล
“วอนหาเรื่องตายซะแล้วมึง.
ลูกน้องพูนทั้งสอง พุ่งเข้าไปจะจับตัวหอม แต่หอมรีบลุกวิ่งหนีล่อลูกน้องพูนไปอีกทาง
น้ำผึ้งรอจังหวะ เห็นหอมล่อโจรไปไกลพอประมาณ จึงรีบย่องเข้ามาแล้วแกะผ้ามัดตานันท์ออกพอนันท์เห็นน้ำผึ้งก็โผเข้ากอดแน่น
“ครู ช่วยนันท์ด้วย”
นันท์ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างคนขวัญเสียอย่างหนัก
“ไม่ต้องกลัวนะคะคุณนันท์ครูมาช่วยแล้ว”
ด้านหอมวิ่งหนีไปได้ไม่เท่าไหร่ ก็ถูกสองลูกน้องของพูนตามไปจับตัวไว้ได้
“ถ้าอยากตาย กูจะสงเคราะห์ให้”
ลูกน้องพูนตะบันหน้าหอมจังๆ จนหอมร่วงลงไปกองกับพื้นแล้วพากันรุมยำตีนชนิดไม่เลี้ยง
อ่านต่อหน้า 3
มนต์รักอสูร ตอนที่ 16 (ต่อ)
น้ำผึ้งรีบแกะเชือกที่มัดแขนและขานันท์ออก
“รีบไปก่อนเถอะค่ะคุณนันท์”
“ครู พี่หอม”
นันท์มองไปเห็นหอมโดนรุมแต่ไม่ยอมตอบโต้เลย แถมยังฝืนยิ้มมาให้น้ำผึ้งเป็นเชิงเร่งให้พาคุณหนูไป
น้ำผึ้งสงสารและเป็นห่วงหอม แต่ก็ต้องจำใจพานันท์หนีไป
เหตุการณ์ในไร่เทิด พร ผัน มาร์ค ชมพู่ และอ้อย อยู่ในบ้าน ทุกคนต่างมีสีหน้าเป็นห่วง นันท์ เทิด น้ำผึ้ง และหอม แซมกลับจากโรงพยาบาลและทำแผลเรียบร้อยแล้ว มีผ้าโพกหัวอยู่ พรยกมือไหว้ท่วมหัว
“คุณพระคุณเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ช่วยคุ้มครองคุณนันท์และคนอื่นๆ ด้วยเถิด”
ฟ้าใส กับ ผัน กำลังคุยกับหมวดสิน ตำรวจท้องที่ ในชุดนอกเครื่องแบบ มีภูฤทธิ์ยืนอยู่ใกล้ๆ
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เราจะทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือคุณนันท์มาให้ได้”
ผันยืนหน้าเครียดอยู่อีกมุม เหมือนคิดบางอย่างในใจ หมวดสินหันมาบอกทุกคนอีกครั้ง
“ระหว่างนี้ผมขอให้ทุกคนอยู่ที่ไร่ อย่าออกไปไหน หรือ จัดการอะไรเองอย่างเด็ดขาดนะครับ”
“หมวดจะให้เราอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ” ผันท้วงน้ำเสียงไม่พอใจ
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ แต่สถานการณ์มันค่อนข้างอันตราย คุณควรจะปล่อยให้เจ้าหน้าที่จัดการมากกว่า”
“คนกับพวกอะไรผมก็มี ให้ผมไปด้วยดีกว่าน่าหมวด” ผันไม่ยอม
ภูฤทธิ์แทรกขึ้น
“นายผัน ฉันเห็นด้วยกับหมวดสินนะ”
“คุณภู คนนอกอย่างคุณจะเข้าใจอะไร” ผันไม่พอใจ
“ถึงผมไม่ใช่คนที่นี่ ผมก็มองว่ามันไม่ปลอดภัยอยู่ดี นายอยู่คอยดูแลที่นี่เถอะ” ภูฤทธิ์ว่า
ผันขัดใจไม่น้อย หมวดสินพูดต่อ หันไปอีกทางไม่ได้มองผัน
“ขอบคุณทุกคนที่ให้ความร่วมมือนะครับ ผมขอตัวก่อน”
สักพักหมวดสินขอตัวกลับ กำลังจะเดินออกไป พรมองหาผัน
“นายผันไปไหนแล้วล่ะ”
อ้อยยิ้มรู้ดีว่าพ่อไปไหน
“ก็ไปแล้วน่ะสิ”
“ไปไหนนังอ้อย” ชมพู่งง
“พ่อฉันน่ะเป็นพวกยิ่งห้ามยิ่งยุซะด้วยสิ ป่านนี้คงพุ่งไปหานายแล้วมั้ง”
หมวดสินไม่พอใจ แต่ต้องทำนิ่งไว้แล้วออกไปบ้าง ภูฤทธิ์ครุ่นคิดหนัก สีหน้าเป็นกังวล ห่วงน้ำผึ้งจับใจ ฟ้าใสดูออก
เมื่อพูนกลับมาพบว่านันท์หายไปแล้ว ลูกน้องสองคนลากหอมในสภาพสะบักสะบอมไปโยนทิ้งไว้อีกทาง แล้วเข้ามารายงานพูน
“ไอ้นั่นมันทำเป็นเอาตัวเข้าล่อให้คนมาช่วยไอ้เด็กนั่นไปลูกพี่” ลูกน้อง1 รายงาน
พูนโมโหมาก
“แล้วมึงปล่อยให้มันหลอกเอาได้ยังไง ไอ้พวกโง่!”
ลูกน้อง2 จ๋อยสนิท “พวกเราขอโทษครับลูกพี่”
“ช่างมัน ตอนนี้ไอ้เด็กนั่นมันหนีไปทางไหน”
ลูกน้อง 1ชี้ไปทางหนึ่ง “ทางนั้นครับ”
“งั้นจะยืนเซ่ออยู่ทำไม ไปตามพวกมันสิ”
ลูกน้อง2 กำลังจะออกไป แต่พอหันไปทางหอม พบว่าหอมก็หายไปอีกคนแล้ว
“ไอ้หน้าตุ่นนั่นมันหายไปอีกคนแล้วลูกพี่”
คราวนี้พูนยิ่งโมโหใหญ่ตะโกนด่าเสียงดัง
“บัดซบ! ไอ้นั่นมันจะตายที่ไหนช่าง ไปลากเด็กนั่นกลับมา ไป”
พูนรีบร้อนออกไปตามหานันท์ทันที
หอมวิ่งหนีตายมาสุดชีวิตทั้งๆ ที่บาดเจ็บหนักสาหัส แต่แล้วก็วิ่งต่อไปไม่ไหวร่างทรุดลงไปกองกับพื้น
มีเสียงฝีเท้าคนเดินใกล้เข้ามา หอมหลับตาปี๋คิดว่าเป็นลูกน้องพูนตามมา คงไม่รอดแน่แล้ว ใครคนนั้นมาหยุดตรงหน้า หอมเงยหน้าไปมองปรากฏว่าเป็นเทิด
“นาย”
เทิดช่วยพยุงหอมไปพิงต้นไม้ไว้
หอมร้อนใจห่วงนันท์รีบบอก “นาย...ไปตามคุณนันท์”
“นันท์...นันท์อยู่ไหน”
“ครูน้ำผึ้งพาหนีไป ทางนั้น ไอ้พูน...มันตามไปแล้ว”
“ฉันจะไปช่วยนันท์ แกอยู่ตรงนี้ก่อน ไหวไหม”
“หอมไม่เป็นไร นายไปก่อน”
“ทนไว้ก่อน แล้วฉันจะกลับมาช่วย”
เทิดลุกขึ้น ตามไปช่วยนันท์อย่างรวดเร็ว
น้ำผึ้งพานันท์หนีเข้ามาหลบตรงพุ่มไม้ นันท์ตัวสั่น
“นันท์กลัว”
“ไม่ต้องกลัวค่ะคุณนันท์”
เสียงพูนวิ่งมา น้ำผึ้งรีบดึงนันท์หลบ พร้อมปิดปากเด็กชายไว้ พูนมองซ้ายแลขวา หาน้ำผึ้งไม่เจอ
“อย่าให้เจอนะมึง”
ขณะที่พูนจะเดินออกไป น้ำผึ้งดันถอยหลังไปเหยียบกิ่งไม้จนเกิดเสียงดัง พูนยิ้มแล้วแกล้งเดินหนีไปทำเป็นไม่ได้ยินน้ำผึ้งถอนหายใจโล่งอก
“ปลอดภัยแล้วนะคะคุณนันท์ ไปกันเถอะค่ะ”
สองคนค่อยๆ คลานออกจากพุ่มไม้ แต่จู่ๆ ก็มีคนมากระชากหัวน้ำผึ้งอย่างแรง ครูสาวร้องกรี๊ด
“อ๊าย...”
ร่างน้ำผึ้งโดนเหวี่ยนจนเซล้มลงไป เมื่อเงยหน้ามองเห็นพูนยืนถือปืนเล็งอยู่
“คิดว่าจะหนีพ้นเหรอนังตัวดี”
น้ำผึ้งหันไปบอกนันท์
“คุณนันท์วิ่งไปค่ะ”
นันท์จะวิ่งหนี แต่ถูกพูนดึงคอเสื้อไว้ แล้วเล็งปืนมาที่น้ำผึ้ง
“ปล่อยฉันนะ ไอ้พวกคนเลว คนไม่ดี ปล่อยนะ”
พูนสั่งลูกน้อง “ไปจับนังนั่นไว้ แล้วรีบไปก่อนที่พวกมันจะแห่กันมา”
ลูกน้องไปจับน้ำผึ้งแล้วพาออกไป
“ช่วยด้วย...” นันท์ตะโกนก้องร้องขึ้นจนสุดเสียง
ฟากเทิดวิ่งมาถึงจุดที่นันท์ถูกมัดก่อนหน้านี้ มองสำรวจไปรอบๆ
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย”
เทิดได้ยินเสียงลูก เหลียวหาที่มาของเสียง
“คุณนันท์”
เทิดวิ่งมาหานันท์แทบทุกที่ แต่ไม่เจอ เทิดหยุดมองซ้ายแลขวาหน้าเครียด ก่อนจะตัดสินใจวิ่งไปทางหนึ่ง
ฟากน้ำผึ้ง กับ นันท์ ถูกมัดมือมัดปากปิดตาอยู่ พูนและลูกน้องโผล่ออกมาจากที่ซ่อนใกล้ๆ พูนหันมาพูดกับน้ำผึ้งกับนันท์
“วันนี้โชคไม่ได้เป็นของพวกแก เสียใจด้วย”
น้ำผึ้งกับนันท์ถูกบังคับให้เดินออกไป คนละทางกับเทิด
เมื่อสบโอกาสไม่มีใครเห็น น้ำผึ้งทำวอล์คกี้ ทอล์คกี้ หล่นทิ้งไว้
ด้านภูฤทธิ์นั่งเครียดอยู่ในร้านกาแฟพรีโม่ มองเหม่อผ่านกระจกออกไปนอกร้าน ฟ้าใสมองด้วยความเป็นห่วง สักครู่หนึ่งมาร์คยกกาแฟมาเสิร์ฟให้ ทั้งสามคน
“ขอบคุณครับคุณมาร์ค”
มาร์คยิ้มให้พีท
“ฟ้าว่าคุณภูกลับไปรอที่บ้านดีกว่ามั้ยคะ”
“แต่ว่า...”
“เชื่อฟ้าเถอะค่ะ เดี๋ยวฟ้าไปอยู่เป็นเพื่อน”
“ผมเห็นด้วยกับคุณฟ้านะครับ ขืนคุณภูอยู่นี่แล้วคุณเทิดกลับมา จะมีเรื่องกันเปล่าๆ”
ภูฤทธิ์พยักหน้ารับ
“ไม่ต้องห่วงนะครับ ถ้าได้เรื่องยังไง ผมจะรีบโทร.บอก” มาร์คบอก
“โทร.มาที่เบอร์ผมก็ได้นะครับ”
มาร์คยิ้ม พลางพยักหน้ารับ
“ไปเถอะค่ะ”
ฟ้าใสจิบกาแฟ ก่อนจะพยักหน้าให้ภูฤทธิ์ สองคนยิ้มลามาร์ค แล้วลุกเดินออกจากร้านไป
ส่วนพีทหันมายิ้มหวานให้มาร์ค แล้วจึงตามสองคนไป
เก่งสายสืบที่ทรงยศส่งมา แต่งชุดคาวบอยดูออกว่าเป็นคนงานไร่เทิด ยืนหันหลังคุยโทรศัพท์อยู่ตรงมุมลับตาคน
“ไอ้ภูมันออกไปแล้วครับ”
เก่งกดมือถือวางสายไป
ทรงยศอยู่ที่บ้าน วางสายจากเก่ง แล้วกดโทร.ออกอีกสายพูดสั่งการเสียงเข้ม
“จัดการไอ้ภูได้เลย อย่าให้มันถึงตายละ”
ทรงยศกดวางสายยิ้มชั่วเต็มใบหน้าอันเหี้ยมโหดนั้น
“นี่แค่บทเรียนนะ”
น้ำผึ้งกับนันท์ถูกโยนเข้ามาในกระท่อมโดยไม่ปรานีปราศรัย
“ปล่อยมันไว้ตรงนี้แหละ” ลูกน้อง 1 บอกเพื่อน
น้ำผึ้งควานหาตัวนันท์ แต่ไม่ทันเจอ เพราะถูกลูกน้องพูนจับมัดแยกกับนันท์ก่อน
ลูกน้องพูนเอาผ้ามาปิดตาน้ำผึ้งกับนันท์อีกรอบ นันท์ขวัญกระเจิง กลัวมากร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด
“ครู ช่วยนันท์ด้วย...พ่อ...ฮือๆ”
พูนกับลูกน้องเดินออกไปนอนกระท่อม โทร.รายงานทรงยศอีกรอบ
“ตอนนี้ผมอยู่ที่ไร่แล้วครับ ครับ เดี๋ยวผมจัดการเดี๋ยวนี้แหละครับ”
พูนวางสายหันไปคุยกับลูกน้อง เดินกลับเข้ามาในห้อง
“เดี๋ยวเอาน้ำให้มันสองคนกินซะหน่อย เดี๋ยวมันจะตายซะก่อน”
“ครับ” ลูกน้อง 1รับคำสั่งแล้วเดินไปเอาขวดน้ำ
“ฉันจะออกไปข้างนอกเดี๋ยวเดียว เฝ้าพวกมันไว้”
ลูกน้องสองคนพยักหน้ารับก่อนเดินเข้ามาในกระท่อม แล้วเปิดขวดน้ำจะเอาน้ำให้น้ำผึ้งกิน
“กินน้ำซะสิคนสวย มาเดี๋ยวพี่ป้อนให้”
น้ำผึ้งแข็งขืน เลยถูกลูกน้อง 1 เอาน้ำกรอกปาก น้ำผึ้งบ้วนน้ำใส่หน้าลูกน้องพูน
“อีนี่ วอนซะแล้ว”
ลูกน้อง1 บันดาลโทสะ จิกหัวน้ำผึ้ง
“สะดีดสะดิ้งนักนะ”
ลูกน้องพูนทำหน้าหื่น เข้าไปลวนลามกอดจูบน้ำผึ้ง แต่เธอดิ้นหนีไปมา
“ปล่อยฉันนะ”
นันท์ได้สติเห็นน้ำผึ้งจะถูกปล้ำก็เข้าไปกัดแขนลูกน้องพูนเท่าที่แรงจะมี ลูกน้องพูนโมโหหันมาเงื้อมือจะตบหน้านันท์ น้ำผึ้งรีบเสือกตัวไปขวางไว้ จนตัวเองถูกตบแทน
“อย่าทำอะไรครูน้ำผึ้งนะ”
ลูกน้องพูนกระชากตัวนันท์ขึ้นมา
“ไม่อยากให้ทำอะไรครู ใช่ไหม ได้”
ลูกน้องพูนเหวี่ยงนันท์ไปกระแทกฝากระท่อมอีกรอบ น้ำผึ้งสงสารนันท์พยายามอ้อนวอนขอร้องดีๆ
“อย่าทำคุณนันท์ ฉันของร้อง จะทำอะไรฉันก็ได้ แต่อย่าทำคุณนันท์”
นันท์ทั้งเจ็บทั้งกลัว ลูกน้องพูนเดินเข้ามาหาน้ำผึ้ง
“อย่าทำอะไรคุณนันท์นะ”
“งั้นแกก็ยอมฉันสิ แล้วฉันจะปล่อยไอ้เด็กนี่ไป”
ลูกน้องพูนจะเข้ามาลวนลามน้ำผึ้งอีก แต่แล้วก็มีมือมาดึงกระชากคอมัน เหวี่ยงกระเด็นออกไป
ลูกน้อง 1 เงยหน้าขึ้นจะดูแล้วต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าเป็นไผ
“ไอ้เทิด”
หมวดสินลงรถ เดินสำรวจมาตามบริเวณแนวป่า จนเจอหอมสลบอยู่จึงเขย่าตัวเรียกสติ
“คุณ คุณ”
หอมแน่นิ่งไม่ฟื้นขึ้นมา
“แค่บาดเจ็บ ยังไม่เสียชีวิต”
“เดี๋ยวผมเรียกรถพยาบาลให้เองครับหมวด” ลูกน้องบอก
“ผมฝากด้วยนะ ผมต้องไปก่อน พวกคุณเทิดคงไปไม่ไกลจากนี้”
“รับทราบครับ”
ตำรวจจัดการช่วยกันพาหอมไปปฐมพยาบาลก่อน
หมวดสินกับกำลังตำรวจอีกกลุ่ม ตามเข้าไปในป่าฝั่งที่เทิดอยู่
ลูกน้องพูนดีดตัวลุกขึ้น ตกใจที่เจอเทิด
“ไอ้เทิด”
เทิดพุ่งเข้าไปสู้กับลูกน้องพูน น้ำผึ้งใช้จังหวะนั้นรีบแกะเชือกที่มัดแขนเธอ เทิดหันมาดูลูกชายโดนลูกน้องพูนถีบเข้าที่ท้องเต็มแรงจนเทิดจุก
ลูกน้องพูนจะเข้ามากระทืบซ้ำ เทิดหลบฉาก แล้วกำเศษดินที่พื้นขว้างใส่หน้า โดนตาลูกน้องพูน จนมันแสบตา เทิดเข้าไปจัดหนัก ทั้ง เตะ ต่อย จนลูกน้องพูนมึน
จากนั้นเทิดเข้ามาหานันท์กับน้ำผึ้ง ดึงผ้าปิดตาสองคนออก
“รีบไปกันเถอะ”
น้ำผึ้งพยักหน้าช่วยแกะมัดนันท์ แล้วพยุงนันท์ออกไป
รถภูฤทธิ์ขับแล่นมาตามทางเข้าไร่ จนเห็นมอเตอร์ไซค์จอดล้มอยู่ข้างทาง
“พีทจอดรถหน่อย เผื่อเค้าอยากให้ช่วยอะไร”
พีทจอดรถ สองคนรีบลงไปดู
“มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ”
โจร 1 หันหน้ามายิ้มชั่วให้ พร้อมกับโชว์มีดด้ามยาวในมือ
“ช่วยมารับมีดไปหน่อย”
ภูฤทธิ์ฉวยโอกาสเตะมีดกระเด็นไปไกล ฟ้าใสเห็นก็ตกใจรีบลงมาดู
โจร 2 โผล่มาอีกหนึ่งคน มันชักมีดออกมาแล้วฉวยโอกาสที่ภูฤทธิ์เผลอจะเข้าไปจ้วงแทง ฟ้าใสตกใจร้องบอก
“คุณภู ระวัง”
ภูฤทธิ์หันมากำลังจะถูกแทงรอมร่อ ฟ้าใสตัดสินใจวิ่งพุ่งชนโจรเต็มแรง จนโจรจนล้มไปด้วยกัน
ภูฤทธิ์จะเข้าไปช่วยฟ้าใส แต่โจรลุกเร็วหันมาแทงภูฤทธิ์ ฟ้าใสรีบเอาตัวเข้ากันไว้ จนถูกแทงมีดถากที่แขนไป ภูฤทธิ์รีบเข้าไปดูอาการฟ้าใส
“คุณฟ้า”
โจรชั่วทั้งสอง ฉวยโอกาสขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ ขับหนีไปอย่างเร็ว
อ่านต่อหน้า 4
มนต์รักอสูร ตอนที่ 16 (ต่อ)
ทางด้าน เทิด น้ำผึ้ง และนันท์วิ่งออกมาจากกระท่อม เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง
“จะหนีไปไหน”
เทิด กับน้ำผึ้งชะงัก พูนยกปืนขู่ 3 คนมาจากข้างหลัง
“คิดว่าจะหนีไปได้งั้นเหรอ”
นันท์กอดน้ำผึ้งแน่นเนื้อตัวสั่นเทา หลับตาปี๋กลัวมาก พูนทำท่าจะลั่นไก เทิดใช้จังหวะนั้นฉากหลบแล้วพุ่งทะยานเข้าไปแย่งปืนกับพูน น้ำผึ้งกอดนันท์หลบจนล้มกลิ้งไปกับพื้น เทิดแย่งปืนกับพูนจนปืนกระเด็นออกจากมือ
พูนพุ่งเข้าไปเอาปืนคืนแต่เทิดคว้าตัวพูนได้ ทั้งคู่ต้องสู้กันไปมาเพื่อแย่งปืน จังหวะหนึ่งเทิดถีบพูนจนล้ม จะหยิบปืนได้ แต่ลูกน้องพูนที่ได้สติพุ่งเข้ามาคว้าปืนจ่อหัวเทิดไว้
พูนลุกขึ้น เดินมาหาเทิด น้ำผึ้งปิดตานันท์ไว้ไม่ให้ดู
“เก่งนักนะมึง ตายเป็นผีเฝ้าป่าไปซะก็ดี”
พูนควักมีดออกมาจะแทงเทิด แต่ปรากฏว่ามีเสียงปืนจากอีกกระบอกดังเปรี้ยงขึ้น ลูกน้องพูนถูกยิงล้มลงไป พูนหันไปเจอผันยืนจังก้าอยู่
“น้าผัน” น้ำผึ้งดีใจ
“มึงนั่นแหละที่จะเป็นผีเฝ้าที่นี่ ปล่อยตัวนายกู”
พูนปล่อยมีดในมือลง ผันเล็งปืนใส่ เดินเข้าไปจับตัวพูน แต่พูนไวกว่าถีบผันจนกระเด็นแล้ววิ่งหนีไปได้ ผันจะตามแต่เทิดตามมาห้ามไว้
“ไม่ต้อง คุณนันท์ปลอดภัยแล้ว”
ผันพยักหน้ารับ มีเสียงคนเดินดังขึ้นอีก ทั้งผันทั้งเทิดคว้าอาวุธมองไปอย่างหวาดระแวง
ที่แท้เป็นกำลังตำรวจที่มาช่วยตามหานันท์เดินเข้ามา เทิดโล่งใจ
ลูกน้องพูนที่บาดเจ็บถูกรวบตัวไป
น้ำผึ้งปลอบนันท์
“ไม่เป็นไรแล้วนะคะคุณนันท์ ไม่เป็นไร”
เทิดวิ่งเข้ามาดูลูกชายกับน้ำผึ้ง มองสำรวจพบว่าเสื้อน้ำผึ้งขาดจึงรีบถอดเสื้อตัวเองคลุมให้
“นันท์เป็นไงบ้าง”
น้ำผึ้งแตะตัวนันท์พบไอร้อนทั่วตัว เลยอังหน้าผากดู แล้วหันมาบอกเทิดด้วยสีหน้าตระหนก
“คุณนันท์ตัวร้อนจี๋เลยค่ะ”
สีหน้าเทิดเป็นกังวลชัดแจ้ง
นันท์ถูกเข็นเข้าห้องตรวจ คนจากไร่มารวมตัวกันที่โรงพยาบาลพร้อมหน้า หอมทำแผลเรียบร้อยแล้ว อ้อยมองหมั่นไส้
“เป็นไง อยากเท่นัก เกือบช้ำในตายแล้วไหมอีพี่หอม”
“ก็ฉันอยากช่วยคุณนันท์นี่หว่า”
พรใจคอไม่ดีบ่นบ้าออกมาตามประสา
“แต่ละคนนะ ทำเก่งไม่เข้าเรื่อง นายแซม นายผัน ไอ้หอมอีก ผู้ชายไร่นี้มันเป็นอะไร คิดว่าตัวเองเก่งกันนักรึไง หัวใจฉันจะวายแล้ว”
“ปลอดภัยกลับมาก็ดีแล้วป้า เลิกบ่นเถอะ” ผันบอก
“ก็คนมันเป็นห่วงนี่”
เทิดยืนอยู่ด้วย มองเห็นกางเกงที่เปื้อนเลือดของน้ำผึ้ง
“ขาเธอเป็นอะไร”
“ไม่เป็นอะไรค่ะ”
น้ำผึ้งจับดูพบว่ากางเกงยีนส์ขาดและมีแผลที่บริเวณเข่า
“คุณพยาบาลครับ”
“คะ”
“ช่วยพาผู้หญิงคนนี้ไปทำแผลหน่อยครับ”
“แต่ว่า”
เทิดดุ “อย่าดื้อนัก ฉันไม่มีเวลามาทะเลาะกันเธอตอนนี้”
น้ำผึ้งยอมเดินตามพยาบาลไป ทุกคนมองตามอย่างเป็นห่วง
อีกฟาก ลูกน้องพูนที่บาดเจ็บถูกเหวี่ยงลงกับพื้น มันร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดจากแผลที่โดนยิงอยู่แล้วหมวดสินเดินตามเข้ามามองจ้องด้วยสายตาอันเหี้ยมเกรียม ลูกน้องพูนยกมือไหว้ปลกๆ ร้องขอชีวิต
“ปล่อยผมไปเถอะ ผมจะไม่ให้มันเกิดเรื่องแบบนี้อีก”
หมวดสินย่างสามขุมเข้ามาใกล้ ค่อยๆ ชักปืนออกมา
“ไว้ชีวิตฉันเถอะ ปล่อย”
เสียงปืนดังเปรี้ยง ลูกน้องพูนล้มลงเสียชีวิตคาที่ หมวดสินมองร่างลูกน้องพูนด้วยสายตาอำมหิต
“ไม่มีคำว่าครั้งที่สองสำหรับคนอย่างมึง”
หมวดสินใช้เท้าเขี่ยดูจนแน่ใจว่าลูกน้องพูนตายแล้ว จึงเดินออกไป
น้ำผึ้งหลับอยู่ข้างเตียงนันท์ เทิดเปิดฝาขวดซุปไก่เสียงดังคลิก จนน้ำผึ้งรู้สึกตัวตื่น น้ำผึ้งแปลกใจที่เจอเทิดอยู่ใกล้ๆ เทิดไม่พูดอะไรส่งขวดซุปไก่มาให้
น้ำผึ้งงง “คะ”
“กินนี่เข้าไปสิ”
“ให้ฉันเหรอคะ”
เทิดหงุดหงิด “แล้วนันท์ตื่นมากินได้รึเปล่าล่ะ ถามแปลกๆ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไร ไม่ต้องกินก็ได้”
“บอกให้กินก็กินๆ ไปของแกะแล้วไม่กินก็ต้องทิ้ง ไม่เสียดายรึไง”
“เสียดายสิคะ”
“งั้นก็กินคนอุตส่าห์ไปซื้อมาให้แท้ๆ”
น้ำผึ้งฟังแล้วยิ่งแปลกใจเข้าไปใหญ่
“ซื้อมาให้ฉัน”
เทิดเริ่มอึกอักไปไม่เป็น เลยทำเป็นโวยวายกลบเกลื่อน
“พูดมาก จะกินดีๆ หรือจะให้ป้อน”
เทิดทำท่าจะยื่นซุปไก่ให้น้ำผึ้งกิน น้ำผึ้งกลัวๆ
“กินก็กินค่ะ จะกินดีๆ ให้สมกับที่คุณอุตส่าห์มีกะจิตกะใจเป็นห่วงฉันด้วย”
เทิดตกใจ รีบปฏิเสธแทบไม่ทัน “ฉันไม่ได้ห่วงเธอ”
“อ้อ ลืมไป คุณไม่น่าเป็นห่วงใคร งั้นฉันจะกินขอบคุณในน้ำใจที่เจ้านายมีต่อฉันแล้วกันนะคะ”
น้ำผึ้งรับซุปไก่ไปดื่มยิ้มๆ แต่ต้องปิดจมูกตอนดื่ม เทิดเห็นเผลอยิ้มออกมา แต่รีบทำเป็นเก๊กอย่างเก่า น้ำผึ้งหันไปดูนันท์
“คุณนันท์ยังไม่ฟื้นอีกเหรอคะ”
เทิดพยักหน้าแล้วนั่งมองหน้าลูกอยู่ตรงข้ามน้ำผึ้ง
“แล้วขาเธอเป็นไง”
“ไม่เจ็บแล้วค่ะ ไกลหัวใจเยอะ”
เทิดหมั่นไส้ “อวดเก่ง”
“ฉันพูดเรื่องจริง สงสารก็แต่คุณนันท์แกคงกลัวมาก”
นันท์เริ่มขยับตัว เพ้อออกมาเสียงดังลั่น
“ครูน้ำผึ้ง ช่วยนันท์ด้วย นันท์กลัว”
น้ำผึ้งตกใจเข้าไปลูบหัวปลอบนันท์
“ไม่ต้องกลัวนะคะคุณนันท์”
เทิดจะอ้าปากพูด น้ำผึ้งเอื้อมมือไปปิดปากไว้ เทิดเลยเงียบ มองน้ำผึ้งกอดนันท์ที่เนื้อตัวสั่นสะท้าน เทิดเข้าไปแตะตัวลูกช่วยปลอบอีกแรง จนนันท์ค่อยๆ สงบลง
ภูฤทธิ์ทำแผลให้ฟ้าใส มีพีทช่วยดูอยู่ข้างๆ ฟ้าใสมองภูฤทธิ์แล้วยิ้มปลื้มออกมา
“เรียบร้อยครับ”
“ขอบคุณมากนะคะคุณภู”
“ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณ ถ้าคุณฟ้าไม่ช่วยผมก็คงไม่เจ็บแบบนี้”
“ไอ้สองคนนั่นมันเป็นใครกันนะครับ”
“นั่นสิ”
“คุณภูไปมีปัญหากับใครรึเปล่าค่ะ”
“ไม่มีนะ ถ้าจะมีก็คงเป็นคุณเทิด”
ฟ้าใสท้วง “จะเป็นคุณเทิดได้ยังไงคะ คุณเทิดก็อยู่ในป่า”
“ผมก็คิดแบบนั้นครับ แต่ถ้าไม่ใช่คุณเทิดแล้วใครกัน”
สีหน้าของฟ้าใสคิดหนัก
เสียงโทรศัพท์มือถือพีทดัง พีทรีบกดรับเมื่อเห็นเป็นมาร์คโทร.มา ขยับมาคุยห่างออกมาหน่อย
“ครับคุณมาร์ค อะไรนะครับ ได้ครับเดี๋ยวผมรีบบอกคุณภู”
พีทวางสาย หันหน้ามาหาภูฤทธิ์
“คุณนันท์กับคุณน้ำผึ้ง อยู่ที่โรงพยาบาลครับ”
ภูฤทธิ์ได้ยินเท่านั้นก็รีบร้อนเดินออกไปโดยเร็ว จนลืมใส่ใจฟ้าใส่ อีกฝ่ายมองตามหน้าเศร้า
ส่วนที่บ้านทรงยศระเบิดกำลังลงใส่ลูกน้องพูน
“ฉันเอง...ที่คิดผิดถึงรับลูกน้องโง่ๆ แบบพวกแกมา”
ทรงยศกวาดของบนโต๊ะระบายความโมโห
“ให้ไปจัดการไอ้ภูฤทธิ์ก็ดันไปแทงโดนน้องสาวฉัน”
ทรงยศชี้หน้าเอาเรื่องพูน
“ส่วนแกเสียแรงที่ฉันไว้ใจแกนะไอ้พูน แกปล่อยให้ลูกน้องแกโดนจับไปได้ยังไง”
“ขอโทษครับนาย แล้วเราจะทำยังไงดีครับ ผมกลัวไอ้นั่นปากสว่าง”
“ฉันทำอะไร ไม่ทำชั้นเดียวแบบแกหรอกไอ้พูน ฉันจะไม่มีทางมาจบทุกอย่างเพราะลูกน้องอย่างพวกแกหรอก ไอ้พูนไปเอาเงินให้พวกมันหนีไปอยู่ที่อื่นสักพักไป”
พูนพยักหน้ารับคำแล้วเดินนำลูกน้องสามคนออกไป
ทรงยศครุ่นคิด
เทิดเดินหงุดหงิดออกมาหน้าประตูทางเข้าโรงพยาบาล เห็นผัน แซม และตำรวจท้องที่ ยืนดู เจ้าหน้าที่ขนศพลงจากรถ ก็สงสัยเดินมาถาม
“เกิดอะไรขึ้นน่ะผัน”
“ตอนที่กำลังจับคนร้ายกลับมาดำเนินคดี หมวดสินก็วิสามัญคนร้าย เพราะหมวดเห็นคนร้ายทำท่าขัดขืนคิดต่อสู้ ครับนาย”
หมวดสินเดินมาสมทบ เทิดฮึดฮัดไม่พอใจตรงเข้าไปหา
“นี่หมวดยิงมันตายแล้วอย่างนี้จะจับคนร้ายที่ร่วมมือกับมันยังไง แล้วเราจะรู้ได้ไงว่ามันมาจับลูกผมทำไม หรือว่ามีใครจ้างมันทำ”
“ผมซักมันแล้ว มันบอกว่าเป็น...คุณภูฤทธิ์” หมวดสินบอกท่าทีจริงจัง
แซมได้ยินก็สะดุดหู นึกสงสัย จึงทักท้วง
“ใช่แน่เหรอครับ คุณภูจะทำอย่างนี้ไปทำไมกัน ถึงจะจริง ก็ไม่น่าทำอะไรโง่ๆ ด้วยการพาคุณนันท์กับคุณผึ้งมาซ่อนตัวที่ไร่ของตัวเอง”
“คิดมากไปมั้งครับ โบราณว่า ซ่อนใบไม้ให้ซ่อนในป่า คนฉลาดๆ อย่างคุณภูคงคิดว่า คนอื่นคงคิดไม่ถึงว่าเค้าจะจับคุณนันท์มาซ่อนที่ไร่ของตัวเองก็ได้”
เทิดคิดตาม รู้สึกว่าเรื่องนี้มีอะไรมีอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่
“หมวดดำเนินคดีตามหลักฐานไปก่อนแล้วกัน ถ้ายังไม่เจออะไรที่ยืนยันตัวคนร้ายแน่ชัด ผมก็ยังไม่ปักใจเชื่อใครทั้งนั้น”
ผันกับหมวดสินฟังแล้วแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“แต่นายสงสัยคุณภูมาตลอดเลยไม่ใช่เหรอครับ”
“ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้มันจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่านั้น” เทิดบอกกับหมวดสินว่า “หมวดเองก็เหมือนกัน อย่าเพิ่งเชื่อแต่สิ่งที่มองเห็น เพราะมันอาจจะมีอะไรมากกว่านั้นก็ได้”
เทิดมองหมวดสิน แล้วเดินออกไปพร้อมกับผันและแซม
รอจนพวกเทิดเดินพ้นตัวไป หมวดสินหยิบมือถือกดโทร.หาใครบางคน
“ผมจัดการเคลียร์ปัญหาให้เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
ปลายสายคือทรงยศซึ่งรับสายอยู่บ้านด้วยท่าทีเบาใจลงไปมาก
“มีหมวดช่วยแบบนี้ผมก็หายห่วง โทษทีที่ต้องให้หมวดสินเหนื่อยเพิ่ม อ้อ ผมมีอีกเรื่องที่ต้องรบกวนหมวดสิน หมวดช่วยเช็คเรื่องครูน้ำผึ้งให้หน่อยนะครับ ว่ามันจะเป็นอันตรายอะไรกับผมมั้ย...ครับ เหนื่อยเพิ่มอีกหน่อย แต่กระเป๋าก็หนักเพิ่มขึ้นด้วยไงครับ....ขอบคุณมากนะครับ”
ทรงยศกดตัดสายแล้วหันไปบอกพูน
“เห็นมั้ยว่าเงินน่ะ ซื้อได้ทุกอย่าง”
หมวดสินเข้ามาสอบปากคำน้ำผึ้งในห้องพักฟื้น ซึ่งนันท์นอนหลับอยู่บนเตียง
หมวดสินถามด้วยหน้าตาเจ้าเล่ห์ “ผมรบกวนคุณน้ำผึ้งเล่าให้ฟังหน่อยนะครับว่าเห็นอะไรบ้าง”
น้ำผึ้งนิ่งคิด
“ฉันรู้แค่คนร้ายมีกันหลายคน จากตอนแรกที่ไปตามคุณนันท์ ที่พอจะเห็นหน้าก็คงเป็นลูกน้องไม่ใช่หัวหน้า”
“แล้วคุณผึ้งได้เจอตัวหัวหน้ามันรึเปล่าครับ”
“เจอค่ะ แต่ตอนนั้นมันวุ่นวายมาก ฉันเลยไม่เห็นว่าเป็นใคร”
“ไม่มีใครเห็นเลยใช่ไหมครับ”
น้ำผึ้งนิ่งนึก หมวดสินมองจ้องน้ำผึ้งคอยจับตาดูว่าจะพูดอะไร
น้ำผึ้งส่ายหัว “ไม่มีค่ะ ตัวคุณนันท์เองคงจำไม่ได้ด้วย เพราะแกตกใจมาก”
หมวดสินมองหน้าน้ำผึ้ง เธอมองตอบ หมวดสินพยักหน้า
“ตกลงครับ ไม่มีก็ไม่มี แต่ถ้าคุณน้ำผึ้งนึกอะไรออก รีบบอกผมทันทีเลยนะครับ”
“ค่ะหมวด”
นันท์ได้สติเรียกหาน้ำผึ้ง “ครูครับ นันท์หิวน้ำ”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอดูแลคุณนันท์นะคะ”
หมวดพยักหน้าแล้วลุกเดินออกไป สวนกับเทิดที่เดินเข้ามา หมวดสินลอบมองเข้ามาในห้องคิดอะไรบางอย่าง
เทิดมองภาพน้ำผึ้งที่กำลังป้อนน้ำให้ลูกอย่างเอาใจใส่แล้วเต็มตื้น ยิ่งรู้สึกดีกับครูสาวจอมจุ้น
อ่านต่อตอนที่ 17